เจียงหยุนเอ๋อขยับขนตาเบาๆ เงาอ่อนๆไปหยุดอยู่ตรงใบหน้าที่ใต้ตาของเธอ
ลี่จุนถิงกัดไปที่ไหปลาร้าของเจียงหยุนเอ๋อหนึ่งที จึงจะค่อยๆ ปล่อยเธอออก “ไม่ต้องลองที่จะดึงดูดผู้ชายที่ไม่ได้กินเนื้อมานาน จุดไฟแล้วก็ไม่สามารถดับได้ง่ายๆ แล้วรู้ไหม”
เจียงหยุนเอ๋อกะพริบตา ฟังเสียงของเขาที่แหบเพราะตัวเองก็หัวเราะขึ้นมากะทันหัน “งั้นคุณลี่รู้หรือไม่ว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้กินเนื้อมานานนั้นชอบที่จะท้าทายขีดจำกัดของผู้ชายมาก มองดูเขาดิ้นรนอย่างยากลำบากกลับ……ไม่สามารถข้ามมาได้”
“ไม่สามารถข้ามมาได้?” ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว นิ้วมือหยุดอยู่บนรอยกัดอ่อนๆ ตรงลำคอของเธอที่ถูกตัวเองกัดไป
“ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถข้ามไปแล้ว ดูแค่ว่าฉันอยากข้ามหรือเปล่า”
ระหว่างที่พูด มือที่เหมือนมีรังไหมอยู่ในตัวค่อยๆ สัมผัสไปยังผิวพรรณที่เนียนนุ่มของเธอ
“เจียงหยุนเอ๋อ ฉันแค่เห็นว่าเธออยู่ในช่วงหลังคลอด ไม่อยากรังแกเธอ รอให้ผ่านช่วยหลังคลอดแล้วลองดูว่าฉันจะเก็บเธอยังไง”
ครั้งนี้เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไปเลย “นายไม่สามารถทำแบบนี้ได้”
“เธอคือภรรยาของฉัน ทำไมฉันจะทำแบบนี้ไม่ได้” ลี่จุนถิงตอบกลับด้วยความเบ็ดเสร็จมาก
เขาค่อยๆ เข้าใกล้ร่างกาย จากระยะห่างของทั้งสองหดเล็กไปถึงระยะห่างระหว่างอากาศหายใจทางจมูก เขาค่อยๆ หันข้าง จูบไปยังริมฝีปากของเธอหนึ่งที ยิ้มขึ้นมา “ลองพิจารณาดูดีๆ?”
พิจารณาอะไรเนี่ย……
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าหลังผ่านช่วงการคลอดแล้วตัวเองต้องแย่แน่ๆ ตามคำขอของลี่จุนถิง เกรงว่าคงจะต้องมาตามสามมื้อในแต่ละวัน ต้องชดเชยก่อนหน้านี้กลับมาทั้งหมดแน่นอน
แต่พอคิดแบบนี้ เขียงหยุนเอ๋อก็ยังมีความไม่ตายใจ เธอหน้าด้านถามไปว่า “เก็บ…..เก็บยังไง? หากฉันยอมตายก็ไม่ยอมจำนนล่ะ?”
