บทที่ 692 เผชิญหน้ากับเหยาเฉา

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 692 เผชิญหน้ากับเหยาเฉา

บทที่ 692 เผชิญหน้ากับเหยาเฉา

ปี้ชุนกลับจวนด้วยความร้อนรุ่มใจ ต้าชุนยังไม่กลับจวน ระหว่างนี้นางได้แต่ครุ่นคิดว่าจะบอกเรื่องงานแต่งกับพี่ชายอย่างไร

ก่อนหน้านั้นต้าชุนมีใจอยากให้นางออกเรือน แต่ปี้ชุนมักจะหาข้ออ้างสารพัดอย่างมาบ่ายเบี่ยง

ตอนนี้หากต้องคุยเรื่องงานแต่งจริง ๆ ในใจของปี้ชุนกลับเต้นระส่ำ ถึงอย่างไรพี่ชายก็เป็นผู้มีวิทยายุทธิ์ ไม่ว่าอย่างไร…

กระทั่งต้าชุนกลับมาจากข้างนอก เห็นน้องสาวของตนเดินไปเดินมาอยู่ในลานบ้าน

เขาขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกว่าปี้ชุนนั้นแปลกไป

“เจ้าเป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่?”

ปี่ชุนคว้าข้อมือของต้าชุน มองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา สถานการณ์นี้ยิ่งทำให้ต้าชุนรู้สึกว่าปี้ชุนนั้นไม่ปกติ

เขาคว้าข้อมือของปี้ชุนไว้ “เกิดอะไรขึ้น? พูดกับข้ามาตรง ๆ สิ มีอะไรข้าจะได้ช่วยเจ้าแก้ไข”

ปี้ชุนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หวังว่าตอนที่คุยเรื่องนี้จะไม่ทำให้พี่ใหญ่ตื่นตกใจ

“ท่านพี่ ข้าอยากออกเรือน”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?!”

วันนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกรึ?

แม้จะบอกว่าปี้ชุนไม่เหมือนกับเหยาเอ้อหลาง แต่ก็มักจะหนีออกจากจวนทุกครั้งที่มีการเอ่ยเรื่องแต่งงาน แรกเริ่มที่ต้าชุนส่งชายอื่นมาให้น้องสาวดูตัวนั้น นางก็เอาแต่โวยวายลูกเดียว

ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องงานแต่งเสียเอง ย่อมสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับเขาอย่างมาก

“แล้วเจ้าจะออกเรือนกับผู้ใด? งานแต่งเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ? พี่ใหญ่ก็เปรียบเสมือนบิดา ข้าเป็นพ่อเจ้ามาครึ่งชีวิตแล้ว แต่ข้าไม่รู้จักอีกฝ่ายแต่อย่างใด จู่ ๆ เจ้าก็มาบอกกับข้าว่าอยากออกเรือนแล้ว?”

แม้จะบอกว่าต้าชุนค่อนข้างรักและหวงแหนน้องสาวมาก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาไม่สามารถตกปากรับคำข้อร้องของปี้ชุนอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้โดยไร้ซึ้งข้อมูลใด ๆ ได้

“เรื่องนี้ข้ารับปากเจ้าไม่ได้”

ครั้นได้ยินว่าไม่ได้ สีหน้าของปี้ชุนก็ถอดสีลงทันที พริบตาเดียวก็ไร้ซึ่งความกระตือรือร้นอย่างเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง นางรีบคว้ามือของต้าชุน

“ท่านพี่ ท่านฟังข้าพูดก่อน มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด คนที่ข้าอยากออกเรือนด้วย ท่านเองก็รู้จัก”

“เป็นชายตระกูลไหนเล่า?”

“ลูกชายของใต้เท้าเหยา เหยาเอ้อหลาง”

“เขาจริง ๆ รึ?”

