ตอนที่ 624 สำเร็จ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 624 สำเร็จ

เสียงของจงเส้าจ้งดังมาจากด้านในศาลต้าหลี่ ปี้เหิงซึ่งยืนอยู่ด้านนอกดวงตาแดงฉาน เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างตึงเครียด

“เหล่าทหารรักษาพระองค์!” ปี้เหิงตะโกนลั่นหลังจากที่ได้ยินเสียงของจงเส้าจ้ง “รัชทายาทก่อกบฏ วางแผนทำร้ายฝ่าบาทจนฝ่าบาทพลัดตกจากหลังม้า! พวกเราคือทหารรักษาพระองค์ มีหน้าที่คุ้มครองฝ่าบาทและฮองเฮาจนตัวตาย ผู้ใดไม่กลัวตายจงบุกเข้าวังไปช่วยฝ่าบาทออกมาพร้อมกับข้าเดี๋ยวนี้! ผู้ใดทำสำเร็จ จะได้รางวัลตามความดีความชอบ!”

ปี้เหิงตวาดจบก็ก้าวขึ้นไปบนหลังม้า จากนั้นควบทะยานออกไปทันที

ทหารรักษาพระองค์ที่ถือเพลิงสูงพากันเลือดร้อน ต่างขี่ม้าติดตามหลังปี้เหิงไปอย่างรวดเร็ว

“ปี้เหิง! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์ผลักบรรดาทหารรักษาพระองค์ที่ห้อมล้อมอยู่หน้าศาลต้าหลี่ออกพลางตะโกนตามหลังปี้เหิง เขาเห็นทหารแทบทุกคนของกองกำลังรักษาพระองค์ขี่ม้าติดตามปี้เหิงไป หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์โมโหเป็นอย่างมาก “รีบไปห้ามพวกเขาเอาไว้! หากผู้ใดกล้าบุกเข้าไปในวังหลวง สังหารในข้อหากบฏได้เลย!”

จงเส้าจงที่ถูกจับตัวกลับเข้าไปในศาลต้าหลี่ยกยิ้มมุมปากมองไปทางหลู่จิ้น สำเร็จแล้ว

เขาเตรียมการทางฝั่งของตระกูลจงเรียบร้อยแล้ว สามวันก่อน…เขาสั่งให้บ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของจวนจงพาบรรดาสตรีของตระกูลจงออกไปจากเมืองหลวงจากทางลับของจวนแล้ว

หากครั้งนี้สำเร็จ เขาจะรับทุกคนในตระกูลจงกลับมา จะมีแต่เกียรติยศและความรุ่งเรืองรอพวกเขาอยู่ ทว่า พากพ่ายแพ้ก็มีเพียงชีวิตของเขาคนเดียวเท่านั้น

เกียรติยศและชีวิตของทุกคนในตระกูลจงมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเพียงคนเดียว

เขาคือจงเส้าจ้ง เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ารัชทายาทส่งคนมาจับตาดูเขาอยู่

บัดนี้เขาเตรียมการกับกองกำลังรักษาพระองค์ที่คุ้มกันวังหลวงไว้แล้ว เมื่อรัชทายาทได้ยินว่าปี้เหิงกำลังมุ่งหน้าไปคุ้มครองฮ่องเต้ในวัง อีกทั้งได้ยินว่าปี้เหิงมาอาละวาดที่หน้าศาลต้าหลี่เช่นนี้ รัชทายาทจะเดาไม่ได้หรือว่าปี้เหิงกำลังจงใจบุกเข้าไปในวังโดยอ้างว่าเข้าไปคุ้มกันฮ่องเต้

เมื่อรัชทายาทได้ยินว่ากองกำลังรักษาพระองค์ที่คุ้มกันวังหลวงกำลังเผชิญหน้ากับกองกำลังรักษาพระองค์ที่มีปี้เหิงเป็นผู้นำ เขาจะไม่รีบไปยังวังหลวงอย่างนั้นหรือ

ขอเพียงรัชทายาทเข้าไปในวังหลวง ไม่ว่าเขาจะเข้าไปทางประตูอู่เต๋อหรือประตูทางทิศใดก็ตาม ซิ่นอ๋องที่ลอบเข้าวังไปแล้วจะรับรู้ได้ทันที เขาจะพาทหารรักษาพระองค์ไปสังหารรัชทายาทโดยอ้างว่ารัชทายาทพาทหารบุกเข้ามาโจมตีวังหลวง

ถึงเวลานั้นซิ่นอ๋องจะอ้างว่ารัชทายาททำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครองบัลลังก์ เขาบุกเข้าไปสังหารฮ่องเต้และองค์หญิงใหญ่ในวังหลวง ปี้เหิงและซิ่นอ๋องนำทหารเข้าไปช่วยเหลือ ทว่า ไม่ทันการแล้ว

