เจียงหยุนเอ๋อมองอยู่ข้างๆ ด้วยความอิจฉา “จุนถิง นายให้ฉันอุ้มหน่อย”
ถวนจื่อยืนอยู่ข้างล่างอยากจะเข้ามาร่วมด้วย “แด๊ดดี้ ผมก็จะอุ้มน้องสาว”
แต่ว่า ลี่จุนถิงไม่สนใจพวกเขาเลย หลงใหลอยู่แต่กับเจ้าเด็กน้อย เขาเดินไปยังข้างโซฟาด้วยตัวเอง แล้วนั่งลง
เด็กเล็กนั้นเติบโตเร็วที่สุดแล้ว นี่พึ่งหนึ่งเดือน คิ้วของเจ้าเด็กน้อยก็ออกมาแล้ว ดวงตาคู่หนึ่งที่สวยงามทั้งโตทั้งกลม ลูกตาก็ดำมืดสนิทมาก ราวกับลูกองุ่นสองลูกเลย ขนตาที่ยาวๆ เป็นเหมือนของเจียงหยุนเอ๋อเลย ทั้งยาวงั้นงอน
อีกอย่าง หูของเธอนั้นสวยเป็นพิเศษ หูมีสีขาวปนสีแดง ความเป็นเกลียวของหูเห็นได้อย่างชัดเจน วงนอกและวงในมีสัดส่วนที่เข้ากันมาก เหมือนกับงานศิลปะที่แกะสลักออกมาชิ้นหนึ่ง
ลี่จุนถิงยิ่งมองก็ยิ่งชอบ อยากจะอุ้มเธอไว้แบบนี้ทั้งชีวิตเลย ไม่ให้เธอโต แบบนี้เขาก็สามารถปกป้องเธอได้ตลอดชีวิตแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงไม่สนใจตัวเอง เบ้ปากที่ขึ้นมา ทำสีหน้าไม่พอใจ เธอหยิกลี่จุนถิงไปหนึ่งที ลี่จุนถิงจึงจะรู้ตัว
เขาสีหน้าที่ไม่พอใจของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว ก็รีบถามว่า “หยุนเอ๋อ เธอเป็นอะไร? ถวนจื่อทำเธอโมโหอีกแล้วใช่ไหม”
ถวนจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ งงมาก เป็นแด๊ดดี้แท้ๆ ที่ทำหม่ามี้โมโห ทำไมกายเป็นเขาที่ทำหม่ามี้โมโหแล้วล่ะ
ถวนจื่อกำลังจะอธิบายให้ตัวเอง ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อหยิกลี่จุนถิงไปอีกหนึ่งที “ไม่เกี่ยวกับถวนจื่อ คือนาย ฉันได้นายเอาน้องสาวมาให้ฉันอุ้มหน่อย นายไม่สนใจฉันเลย”
“น้องสาวเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง กับน้องเธอจะหึงหวงอะไร”
“ใครบอกว่าฉันหึงน้องสาว ฉันหยิกนาย เพราะฉันจะอุ้มน้องสาว ทำไมนายหลงตัวเองแบบนี้เนี่ย” เจียงหยุนเอ๋อพูดพร้อมหน้าแดง
ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อโมโหแล้วจริงๆ ก็รีบวางน้องสาวลงบนอ้อมกอดของเจียงหยุนเอ๋อ “ให้เธอให้เธอ เธอระวังหน่อย”
เขียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นจ้องลี่จุนถิงไปหนึ่งที “ฉันมีประสบการณ์มากกว่านายอีก โอเคไหม”
ทันใดนั้นในใจของลี่จุนถิงก็รู้สึกแย่แล้ว มองดูน้องสาว แล้วมองดูถวนจื่อ “หยุนเอ๋อ ถวนจื่อตอนเด็กๆ ก็น่ารักขนาดนี้เลยเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว นายก็ไม่ลองดูว่าแม่ของเขาคือใคร” เจียงหยุนเอ๋อไม่เงยหน้าขึ้นเลย พูดลอยๆ ตอบกลับเขาไปหนึ่งประโยค
เจียงหยุนเอ๋อกำลังหลงใหลอยู่กับการเล่นกับน้องสาว ไม่ได้สังเกตเห็นน้ำเสียงของลี่จุนถิงเลย
