อาจิ​่​นมา​ถึง​แล้ว​รึ

เมื่อเช้า​อาจิ​่น​ไป​แสดง​อภินิหาร​ ​ไม่​ ​ไป​ทำ​ธุระ​ที่​วัง​หลวง​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​มาถึง​จวนปั​๋ว​เร็ว​นัก

ในขณะที่​เจียง​ซื่อ​คิด​ก็ได้​ยิน​เสียง​เยินยอ​จาก​รอบข้าง

“​พระ​ชายา​และ​ท่าน​อ๋อง​ทรง​รักใคร่​กลมเกลียว​ ​น่าอิจฉา​เหลือเกิน​เพ​คะ​”

“​จริง​ด้วย​เพ​คะ​ ​ท่าน​อ๋อง​เสด็จ​มารับ​พระองค์​ถึงที่​ ​หาก​สตรี​ใด​ได้​มีชีวิต​เฉกเช่น​พระองค์​ ​คงจะ​มีความสุข​ไม่น้อย​เลย​เพ​คะ​…​”

……

เจียง​ซื่อ​ไม่ได้​เก็บ​ถ้อยคำ​เหล่านั้น​มา​ใส่ใจ​ ​นาง​เพียงแต่​ผงกศีรษะ​พร้อม​ส่ง​ยิ้ม​ ​“​เชิญ​ทุกท่าน​เพลิดเพลิน​กับ​มื้อ​อาหารตา​มอั​ธยา​ศัย​ ​ข้า​คง​ต้อง​ขอตัว​ก่อน​”

แม้​เจียง​ซื่อ​เดิน​ออก​ไป​แล้ว​ ​แต่​บทสนทนา​เกี่ยวกับ​ท่าน​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ยังคง​ดำเนินต่อไป

ที่​มุม​หนึ่ง​ของ​โต๊ะ​ใน​ห้อง​นั้น​มี​เจียง​อี​ ​เจียง​เชี่ยว​ ​เจียง​ลี่​และ​เจียง​เพ่​ยนั​่​งอยู​่​ใกล้​กัน

ใน​บรรดา​พี่น้อง​ที่นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ ​เจียง​ลี่​เพิ่ง​ออกเรือน​ไป​เมื่อปีกลาย​ ​ส่วน​เจียง​เชี่ยว​และ​เจียง​เพ่ย​ยัง​ครอง​สถานะ​โสด

เจียง​เพ่​ยก​ระ​ซิบ​ที่​ข้าง​หู​ของ​เจียง​ลี่​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เจือ​ไป​ด้วย​ความอิจฉา​ ​“​พี่​ห้า​ ​พี่​สี่​นับวัน​ยิ่ง​ชีวิต​ดี​ ​ที่ฮู​หยิน​พวก​นั้น​พูดมาก​็​ถูก​ ​หาก​สตรี​ใด​ได้​มีชีวิต​เหมือน​พี่​สี่​ ​ชีวิต​นี้​ก็​ไม่มี​เรื่อง​ใด​ให้​เสียดาย​อีกแล้ว​…​”

เจียง​ลี่​ฟัง​แล้ว​ยิ้ม​โดย​มิได้​คัดค้าน​ ​เมื่อ​นาง​คิดถึง​เจียง​ซื่อ​ที่​เพียบพร้อม​ไป​ทั้ง​หน้าตา​และ​ความสามารถ​ ​ใจ​ของ​นาง​ก็​สงบ​ลง

จาก​ที่นาง​เห็น​ ​หาก​ใช้ชีวิต​อย่างสุดความสามารถ​ของ​ตนเอง​แล้วก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​อิจฉา​ผู้ใด

นาง​เป็น​บุตรี​ที่เกิด​จาก​อนุภรรยา​ที่​ลอบทำร้าย​ท่าน​แม่​ใหญ่​ ​มารดา​บังเกิด​เกล้า​ของ​นาง​เป็น​หนาม​ยอก​อก​ของ​ท่าน​แม่​ใหญ่​ที่​ถูก​กำจัด​ไป​เสีย​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ ​หาก​เทียบ​กับ​ชีวิต​ของ​น้อง​หก​ ​ช่วงชีวิต​ใน​การ​เป็น​เด็กสาว​ของ​นาง​ประสบ​ความทุกข์ยาก​มา​ไม่น้อย​ ​จึง​เป็นเหตุให้​หลายครั้ง​นาง​ไม่กล้า​ทำ​หรือไม่​กล้า​พูด​อะไร​ตามที่​ใจ​นึก

