เจียงหยุนเอ๋อกับโม่เสี่ยวฮุ่ยต่างก็วิ่งวุ่นยุ่งอยู่กับเรื่องสินสอดทองหมั้นของลี่จุนซิน ลี่จุนถิงเห็นทั้งคู่ยุ่งแบบนี้ทุกวัน ทุกครั้งหลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกลับบ้านมาแค่หัวถึงหมอนเธอก็หลับสนิทไปเลย
ลี่จุนถิงคุยกับเจียงหยุนเอ๋อได้สองสามประโยค เธอก็ผล็อยหลับไปแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ลี่จุนถิงตั้งใจตื่นเร็วเป็นพิเศษเพื่อรอดูตอนเจียงหยุนเอ๋อตื่น
ทันทีที่เจียงหยุนเอ๋อตื่น เธอก็เลิกผ้าห่มออกเตรียมลุกออกไปโดยไม่สนใจเลยว่าลี่จุนถิงที่นอนอยู่ข้างๆก็ตื่นแล้ว พอลี่จุนถิงเห็นว่าเธอกำลังจะลุกออกไปก็รีบคว้าตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“ช่วงนี้คุณไม่มีเวลาให้ผมเลย และงานแต่งงานของพี่ก็ยังอีกนาน ตอนนี้ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก นอนต่ออีกสักพักเถอะ เดี๋ยวผมไปบอกแม่ให้”
“แล้วอีกอย่าง ตอนนี้งานหลักของพวกคุณก็มีแค่เรื่องจัดการของที่ใช้ในวันหมั้นเท่านั้น เรื่องการตกแต่งอะไรพวกคุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องชุดและของที่ระลึกอะไรพวกนั้นให้พวกคุณจัดการเองได้เลย”
ลี่จุนถิงพูดจบก็คว้าตัวเจียงหยุนเอ๋อกลับมาที่เตียงเพื่อให้เธอนอนต่อ เดิมเจียงหยุนเอ๋อไม่อยากนอนแล้ว แต่หลังจากนอนไปได้สักพักเธอก็ผล็อยหลับไปอีก
กว่าเธอจะตื่นแล้วลงไปทานอาหารเช้าด้านล่าง โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยุ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว
“ขอโทษด้วยค่ะคุณแม่ที่หนูตื่นสาย”
“ไม่เป็นไรหรอก จุนถิงบอกแม่แล้ว แม่คงใจร้อนเกินไปเองแหละ ตอนนี้เรื่องงานหมั้นต่างหากที่สำคัญไม่ใช่เรื่องสินสอดทองหมั้นในวันแต่งงาน”
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยของโม่เสี่ยวฮุ่ย เธอก็รู้ได้ทันทีเลยว่าหล่อนทำใจปล่อยลี่จุนซินไปไม่ได้
“แม่คะ แม่ทำใจไม่ไ้ด้ที่จะปล่อยพี่ไปใช่ไหมคะ?”เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงข้างๆโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้วถามขึ้น
“ก็ใช่น่ะสิ แม่เลี้ยงของแม่มาตั้งนาน จนตอนนี้ต้องแต่งงานออกเรือนแล้ว แล้วแม่จะทำใจได้ยังไง?”