หลังจากที่ลี่จุนถิงได้รับคำตอบจากเจียงหยุนเอ๋อแล้ว ก็หันศีรษะ ไปอุ้มถวนจื่อเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง มองถวนจื่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
“ลูกน้อย ขอโทษนะ ตอนที่หนูเล็กขนาดนี้ แด๊ดดี้ไม่เคยอุ้มหนูเลย ตลอดปีมานี้ก็ไม่ได้เห็นการเติบโตของหนู หนูวางใจได้เลย ต่อจากนี้คุณแม่จะเติบโตไปพร้อมกับหนูแน่นอน”
ถวนจื่อหยักหน้าด้วยความไม่เป็นไร “แด๊ดดี้ ผมไม่เป็นไรครับ”
ความสนใจของเขาอยู่แต่บนตัวของน้องสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเจียงหยุนเอ๋อ หลังจากที่ลี่จุนถิงพูดจบแล้ว ถวนจื่อก็ออกจากอ้อมกอดของลี่จุนถิง วิ่งไปยังข้างกายของเจียงหยุนเอ๋อ แกล้งเล่นกับน้องสาวพร้อมเจียงหยุนเอ๋อ
ลี่จุนถิงทั้งเสียใจทั้งหึงหวง ใช้โอกาสที่เจียงหยุนเอ๋อไม่ทันระวัง รีบอุ้มน้องสาวกลับมา เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าในอ้อมกอดของตัวเองว่างเปล่า ก็มองไปทางลี่จุนถิงด้วยความทำอะไรไม่ได้
“นายที่เป็นทาสลูกสาวนี่ ให้ฉันอุ้มนานหน่อยก็ไม่ได้”
โม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีเห็นกิจกรรมที่พวกเขาทั้งสี่คนทำด้วยกันแล้ว ยิ้มได้ดีใจมาก
พวกเขามองไปมองมา จู่ๆ ก็นึกปัญหาหนึ่งขึ้นมา เข้าเด็กนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยจนถึงตอนนี้
“จุนถิง จนถึงตอนนี้แล้วเด็กน้อยยังไม่มีชื่อเลย นายกับหยุนเอ๋อรีบตั้งชื่อหนึ่งเถอะ”
“คุณแม่ พวกคุณแม่ตั้งเถอะค่ะ พวกคุณแม่คือผู้ใหญ่ ประสบการณ์เยอะ ให้พวกเราตั้งไม่แน่อาจจะกลายเป็นจุดขายขำก็ได้ค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดปฏิเสธ
“ได้ยังไง พวกเธอคือพ่อแม่ของเด็ก ชื่อของพวกเขาก็ต้องให้พวกเธอตั้ง ฉันดูนะ ชื่อถวนจื่อเธอเป็นคนตั้ง งั้นชื่อของน้องสาวก็ให้จุนถิงตั้งเถอะ พอดีเลย พวกเธอคนละหนึ่งชื่อ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดให้ความเห็น
ลี่จุนถิงพยักหน้า “ที่จริงผมคิดไว้ตั้งนานแล้วครับ”
“คิดไว้แล้วทำไมไม่รีบบอกเรา? ยังให้พวกเรามาปวดหัวอีก” เจียงหยุนเอ๋อบ่นลี่จุนถิงไปประโยคหนึ่ง
“นี่ฉันก็ต้องมีความลึกลับหน่อยสิ”
“พอแล้ว จุนถิง ไม่ต้องพูดมากแล้ว ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่ที่มีน้องสาวขึ้นมา นายยิ่งอยู่ยิ่งพูดมากแล้ว ก่อนหน้านี้ยังกล้าแกล้งฉันอีก” โม่เสี่ยวฮุ่ยแกล้งทำเป็นพร่ำบ่น
ลี่จุนถิงหัวเราะไปหนึ่งที “ผมตั้งชื่อให้เธอว่า ‘ลี่อานซู’ อาน มีความหมายว่าปลอดภัยมีความสุข เพราะว่าในเธอคลอดออกมาในสถานการณ์ที่อันตรายมาก ดังนั้นผมว่าเธอจะสามารถปลอดภัยทั้งชีวิต ไม่ต้องเกิดอันตรายอะไรขึ้นอีก”
