บทที่ 697 น่ารังเกียจกว่าเดิม

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เวียร์พลิกตัวไปอาบน้ำจนเสร็จ ก็เดินไปที่ประตูห้องครัวก็เห็นลี่จุนซินถือช้อนใส่ผ้ากันเปื้อนพลางชิมน้ำแกง ก่อนจะเป่าเล็กน้อย แล้วปากแดงๆ นั้นก็แตะไปที่ช้อน จากนั้นลำคอของเธอก็ขยับ ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางยิ้มอย่างพอใจ

คอของเวียร์เองก็ขยับเล็กน้อย จากนั้นขาก็เดินก้าวไปด้วยตัวเอง

ลี่จุนซินเพิ่งปิดฝาและวางช้อน ก็มีสองมือโอบเอวของเธอจากทางด้านหลังเอาไว้ แล้วไหล่ก็หนักอึ้ง พลางรู้สึกถึงลมหายใจอ่อนโยนที่ข้างหู

เวียร์หายใจแรงข้างๆ เธอ ก่อนจะพูดขึ้นมา “หอมจังเลย”

เสียงของเขานั้นมันมีความแหบแห้งตอนเพิ่งตื่นนอน พลางมีความน่าหลงใหลเล็กน้อย

ลี่จุนซินหน้าแดงขึ้นมาทันที

เวียร์มองผิวขาวของเธอแดงขึ้นมาเบาๆ ยิ่งทำให้น่าดึงดูด ก่อนจะกุมมือแน่น แล้วพูดข้างหูเธอเบาๆ “ฉันหิวแล้ว”

พูดจบเองก็ไม่ไปไหน ความร้อนนั้นมันอบอวลอยู่ที่หูของเธอ ทำให้ตัวสั่นขึ้นมา

เวียร์พอใจในท่าทีของเธอเป็นอย่างมาก ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วแนบไปที่เรือนร่างของเธอ

ลี่จุนซินขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นผล เลยต้องพูดขึ้น “ฉันเองก็หิวแล้ว”

เมื่อพูดออกมาเสียงมันมีความน่ารักน่าชังขึ้นมาเอง

เวียร์ประทับรอยลงบนคอของเธอ ก่อนจะเหลือรอยแดงเอาไว้ พลางพูดกับเธอด้วยเสียงแหบแห้ง “งั้นพวกเรามากินกันเถอะ”

ลี่จุนซินรู้สึกเหมือนมีมดกัดหัวใจของเธออยู่ พลางรู้สึกชาขึ้นมาในใจ เธอรีบสะบัดเวียร์ออก ก่อนจะหันตัวมา พลางเน้นย้ำด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ฉันหมายถึงกินข้าว”

ก่อนจะพูดพลางชี้ไปที่โต๊ะอาหาร แววตาก็ไม่กล้ามองเขา

เวียร์มองเธอ ด้วยแววตาเป็นประกาย ใบหน้าที่ขาวนวลก็แดงขึ้นมา ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก จนอยากจะกลืนกินเข้าไป

เขายื่นมือออกมาลูบใบหน้าของเธอ “ฉันเองก็หมายถึงกินข้าวไง คุณคิดไปถึงไหนเนี่ย?”

ลี่จุนซินยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นงั้นเหรอ!แต่ว่าเธอกลับแก้ตัวให้ตัวเองไม่ได้เลย ก่อนจะก้มหน้าบ่นพึมพำ “งั้นพวกเรามากินข้าวกันเถอะ ฉันไปตักน้ำแกงให้”

เวียร์ซบเข้ามา ก่อนจะจ้องมองริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอ แล้วพึมพำขึ้นว่า “อือ ฉันชินน้ำแกงก่อนนะ”