ลี่จุนถิงถูกเธอแกล้งจนหัวเราะขึ้นมา เจียงหยุนเอ๋อใช้สีหน้าที่ตื่นเต้นบวกกับน้ำเสียงที่เฉยชา ช่างทำให้รู้สึกดีจริงๆ
เขาคิดไปคิดมา ตอบด้วยความจริงจังว่า “งั้นก็ตีสลบแล้วค่อยเก็บ ทำแล้วค่อยพูด”
พูดจบ ก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง “ที่จริงแล้ววิธีนั้นมีมากมาย เช่นมัดมือมัดขาไว้? จริงๆ ไม่ต้องมัดเธอก็คงจะขยับไม่ให้หรอกมั้ง……”
น้ำเสียงนั้นจริงๆ ไอ้บ้าที่สมควรตาย
แต่เจียงหยุนเอ๋อสับสนไปหมดแล้ว การข่มขู่ที่เผยออกมาทั้งหมดแบบนี้
สุดท้าย ก็ยังเป็นชิงโม่ที่ช่วยความลำบากของเธอไว้ หลังจากที่ชิงโม่จัดการงานเรียบร้อยแล้ว ก็มาเคาะประตูห้องของพวกเขาทั้งสอง
“ประธานลี่ พวกเราไปทานข้าวกันเถอะครับ ถือเป็นการต้อนรับคุณนายด้วยเลยครับ”
เจียงหยุนเอ๋อได้ยินเสียงของชิงโม่แล้ว ก็เหมือนกับได้ยินเสียงของผู้ช่วยชีวิตไว้ รีบลุกขึ้นมาจากตัวของลี่จุนถิง วิ่งไปเปิดประตูให้ชิงโม่
“ชิงโม่ นายมาแล้วเหรอ”
ชิงโม่รู้สึกตลกกับเจียงหยุนเอ๋อจนหัวใจชาไปหมด เขาเอียงหัวหันไปมองลี่จุนถิงที่อยู่ข้างหลัง ลี่จุนถิงก็ยิ้มแฉ่งแล้วมองเขา แต่เขารู้สึกว่ารอยยิ้มของลี่จุนถิงนั้นดูน่ากลัวมากกว่า
“คุณนาย ผมมาเรียกพวกท่านไปทานข้าวครับ” ชิงโม่หัวเราะไปสองเสียง หลังจากบอกสถานที่กับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ก็รีบหนีไปเลย
เจียงหยุนเอ๋อเห็นชิงโม่หนีไปแล้ว กำลังคิดอยากจะเรียกเขาไว้ ลี่จุนถิงก็ขยับตัวใกล้เธอมาจากข้างหลัง
“ทำไมเธอถึงอดรอไม่ได้ถึงกับรีบวิ่งไปเปิดประตูให้ชิงโม่ล่ะ ยังพูดกับเขาอ่อนโยนขนาดนั้น? หากฉันไม่ห้ามเธอไว้ เมื่อกี้เธอก็จะวิ่งตามไปแล้วใช่ไหม”
เสียงของลี่จุนถิง ดังผ่านมาจากข้างหลังของเจียงหยุนเอ๋อ ฟังจนเจียงหยุนเอ๋ออดตัวสั่นไปหนึ่งทีไม่ได้เลย
เจียงหยุนเอ๋อกำลังอยากจะอธิบาย ก็ถูกลี่จุนถิงกอดออกไปข้างนอกแล้ว
“แกล้งเธอเอง ไม่กลัว พวกเราไปทานข้าวเถอะ เหนื่อยมาครึ่งวันขนาดนี้แล้ว เธอก็น่าจะหิวแล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าจู่ๆ ลี่จุนถิงก็เปลี่ยนไปกะทันหัน ยิ่งน่าตกใจไปใหญ่ จากห้องเดินไปยังสถานที่ทานอาหารก็ไม่กล้าพูดแม้แต่สักคำ
จนกระทั่งไปถึงห้องทานอาหาร เจียงหยุนเอ๋อจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น
ผ่านไปสักพัก เฟิงจิงเป่ยก็มาแล้ว พอเฟิงจิงเป่ยมา เจียงหยุนเอ๋อก็ดื่มกับเขาไปแก้วหนึ่ง
“เฟิงจิงเป่ย ช่วงเวลานี้ขอบคุณนายมากๆ เลย ก่อนหน้านี้ที่นายช่วยฉันไว้ตลอดตอนอยู่ที่เกาะนั้น ตอนนี้ก็ช่วยเหลือจุนถิงเพื่อช่วยฉันออกมา ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะขอบคุณนายยังไง ฉันขอใช้น้ำผลไม้แทนไวน์ดื่มกับนายแก้วหนึ่งละกัน รอฉันผ่านช่วงหลังการคลอดแล้ว ฉันค่อยดื่มไวน์กับนานนะ”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตื้นตันกับเฟิงจิงเป่ยมากจริงๆ เพราะว่าเขาไม่เพียงแต่ช่วยตัวเธอไว้ ยังช่วยลูกในท้องของเธอไว้อีกด้วย อีกอย่างหากไม่มีเขา เกรงว่าเธอคงจะตายตั้งแต่อยู่บนเกาะนั้นแล้ว
เฟิงจิงเป่ยยิ้มไปทางเจียงหยุนเอ๋อหนึ่งที “คุณหนูเจียงไม่จำเป็นต้องขอบคุณครับ การช่วยเหลือชีวิตคนไว้นั้นดีและเหนือกว่าสรรเสริญบรรพบุรุษเสียอีก อีกอย่าง ผมก็มีหน้าที่ติดตัวอยู่แล้วด้วย”