“ตอนที่พึ่งคลอดเธอออกมา เธอก็เหมือนกับกุ่นกุ่นเจ้าน้อยที่ตัวกลมๆ น่ารักมากเลยเชียวล่ะ ทว่าจากนั้นเธอก็ค่อยๆเติบโตขึ้นมาเรื่อยจนมาถึงตอนนี้”
“และพอโตมาจนถึงอายุขนาดนี้ พริบตาเดียวเท่านั้นเธอก็กำลังจะแต่งงานแล้ว ส่วนแม่ก็เริ่มแก่ลง”
“ไม่เลยค่ะ ในใจของพวกเราแม่ยังดูอ่อนเยาว์อยู่เลย ขนาดคุณแม่ออกไปข้างนอกกับพวกเรา คนอื่นยังนึกว่าพวกเราเป็นพี่สาวน้องสาวกันซะอีก”
โม่เสี่ยวฮุ่ยค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา“ช่างพูดและปากหวานจริงๆเลยนะ”
“หนูไม่ได้ปากหวานสักหน่อย เดิมคุณแม่ดูดีอยู่แล้วต่างหาก หนูถึงได้พูดออกมาแบบนี้”
โม่เสี่ยวฮุ่ยฉีกยิ้มออกมาอย่างสดใส ทว่าหลังจากยิ้มได้ไม่นานก็กลับมาเศร้าอีก
“แม่คะหนูรู้ว่าแม่ทำใจเรื่องพี่ไม่ได้ แต่แม่ลองคิดดู หลังจากนี้พี่ก็ยังทำงานอยู่ที่บริษัท แถมเวียร์ก็ซื้อบ้านหลังใหม่แล้วด้วย และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตกแต่ง”
“ในอนาคตถ้าแม่คิดถึงพี่ พวกเราก็เรียกพี่กลับมาอยู่ที่บ้านได้ เวียร์เขาไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าเกิดว่าพี่กลับไปที่อังกฤษกับเวียร์ ตอนนี้การคมนาคมมันก็สะดวกมาก พวกเราสามารถบินไปที่อังกฤษได้ทุกเมื่อ”
“ก็จริง พอถึงตอนนั้นแม่ก็อาจจะอยู่ที่ประเทศอังกฤษสักระยะ แถมยังออกไปเดินเล่นช้อปปิ้งกับแม่ของเวียร์ได้อีก ซึ่งแม่ก็ชอบแม่ของเวียร์มากๆด้วย”
“อีกอย่างความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของทั้งคู่ก็ดีมาก ในอนาคตเขาจะต้องดูแลจุนซินของแม่ได้อย่างดีแน่ๆ”
พอตกเย็น เวียร์ตามลี่จุนซินกลับมาที่บ้าน โม่เสี่ยวฮุ่ยจึงเข้าไปถามเวียร์อย่างจริงจังและถามความคิดเห็นของเขา
“ได้สิครับ ถ้าอยากให้จุนซินกลับมาพักที่เมื่อไหร่ก็ตามใจคุณป้าเลย อีกอย่างถ้าทำได้ผมยังอยากจะเปิดบริษัทที่นี่อีกที่หนึ่ง จะได้ไม่ต้องวิ่งกลับไปกลับมา”
“และถ้าเป็นไปได้ พอถึงตอนนั้นผมว่าผมจำเป็นต้องพึ่งลี่จุนถิง”
เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกดีใจมาก
“ได้อยู่แล้ว ถ้าจะเปิดบริษัทที่นี่อีกแห่งล่ะก็ พวกเราก็ยินดีมาก”
“เด็กคนนี้นี่ช่างเอาอกเอาใจจริงๆ เชื่อเลยว่าในอนาคตจะต้องดูแลลูกสาวป้าได้เป็นอย่างดีแน่ๆ และถ้าเกิดว่าเธอรักแกคุณ บอกป้าได้เลยนะ เดี๋ยวป้าจะช่วยจัดการให้เอง”
ลี่จุนซินยืนฟังด้วยความงงงวย“ทำไมเรื่องนี้ถึงมาตกที่หนูได้ล่ะ หนูเป็นผู้หญิงนะ หนูจะไปรังแกเขาได้ยังไง แค่เขาไม่รังแกหนูก็ดีแค่ไหนแล้วต่างหาก”
ลี่จุนซินกลอกตาใส่พลางเถียงกลับ
วันต่อมาก็ยังคงผ่านไปได้อย่างสบายๆเหมือนเดิม โม่เสี่ยวฮุ่ยยังคงจัดเตรียมงานเลี้ยงพิธีหมั้นกับเรื่องพิธีแต่งงานที่ใกล้จะจัดขึ้นเร็วๆนี้
ถวนจื่อก็กลับไปเรียนที่โรงเรียนต่อแล้ว หยุดไปนานขนาดนี้ เขาคงคิดถึงเพื่อนๆจะแย่แล้ว
และนอกจากจะช่วยโม่เสี่ยวฮุ่ยเรื่องงานแต่งงานของลี่จุนซินนิดๆหน่อยๆ เจียงหยุนเอ๋อก็ช่วยดูแลกุ่นกุ่นเจ้าน้อยไปด้วย หลังจากที่ร่างการของกุ่นกุ่นฟื้นตัวขึ้นมาเธอก็ซนมาก