แต่​หลังจากที่​พี่​สี่​ได้​ขึ้นไป​อยู่​ใน​สถานะ​ที่สูง​กว่า​ ​ท่าน​แม่​ใหญ่​ก็​ถูก​สั่ง​ให้​เก็บตัว​ ​‘​รักษา​อาการป่วย​’​ ​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​ความเปลี่ยนแปลง​ครานี​้​ถือว่า​ชีวิต​เมตตา​กับ​นาง​มาก​แล้ว

เมื่อ​ท่าน​แม่​ใหญ่​ไม่ได้​เป็น​คนดู​แลกิจ​ใน​จวน​ ​ท่าน​ย่า​เอง​ก็​มิได้​ใส่ใจ​นาง​ที่​เป็น​หลาน​ที่เกิด​จาก​อนุ​ ​การ​แต่งงาน​ของ​นาง​จึง​ได้​อาสะใภ้​สาม​เป็น​ผู้จัดการ​

อาสะใภ้​สาม​เป็น​คน​มีคุณ​ธรรม​ ​นาง​ไม่ได้​เลือก​ปฏิบัติ​กับ​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​ ​ฉะนั้น​แล้วจึง​เลือก​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​จวน​จี๋​หนิงปั​๋ว​ให้​มา​แต่งงาน​กับ​นาง

ตำแหน่ง​ของ​จี๋​หนิงปั​๋ว​สืบทอด​ทาง​สายโลหิต​ ​จึง​นับว่า​มียศ​สูง​กว่า​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​เล็กน้อย​ ​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​จี๋​หนิงปั​๋ว​เป็น​บุตร​จาก​ภรรยา​ตามกฎหมาย​ ​ส่วน​นาง​เป็น​บุตรี​ที่เกิด​จาก​อนุภรรยา

แต่​ถึงกระนั้น​นาง​ก็​ยัง​รู้สึก​มี​ความมั่นใจ​เนื่องจาก​พี่​สี่​มียศ​เป็น​ถึง​พระ​ชายา​อ๋อง​ ​ฉะนั้น​แล้วจึง​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ดูหมิ่น​นาง​ ​นอกจากนี้​พี่​รอง​ที่​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​ยัง​กลับมา​โดยสวัสดิภาพ​ ​และ​อนาคต​ของ​พี่​รอง​ก็​คงดี​ไม่​แพ้​พี่​สี่

ดังนั้น​นาง​จึง​รู้สึก​ว่า​ท่าน​อาสะใภ้​สาม​เลือกคู่​ครอง​ให้​นาง​ได้​อย่างเหมาะสม​ทีเดียว​ ​แม้นาง​จะ​แต่งงาน​กับ​คนที​่​เหนือกว่า​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่ต้อง​รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​ยาม​ที่อยู่​ใน​จวน​ของ​ผู้​เป็น​สามี

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​เลย​ยิ่ง​ทำให้​นาง​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ถ่อม​เนื้อ​ถ่อมตัว​ ​เพื่อ​ที่ว่า​ชีวิตสมรส​ของ​นาง​จะ​ได้​กลมเกลียว​ราบรื่น

เจียง​ลี่​คิด​เช่นนั้น​ ​มุม​ปากของ​นาง​ก็​ปรากฏ​รอยยิ้ม​อ่อนโยน​มากกว่า​เก่า

“​พี่​ห้า​ ​พี่​ว่า​จริง​ไหม​”​ ​เมื่อ​เห็น​เจียง​ลี่​แย้มยิ้ม​แต่​มิได้​เกริ่น​กล่าว​ ​เจียง​เพ่​ยก​็​ไม่สบอารมณ์

เจียง​ลี่​ผงกศีรษะ​พลาง​เอ่ย​ ​“​พี่​สี่​นี่​ช่าง​ดีจริง​ๆ​”

“​ข้า​ไม่ได้​หมายถึง​นาง​ดี​หรือไม่​ดี​ ​ข้า​หมายถึง​…​”​ ​เจียง​เพ่ย​บุ้ยปาก​ ​“​เอาเถอะ​ๆ​ ​เลิก​พูดถึง​พี่​สี่​ดีกว่า​ ​พี่​ห้า​ ​แล้ว​พี่​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ปีนี​้​เจียง​เพ่ย​จะ​มีอายุ​ครบ​สิบ​หก​ปี​ ​แต่​เรื่อง​ชีวิตสมรส​ของ​นาง​กลับ​ยัง​ดู​ไร้​วี่แวว