“อีกอย่าง ครั้งนี้ประธานลี่ก็ช่วยผมไว้มาก ครั้งนี้ได้ยืมกำลังคนของประธานลี่เยอะมาก ได้ทำลายจุดต่างๆ ของอาเธอร์ได้มากมาย แต่ยังคงไม่สามารถจับตัวอาเธอร์ไว้ได้ แต่ก็ถือว่ามีผลพลอยได้แล้วครับ”
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเสียดาย แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อถูกช่วยกลับมาอย่างสำเร็จ ก็ถือว่าปฏิบัติหน้าที่สำเร็จแล้ว ทุกคนต่างก็ดีใจมาก ผู้ชายทั้งสามคนดื่มไม่น้อยเลย ได้ระบายด้วยพอดี ช่วงนี้เพราะว่าเรื่องนี้พวกเขาเหนื่อยมากๆ ดื่มเยอะไปกลางคืนก็จะได้พักผ่อนดีๆ หน่อย
เจียงหยุนเอ๋อเห็นพวกเขาดื่มได้พอเข้าที่แล้ว ก็ไม่ได้ให้พวกเขาดื่มมาก เรียกพนักงานในโรงแรมมา แล้วส่งพวกเขากลับไปที่ห้องของตัวเอง
โชคดีที่ลี่จุนถิงไม่ได้ดื่มมาก ยังสามารถเดินเองได้ เจียงหยุนเอ๋อโล่งอกไปหนึ่งที เธอโชคดีมากที่ไม่ต้องแบกลี่จุนถิงกลับไป
แต่ว่า หลังจากที่กลับห้องแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็เห็นว่าเธอไปไหนลี่จุนถิงก็จะตามไปด้วย ติดคนเป็นพิเศษกว่าวันปกติ เหนื่อยไปนานมาก ทั้งสองจึงจะเข้านอน
เช้าวันถัดไป ลี่จุนถิงค่อยๆ ตื่นขึ้นมา นวดไปที่หน้าผากของตัวเอง จากนั้นก็มองดูเจียงหยุนเอ๋อที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ยิ้มได้เบิกบานแจ่มแจ้งมาก ในใจรู้สึกสบายใจมาก ความเป็นห่วงความกังวลในหลายวันนี้ในที่สุดก็สามารถปล่อยวางได้แล้ว
ความรู้สึกเงียบสงบในก่อนหน้านี้ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ลี่จุนถิงรู้สึกว่าทั้งตัวของเขาดีใจมากๆ
เพราะว่าลี่จุนถิงยังมีเรื่องต้องจัดการ จึงจำเป็นต้องลุกจากเตียง แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อหลับได้ลึกมาก ลี่จุนถิงอดใจเรียกเธอตื่นไม่ไหว จึงจูบไปที่หน้าผากของเธอเบาๆ เหลือโน้ตไว้ให้เธอ ออกห้องไปหาชิงโม่แล้วไปที่สำนักงานของท้องถิ่นพร้อมกันแล้ว
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อตื่นขึ้นมา เห็นว่าลี่จุนถิงไม่อยู่แล้ว อึ้งไปนานมากจึงจะลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็เห็นอาหารเช้าที่ลี่จุนถิงสั่งให้ตัวเอง แล้วก็กระดาษโน้ตนั้น หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเห็นเนื้อหาบนกระดาษโน้ตแล้ว ก็ยิ้มจนไม่เห็นตาแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อรีบล้างหน้าแปรงฟัน รีบทานให้หมดในตอนที่อาหารเช้ายังไม่เย็น ข้างนอกวุ่นวายเกินไป เธอไม่กล้าออกไป ได้แต่รอลี่จุนถิงกลับมาที่บ้านอย่างเงียบๆ
เจียงหยุนเอ๋อเปลี่ยนช่องไปมาอย่างน่าเบื่อ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นวิดีโอคอลที่ถวนจื่อโทรมา หลังจากรับสายแล้ว ก็เห็นหน้าของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นแล้ว
จนกระทั่งลี่จุนถิงกลับมา สองแม่ลูกจึงจะวางสายลงอย่างไม่อยากวาง
หลังจากวางสายแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็ถามลี่จุนถิงว่าพวกเขาจะสามารถไปหาพวกถวนจื่อเมื่อไร ตอนนี้เธอคิดถึงพวกเขามากๆ โดยเฉพาะถวนจื่อและเด็กน้อย ตั้งแต่ที่คลอดออกมา เจียงหยุนเอ๋อยังไม่เห็นเธอเลยแม้แต่แวบเดียว