ตอนที่ 696 ขาหมูที่หายไป

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​แม้​เจียง​ซื่อ​จะ​คาดการณ์​ไว้​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​จาก​ปากขอ​งอ​วี​้​จิ​่น​ ​หัวใจ​ของ​นาง​เต้น​รัว​ ​เมฆหมอก​ที่​ก่อตัว​หนา​ทึบ​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

​นี่​เป็น​หนทาง​ที่​เต็มไปด้วย​ขวากหนาม​ ​เพราะ​ต่อให้​ไป​ถึง​เป้าหมาย​แล้วก็​ใช่​ว่า​จะ​ได้​อยู่​อย่าง​สุขสงบ​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ทั้งคู่​ก็​ถูก​พา​เข้ามา​ใน​สนาม​ประลอง​ครั้งนี้​อยู่​แล้ว​ ​ก่อนหน้านี้​ทั้งสอง​ได้​แต่​ป้องกัน​และ​ตั้ง​รับ​ ​รอ​ให้​คนอื่นๆ​ ​พุ่ง​เป้า​มาก​่อน​ถึง​จะ​ตอบโต้​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ ​สู้​ก้าว​เข้าไป​อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ ​จุด​ที่​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ต่อกร​กับ​พวกเขา​ไม่ดี​กว่า​หรือ

​เดิมที​การ​รอ​ให้​คนอื่น​โจมตี​ก่อน​ไม่ใช่​วิถี​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​แม้แต่​ชาติที่แล้ว​ ​นิสัย​ชอบ​เอาชนะ​ได้​พานาง​ไป​อยู่​ใน​ที่สูง​ส่ง​อย่าง​จวน​อันกั​๋​วกง

​แต่​แน่นอน​ว่า​ ​การแข่งขัน​เพราะ​ความ​มุทะลุ​ได้​มอบ​บทเรียน​แสนสา​หัส​ให้​แก่นาง​ ​แต่​ถึงอย่างไร​สิ่ง​ที่​ถูก​ฝัง​เข้าไป​ใน​ไขกระดูก​ก็​ยาก​ที่จะ​เปลี่ยนแปลง​ ​เพราะ​อย่างน้อย​ๆ​ ​เมื่อ​สถานการณ์​บีบบังคับ​ให้​นาง​ต้อง​สู้​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​ไม่มี​ท่าที​หวั่นเกรง​ไม่ว่า​ศัตรู​ตรงหน้า​จะ​เป็น​ใคร

​เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​ยังคง​นิ่งงัน​ไม่โต้ตอบ​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​เริ่ม​ไม่​มั่นใจ​ ​“​อา​ซื่อ​ ​หรือว่า​เจ้า​ไม่​อยาก​…​”

​เจียง​ซื่อ​คลี่​ยิ้ม​ ​“​ได้​สวมมงกุฎ​หงส์​ ​ข้า​จะ​ไม่​อยากได้​อย่างไร​”

​ในเมื่อ​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​นาง​ก็​มิได้​สนใจ​ว่า​หลังจาก​ประสบความสำเร็จ​แล้ว​จะ​ทำให้​ขาด​อิสระ​ ​สิ่ง​ที่นาง​ต้อง​ทำ​ตอนนี้​คือ​บรรลุเป้าหมาย​นั้น​ให้​ได้​ก่อน

​ครั้น​อวี​้​จิ​่น​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​ตอบ​จาก​ใจจริง​ ​ชายหนุ่ม​ก็​ยิ้ม​ร่า​ ​“​ดี​ ​ข้า​จะ​แย่ง​มงกุฎ​หงส์​มา​ให้​เจ้า​ให้​ได้​!​”

​เมื่อ​จบเรื่อง​จริงจัง​ ​สายตา​ของ​ชายหนุ่ม​ก็​หรี่​ลง​ ​แววตา​ที่​มอง​มายัง​ภรรยา​ร้อนรุ่ม​ขึ้น​ทันใด

​“​อา​ซื่อ​…​”

​“หื​้ม​?”

