บทที่ 550 บางครั้งแผนการของหลี่ฉางโซ่วมีข้อบกพร่อง ภัยพิบัติของเผ่ามังกรเริ่มต้นขึ้นแล้ว! (1)
นี่คือที่ที่ดวงตาแห่งท้องทะเลอยู่หรือ?
หลี่ฉางโซ่วมองไปยังท้องทะเลที่ว่างเปล่าต่อหน้าเขาและความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจ
ในขณะนั้น เขาไม่ได้ดึงดูดความสนใจของบรรดาร่างที่อยู่ก้นทะเล…
เขากลายร่างเป็นปลาว่ายน้ำโดยใช้วิชาจำแลงกาย ซึ่งในขณะนี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของบรรดาร่างเหล่านั้นที่ก้นทะเล…
ร่างนับพันเหล่านั้น โผล่ออกมาจากร่องน้ำในระยะไกล ซึ่งมีค่ายกลใหญ่เคลื่อนย้ายเฉียนคุนอยู่ที่นั่น และในเวลานี้ มันยังคงทำงานอยู่
เพียงเมื่อครู่นี้ เทพธิดาอวิ๋นเซียวยังเตือนเขาว่า เหตุใดเขาไม่ทำลายค่ายกลเฉียนคุนเพื่อตัดเส้นทางหลบหนีและการเสริมกำลังของคนเหล่านี้
หลี่ฉางโซ่วจึงชี้แจงอย่างระมัดระวัง…
“ประการแรก สำนักบำเพ็ญประจิมได้นำรากฐานของพวกเขาเองออกมาในครั้งนี้ พวกเขาต้องการเคาะลำไม้ไผ่[1]เผ่ามังกร หากพวกเขามีใจคิดจะกวาดล้างกองกำลังของสำนักบำเพ็ญประจิม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ยางอายมา
“ประการที่สอง หากมีการหลอกโจมตีที่นี่ กองกำลังของสำนักบำเพ็ญประจิมเหล่านี้ย่อมจะเป็นเหมือนพวกหัวมังกุ ท้ายมังกร[2] พวกเขาจะข้ามน้ำและล่าถอยไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาจะไม่สร้างปัญหาให้เผ่ามังกรมากนัก
แต่หากเราตัดทำลายเส้นทางล่าถอยในอนาคตของพวกเขา มันอาจจะกระตุ้นหัวใจของพวกเขาให้ฮึดสู้จนตัวตายขึ้นมา ซึ่งรังแต่จะเพิ่มการบาดเจ็บล้มตายของเผ่ามังกรมากขึ้นเท่านั้น
ประการที่สาม อาจมีศิษย์ของจอมปราชญ์แอบคอยเฝ้าปกป้องค่ายกลเฉียนคุนอยู่ลับๆ ซึ่งน่ากลัวว่ามันอาจเกิดการรบพุ่งที่ดุเดือดรุนแรง”
อวิ๋นเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “นั่นก็จริง การต่อสู้อย่างมีกลยุทธ์แยบยลและการต่อสู้แบบเผชิญหน้านั้น แตกต่างกันมาก เจ้าอธิบายได้ชัดเจนทีเดียว”
หลี่ฉางโซ่วรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวทั้งสองนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกบรรพกาลเลย
กลับมาที่เรื่องสำคัญก่อน
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของทั้งสี่คาบสมุทรในยามนี้แล้ว จอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมได้เข้าร่วมการต่อสู้นี้อยู่ลับๆ อย่างแน่นอนจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ในจังหวะที่จอมปราชญ์ลงมือโจมตี พวกเขาก็พุ่งเป้าไปที่ส่วนสำคัญของเผ่ามังกรโดยตรง ซึ่งบอกตำแหน่งที่อยู่ของดวงตาแห่งท้องทะเลทั้งสี่คาบสมุทรให้แก่พวกเขา
ต้องกล่าวว่า ดวงตาแห่งท้องทะเลประจิมกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
หลี่ฉางโซ่วเคยหารือเรื่องนี้กับองค์เง็กเซียนมาก่อนหน้านี้ หากดวงตาแห่งท้องทะเลประจิมถูกทำลาย เหล่ามังกรกบฏแห่งทะเลประจิมก็ย่อมจะเต๋าสวรรค์ลงโทษ และรับผิดชอบเติมเต็มในการฝังดวงตาแห่งท้องทะเลเช่นกัน ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีไปได้
วันนี้ หลี่ฉางโซ่วมีความมั่นใจเพียงเก้าสิบห้าในร้อยส่วนเท่านั้น เพราะเขาไม่อาจมั่นใจได้ว่า จอมปราชญ์จุ่นถีจะมาปรากฏตัวโดยตรงหรือไม่
แม้ความเป็นไปได้จะต่ำ แต่นี่ก็เป็นการโจมตีครั้งใหญ่จริงๆ
ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จอมปราชญ์จะออกมาปล้นสะดมชาวบ้านเอง จริงหรือไม่?