การ​ที่​เห็น​บุตรี​ที่เกิด​จาก​อนุภรรยา​เหมือนกัน​กับ​นาง​แต่​เป็น​คน​นิ่ง​ๆ​ ​น่าเบื่อ​ได้​แต่งงาน​กับ​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​จวน​จี๋​หนิงปั​๋ว​ ​เจียง​เพ่ย​ยิ่ง​หวัง​สูง​ ​กัว​ซื่อ​ซาน​ไท่​ไท่​เสนอ​คู่ครอง​ให้​นาง​หลาย​คน​ ​แต่​นาง​กลับ​ตินั​่​นนี​่​อยู่​ร่ำไป​

พอนา​นวัน​เข้า​ ​ความ​กระตือรือร้น​ของ​กัว​ซื่อ​ก็​ลด​น้อย​ถอย​ลง​ไป​ตาม​กาลเวลา

ขนาด​หลานสาว​ยัง​ไม่​ออกเรือน​ยัง​บ่น​ขนาด​นี้​ ​กัว​ซื่อ​มิใช่​คนโง่​ ​ฉะนั้น​แล้ว​นาง​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทุ่มเท​ลงแรง​มาก​ถึง​เพียงนั้น

คราวนี้​เป็น​เจียง​เพ่ย​เอง​ที่​ร้อนใจ​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ใช่​ว่า​สตรี​จะ​เอ่ย​ร้องขอ​เอง​ได้​ ​นาง​ทำได้​เพียง​เก็บ​ไว้​ใน​ใจ​เท่านั้น​ ​ดังนั้น​นาง​ถึง​ได้​สนใจ​ชีวิตสมรส​ของ​เจียง​ลี่​นัก

ใน​บรรดา​พี่สาว​ทั้งหมด​ ​พี่ใหญ่​หย่าร้าง​กลับมา​อยู่​ที่​เรือน​มารดา​ ​ส่วน​พี่​รอง​ก็​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ที่​หมู่บ้าน​ ​พี่​สาม​ยัง​ไม่​ออกเรือน​ ​พี่​สี่​ก็​เป็น​พระ​ชายา​อ๋อง​ซึ่ง​ก็​ไม่​สะดวก​ใจ​จะ​ถาม​บาง​คำถาม​ ​ฉะนั้น​แล้วจึง​มีพี​่​ห้า​เท่านั้น​ที่​พอ​จะ​ให้​คำตอบ​นาง​ได้

ความจริง​แล้ว​เจียง​เพ่ย​ไม่ได้​ใคร่รู้​เรื่อง​ชีวิตสมรส​ของ​เจียง​ลี่​ ​นาง​เพียงแต่​อยากรู้​เรื่อง​สามี​ในอ​นคต​ของ​ตัวเอง​ต่างหาก

เมื่อมี​คน​เอ่ยถึง​เรื่อง​ของ​นาง​ ​เจียง​ลี่​ก็​เม้มปาก​และ​คลี่​ยิ้ม​ด้วย​ความ​เขินอาย​ ​“​ข้า​สบายดี​”

เมื่อ​เป็น​เจียง​ลี่​ ​เจียง​เพ่​ยก​็​ไม่มี​ท่าที​เกรงใจ​ ​นาง​กลอกตา​ใส่​พี่สาว​ ​“​ข้า​หมายความว่า​ท่าน​พี่เขย​ปฏิบัติ​ต่อ​เจ้า​อย่างไร​”

“​เขา​ดี​กับ​ข้ามา​ก.​..​”​ ​เจียง​ลี่​เป็น​คน​ขี้อาย​ ​เมื่อ​ถูก​เจียง​เพ่ย​เอ่ย​ถาม​เช่นนั้น​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​แดง​ระเรื่อ

แต่​ไม่ทราบ​ว่าด้วย​เหตุ​อัน​ใด​ ​เจียง​เพ่​ยก​ลับ​รู้สึก​ราวกับว่า​เห็นภาพ​บาดตา​ ​นาง​เม้มปาก​พลาง​ถาม​ ​“​เช่นนั้น​หลัง​งานเลี้ยง​ ​ท่าน​พี่เขย​จะ​รอก​ลับ​พร้อม​พี่​ห้า​หรือไม่​”

