ท่านปู่ลี่มีสติมากจนทุกคนดีใจ
โม่เสี่ยวฮุ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อเข้าไปใจห้องพักผู้ป่วย ก็เห็นว่าท่านปู่ลี่ลืมตาขึ้นมา พลางมองพวกเธอแล้วยิ้มให้ ทั้งสองคนเห็นแววตาของท่านปู่ลี่ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องไห้ออกมา
โม่เสี่ยวฮุ่ยรีบเดินไปข้างเตียงท่านปู่ “พ่อ คุณฟื้นแล้ว ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“เด็กดี ฉันไม่เป็นไร คุณเห็นอาการกล้ามเนื้อบนบใหน้าไม่ปกติของฉันดีขึ้นมากแล้ว ฉันพูดได้อย่างปกติแล้ว แต่ไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ว่ายังจะยืนขึ้นได้หรือเปล่า”
ท่านปู่ลี่ยื่นมือออกมา ก่อนจะตบมือของโม่เสี่ยวฮุ่ย แล้วพูดปลอบ
“คุณปู่ คุณจะต้องยืนขึ้นมาได้แน่ ถึงคุณจะเดินไม่สะดวกอีกต่อไป ฉันกับจุนถิงจะดูแลคุณเอง”
“เห้อ หลานสะใภ้ฉันพูดเก่งจริงๆ คุณอุ้ม…ใครอยู่น่ะ?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า ก่อนจะพากุ่นกุ่นมาอยู่ข้างเตียงของท่านปู่ลี่
“มาๆ เสี่ยวหลิว พยุงฉันขึ้นมาหน่อย”
คุณหมอหลิวเดินไปหา ก่อนจะช่วยโม่เสี่ยวฮุ่ยพยุงท่านปู่ขึ้นมา ท่านปู่อุ้มกุ่นกุ่นมาอยู่ในอ้อมกอด ดวงตาก็เปล่งประกาย
กุ่นกุ่นเองก็ไม่งอแง โดยที่ยอมให้ท่านปู่ลี่อุ้มแต่โดยดี จากนั้นก็มองเขาด้วยดวงตาทั้งสองข้าง
“อั้ยหยา แค่ไม่นานหลานสาวก็เกิดแล้ว เด็กน้อยคนนี้น่ารักจริงๆ เลย คุณดูคิ้วสิเหมือนกับหยุนเอ๋อเลย เป็นสาวน้อยที่สวยไม่เบาเลยล่ะ”
ท่านปู่ลี่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะมองไปทางเด็กที่ยืนข้างๆ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็คือถวนจื่อ
“ฉันสนใจแต่หลานสาว จนลืมหลานชายไปเลย มาๆ มาให้ฉันอุ้มหน่อย”
ยังไม่ทันจะให้โม่เสี่ยวฮุ่ยอุ้มเขาขึ้นมา ถวนจื่อก็ปีนขึ้นมาเอง พลางมองท่านปู่ด้วยความน่ารักน่าชัง ก่อนจะเรียกเสียงดัง “คุณปู่”
เสียงนั้นมันทำให้ท่านปู่ลี่ดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเด็กน้อยน่ารักทั้งสองอยู่ต่อหน้าตนเอง ก็พอใจเป็นอย่างมาก
ยิ่งอายุมากก็ยิ่งอารมณ์อ่อนไหว ท่านปู่ลี่ได้ยินถวนจื่อเรียกว่าคุณปู่ ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอออกมา
ถวนจื่อเห็นน้ำตาของท่านปู่ลี่อยู่ตรงหางตา ก่อนจะยื่นมือออกมาช่วยเช็ดน้ำตาเขาอย่างเชื่อฟัง
“คุณปู่ ไม่ร้องไห้นะ จากนั้นพวกเราจะมาอยู่กับคุณ คุณจะต้องอายุยืนแน่นอน”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านปู่ลี่ก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม แต่ว่าในใจเขารู้สึกถูกเติมเต็มเป็นอย่างมาก
“โอเค คุณปู่ไม่ร้องแล้ว ฟังฉันนะ คุณปู่จะรอดูคุณโตเองนะ”
ท่านปู่ที่กอดกุ่นกุ่นอย่ตรงหน้า เมื่อได้เห็นท่าทีของพี่ชาย ก็ทำตาม พลางยื่นมืออ้วนๆ ขอตัวเองไปจับหน้าของท่านปู่
ก่อนหน้านี้กุ่นกุ่นเจ้าน้อยเล่นกับถวนจื่อมาตลอด เวลาเห็นถวนจื่อทำอะไร เธอก็จะทำตาม อย่าคิดว่าเพียงเดือนสองเดือน เพราะเธอฉลาดมาก
ท่านปู่ลี่เห็นว่ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยยื่นมือออกมา ก็เอาใบหน้าซบไปในมือของเธอ
“หลานสาวเองก็ทำตามพี่ชาย อยากจะปลอบคุณปู่เหรอ ฉลาดจริงๆ เลย”
โม่เสี่ยวฮุ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อเห็นท่าทีของปู่หลานทั้งสาม ก็รู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ท่านปู่ลี่มองเด็กทั้งสองคน ก็ยิ่งชอบ หลังจากที่ตื่นเช้ามาเขาก็อยากถามว่าตอนนี้หลานของตัวเองเป็นอย่างไรบ้างแล้ว แต่ว่าเมื่อเห็นเด็กเล็กสองคน ก็ลืมลี่จุนถิงไปเลย
เจียงหยุนเอ๋อเองก็ลืมไปเลย สุดท้ายคุณหมอหลิวเลยเป็นคนเตือน ก่อนจะโทรหาลี่จุนถิงกับลี่จุนซิน
หลังจากที่พี่น้องได้รับข่าว ก็วางงานในมือ ก่อนจะรีบวิ่งมา
ตอนที่ท่านปู่ลี่เห็นลี่จุนถิง ก็นึกถึงคำถามที่ตัวเองอยากจะถามหลังจากตื่นนอนตอนเช้าได้ เลยตบหัวของตัวเองเบาๆ
“ดูความจำของฉันสิ ไม่ไหวเลยจริงๆ”
ลี่จุนถิงเห็นท่าทีของท่านปู่ลี่ดังนั้น ก็สงสัยเป็นอย่างมาก “คุณปู่ เป็นอะไรเหรอ?”