​“​ไป​อาบน้ำ​นอน​ก่อน​เลย​เถอะ​”​ เขา​อดอยากปากแห้ง​มาตั​้ง​สอง​เดือน​ ​รอช​้า​อยู่​ไย​!

​“​ยัง​ไม่​ถึง​เวลาอาหาร​เย็น​เลย​ ​ให้​มัน​น้อย​ๆ​ ​หน่อย​”

​อวี​้​จิ​่น​ดึง​เจียง​ซื่อ​เข้าไป​ประชิดตัว​ ​ท่าที​ดุดัน​ทะเยอทะยาน​เมื่อ​ครู่​หาย​ไป​นาน​แล้ว​ ​ชายหนุ่ม​ซุก​ไซ้​ใบหน้า​ลง​ที่​ต้นคอ​ของ​หญิงสาว​ ​“​ข้า​ไม่สน​ ​ข้า​คิดถึง​เจ้า​จะ​แย่​แล้ว​”

​ใบหน้า​ของ​เจียง​ซื่อ​แดง​ระเรื่อ​แต่​ไม่มี​ท่าที​ของ​ความ​เหนียมอาย​ ​นาง​เอ่ย​แผ่วเบา​ ​“​งั้น​…​ก็​อย่า​ให้​เกิน​เวลา​ข้าวเย็น​…​”

​อด​ข้าว​มื้อ​หนึ่ง​คง​ไม่เป็นไร​ ​แต่​การ​ที่​ทั้งสอง​ขลุก​อยู่​แต่​ใน​ห้อง​ไม่ยอม​ออกมา​ ​ใคร​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น

​แต่​ดูเหมือนว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​ประเมิน​อีก​ฝ่าย​ต่ำ​เกินไป​ ​กว่า​ม่าน​โปร่ง​สีม่วง​อ่อน​รอบ​เตียง​จะ​สงบ​ลง​ ​ดวงจันทร์​เสี้ยว​ก็​ลอย​เด่น​เหนือ​ยอดไม้​เสีย​แล้ว

​ร่าง​ของ​เจียง​ซื่อ​อ่อน​ยวบ​ ​สายตา​ชำเลือง​ไป​ทาง​อวี​้​จิ​่​นพ​ลาง​บ่น​ ​“​ควบคุมตัว​เอง​สักนิด​ไม่ได้​เลย​รึ​ ​ดีจริง​ๆ​ ​พวก​อา​เฉี่ยว​ต้อง​หัวเราะเยาะ​เป็นแน่​”

​อวี​้​จิ​่น​ตอบ​ด้วย​ใบหน้า​ระรื่น​ ​“​ไม่มีทาง​”

​“​ไม่มีทาง​ได้​อย่างไร​ ​เจ้า​อย่า​คิด​ไป​เอง​คนเดียว​สิ​”

​“​ข้า​หมายความว่า​ ​พวก​นาง​คงจะ​ชิน​ตั้ง​นาน​แล้ว​…​”

​ที่​เรือน​ห้อย​[1]​ ​อาหมา​นที​่​กำลัง​เฝ้า​เตา​กลืนน้ำลาย​อึก​ใหญ่​ ​“​อา​เฉี่ยว​ ​ขา​หมูนุ​่ม​ๆ​ ​ตุ๋น​กับ​น้ำตาล​ ​หอม​เหลือเกิน​!​”

​อา​เฉี่ยว​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​อาหมาน​สูด​จมูก​พลาง​พยักหน้า​ ​“อื​้ม​ หอม​จริงๆ​”

​อาหมาน​เปิด​ฝา​ขึ้น​และ​ใช้​ตะเกียบ​อัน​หนึ่ง​จิ้ม​เข้าไป​ ​ตะเกียบ​ทิ่ม​ทะลุ​หนัง​ใส​ๆ​ ​ที่​กำลัง​สั่น​เข้าไป​ถึง​เนื้อ​ด้านใน

​นาง​ปิด​ฝาหม้อ​คืน​ที่​เก่า​ ​เลีย​ริมฝีปาก​พลาง​ถาม​สหาย​คนสนิท​ ​“​ข้าว​่า​นาย​หญิง​กับ​ท่าน​อ๋อง​คง​ไม่​ตื่น​บรรทม​จนถึง​พรุ่งนี้​เช้า​ ​เจ้า​ว่า​ไหม​”

