กุ่นกุ่นเจ้าน้อยเห็นว่าพ่อแม่ของตัวเองวางตัวเองไว้บนเตียง แล้วตัวเองวิ่งไปข้างๆ เพื่อออดอ้อน ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา แต่ตอนนี้เธอยังพูดอะไรไม่ได้ เลยทำได้เพียงร้องอุแว้ๆ
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิงได้ยินเสียงกุ่นกุ่นเจ้าน้อยร้อง ก็คิดขึ้นได้ว่าจะมาอาบน้ำให้กุ่นกุ่นเจ้าน้อย
ลี่จุนถิงรีบลุกขึ้นมา ก่อนจะไปเตรียมน้ำในห้องอาบน้ำ
เจียงหยุนเอ๋อรีบตามไป ก่อนจะอุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยขึ้นมาจากเตียง แล้วก็จุ๊บหนึ่งที “ไปกันเลย!ไปอาบน้ำให้สะอาดๆ กับแม่นะ เดี๋ยวอาบน้ำตัวหอมๆ แล้วพวกเราจะไปกินข้าวกัน……”
กุ่นกุ่นเจ้าน้อยชอบอาบน้ำมาก เมื่อได้ยินว่าอาบน้ำตัวหอมๆ ปากน้อยๆ ก็อ้าขึ้นมาพลางหัวเราะ “โฮะๆ” ด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เจียงหยุนเอ๋ออุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยลงน้ำ หนูน้อยชอบอาบน้ำเป็นที่สุด เมื่อตัวโดนน้ำ แขนขาก็เริ่มขยับตีน้ำไปมาราวกับกบตัวน้อย
ปกติอยู่ที่บ้าน โม่เสี่ยวฮุ่ยกับซูม่านลีเป็นคนอาบน้ำให้เธอทั้งนั้น พลางใช้ฝักบัวอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอาผ้าขนหนูห่อตัวเธอออกมา
โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็รู้ว่ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยชอบเล่นน้ำ แต่ว่ากลัวว่าเธอจะเล่นน้ำกระเด็นมากเกินไป เลยไม่กล้าให้เธอเล่นน้ำข้างใน ทุกครั้งที่หนูน้อยตัวโดนน้ำ ก็จะถูกอุ้มออกมา พลางไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่ว่า ทุกครั้งเองก็ได้แต่เบะปากดิ้นไปมาด้วยความไม่ยอมเท่านั้น แต่ลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อนั้นชอบเอาใจเธอมากที่สุด แถมยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลยด้วย
เพราะกุ่นกุ่นเจ้าน้อยชอบเล่นน้ำ ในอ่างอาบน้ำของเธอนั้นติดตั้งที่นั่งให้เธอโดยเฉพาะ แต่ว่าตอนนี้เธอยังนั่งเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีเก้าอี้เล็กๆ แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิงก็ยังต้องพยุงเธอ
นั่นก็หมายความว่าเวลาที่เจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนถิงอาบน้ำให้เธอ กุ่นกุ่นเจ้าน้อยก็จะได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
แต่ไม่ว่าจะปล่อยให้เธอเล่นน้ำอย่างไร แต่ว่าก็ยังต้องกำหนดระยะเวลาบ้าง เมื่อถึงเวลาก็จะอุ้มเธอออกมา
หลังจากที่ทั้งสองคนอุ้มเธอออกมา ก็เอาผ้าห่อเธอเอาไว้อย่างแน่นหนาก่อนจะวางลงบนเตียง เพราะเสื้อผ้าของเจียงหยุนเอ๋อเปียกตอนที่อาบน้ำให้กุ่นกุ่นเจ้าน้อย หลังจากที่วางกุ่นกุ่นเจ้าน้อยลงบนเตียง ก็ส่งต่อให้ลี่จุนถิงก่อนจะกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
เพราะเตียงของกุ่นกุ่นเจ้าน้อย ถูกห่อหุ้มเอาไว้ทั้งหมด แถมตอนนี้เธอยังปีนไม่ได้ ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อเลยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความสบายใจ ส่วนลี่จุนถิงเก็บของอยู่ในห้องอาบน้ำจนเสร็จสิ้น