สามีภรรยา​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ที่​เดียวกัน​ ​แต่​เวลา​เลิกงาน​เลี้ยง​ของ​แต่ละ​ฝั่ง​อาจ​ไม่​พร้อมกัน​ ​โดยปกติ​แล้วจึง​มักจะ​แยกกัน​กลับ​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​มี​ใคร​คอย​ใคร

เจียง​ลี่​มิใช่​คน​ชอบ​โอ้อวด​ ​แต่​เมื่อ​ถูก​ถาม​เช่นนั้น​ ​นาง​ก็​ไม่​คิด​จะ​ปิดบัง​ ​นาง​ตอบ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยังคง​แดง​ระเรื่อ​ ​“​ข้า​นัด​กับ​เขา​ไว้​แล้ว​ว่า​ขากลับ​จะ​แวะ​เดินเที่ยว​ที่​ร้าน​เจิน​เป่า​ด้วยกัน​ก่อน​”

เจียง​เพ่ย​ขบ​ริมฝีปาก​เงียบงัน​ ​ผ้าเช็ดหน้า​ใน​มือ​แทบจะ​ขาด​ออก​เป็น​เสี่ยง​ ​นาง​คิดในใจ​ ​ก็​แค่​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​จวนปั​๋ว​ ​ดาษดื่น​ ​ไม่​โดดเด่น​ ​อนาคต​หาก​มี​การ​แบ่งแยก​ตระกูล​ก็​คง​ไม่ได้​รับ​ส่วนแบ่ง​อะไร​มากมาย​ ​ดังนั้น​สามี​ของ​นาง​จะ​ต้อง​ดีกว่า​ของ​เจียง​ลี่

ประเด็น​ถกเถียง​เกี่ยวกับ​เจียง​ซื่อ​ของ​บรรดา​สตรีทั​้ง​หลาย​ถูก​ทิ้ง​ไว้​เบื้องหลัง

เมื่อ​เดินผ่าน​ลาน​กว้าง​ที่​มีด​อก​เหมย​บานสะพรั่ง​มา​แล้วก็​พบ​อวี​้​จิ​่​นที​่​กำลัง​ยืน​รอ​อยู่

“​ดื่ม​มารึ​”​ ​เจียง​ซื่อ​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​ถาม

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ตอบ​ ​“​เผลอ​กิน​ไป​นิดหน่อย​ ​แต่​ข้า​ยัง​อยาก​กิน​ขา​หมู​ตุ๋น​น้ำตาล​ที่​จวน​อยู่​เลย​ ​กลับ​ไป​กินกัน​เถอะ​”

ใน​วันที่​อากาศ​หนาวเหน็บ​ ​การกิ​นขา​หมู​ตุ๋น​นุ่ม​ๆ​ ​แกล้ม​กับ​ผัก​ดอง​ ​และ​เคล้า​กับ​สุราชั​้น​เลิศ​ ​ช่าง​เข้ากัน​เหลือเกิน​ ​อร่อย​กว่า​การ​มา​ฝืน​ทานอาหาร​เย็นชืด​ใน​งานเลี้ยง​เป็น​ไหน​ๆ

แค่​อวี​้​จิ​่​นคิด​ ​ใจ​ก็​ล่องลอย​กลับ​ไป​ถึง​จวน

“​อือ​ ​กลับกัน​เถอะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​เล็กน้อย

คำถาม​ที่​อยาก​จะ​ถาม​ก็​ถาม​ไป​หมด​แล้ว​ ​กลับ​ไป​จะ​ได้​มี​เวลา​ปรึกษา​อาจิ​่น​ ​ไม่ต้อง​มา​เสียเวลา​อยู่​ที่นี่

จาก​สถานะ​ของ​ทั้งสอง​ไม่จำเป็น​ต้อง​อยู่​ใน​งานเลี้ยง​จน​จบ​งาน​ ​การ​มา​แสดงตัว​เพื่อ​เป็นเกียรติ​แก่​ตระกูล​ของ​มารดา​ก็​มาก​พอแล้ว​ ​เจียง​ซื่อ​เอง​ก็​ทราบ​ดี​ว่า​บิดา​และ​พี่ชาย​ก็​มิได้​ใส่ใจ​คน​พวก​นี้​นัก​ ​จึง​ไม่สน​ใจ​ว่า​แขกเหรื่อ​จะ​คิด​เช่นไร