พูดจบก็ประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากของเธอ

เธอเพิ่งกินน้ำแกงไปไม่ใช่เหรอ งั้นก็ชิมที่ปากของเธอเลยสิ

เมื่อเจอการประชิดที่รวดเร็ว ลี่จุนซินควรจะขัดขืน แต่ว่าเพียงไม่นานก็ถูกเขาคุมเอาไว้ เขาโอบเอวของเธอ ก่อนจะประคองคอของเธอเอาไว้ เหมือนไม่มีแรงอะไรเลย แต่กลับให้เธอขยับอะไรไม่ได้เลย

อารมณ์ที่คุ้นเคยนั้นมันเข้ามาในหัวเธออย่างรวดเร็ว เธออ้าปากขึ้นรับความน่าหลงใหลนั้น ก่อนจะกอดรัดกับเขา โดยที่ไม่ขัดขืนอีกต่อไป

ปากของเธอมีความอร่อยของน้ำแกงอยู่ เขาแค่คิดว่าเธอหอมหวานเหลือเกิน เลยอดไม่ได้ที่จะล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายของตัวเอง แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะจูบอย่างดูดดื่มมากกว่าเดิม

ปากของเขามันมีความเผ็ดชุ่มเล็กน้อย มีความเย็น และอ่อนนุ่ม หลายวันที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตด้วยกันจนทำให้เธอคุ้นชินที่จะยอมรับเขา เขาเองก็รู้ว่าจุดไหนคือจุดที่เธออ่อนไหว

ลี่จุนซินอดไม่ได้ที่จะมีเรือนร่างอ่อนยวบลง จนอยากจะหาที่พึ่งสักหน่อย

เมื่อรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเธอ เขาก็ค่อยๆ ปล่อยมือของเธอ จากนั้นเธอก็เอามือขึ้นมาโอบคอเขา ระหว่างริมฝีปากของสองคนนั้น ก็มีเสียงหายใจอย่างหนักหน่วง

ลี่จุนซินไม่รู้ว่าทำไมจะกินข้าวแต่มากินบนเตียงได้ เดี๋ยวเธอตื่นขึ้นมา เวียร์กำลังเอามือคลำหน้าอกของเธอ จากนั้นก็เห็นเธอลืมตาขึ้น ก่อนจะยิ้มร้ายๆ “ช่วงนี้คุณเหมือนจะอ้วนขึ้น แล้วตรงนี้ก็ใหญ่ขึ้นด้วย”

เมื่อพูดจบก็จับหน้าอกของเธอ มือก็เริ่มไม่นิ่งขึ้นมา ลี่จุนซินบังมือของเขาเอาไว้ด้วยความเขินอาย ก่อนจะพูดด้วยความน่าสงสาร “ฉันหิวแล้ว”

เวียร์ก็ยิ้มพลางเอาหน้าซุกหน้าอกของเธออีกครั้ง ลี่จุนซินเพิ่งจะรู้ว่าคำพูดนี้มันคลุมเครือมากแค่ไหน เธอนั้นอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตาย

เธอกระแอมเล็กน้อย “ฉันหิวจริงๆ ตอนเที่ยงฉันกินขนมปังไปไม่กี่แผ่นเอง”

สุดท้ายเวียร์เลยเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็แตะไปที่ริมฝีปากของเธอ “ไป ไปกินข้าวกัน”

หลังจากที่ลี่จุนซินอุ่นอาหารอีกครั้ง เวียร์ก็ไปล้างจานด้วยตัวเอง เธอเหนื่อยจนนอนลงบนโซฟา “กินเสร็จแล้วนอนที่โซฟามันสบายจริงๆ เลย”

เวียร์ล้างจานเสร็จ ก็ยกเอาผลไม้ออกมา ก่อนจะเห็นท่าทีที่ลี่จุนซินนอนเหมือนคนไร้กระดูกอยู่บนโซฟา

เมื่อเดินไป แล้วก็เอาผลไม้วางลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดรายการที่ลี่จุนซินชอบดู พลางนั่งลงบนโซฟา แล้วดึงลี่จุนซิน มานอนอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง

“ฉันพบว่า หลังจากที่คุณคบกับฉัน ยิ่งขี้เกียจขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เป็นคุณหนูลี่ที่ดูเก่งกาจ อารมณ์มั่นคง ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังจะเป็นคนขี้เกียจแบบนี้”

“อั้ยหยา ไม่มีใครที่ดีไปเสียทุกอย่างหรอก อีกอย่างท่าทีแบบนี้มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่รู้ แม่ฉันยังไม่เคยเห็นเลยนะ”

“จริงด้วย ถ้าให้ป้าเห็นท่าทีของคุณ จะต้องบอกว่าคุณไม่เหมือนคุณหนูใหญ่แน่เลย แต่ว่า คุณอยากจะทำอย่างไรต่อหน้าฉันก็ได้นะ เป็นตัวของตัวเองเลย”

ลี่จุนซินที่มีภาพลักษณ์ที่ดีเวลาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นจนชินแล้ว เมื่อได้ฟังเวียร์พูดดังนั้น ก็ซึ้งใจเป็นอย่างมาก

เธอนั่งขึ้นมาจากอ้อมกอดของเวียร์ ก่อนจะพลิกตัว มาจับหัวของเวียร์ก่อนจะจุ๊บไปหนึ่งที

เวียร์นอนตอนบ่าย ตกดึกเลยนอนไม่หลับ ส่วนลี่จุนซินก็กลายเป็นคนที่ถูกรบกวน ไปเสียทุกอย่าง โดยไม่ละเลิก ตอนที่สมองของเธอมีสติดี ในใจก็เสียดายเป็นอย่างมาก ที่ไม่น่าใจอ่อนตุ๋นน้ำซุปให้เขา มันต้องเป็นการบำรุงแน่นอน คนที่ต้องมารองรับก็เป็นตัวเองอีก เขาดูเหมือนคนเหนื่อย หรือคนที่ต้องพักผ่อนที่ไหน?

วันที่สองเวียร์เลยนอนเป็นเพื่อนเธอ ลี่จุนซินนอนหมดแรง เวียร์กลับกวนอยู่ข้างๆ ก่อนจะเอาผมของเธอมาโดนใบหน้า เดี๋ยวก็นับขนตาของเธอเดี๋ยวก็จับจมูกของเธอเล่น

สุดท้ายลี่จุนซินทนไม่ไหวหรอก ก่อนจะร้องใต้ผ้าห่มแล้วลุกขึ้นมา แล้วพลิกตัวมาคร่อมตัวของเวียร์เอาไว้ ทั้งสองคนจับคอเอาไว้แน่น ก่อนจะกัดฟัน

เวียร์นอนราบและยอมเธอ พลางเบะปากใส่เธอ แต่ก็ไม่ขัดขืน เหมือนกับอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก แววตามีน้ำวนอยู่ พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในสายตาของลี่จุนซินนั้นมันยิ่งน่าเกลียด

“ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว!ทำไมคุณยังไม่ไปทำงานอีก!หรือว่าบริษัทคุณล้มละลายแล้วงั้นเหรอ?”

เวียร์เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย ด้วยท่าทีสบายอารมณ์ “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนหน้านี้ฉันเองก็ไม่ได้ทำงาน แล้วพาคุณไปเที่ยวที่ต่างๆ มากมาย”

ลี่จุนซินบ่นไปอีก ก่อนจะลงมาจากเขา แล้วเองผ้าห่มปิดหัว

ก่อเรื่องเองแล้วก็หนีไปไหนไม่ได้!

“ไม่ทะเลาะกับคุณแล้ว พวกเราควรไปรับพวกป้าแล้ว จากนั้นก็ควรกลับจีนแล้ว อีกอย่างจุนถิงในตอนนี้ น่าจะเก็บกวาดบริษัทลี่ซื่อจนเรียบแล้ว”

ลี่จุนซินได้ฟังดังนั้น ก็รีบลุกจากที่นอนแล้วไปเก็บกระเป๋า