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกลับมาแล้ว ก็พบว่ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยเองผงกหัวขึ้นมาจากตรงนั้น ไปๆ มาๆ ดูน่ารักเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกับกุ่นกุ่นเจ้าน้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็พบว่ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยนั้นกำลังเงยหน้าและยกขาขึ้นมา เจียงหยุนเอ๋อเลยพยุงเธอขึ้นมา เพื่อให้เธอนั่งขึ้น ทั้งสองมือของเจียงหยุนเอ๋อพยุงเธอจากด้านหลังเบาๆ แต่ว่าเธอยังนั่งได้ไม่มั่นคง เลยโอนเอนไปมา
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อพยุงเธอ เธอก็พยายามจะนั่งขึ้นด้วยตัวเอง เลยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เลยรีบเรียกลี่จุนถิงออกมา
“จุนถิง คุณรีบออกมาเร็ว กุ่นกุ่นเจ้าน้อยนั่งเองได้แล้ว”
ลี่จุนถิงเช็ดมือ ก่อนจะรีบวิ่งออกมา เมื่อออกมาก็เห็นกุ่นกุ่นเจ้าน้อยนั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะยิ้มด้วยความยิ้มแย้มพลางมองเขา
“คุณพยุงเธอ จะเรียกว่านั่งเองได้อย่างไร ว่ากันว่า ‘อายุสามเดือนจะนั่งได้ พอหกเดือนก็จะนั่งได้’ รอเธอนั่งด้วยตัวเองได้จริงๆ ก็ต้องรอให้เธออายุหกเดือนก่อน”
“ถ้าเกิดว่า กุ่นกุ่นเจ้าน้อยของฉันฉลาดกว่าเด็กคนอื่นๆ ล่ะ” เจียงหยุนเอ๋อตอบกลับด้วยความไม่ยอม
“ถึงจะฉลาด แต่ก็ไม่สามารถเร็วได้มากขนาดนี้”
“หึ!” เจียงหยุนเอ๋อก็ยังไม่ยอม หลังจากวันนี้ไป เจียงหยุนเอ๋อก็เอาแต่หวังว่ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยจะนั่งขึ้นมาได้เอง
เดี๋ยวรอให้กุ่นกุ่นเจ้าน้อยนั่งเองได้แล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็จะเอาแต่หยอกล้อเล่นกับเธอ พลางใช้นิ้วๆเดียวก็สามารถทำให้เธอนอนกลับลงไปได้แล้ว เธอเลยใช้แขนขาดิ้นเพื่อพลิกตัว ไม่รู้ว่าทำไมต้องใส่จนตัวพองขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีแรงมากพอ สุดท้ายเลยนอนหลับไปด้วยความเหนื่อย
ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็จะยิ้มอย่างมีความสุขเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ทางลี่หุยถูกคานอำนาจลง ก็เข้ามามีส่วนกับอะไรไม่ได้อีกเลย งานที่ทางฝ่ายธุรกิจให้เขามาทำนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก บางครั้งก็ยังให้ทำงานไร้ฝีมือกับพวกเขาด้วย แถมเขายังไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก เขานั้นเปลี่ยนเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงเป็นอย่างมาก
จ้าวเฟยเฟยเห็นท่าทีของลี่หุย ก็เห็นใจเป็นอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะเห็นลูกชายเป็นแบบนี้ อีกอย่างท่าทีของลี่หุยในตอนนี้ เองก็ส่งผลถึงชีวิตของเธอในภายหลังด้วย
ถึงแม้ว่าในมือของลี่หุยยังมีหุ้นอยู่บ้าง แต่ว่าหุ้นเหล่านั้นจะได้เงินปันผลสักเท่าไหร่กันเชียว เธอซื้อกระเป๋าไปเรื่อยๆ หรือสั่งตัดเสื้อผ้าก็เสียไปหลายแสนแล้ว