ทั้งสอง​เดิน​เคียง​กัน​ออก​ไป​และ​บังเอิญ​พบ​กับ​บุรุษ​หนุ่ม​คน​หนึ่ง

บุรุษ​หนุ่ม​ผู้​นั้น​ตัว​เตี้ย​กว่า​อวี​้​จิ​่น​เล็กน้อย​ ​รูปร่าง​ปราดเปรียว​ ​ชุด​อาภรณ์​สีดำ​สี​เดียว​กับ​ดวงตา​ขับ​เน้น​ผิวขาว​ของ​ชายหนุ่ม​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​ท่าทาง​ของ​บุรุษ​แลดู​เป็น​คน​อ่อน​สุภาพ​ยิ่งนัก

อวี​้​จิ​่น​ชะงัก​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​รีบ​คว้า​มือ​เจียง​ซื่อ​มา​จับ​ไว้​ ​แล้วจึง​ทักทาย​คนตรง​หน้า​ ​“​นี่​มัน​พี่​นิมิต​มงคล​คนดีย​์​มิใช่​รึ​ ​คงมา​ร่ำ​สุรา​เหมือนกัน​ซิท​่า​”​

คนที​่​เดิน​มาคือ​เจิน​เหิง​ผู้​ได้รับ​ขนานนามม​ว่านิ​มิต​มง​คง​แห่ง​ต้า​โจว​ ​เนื่องจาก​สอบ​ได้ที่​หนึ่ง​ทุก​ระดับ​ของ​การ​สอบ​จอ​หงวน

เจิน​เหิง​ไม่​คิด​ว่า​จะ​บังเอิญ​พบ​เจียง​ซื่อ​ ​หญิงสาว​ตรงหน้า​ทำให้​เขา​ตกอยู่ในภวังค์​ชั่วขณะ​ ​แต่​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ​คำทักทาย​ที่​ไม่​เป็นมิตร​ก็​ฉุด​เขา​ให้​หลุด​ภวังค์​ ​ภาพลักษณ์​อัน​สุขุม​นุ่ม​ลึก​แทบจะ​มลาย​หาย​สิ้น

ตั้งใจ​จับมือ​คุณหนู​เจียง​อวด​เขา​ ​เขา​ก็​อุตส่าห์​ไม่​คิด​อะไร​ ​แต่​ยัง​จะ​มาเรียก​เขา​ว่านิ​มิต​มงคล​อีก​หรือ​!

เอาเถอะ​ ​นิมิต​มงคล​ก็​นิมิต​มงคล​เพราะ​ถึงอย่างไร​ ​สอง​ปี​มานี​้​ก็​มี​คน​เรียก​เขา​ว่านิ​มิต​มงคล​นับไม่ถ้วน​ ​เขา​เอง​ก็​ชักจะ​ชิน​แล้ว​ ​แต่​ตั้งใจ​ใช้​คำ​ว่า​ ​‘​คนดีย​์​’​ ​เช่นนี้​หมายความว่า​อย่างไร

เขา​แซ่​เจิน​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​เขา​คือ​เจิน​ชิง​เทียน​ผู้รับ​หน้าที่​ตัดสินคดี​ ​จะ​มาเรียก​เขา​ว่า​ ​‘​คนดีย​์​’​ ​แบบนี้​มัน​เหมาะสม​หรือ

หาก​จะ​บอกว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​เขา​ก็​ไม่เชื่อ

เจิน​เหิ​งม​อง​บุรุษ​จอม​วางท่า​ตรงหน้า​แล้วก็​เหนื่อยใจ

ขโมย​นางใน​ดวงใจ​ของ​เขา​ไป​ตั้ง​สอง​ปี​แล้วยัง​ไม่​เลิก​หาเรื่อง​เขา​อีก​ ​คิด​ว่า​ ​‘​นิมิต​มงคล​’​ ​คน​นี้​ต่อย​คน​ไม่​เป็น​หรือ​ ​ถึง​ได้​รังแก​เขา​อยู่​เรื่อย​!

เจิน​เหิง​แอบ​กำหมัด​ ​เขา​พร้อม​จะ​พุ่งตัว​ใส่​คนตรง​หน้า​ทุกเมื่อ