ไม่ ไม่น่า จอมปราชญ์จะออกมาเป็นโจรปล้นชาวบ้านเช่นนั้นได้อย่างไร?
นั่นเป็นเพราะคลังเก็บสมบัติของวังมังกรมีถูกลิขิตเอาไว้ล่วงหน้าให้เป็นชะตากรรมแห่งสำนักบำเพ็ญประจิม จอมปราชญ์จึงทำตามแนวโน้มของสวรรค์เพื่อนำทรัพยากรจำนวนหนึ่งกลับไปที่สำนักบำเพ็ญประจิม
สำนักบำเพ็ญประจิมมีสองมาตรฐาน
หลี่ฉางโซ่วไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มากนัก และเขาก็ไม่กล้าสงวนสิทธิ์จะพูด
ในขณะนั้น อวิ๋นเซียวได้ส่งข้อความเสียงมาหาเขาอีกครั้ง นางบอกให้เขารู้ถึงรายละเอียดเรื่องความแข็งแกร่งของบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏในทะเลทักษิณในเวลานี้…
ช่างมีน้ำใจยิ่งนัก
ตามที่เทพธิดาบอกมา กองทหารประจิมได้ผสมปะปนไปด้วยสัตว์ร้าย เผ่าปีศาจ เผ่ามนุษย์ และสิ่งมีชีวิตเซียนเทียนที่ทรงพลังสองสามตัว
พวกเขาส่วนใหญ่ครองความแข็งแกร่งในขอบเขตเซียนเทียน แต่มีกลิ่นอายลมปราณที่รุนแรงมากหลายสิบตัว นอกจากนี้ ยังมีผู้ทรงพลังระดับเซียนต้าหลัวจินอีกสองสามร่างด้วย
หลี่ฉางโซ่วรู้สึกว่ามันยากลำบากมาก
หรือว่าสถานที่นี้อาจเป็นพื้นที่โจมตีหลัก?
หากทั้งหมดนี้เป็นการปิดบังอำพราง ก็แสดงว่าครั้งนี้ สำนักบำเพ็ญประจิมได้ใช้พลังมากเกินไปแล้วจริงๆ!
นอกจากนี้ หลี่ฉางโซ่วยังไม่อาจใช้เวทระเบิดวิญญาณในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงใกล้กับดวงตาแห่งท้องทะเลได้
ผู้อื่นมาขู่เผ่ามังกรและดึงพลังมังกรลงมา แต่เขาไม่อาจใช้จินตานและตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัวเพื่อระเบิดดวงตาแห่งท้องทะเลได้… มันจะเป็นกรรมมากเกินไป!
ในความเป็นจริงแล้ว หลี่ฉางโซ่วทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ที่นั่นเท่านั้น เขาต้องรอให้อีกฝ่ายก่อปัญหาวุ่นวายให้เขาและให้ดวงตาแห่งท้องทะเลปรากฏขึ้นก่อนเขาถึงจะรีบออกไปช่วย
ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกเผ่ามังกรเข้าใจผิดได้ง่ายว่า เขาเป็นคนล่อศัตรูให้ไปที่นั่น
สิ่งเดียวที่หลี่ฉางโซ่วกังวลคือ เผ่ามังกรที่ปกป้องดวงตาแห่งท้องทะเลนั้นระแวดระวังเพียงพอหรือไม่…
เทพธิดาอวิ๋นเซียวแอบอยู่ข้างหลังเขา ห่างไปไม่ไกลนัก แต่หลี่ฉางโซ่วก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้นางลงมือเองโดยตรง
แม้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะได้ยกระดับการช่วยเหลือเผ่ามังกรให้เป็นภารกิจของสำนักบำเพ็ญเต๋าด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำแล้ว
ทว่าอวิ๋นเซียวก็จะมีกรรมใหญ่หลวงในภายหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นหากสามารถลดกรรมของนางกับสำนักบำเพ็ญประจิมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ได้ ก็ควรพยายามลดมันให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดตัวแปรเพิ่มเติมกับนางอีกในภายภาคหน้า
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากนางถูกตีในขณะที่ล้มลง?