ลี่เจี้ยนหวานั้นไม่ได้ให้เงินเธอใช้เท่าไหร่แล้ว ก่อนหน้านี้ที่ให้ร้านเอาไว้กับเธอก็เอากลับไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงลี่หุยที่จะช่วยได้แล้วล่ะ
หลังจากที่ลี่หุยถูกคานอำนาจไป เธอก็ไม่ได้ซื้อกระเป๋ามานานแล้ว ตอนนี้จะออกไปพบปะกับเหล่าคุณนาย ก็ใช้แต่กระเป๋าที่มีอยู่แต่แรกแล้ว เลยอดไม่ได้ที่จะถูกหัวเราะเยาะ
จ้าวเฟยเฟยนั้นร้อนใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เองก็เคยไปหาพวกเขาทั้งสองเพื่อเอาเงิน แต่ว่ากลับถูกพวกเขาด่าแทน ตั้งแต่ตอนนั้น นอกจากจะให้เงินกินเงินใช้ทุกอาทิตย์ เธอก็ไม่ได้ไปหาพวกเขาเพื่อเอาเงินอีกเลย
วันนี้ตอนที่เธอออกไปดื่มชายามบ่ายกับเหล่าคุณนายคนร่ำรวย ก็ถูกศัตรูของเธออย่างคุณนายตระกูลหวังหัวเราะเยาะเอา ไม่เพียงว่าเธอ แต่ยังพูดจาแดกดันลูกชายเธอว่าเป็นเพียงลูกชายนอกสมรสเท่านั้น
จ้าวเฟยเฟยนั้นสนใจในฐานะและตัวตนของลี่หุยเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าลี่เจี้ยนหวาจะหย่ากับโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้ว แล้วลี่หุยเองก็ถูกลี่เจี้ยนหวายอมรับแล้วก็ตาม
แต่ว่าสุดท้ายท่านปู่ลี่ก็ไม่ยอมรับ ดังนั้นเลยไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน อีกอย่างตอนนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยังอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลลี่ ส่วนลูกชายแท้ๆ ของท่านปู่ลี่ อย่างลี่เจี้ยนหวากลับถูกไล่ออกจากบ้าน
เมื่อไหร่ที่ศัตรูของเธอนั้นจ้องทำร้ายเธอ ก็สามารถใช้คำนี้มาแดกดันเธอได้ ทุกครั้งเธอก็เถียงอะไรไม่ได้ วันนี้ตอนที่กลับมา ก็เห็นว่าลี่หุยดื่มเหล้าย้อมใจที่บ้านอีกแล้ว
เธอทำอะไรไม่ได้ เลยตัดสินใจ ว่าจะช่วยลูกชายของเธอในการเอาสิ่งที่ควรได้กลับมา แต่ว่าเธอเป็นเพียงหญิงบอบบาง จะไปมีวิธีอะไรได้ วิธีเดียวที่มีคือการขอให้ลี่เจี้ยนหวาช่วย
ตกดึก จ้าวเฟยเฟยตั้งใจทำอาหารที่ลี่เจี้ยนหวาชอบ เพื่อเขาโดยเฉพาะ ลี่เจี้ยนหวาเลยอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ จ้าวเฟยเฟยก็เอาเครื่องนวดออกมา พลางคิดว่าจะนวดให้ลี่เจี้ยนหวา
หลังจากที่ลี่เจี้ยนหวาเห็นของ ก็ยิ่งดีใจเป็นอย่างมาก พลางคิดในใจ ว่าจ้าวเฟยเฟยทำให้คนมีความสุขเป็นอย่างที่คิด และรู้ว่าตัวเองทำงานที่บริษัทก็เหนื่อยมากแล้ว
เขาคิดไปอีก ก่อนหน้านี้ที่เพิ่งคบกับโม่เสี่ยวฮุ่ย ถึงแม้ว่าทั้งสองครอบครัวจะแต่งงานเพื่อดองกัน แต่ว่าทั้งสองคนนั้นก็สนิทสนมกันมาก่อน โดยเฉพาะหลังจากที่มีลี่จุนซิน ทั้งสองคนก็รักใคร่กันเป็นอย่างมาก
แต่ว่าไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่มีลี่จุนถิง นิสัยของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เปลี่ยนไป และมักจะสงสัยว่าเขามีชู้ แถมยังชอบอารมณ์เสียและชวนทะเลาะอีกด้วย
นานวันเข้า ลี่เจี้ยนหวาก็ไม่อยากกลับบ้าน แต่เพราะความกดดันของท่านปู่ลี่ เขาเลยต้องกลับบ้านทุกวัน แต่ก็ดึกมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้น มีโอกาสครั้งหนึ่ง ที่ทำให้เขาได้รู้จักกับจ้าวเฟยเฟย เธออ่อนโยนและเรียบร้อยเป็นอย่างมาก เลยให้ความอบอุ่นกับเขาในยามที่เขาเหนื่อยได้เสมอ