บทที่ 659 ทำไมถึงมีเวลามานี้ได้

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 659 ทำไมถึงมีเวลามานี้ได้

บทที่ 659 ทำไมถึงมีเวลามานี้ได้

ตอนที่เข้ามาในห้อง หลินซือกำลังบรรจงเช็ดเหงื่อให้เจี่ยงเถิงทีละนิดทีละน้อยอย่างละเมียดละไม เพราะกลัวว่าจะเช็ดไม่สะอาด

“เอ้อเป่า”

“ท่านแม่” ครั้นได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ หลินซือก็รีบหันกลับมามอง จากนั้นวางผ้าในมือลงไปในอ่างอย่างแผ่วเบา แล้วหมุนตัวกลับมา

“ออกมาคุยกันข้างนอกเถอะ อย่ารบกวนอาเถิงเลย” เหยาซูกวักมือเรียกหลินซือ แล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“อื้อ” กล่าวจบก็เดินตามเหยาซูออกไปจากห้อง กระทั่งมาถึงห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ถัดไป เหล่าสาวใช้เห็นเหยาซูและหลินซือเข้ามา ต่างทยอยกันทำความเคารพและถอยออกไป

“เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบสั่งคนให้ตามแม่มาที่นี่?” ครั้นเห็นใบหน้าที่กว่าจะบำรุงให้มีน้ำมีนวลค่อย ๆ ซูบตอบลงอีกครั้งของลูกสาว นัยน์ตาของเหยาซูไม่ใช่ไม่ปวดใจ แต่นางรู้ว่านี่คือโรคทางใจ แม้แต่หมอบำบัดจิตใจ พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์

“ท่านแม่ ข้าจะค้าเกลือ”

“เอ้อเป่า เจ้าพูดจริงหรือไม่? เจ้าก็รู้ว่าคนค้าเกลือต้องมีความรู้ เกรงว่าความลำบากที่เจ้าต้องเจอมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิด” ครั้นได้ยินคำพูดของหลินซือ เหยาซูก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองตั้งแต่แรก แต่อธิบายถึงความยากลำบากให้หลินซือฟัง

ถึงอย่างไรบุตรสาวของตนก็รู้ความมาตั้งแต่เด็ก นางวางใจให้บุตรสาวทำเรื่องที่นางอยากทำ แต่เรื่องค้าเกลือ จากประสบการณ์ของนางแล้ว จึงได้เข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่บุตรสาวคิดไว้

“ท่านแม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลูกได้คุยกับพี่อาเถิงเมื่อครั้งออกเดินทาง ระหว่างทางลูกได้เข้าใจเรื่องราวบางอย่าง และได้ปรึกษาหารือกับพี่อาเถิงแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีความรู้ด้านนี้พอ ดังนั้นจึงอยากมาขอคำแนะนำจากท่านแม่สักหน่อย ดูว่าท่านแม่จะช่วยขจัดความสงสัยให้ลูกได้หรือไม่”

นี่เป็นเรื่องที่อยู่ในใจของหลินซือมาตลอด แม้ว่าระหว่างนั้นนางจะเคยเอ่ยเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่พี่อาเถิงก็เป็นกังวลว่านางจะทำออกมาได้ไม่ดีพอ

แต่วันนี้หลังจากฟื้นจากการหลับใหลมานานเพียงนี้ นางได้ยินเรื่องบางเรื่องมาไม่มากก็น้อย ย่อมเข้าใจว่าครานี้ตัวเองจะไม่พลอยฟ้าพลอยฝนไปอีก

อีกทั้งยามได้ออกเที่ยวเล่น ตัวเองก็ดันถูกลักพาตัวเพราะเรื่องเกลือ หลินซือรู้ลึก ๆ อยู่ในใจว่าผลประโยชน์ในนั้นมหาศาลมาก ดังนั้นจึงได้ยั่วให้คนเหล่านั้นอิจฉาตาร้อน