​อา​เฉี่ยว​พยักหน้า​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​ก็​คิด​อย่างนั้น​”

​สาว​รับใช้​หันมา​สบตา​กัน​ก่อนที่​อาหมาน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​งั้น​…​พวกเรา​ก็​กินกัน​เลย​เถอะ​”

​ ​“อื้อ”​ ​อา​เฉี่ยว​ผงกหัว​แรง​ๆ

​ ​สาว​รับใช้​สอง​คน​นั่ง​กิน​ขา​หมู​ตุ๋น​อยู่​ใน​เรือน​ห้อย​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ ​ในเมื่อ​นาย​ทั้งสอง​ทำตัว​ไม่อาย​ฟ้า​อาย​ดิน​เยี่ยง​นี้​…แค่ก​ๆ ​พวก​นาง​ชิน​เสีย​แล้ว​ ​ผู้ใด​สน​กัน​เล่า

​อวี​้​จิ​่น​ตื่นขึ้น​มาก​ลาง​ดึก​เพราะ​ความหิว

​ชายหนุ่ม​นอน​มอง​ม่าน​โปร่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​หันไป​ปลุก​คน​ข้างๆ

​เจียง​ซื่อ​ที่​ถูก​ปลุก​ลืมตา​มอง​อวี​้​จิ​่น​ ​นาง​เอ่ย​ถาม​ด้วย​เสียง​งัวเงีย​ ​“​มี​อะไร​รึ​”

​แม้​ภรรยา​จะ​อยู่​ใน​อาการ​ง่วงเหงาหาวนอน​ ​แต่​อวี​้​จิ​่​นก​็​มิได้​รู้สึก​ผิด​ ​“​อา​ซื่อ​ ​เจ้า​หิว​รึเปล่า​”

​เจียง​ซื่อ​กลอกตา​ไปมา​ ​ความง่วง​หาย​ไป​สิ้น​ ​หญิงสาว​เอ่ย​ตอบ​อย่าง​จนใจ​ ​“​เดิมที​ข้า​ก็​คิด​ว่า​จะ​ทน​ให้​ถึง​มื้อ​เช้า​ ​แต่​เมื่อ​โดน​เจ้า​ปลุก​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​หิว​ล่ะ​สิ​”

ไม่ได้​กินข้าว​เย็น​หนำซ้ำ​ยัง​ใช้​แรง​ไป​ตั้ง​เยอะ​ ​ใคร​บ้าง​ไม่​หิว

​“​ไม่รู้​ว่า​เมื่อ​เย็น​มี​อะไร​อร่อย​ๆ​ ​บ้าง​”

​เจียง​ซื่อ​ที่​ถูก​คน​หิว​ปลุก​ขึ้น​มาก​ลาง​ดึก​ให้​หิว​เป็นเพื่อน​บ่น​กระปอดกระแปด​ ​“​ข้า​สั่ง​ให้​อา​เฉี่ยว​ทำ​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​”

​“​ขา​ ​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​?​”​ ​น้ำเสียง​ของ​อวี​้​จิ​่น​เปลี่ยนไป​โดยพลัน

​เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​รับ​ ​“​อื้อขา​หมูนั​่น​เพิ่ง​ให้​คน​ไป​ซื้อ​มา​เมื่อเช้า​ ​ข้า​กำชับ​ว่า​ต้อง​เป็น​ขา​หน้า​เท่านั้น​ ​เพราะ​มี​เนื้อ​ใหม่​ๆ​ ​มากกว่า​ ​เวลา​เอา​ไป​ตุ๋น​แล้ว​จะ​ส่งกลิ่น​หอม​เย้ายวน​”

​“​งั้น​…​ตอนนี้​ก็​มี​ขา​หมู​ตุ๋น​อยู่​ใน​ห้องครัว​ใหญ่​ล่ะ​สิ​”