ครั้นต้าชุนได้ยินชื่อของเหยาเอ้อหลาง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน

ก่อนจะเนื้อเต้นด้วยความดีใจ สีหน้าที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา เหยาเอ้อหลางคือน้องชายที่เขายอมรับ

ประกอบกับที่เหยาเอ้อหลางมีความกล้าหาญและมีกลยุทธ์อุบาย เป็นบุรุษที่ได้รับความไว้วางใจมาตลอด

“ใช่ ข้าและเหยาเอ้อหลางรักกัน เขาเองก็กำลังกลับจวนไปคุยเรื่องงานแต่งกับพ่อแม่ฝั่งเขาเช่นกัน ตอนนี้ข้าจึงมาขอความเห็นจากท่าน”

ต้าชุนตกสู่ความเงียบ เรื่องที่คนรักของน้องสาวตนคือเหยาเอ้อหลาง ต้าชุนไร้ซึ้งความคิดเห็นใด ๆ

“เรื่องนี้ข้าไม่ขอแสดงความคิดเห็น ถึงอย่างไรเหยาเอ้อหลางและข้าก็เป็นพี่น้องกัน เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร?”

ต้าชุนกดตัวปี้ชุนให้นั่งลงบนเก้าอี้ “เพียงแต่นิสัยของภรรยาใต้เท้าเหยาค่อนข้างอารมณ์ร้ายเกินไป ข้าเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะเสียเปรียบหลังแต่งงานออกไปแล้ว”

โดยทั่วไป ทุกคนย่อมเป็นกังวลถึงความบาดหมางระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้กันอยู่แล้ว ต้าชุนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาเป็นห่วงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปี้ชุนกับว่าที่แม่สามีในอนาคต

ถึงอย่างไร น้องสาวของตนมักมีนิสัยหุนหันพลันแล่นอยู่แล้ว เป็นไงเป็นกัน…

“ดังนั้นข้าต้องทำการตัดสินใจ พรุ่งนี้จะพาเจ้าไปเยี่ยมเยือนพวกเขาถึงในจวน เราต้องไปจวนของพวกเขา”

ฮูหยินเหยาเป็นแม่สามีที่ค่อนข้างหิน ต้าชุนต้องช่วยควบคุมน้องสาวของตนแน่นอนอยู่แล้ว

ยามที่ปี้ชุนกลับมาถึงห้อง นางเอาแต่คิดวนเวียนวกวนถึงเรื่องที่ต้องไปเจอบิดามารดาของเหยาเอ้อหลางในวันพรุ่งนี้ จึงให้สาวใช้ไปแจ้งจวนเหยาล่วงหน้า

“เจ้าไปบอกกล่าวเหยาเอ้อหลางให้ข้าเดี๋ยวนี้ เราต้องนัดเจอกัน หลังจากนี้อีกครึ่งชั่วยาม ที่หน้าปากทางเขาถนนทิศตะวันออก”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

ปี้ชุนนั่งแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าอยู่บนโต๊ะเครื่องประทินผิว นี่คือนัดแรกของนางและเหยาเอ้อหลาง นางต้องแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างดีที่สุด

ครั้นถึงเวลา นางก็ไปตามนัดหมาย เหยาเอ้อหลางมารอก่อนแล้ว

เอ้อหลางเห็นปี้ชุน ดวงตาก็เปล่งประกายทันใด

“วันนี้เจ้างดงามยิ่งนัก!”

“เจ้าพูดจาเช่นนี้ ปกติข้าไม่งดงามใช่หรือไม่?”

เหยาเอ้อหลางส่ายหน้า “ปกติเจ้าก็งดงาม เพียงแต่วันนี้งดงามเป็นพิเศษ ทำให้คนอื่นอดหวั่นใจไม่ได้”

เขายืนข้างกายปี้ชุน คิดอยากจูงมือของปี้ชุนหลายครา แต่ก็ต้องดึงกลับเสียทุกครั้ง

เหยาเอ้อหลางเป็นชายชาตรีดั่งบุรุษในสมัยโบราณ จึงมักเกิดความลังเลเช่นนี้

ปี้ชุนเห็นเขาดึงมือใหญ่กลับ จึงยื่นมือออกไปคว้ามือของเขาอย่างอดไม่ได้

แต่กลับทำให้เหยาเอ้อหลางหน้าแดงก่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ปี้ชุน ข้า….”