แต่ถ้าตัวเองสามารถคว้ากิจการนี้มาครอบครองได้ เชื่อได้เลยว่าพี่อาเถิงจะต้องผ่อนคลายลงมาแน่นอน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าบอกข้ามาสิว่าเจ้าอยากรู้สิ่งใด?” ครั้นเห็นลูกสาวยืนหยัดเช่นนี้ เหยาซูจึงไม่ปฏิเสธ

เป็นอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ บุตรสาวนั้นเหมือนกับตนไม่มีผิดเพี้ยน หากไม่ได้ทดลองก็ไม่มีวันยอมแพ้ จึงยอมให้บุตรสาวได้ทดลอง โดยมีตัวเองคอยสนับสนุนบุตรสาวอยู่เบื้องหลัง ตระกูลหลินไม่มีทางยอมให้บุตรสาวได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน

“เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับเกลือ”

“งั้นก็ได้ เกลือในเมืองของเรามีการซื้อขายนำเข้ามาโดยพ่อค้าคนกลางที่องค์จักรพรรดิทรงไว้วางใจเป็นการส่วนตัว แต่ปริมาณความต้องการเกลือนั้นมีจำนวนมาก พ่อค้าที่องค์จักรพรรดิทรงไว้วางใจกลับมีไม่เยอะนัก ดังนั้นจึงมีพ่อค้าอีกจำนวนมากต่างเลือกก้าวหน้าด้วยรูปแบบคนชั้นล่าง นั้นก็คือพ่อค้าที่เราพบเห็นได้โดยทั่วไปเหล่านั้น”

“แต่เกลือในเมืองของเราล้วนมาจากบ่อน้ำที่ผ่านกระบวนการมากมายจนสกัดออกมา ดังนั้นราคาของเกลือจึงยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ในหมู่บ้านบนเขาที่อยู่ห่างไกลบางแห่ง ผู้คนยอมทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ปากท้องได้อิ่ม ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงเลือกสถานที่ผลิตเกลือที่ให้ปริมาณมากแต่จ่ายค่าแรงต่ำในการดำเนินการสกัดเกลืออย่างเต็มรูปแบบ”

“ขุนนางจำนวนมากเล็งเห็นถึงเรื่องนี้ จึงให้สมาชิกในครอบครัวหรือไม่ก็คนอื่นทำการค้าเกลือในรูปแบบการหารครึ่งทั้งสองฝ่าย แม้ว่าองค์จักรพรรดิจะทรงทราบ แต่เนื่องจากความต้องการเกลือมีจำนวนมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีทางยับยั้งพวกเขาได้”

“ถ้าเจ้าอยากจะค้าเกลือจริง ๆ ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากองค์จักรพรรดิก่อน ถ้าได้รับการอนุญาตจากองค์จักรพรรดิแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาหาเรื่องเจ้า”

ก่อนหน้านั้นเหยาซูเคยคิดจะค้าเกลือเช่นกัน แต่ต่อมาเพราะออกเรือนกับหลินเหรา ประกอบกับมีหลินจื้อ หลินซือ และหลินเซิน ลูกทั้งสาม เรี่ยวแรงก็ทัดเทียมกว่าแต่ก่อนไม่ได้ ความฮึกเหิมในใจก็ค่อย ๆ จางหายไป

ตอนนี้ถ้าบุตรสาวอยากทำจริง ๆ นางจะสนับสนุนแน่นอน

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้ว”

“มีสิ่งใดอยากถามอีกหรือไม่?”

“ข้าอยากรู้ว่าน้องลู่เหยาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“เหตุใดเจ้าถึงถามถึงนาง?”

“ข้าได้ยินว่าวันนั้นพี่อาเถิงเจอกับน้องลู่เหยาระหว่างทาง ดูเหมือนน้องลู่เหยาจะได้รับบาดเจ็บด้วย เลยคิดว่าจะไปเยี่ยมนางดีหรือไม่ ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง และเป็นน้องสาวของข้า”

“ไม่ต้องหรอก เรื่องลู่เหยาข้าจัดการแล้ว เจ้าดูแลอาเถิงให้ดี ๆ เถอะ แต่เอ้อเป่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่?”