​“​ไม่ได้​อยู่​ใน​ครัว​ใหญ่​ ​ตอนที่​มัน​ใกล้​สุก​ ​อา​เฉี่ยว​ย้าย​มา​ไว้​ที่​เตา​ใน​ครัว​เล็ก​ที่​เรือน​ห้อย​ ​พอ​ใกล้​หาย​ร้อน​ก็​ให้​ค่อย​นำ​ไป​ตั้ง​เตา​จุดไฟ​ ​พวกเรา​จะ​ได้​เข้าไป​กิน​ได้​ตลอด​”

​อวี​้​จิ​่​นก​ระ​เด้ง​ตัว​ลุกขึ้น​นั่ง​พร้อม​แววตา​เป็นประกาย​ ​“​เจ้า​คอย​อยู่​ที่นี่​ ​เดี๋ยว​ข้า​จะ​ไปดู​ที่​เรือน​ห้อย​”

​ชายหนุ่ม​สวม​อาภรณ์​พลาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​มิน่าล่ะ​ ​ข้าว​่า​ข้า​ได้กลิ่น​ขา​หมู​ ​ตอนแรก​ก็​คิด​ว่า​หลอน​ไป​เอง​”

​อย่างไร​เสีย​ ​เรื่อง​กิน​และ​เรื่อง​กาม​ก็​เป็น​สัญชาตญาณ​ของ​มนุษย์​ ​นาน​แล้ว​กว่า​เขา​จะ​ได้​นอน​เคียงคู่​กับ​ภรรยา​ ​กลิ่น​ขา​หมู​ตุ๋น​ที่​ลอยมา​เป็นพักๆ​ ​ทำให้​เขา​อด​คิด​ไม่ว่า​ตัวเอง​คง​ห่าง​นารี​มานาน​เกินไป​ ​ทำให้​ตอนที่​กอด​เจียง​ซื่อ​ถึง​ได้กลิ่น​หมู​ตุ๋น

​และ​ด้วยเหตุนี้​ทำให้​ชายหนุ่ม​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​ ​เพราะ​ถึงอย่างไร​อา​ซื่อ​ก็​ต้อง​มาก​่อน​หมู​ตุ๋น​ ​แต่​เหตุใด​ถึง​มี​อาการ​หลอน​เช่นนั้น

ที่แท้​เขา​ก็​ไม่ได้​หลอน​ไป​เอง​ ​มัน​คือ​กลิ่น​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​จริงๆ​!

​ปกติ​แล้ว​หาก​ทั้งสอง​อยู่​ด้วยกัน​ ​จะ​ไม่มี​สาว​รับ​มา​ใช้​มานอน​เฝ้า​ ​อวี​้​จิ​่​นรี​บสว​มร​อง​เท้า​เดิน​ออก​ไป​ที่​เรือน​ห้อย

​แต่​ไม่นาน​นัก​ ​เสียง​ฝีเท้าปึงปังก็​เดิน​กลับมา

​เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​ ​แสง​กลางดึก​สาดส่อง​ให้​เห็น​ใบหน้า​หล่อ​เหล่า​ที่​กำลัง​ขมวด​มุ่น

ใน​ยาม​ปกติ​ ​เสียง​ฝีเท้า​ของ​อวี​้​จิ​่น​จะ​เบา​สบาย​กว่า​ใน​ตอนนี้​ ​ดูแล​้ว​คงมี​เรื่อง​ให้​ไม่พอใจ

​อวี​้​จิ​่​นภาย​ใต้​ใบหน้า​หมอง​หม่น​เดิน​มา​หยุด​อยู่​ข้าง​เตียง​ ​“​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​หมด​แล้ว​!​”

มี​เพียงแต่​ฟ้า​เท่านั้น​ที่​ทราบ​ว่า​เขา​เจ็บปวด​เช่นไร​ ​ความรู้สึก​ของ​คนที​่​ตื่น​กลางดึก​เพราะ​ความหิว​ ​และ​ได้​รู้​ว่า​ข้าง​ห้อง​มี​ขา​หมู​ตุ๋น​ชิ้น​โตร​ออยู​่​ ​จึง​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป​ด้วย​ความดีใจ​ ​แต่กลับ​ต้อง​พบ​กับ​คราบ​น้ำตาล​ไหม้​ติด​ก้น​หม้อ