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเฝ้าดูปีศาจและภูตผีเหล่านั้นเข้ามาแฝงตัวซุ่มโจมตีพลางคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบอยู่ในใจ
ในขณะนี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีความคิดที่ยืดหยุ่น
และหลี่ฉางโซ่วก็คิดได้อย่างรวดเร็ว เขากลายเป็นปลา อ้าปากและพ่นปลาตัวเล็กๆ ออกมา
จากนั้นปลาน้อยก็สะบัดหางและใช้หลีกลี้วารีซ่อนกาย หายไปในทันที
ในเวลานั้น เทพธิดาอวิ๋นเซียวก็ส่งข้อความเสียงเข้ามาในหูของเขา
“เราจะสร้างความปั่นป่วนและดึงดูดความสนใจของเผ่ามังกรล่วงหน้าหรือไม่”
หลี่ฉางโซ่วคิดกับตัวเองว่า นั่นเป็นความชาญฉลาดนัก จากนั้นปลาทั้งตัวก็พลิกกลับและสะบัดหางขึ้นลงเพื่อต้านแรงดันน้ำขนาดใหญ่
เขาพยักหน้า
แต่หลี่ฉางโซ่วก็ไม่รีบร้อนลงมือ
ตามวิธีการปกติของสำนักบำเพ็ญประจิม ตามสถานการณ์ในยามนี้ กลยุทธ์การเคลื่อนไหวต่อไปของสำนักบำเพ็ญประจิมน่าจะเป็น
อย่างแรก พวกเขาจะสร้างปัญหาและก่อความโกลาหลขึ้นในหมู่เผ่ามังกร และจะปล่อยให้เผ่ามังกรต้องไปช่วยเหลือรับมือทั้งซ้ายและขวา สองด้าน เพื่อสร้างความรู้สึกถึงวิกฤต
ต่อจากนั้น พวกเขาจะเปิดการโจมตีต่อเนื่องกันทีละแห่งในสถานที่สองแห่ง พวกเขาจะล่อเหล่าปรมาจารย์เผ่ามังกรไปทีละขั้นเพื่อให้พลังการต่อสู้ของเผ่ามังกรบางส่วนเคลื่อนไหว เพื่อให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายในการบีบบังคับเผ่ามังกรได้ง่ายขึ้น
และช่วงจังหวะที่หลี่ฉางโซ่วจะลงมือก็คือ เมื่อฝ่ายสำนักบำเพ็ญประจิมเริ่มโจมตีก่อน และเข้าขัดจังหวะของอีกฝ่าย
ดังนั้นจิตใจของเขาจึงดำดิ่งลง แล้วหน้าต่างบานเล็กก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง “พลังการหยั่งรู้” ของเขาเพิ่มขึ้นสูงสุดทันที และแน่นอนว่า เขาเพ่งจิตสนใจไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ทะเลอุดรและทะเลบูรพา
ทะเลอุดรยังคงสงบนิ่ง
กองทัพมังกรสองห้า[3]จากดินแดนเทวะประจิมได้ข้ามพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของดินแดนเทวะอุดร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเลอุดรแล้ว พวกมันมีท่าทางครอบงำราวกับเมฆดำก้อนใหญ่ที่ปกคลุมเมืองและกำลังจะทำลายล้างเมือง
ปรมาจารย์เผ่ามังกรจำนวนมากจากวังมังกรทะเลอุดรได้ตั้งแนวป้องกันในทิศทางนั้นไว้แล้ว
เห็นได้ชัดว่ามีแผนการหลายระดับในแผนของสำนักบำเพ็ญประจิมเพื่อมาทำร้ายวังมังกรทะเลอุดร มีคลื่นลูกหนึ่งอยู่ในที่แจ้งและอีกลูกหนึ่งอยู่ในที่ลับ เป็นไปได้สูงว่าจะมีคลื่นแผนการอีกสองหรือสามระลอก…
ไม่มีทางเลือก นั่นคือจุดอ่อนของเผ่ามังกร เป็นสถานที่ที่เผ่ามังกรน่าจะสามารถถูกบดขยี้ทำลายได้อย่างง่ายดายมากที่สุด
ในทะเลบูรพา วังมังกรทะเลบูรพานั้น แข็งแกร่งที่สุด พวกเขารวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ราชามังกรทะเลบูรพา และผู้อาวุโสหลายคนของวังมังกรทะเลบูรพาต่างก็ทรงพลังยิ่ง…
ที่นี่น่าจะมีแผนการอย่างน้อยสองชั้น และเป็นไปได้มากว่าจะมีปัญหาวุ่นวายเกิดขึ้นก่อน
………………………………………………………………..
[1] รีดไถ หาผลประโยชน์ หรือตบทรัพย์
[2] พวกคนก่อจลาจล คนที่มีความขัดแย้ง ไม่เข้ากัน ไม่กลมกลืนกัน
[3] พวกมังกรกบฏ