ฮ่องเต้และรัชทายาทล้วนสิ้นพระชนม์ เหลียงอ๋องอ่อนแอไร้ประโยชน์ โอรสองค์ที่เหลืออยู่ล้วนยังเด็ก พวกเขาก็จะสามารถผลักดันให้ซิ่นอ๋องได้ครองบัลลังก์ได้

ถึงแม้จะผลักดันให้ซิ่ออ๋องขึ้นครองบัลลังก์ไม่สำเร็จ ทว่า พวกเขาสามารถเลือกโอรสองค์อื่นที่ยังเด็กอยู่องค์หนึ่งขึ้นครองบัลลังก์ได้โดยสังหารมารดาเก็บบุตรเอาไว้ ให้ฮองเฮาคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง เช่นนี้อำนาจในราชสำนักก็จะตกอยู่ในมือของฮองเฮา อีกทั้งสามารถคืนบรรดาศักดิ์ให้ซิ่นอ๋องในฐานะที่เขาพาทหารบุกเข้าไปคุ้มครองฮ่องเต้ได้!

รออีกสักสองสามปี จากนั้นประกาศกับทุกคนว่าฮ่องเต้น้อยวาสนาน้อยสวรรคตยังแต่เยาว์วัย เช่นนี้ซิ่นอ๋องก็จะได้ขึ้นครองราชย์ต่ออย่างสมเหตุสมผล

จงเส้าจงวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยหมดแล้ว

ลูกน้องของหลู่จิ้นคุมตัวจงเส้าจ้งเข้าไปในโถงหลัก จากนั้นกำหมัดคาราวะหลู่จิ้น “ใต้เท้า…”

แสงเทียนในโถงหลักสะบัดพลิ้วไปมาสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ตึงเครียดของหลู่จิ้น ดวงตาของเขาลึกล้ำจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง

“ไม่ต้องสืบสวนแล้ว พาไปขังคุกได้เลย!” แสงไฟสีเหลืองของโถงรับรองท้อนอยู่ในดวงตาของหลู่จิ้น น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นมาก “รีบไปรายงานองค์รัชทายาทและท่านราชครูถาน!”

“ข้าคิดว่าใต้เท้าหลู่จะถามข้าเกี่ยวกับเรื่องการจับคุมตัวคนที่หอนางโลมเมื่อวานเสียอีก” จงเส้าจ้งกล่าวยิ้มๆ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หลู่จิ้นไม่ได้ร้อนรนเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว เขานั่งลงบนเก้าอี้ช้าๆ “ดูเหมือนว่าปลาที่รอดออกไปจากแหเมื่อคืนคือปี้เหิงที่เป็นผู้นำในการก่อความวุ่นวายในวันนี้สินะ ใต้เท้าจงยอมให้ใต้เท้าฟ่านอวี๋ไหวจับตัวมาที่ศาลต้าหลี่แต่โดยดีเพราะรอเวลานี้อยู่สินะ ท่านต้องการทำให้ทหารรักษาพระองค์เชื่อว่าองค์รัชทายาททำร้ายฝ่าบาทเพื่อขึ้นครองราชย์จริงๆ”

จงเส้าจ้งยืนอยู่กลางห้องโถงด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ใต้เท้าหลู่ไม่เชื่อว่ารัชทายาททำร้ายฝ่าบาทเพื่อให้ได้ขึ้นครองราชย์เร็วขึ้นอย่างนั้นหรือ หากฝ่าบาททรงสวรรคต ผู้ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือรัชทายาทนะขอรับ”

“ทว่า องค์รัชทายาทไม่ใช่คนอกตัญญูที่จะสังหารบิดาของตัวเองเช่นนี้!” หลู่จิ้นกล่าวจบก็โบกมือไล่ให้คนอื่นๆ ออกไปจากโถง

เมื่อเห็นว่าหลู่จิ้นไล่คนทั้งหมดออกไปจากโถง จงเส้าจ้งก็รู้ได้ทันทีว่าหลู่จิ้นมีเรื่องสำคัญอยากถามเขา

“ท่านจงใจให้ถูกจับตัวที่หอนางโลมเมื่อวานอย่างนั้นหรือ” หลู่จิ้นเอ่ยถาม

จงเส้าจ้งรู้ดีว่าแม้ภายนอกหลู่จิ้นจะดูสุขุมสงบนิ่ง ทว่า แท้จริงแล้วเขาซ่อนความสามารถไว้มากมาย เป็นคนคมในฝักที่แท้จริง

“ข้าคำนวณพลาดจึงถูกจับ ผู้ใดจะคิดว่าแค่ออกไปดื่มสุรากับสหายจะถูกจับกุมตัวมาที่ศาลต้าหลี่เช่นนี้กัน ทว่า บัดนี้ทหารรักษาพระองค์จำเป็นต้องบุกไปยังวังหลวง ทุกคนในวังหลวงยังไม่ทันเตรียมตัว ทว่า กองกำลังรักษาพระองค์เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว!”

นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจงเส้าจงก็ไม่บอกความจริงกับผู้อื่นอยู่ดี เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ใต้เท้าหลู่ หากท่านยอมสวามิภักดิ์ ปล่อยข้าออกไปคุ้มครองฝ่าบาท เมื่อฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมา ข้าจะทูลขอรางวัลให้ท่านแน่นอน!”

จงเส้าจ้งกวาดสายตามองไปรอบๆ โถงหลัก จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ใต้เท้าหลู่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลต้าหลี่มานานหลายปีแล้ว หากท่านสร้างความดีความชอบในครั้งนี้ย่อมได้เลื่อนขั้นอย่างแน่นอน!”

ดวงตาของหลู่จิ้นสงบนิ่วราวกับสายน้ำ ไม่มีท่าทีจะโอนอ่อนไปกับคำกล่าวโน้มน้าวของจงเส้าจ้งสักนิด เขากล่าวเพียง “ใต้เท้าจงเป็นคนรอบคอบและระมัดระวังตัว ท่านมักเหลือทางถอยให้ตัวเองเสมอ ครั้งนี้ท่านมากล่าวกับข้ามากมายเช่นนี้ แสดงว่านอกจากวางแผนให้กองกำลังรักษาพระองค์บุกเข้าไปในวังหลวงแล้ว ท่านคงมีแผนอื่นอีก”

“ใต้เท้าหลู่ประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว” จงเส้าจ้งกล่าวยิ้มๆ “ข้าถูกขังอยู่ที่นี่ จะไปมีแผนการอันใดได้อีก ใต้เท้าหลู่ต่างหาก องค์รัชทายาทวางแผนทำให้ฝ่าบาทพลัดตกจากหลังม้า หากฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมา รัชทายาทไม่มีทางรอดแน่! เหตุใดใต้เท้าหลู่จึงต้องลำบากติดตามรัชทายาท ทำลายอนาคตของตัวเองและคนในตระกูลด้วยเล่า”

“ใต้เท้าจงกล่าวเกินไปแล้ว ข้าแค่ทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น ก่อนฝ่าบาทจะทรงหมดสติ พระองค์ได้ฝากราชสำนักไว้กับท่านราชครูถาน ข้าย่อมทำตามคำสั่งของท่านราชครูถาน!” หลู่จิ้นกล่าวกับจงเส้าจ้งอย่างไม่หวาดหวั่น “ใต้เท้าจง ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าการที่ท่านสั่งให้ทหารรักษาพระองค์บุกเข้าไปในวังหลวงโดยอ้างว่าไปช่วยเหลือฝ่าบาทเช่นนี้ เท่ากับว่าเมื่อท่านและรัชทายาทพ่ายแพ้ยับเยินทั้งสองฝ่าย อาจมีคนรอเก็บผลประโยชน์อยู่ทางด้านหลังได้นะขอรับ”

มือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังของจงเส้าจ้งกระชับแน่น จากนั้นเขารีบคลายออกแล้วกล่าวยิ้มๆ “ใต้เท้าหลู่หมายถึงทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันที่อยู่นอกเมืองอย่างนั้นหรือ ช่างบังเอิญเสียจริงที่ข้าให้คนส่งข่าวเรื่องที่แม่ทัพของทหารค่ายผิงอันถูกขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่ให้ทหารสองหมื่นนายที่อยู่ด้านนอกรับรู้หมดแล้ว! บัดนี้ทหารที่คุ้มกันอยู่บนกำแพงเมืองล้วนเป็นคนของข้าหมดแล้ว แม่ทัพค่ายผิงอันออกไปจากเมืองไม่ได้ ใต้เท้าหลู่คิดว่าผู้ใดจะคุมทหารเหล่านั้นได้กัน องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่างนั้นหรือ”

“น่าเสียดาย…” จงเส้าจ้งหัวเราะ “บรรดาทหารค่ายผิงอันล้วนรับรู้ว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนคุมตัวฝูรั่วซีเข้ามาในเมืองหลวง เมื่อวานคุกศาลต้าหลี่ถูกไฟไหม้ ฝูรั่วซีเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ บรรดาแม่ทัพค่ายผิงอันถูกขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่ ท่านคิดว่าทหารเหล่านั้นจะโทษว่าผิดความผิดของผู้ใดกัน พวกเขายังจะฟังคำสั่งขององค์หญิงเจิ้นกั๋วอีกหรือ”