“ฉันหมายความว่า ฉันแก่แล้วจริงๆ หลังจากที่ฉันตื่นขึ้นมา ก็อยากจะถามว่าคุณยังไม่กลับมาเหรอ สุดท้ายพอได้เห็นเด็กสองคนนี้ก็ลืมแล้ว”
“คุณปู่ ทำไมคุณไม่อยากถามฉันบ้าง ฉันเองก็เป็นหลานสาวคุณนะ”
ลี่จุนถิงยังไม่ทันตอบ ลี่จุนซินก็เปิดปากพูดก่อน
“คุณอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะมาแย่งความเอ็นดูอีก”
โม่เสี่ยวฮุ่ยยิ้มพลางตีลี่จุนซินเบาๆ
“ฉันจะอายุเท่าไหร่ฉันก็เป็นหลานสาวที่คุณปู่รักที่สุด” ลี่จุนซินเดินไปข้างเตียง ก่อนจะเบี่ยงหัวของกุ่นกุ่นออก แล้วก็กอดคอของท่านปู่ลี่
“คุณปู่ คุณว่าฉันพูดถูกไหม”
ท่านปู่ลี่หัวเราะ “โฮะๆ” ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบแขนของลี่จุนซินเบาๆ
“ใช่ๆ ไม่ว่าคุณโตขนาดไหน ก็ยังเป็นหลานสาวที่ฉันรักที่สุดอยู่ดี”
กุ่นกุ่นเจ้าน้อยเองก็เงยหน้ามองลี่จุนซิน ดวงตาเป็นประกายหยาดเยิ้ม น่ารักน่าชังมากเหลือเกิน
ลี่จุนซินก้มหน้ามองกุ่นกุ่นเจ้าน้อย น่ารักจนเธอใจละลาย สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะจูบหน้าผากของกุ่นกุ่นเจ้าน้อย
จู่ๆ กุ่นกุ่นก็ถูกจุ๊บ แต่ก็ไม่ร้องงอแงอะไร พลางกัดนิ้วแล้วมองคนรอบๆ ตาของเธอมองไปที่ลี่จุนถิง ก่อนจะดิ้นไปมาในอ้อมกอดของท่านปู่ แล้วยื่นมือไปหาลี่จุนถิงพลางร้องออกมา “แง~แอ~”
ลี่จุนถิงเห็นดังนั้น ก็อุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยมาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดของลี่จุนถิง เธอเลยหัวเราะ “โฮะๆ” ออกมา เพียงไม่นาน ก็หลับอยู่ในอ้อมกอดของลี่จุนถิง
“คุณดูเด็กสาวคนนี้สิ เด็กขนาดนี้ก็รู้ว่าต้องไปหาใคร จะต้องฉลาดมากแน่ๆ เลย”
ท่านปู่ลี่หัวเราะขึ้น เขามองเด็กสาวนอนหลัง ก่อนจะให้พวกเขากลับไป แล้วทำธุระที่ตัวเองมี
หลังจากที่ออกไปแล้ว ลี่จุนถิงก็ถามหมอ “คุณหมอหลิว ตอนนี้คุณปู่ของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?จะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่?”
“ท่านปู่ร่างกายดีขึ้นมากแล้ว ช่วงนี้ฉันตรวจร่างกายให้เขา ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว หลังจากกลับไปก็พักผ่อนดีๆ จากนั้นจะต้องเตรียมยารักษาโดยด่วนเอาไว้ในบ้าน จะให้ดีก็ต้องพาหมอประจำครอบครัวไปดูแลด้วย”
“ท่านปู่อายุเยอะแล้ว อีกอย่างผ่านอะไรมามากมาย กระดูกก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นในบ้านเลยต้องมีหมอเตรียมเอาไว้ หรือเป็นคนที่รู้เรื่องการแพทย์”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ขอบคุณนะหมอ”
ตกดึก เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลี่ ลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็คิดถึงคนหนึ่งขึ้นมาได้
“จุนถิง หมอประจำครอบครัวของครอบครัวพวกเราก่อนหน้านี้ล่ะ?”
“คุณหมายถึงฉีเฉิงเหรอ?” ลี่จุนถิงไม่รู้ว่าทำไมเจียงหยุนเอ๋อนึกถึงคนนี้ขึ้นมา
“ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหนแล้ว หลังจากที่ฉันกลับมาก็ไม่ได้ยินคนในบ้านพูดถึงแล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นจากโซฟาทันที “ฉันลืมแล้วว่าก่อนหน้านี้คุณหายตัวไป ฉันจะไปถามแม่ดู”
ยังไม่ทันรอให้ลี่จุนถิงห้ามเธอ เธอก็เดินจากไปด้วยความเร็ว
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อกลับมา ก็ขมวดคิ้ว ด้วยใบหน้าสงสัย โดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากที่เธอกลับมาก็ไม่ได้สนใจลี่จุนถิงเลย ก่อนจะตรงไปคลุมโปง