“ซู ตัวนี้ตัวอักษรที่มีความเป็นผู้หญิงแฝงอยู่ ก็เป็นเหมือนตัวแทนของผู้หญิงที่มีจุดเด่นด้านความอ่อนโยนและสวยงาม อยู่ข้างนอกไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไรก็ไม่กระวนกระวาย มั่นคงและเงียบสงบ หวังว่าเธอจะสามารถมีชีวิตที่ดี ร่ำรวยไม่มีความกังวล และเป็นผู้มีเกียรติ และมีโชคลาภที่ดี”
“พวกเธอว่าฉันตั้งชื่อนี้เป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันรู้สึกดีมาก พวกเธอล่ะว่าไง?” ซูม่านลีชอบลูกเขยคนนี้มาก ปกติแล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็จัดการได้เรียบร้อยดีมาก คิดไม่ถึงว่าความรู้ที่สะสมไว้ก็ไม่ได้น้อยเลย
“ฉันก็รู้สึกว่าดีมาก แต่ว่าชื่อเล่นล่ะ” เจียงหยุนเอ๋อพูดชื่อที่ที่ปากไปสองสามรอบ รู้สึกว่าดีมาก
หลังจากที่ถวนจื่อก็พูดอยู่ที่ข้างไปหลายรอบ จู่ๆ ก็ได้ยินน้องสาวร้องออกมาเสียงหนึ่ง ทุกคนต่างก็หันไปมอง น้องสาวกำลังยิ้มแฉ่งอยู่พอดี ในตอนที่ยิ้มขึ้นมา ดวงตาโค้งงอเหมือนดวงจันทร์เลย ดูแล้วดีใจมากๆ
ทุกคนต่างก็หัวเราะขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าน้องสาวก็ชอบชื่อที่คุณพ่อตั้งให้” ถวนจื่อตบมือส่งเสียงร้องอยู่ข้างๆ
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ ชื่อเล่นของน้องสาวผมมาตั้ง ดีไหมครับ?”
ถวนจื่อกอดแขนของลี่จุนถิง ใช้เสียงที่อ่อนโยนอ้อนลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงเอามือข้างหนึ่งออกมา จับไปที่แก้มของถวนจื่อ “แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว”
ถวนจื่อเห็นลี่จุนถิงตอบตกลงกับตัวเองแล้ว ก็ดีใจไปใหญ่
“น้องสาวดูอ้วนๆ ดูแล้วกลมๆ เป็นกลิ้งๆ เลย พวกเราเรียกเธอว่ากุ่นกุ่นได้ไหมครับ? ถ้าหากหลังจากที่น้องสาวโตแล้ว ไม่ชอบชื่อนี้ สามารถแก้ไขได้อีก”
“ชื่อที่หนูตั้งให้ น้องสาวต้องชอบแน่นอน” เจียงหยุนเอ๋อกอดถวนจื่อเข้ามาในอ้อมกอด “อีกอย่างหนูชื่อถวนจื่อ ก็เพราะว่าตอนนั้นหนูกลมๆ ดูเป็นกลิ้งๆ เหมือนน้องสาว ดังนั้นแม่ถึงได้ตั้งชื่อหนูว่าถวนจื่อไงล่ะ”
“เย้ งั้นชื่อของผมกับน้องสาวก็เหมือนกันสิครับ ฮิฮิฮิ ผมดีใจมากๆ เลย”
ทุกคนเห็นท่าการตบมือของถวนจื่อแล้ว ต่างก็หัวเราะอย่างมีความสุข
“หลังจากที่คลอดถวนจื่อเรียบร้อยแล้ว ฉันก็คิดอยู่ว่าต่อจากนี้จะต้องคลอดลูกสาวอีกคนหนึ่ง จากนั้นก็มองดูเธอถูกคุณพ่อเอ็นดูไปถึงบนฟ้า ต่อจากนี้ค่อยๆ เติบโตขึ้นความสัมพันธ์ก็สามารถเป็นไปอย่างราบรื่น ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบแบบนี้ของเธอตลอดไป”
เจียงหยุนเอ๋อพิงอยู่ข้างไหล่ของลี่จุนถิง พูดด้วยเสียงที่เบากับลี่จุนถิง
“ต้องเป็นจริงแน่นอน หลังจากที่เธอโคแล้ว เธอจะต้องเป็นเด็กน้อยที่สวยสง่าและน่ารักแน่นอน จากนั้นก็จะถูกฉันเอ็นดูอยู่บนฝ่ามือ เติบโตด้วยความปลอดภัยตลอดทาง”
ลี่จุนถิงจับมือของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ ทำการรับรองกับเธอ