หาก​จะ​ให้​พูด​ด้วย​ความสัตย์จริง​ ​เขา​คิด​ว่า​จะ​หิ้ว​หม้อ​ไป​ทุบ​หัว​คน​กิน​ให้​มัน​รู้แล้วรู้รอด

​“​เช่นนั้น​ก็​นอน​เถิด​ ​รอฟ​้า​สว่าง​แล้ว​ค่อย​กิน​ก็แล้วกัน​”​ ​เจียง​ซื่อ​ปลอบใจ

​นาง​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​คนที​่​กำลัง​หิวโซ​แต่​ถูก​แย่ง​อาหาร​ไป

​อวี​้​จิ​่น​ทำได้​เพียง​ค่อยๆ​ ​ถอด​รองเท้า​และ​ขึ้นไป​บน​เตียง​ ​เขา​ดึง​ผ้าห่ม​ขึ้น​มา​ห่ม​กาย

​ไม่ทราบ​ว่า​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าใด​ ​ชายหนุ่ม​ก็​พลิกตัว​หันมา​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ลูบ​อยู่​ที่​คาง​อย่าง​ครุ่นคิด​ ​“​อา​ซื่อ​”

​เจียง​ซื่อ​ที่​ใกล้​จะ​เคลิ้ม​ลืมตา​ขึ้น​มอง

​“​เจ้า​ว่า​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​นั่น​ถูก​เอ้อร​์​หนิ​วกิน​ไป​หรือเปล่า​”

​เจียง​ซื่อ​ลังเล​ชั่ว​อึดใจ​ ​ใน​หัว​ชั่งใจ​ระหว่าง​สาว​รับใช้​ใหญ่​กับ​เจ้า​สุนัข​ ​แล้ว​สุดท้าย​ก็​เลือก​ ​“​ก็​เป็นได้​ ​เพราะ​เอ้อร​์​หนิว​ชอบ​กิน​ขา​หมู​”

สาว​รับใช้​ทั้งสอง​คงทน​ทัณฑ์​ทรมาน​จาก​อาจิ​่น​ไม่ไหว​ ​แต่​อย่างน้อย​เอ้อร​์​หนิ​วก​็​ยัง​วิ่งหนี​เอาตัวรอด​ได้

​ภายใต้​เงา​สลัว​ ​ใบหน้า​ถมึงทึง​เปล่ง​วาจา​ปริ​ภาษ​สาปส่ง​ ​“​ไอ้​เจ้า​สุนัข​เวร​!​”

​แต่​เขา​ไม่ได้​กล่าว​อะไร​ต่อจากนั้น​ ​ทันทีที่​ฟ้า​สว่าง​ ​อวี​้​จิ​่​นรี​บก​ระ​เด้ง​ตัว​ออกจาก​เตียง​ ​ล้างหน้าล้างตา​ก่อน​จะ​ไป​คิดบัญชี​กับ​เอ้อร​์​หนิว

​ช่วง​รุ่ง​สร่าง​ใน​อวี​้​เหอย​่​วน​มี​เงา​ร่าง​ของ​ชาย​แข็งแรง​กำลัง​วิ่งไล่​เจ้า​สุนัข​ตัว​ใหญ่​กัน​จ้าละหวั่น

​อาหมา​นที​่​กำลัง​ถือ​ถาด​มอง​ตา​ปริบๆ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​วิ่งไล่​เอ้อร​์​หนิ​วทำ​ไม​กัน​”

​อา​เฉี่ยว​ส่าย​หัว​ ​“​จะ​รู้​หรือ​ ​เอ้อร​์​หนิว​คง​ไป​ก่อเรื่อง​ไว้​”

​เอ้อร​์​หนิว​เห่า​ด้วย​ความคับ​ข้องใจ

เช้า​ๆ​ ​อย่างนี้​ ​เจ้านาย​เป็นบ้า​อะไร​เนี่ย

[1]​ เรือน​ห้อย​ คือ​ ​เรือน​เล็ก​ๆ​ ​ตั้งอยู่​ด้าน​ซ้าย​และ​ขวา​ของ​เรือน​หลัก