เจียงหยุนเอ๋อเขย่าเตียงเบาๆพร้อมกับก้มดูกุ่นกุ่นเจ้าน้อย
กุ่นกุ่นหน้าตาสะสวยมากจริงๆ ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกาย รูปร่างยาวเรียวเล็กน้อย ตอนที่หรี่ตาลงรู้สึกว่าหน้าเหมือนตัวเองเปี๊ยบเลย ส่วนขนตานั้นทั้งหนาทั้งงอนยาวจนแทบจะเอาปากกามาวางไว้ข้างบนได้เลย ถ้าเธอมองมาที่คุณ เชื่อเลยว่าคุณคงอยากจะมอบโลกทั้งใบให้เธอแน่ๆ
ใบหน้าของกุ่นกุ่นเล็กมาก หน้าผากก็โค้งมนสวย เมื่อเธอเม้มปากลง ลักยิ้มก็โผล่ขึ้นมาที่แก้มข้างขวา นี่เป็นสิ่งเดียวที่เหมือนลี่จุนถิง จมูกก็โค้งได้รูปสวย มุมปากของเธอก็ยกขึ้นนิดหน่อย ฉะนั้นเวลายิ้มจึงดูสดใสมาก
ขนาดเจียงหยุนเอ๋อมองอยู่ทุกวันยังรู้สึกว่ามองไม่เต็มอิ่มเลย เพราะงั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงลี่จุนถิง
หลังๆมานี้เลิกงานกลับบ้านทีไร เขาก็ตรงไปที่ห้องกุ่นกุ่นเจ้าน้อยแล้วอุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยออกมาแหย่เล่นอย่างสนุกสนาน ซึ่งทุกครั้งที่อุ้มก็แทบจะไม่อยากวางเธอลง
แม้เจียงหยุนเอ๋อจะรักกุ่นกุ่นมาก แต่พอหลังๆมานี้ลี่จุนถิงกลับมาบ้านแล้วให้ความสนใจทั้งหมดของเขากับกุ่นกุ่น เธอชักจะเริ่มไม่พอใจนิดหน่อยแล้วสิ
“ลี่จุนถิง นี่คุณยังรักฉันอยู่ไหม?”เจียงหยุนเอ๋อทำหน้าบึ้งตึงมองไปที่ลี่จุนถิง
เมื่อลี่จุนถิงได้ยินเขาจึงทำท่าลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเจียงหยุนเอ๋อถึงพูดแบบนี้ออกมา แถมยังทำหน้าน้อยใจอีก
เขารีบวางกุ่นกุ่นเจ้าน้อยกลับไปไว้ที่เตียงแล้วโอบไหล่เจียงหยุนเอ๋อเดินไปนั่งที่โซฟา
“เป็นอะไรไป?ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้ล่ะ?คุณไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?”
“เมื่อก่อนตอนคุณกลับบ้านฉันเป็นคนแรกที่คุณถามหาตลอด แต่ดูตอนนี้สิในสายตาคุณมีแต่กุ่นกุ่นเจ้าน้อย กลับบ้านมาก็แทบไม่สนใจฉันเลย”
เจียงหยุนเอ๋อเบ้ปากพร้อมกับทำหน้าน้อยใจ
“โห ที่รักทำไมคิดอย่างนี้ล่ะ ที่ผมชอบกุ่นกุ่นก็ไม่ใช่เพราะคุณคลอดเธอออกมาหรอกเหรอ นี่คุณจะอิจฉาลูกไม่ได้นะ”
ลี่จุนถิงไม่นึกเลยว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ เขารู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
“แล้วทำไมฉันถึงจะหึงลูกไม่ได้ล่ะ”เจียงหยุนเอ๋อจ้องเขาเขม็ง
“ก็ได้ๆ ผมผิดเอง ผมไม่ควรจะละเลยคุณเพราะลูกๆ ตั้งแต่นี้ไปถ้าผมกลับมาผมจะไปหาคุณเป็นคนแรกเลย”
ลี่จุนถิงเป็นฝ่ายขอโทษเจียงหยุนเอ๋อก่อน เขาจับมือเธอไว้แล้วมองเจียงหยุนเอ๋ออย่างจริงใจ
“หึ ต้องให้ได้แบบนี้สิ”เมื่อได้ยินลี่จุนถิงขอโทษ สีหน้าของเจียงหยุนก็ดีขึ้นมาหน่อย
พอลี่จุนถิงเห็นสีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อดีขึ้นก็รู้สึกโล่งใจออกมา ที่จริงเขาแอบดีใจมากที่แม้แต่ลูกของตัวเองเจียงหยุนเอ๋อก็อิจฉา เพราะนี่แสดงว่าเจียงหยุนเอ๋อมีเขาทั้งใจ