“คิดดีแล้วเจ้าค่ะ”

“งั้นแม่จะสนับสนุนเจ้า” เหยาซูมองหลินซือด้วยสายตามุ่งมั่น ราวเห็นตัวเองในตอนนั้น

จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย เอ้อเป่าอยู่ดูแลเจี่ยงเถิง ความตั้งใจของนางกับเจี่ยงฉีบรรลุผล ถึงอย่างไรสองคนนั้นก็โตแล้ว ควรจะกำหนดเรื่องแต่งงานได้แล้ว

หลังจากที่เหยาซูจากไป หลินซือก็หาที่นั่งพัก นางคาดไม่ถึงว่ากิจการนี้จะมีเงื่อนไขมากมายเพียงนี้

แต่โชคดีที่ตอนนี้ร้านหยกอวี้ฝูดำเนินอยู่ในลู่ทางที่ถูกต้อง นางไม่ต้องเฝ้าร้านทุกวัน อาจารย์อวี้อวี้และกู้อันผิงก็อยู่ แค่ไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย ร้านหยกอวี้ฝูก็ดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น

ส่วนหลินซือก็มีแผนการของตัวเองในใจ ถ้าตัวเองสามารถทำการค้าเกลือได้สำเร็จ คงจะเพียงพอต่อความรักที่พี่อาเถิงมีให้ตน แค่คิดว่าพี่อาเถิงยังสลบไสลไม่มีท่าทีจะฟื้น หัวใจของหลินซือก็เต็มไปด้วยความกังวลแล้ว

ไม่รู้ว่าพี่อาเถิงจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไร แต่พี่ใหญ่และพี่ไป๋จะแต่งงานกันในเร็ววันนี้แล้ว

คิดได้ก็ต้องรีบทำ วันรุ่งขึ้น หลินซือไปถึงที่พักของเซี่ยเชียน ความสัมพันธ์ระหว่างองค์จักรพรรดิและท่านปู่ของตนนั้นดีมาตลอด ถ้านางได้รับการสนับสนุนจากท่านปู่อีกคน โอกาสสำเร็จก็เกินครึ่งแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่หลินซือมาถึง เซี่ยเชียนกำลังทานอาหารเช้ากับหลินเซินพอดี ครั้นเห็นหลินซือมาก็รีบทักทายทันที

“เอ้อเป่า ทำไมถึงว่างมาหากันได้?”

“ท่านปู่ ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาท่านเจ้าค่ะ”

“ท่านพี่ ท่านไม่มาเยี่ยมอาเซินเลย ลืมอาเซินไปแล้วใช่หรือไม่” หลินเซินรู้ว่าตอนที่หลินซือสลบไสลนั้น ตัวเองเป็นกังวลมากเพียงใด เอาแต่วิ่งไปตระกูลหลินได้ทุกวัน

ต่อมาหลังจากที่หลินซือฟื้น ก็ถูกเซี่ยเชียนพากลับจวนเซี่ย และอัดความรู้ให้เขา

กว่าหลินซือจะมาเยือนจวนเซี่ยได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ใครเลยจะรู้ว่าไม่ได้มาหาเขา หลินเซินจึงไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย

“อาเซิน พี่มีเรื่องสำคัญจริง ๆ ไว้พี่เสร็จเรื่องแล้วจะมาเล่นกับเจ้าดีหรือไม่?” ครั้นเดินมาตรงหน้าหลินเซิน หลินซือก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

อาเซินเป็นน้องชายของนาง นางจะไม่ชอบเขาได้อย่างไร?

แค่ช่วงนี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ทำให้นางไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจมากเพียงนั้น โชคดีที่อาเซินไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ความ ไม่นานเดี๋ยวก็ดีขึ้น ไม่ได้ทำให้นางเป็นกังวลมากนัก