“เจ้าเป็นอะไร?”

“ข้าชอบเจ้ามาก”

นับตั้งแต่ที่ได้เจอกันคราแรก เขาก็มีใจให้สตรีผู้นี้ทันที ไม่ว่าปี้ชุนจะทำสิ่งใดล้วนดึงดูดความสนใจเขาทั้งสิ้น

ครั้นเปรียบเทียบกับสตรีผู้อื่น ปี้ชุนโดดเด่นเป็นที่หนึ่งในใจของเหยาเอ้อหลาง

“เอ้อหลาง ที่ข้านัดเจ้าออกมาครานี้ เพราะอยากบอกเจ้า พรุ่งนี้ท่านพี่จะพาข้าไปเยือนจวนของเจ้า จะเข้าไปกล่าวทักทายท่านพ่อและท่านแม่ของเจ้า”

“ทำไมรึ?”

โดยทั่วไปแล้วบิดามารดาของฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเยือนจวนของฝ่ายหญิง ทำไมถึงกลับกลายเป็นปี้ชุนและองครักษ์พิทักษ์เมืองต้องมาเยือนถึงจวนของเขา

มันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร อย่างหลังเหยาเอ้อหลางไม่อยากให้ปี้ชุนต้องผิดหวัง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายชายต้องทำ จะให้สตรีน่าทะนุถนอมอย่างเจ้ามาทำได้อย่างไร?”

“เอ้อหลาง ระหว่างเจ้ากับข้าคงหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ให้พ่อแม่ของเจ้าได้เห็นถึงความจริงใจของเรา จะได้วางใจให้เจ้าแต่งงานกับข้า ไม่ต้องคิดจะยัดเยียดสตรีคนนั้นทีคนนี้ทีให้แก่เจ้าอีกแล้ว”

เหยาเอ้อหลางกุมมือของปี้ชุนแน่น “ข้าขอรับความปรารถนาของเจ้าไว้ แต่ข้าเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม”

“อยู่กับเจ้า ข้าไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมเลยแม้แต่น้อย ทุกลมหายใจที่ได้อยู่กับเจ้า เจ้าช่างกล้าหาญ ข้าดีใจที่ได้จับมือร่วมเดินกับเจ้า”

นางคว้ามือของเหยาเอ้อหลาง ให้เอ้อหลางวางใจ

“ข้ามาบอกเจ้าว่า พรุ่งนี้ข้าและท่านพี่จะมาเยือนถึงจวนเจ้า เจ้าต้องรอข้าอยู่ในจวน ห้ามให้หญิงอื่นมาข้องเกี่ยววอแวกับเจ้าเด็ดขาด”

“วางใจเถอะ”

ทั้งสองคนจากกันอย่างอาลัย ทันทีที่เอ้อหลางกลับเข้าจวนก็พลันเจอสะใภ้รองเหยาและเหยาเฉาพอดี

เหยาเฉาเอ่ออย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าเด็กคนนี้ หลังจากดูใจกับแม่นางแห่งองรักษ์พิทักษ์เมืองได้ จิตใจว้าวุ่นได้ทั้งวัน”

สะใภ้รองเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์กับเหยาเอ้อหลาง “เจ้านะเจ้า ตอนนี้เอ้อหลางได้ครองคู่กับสตรีงามตระกูลอื่น เจ้ายังไม่พอใจอีกรึ เขาเป็นลูกชายแท้ ๆ ของเจ้านะ?”

“ดูเจ้าพูดสิ ไม่ใช่เพราะข้ากลัวว่าเจ้าเด็กเหลือขอผู้นี้ไปรังแกสตรีบ้านอื่นหรอกหรือ? เจ้าคงไม่รู้จักต้าชุนองครักษ์พิทักษ์เมืองหลวง นั่นคือชายฉกรรจ์ที่น่ากล่าวขานมากคนหนึ่งเชียวนะ!”

“ก็ได้ ๆ พรุ่งนี้เราจะไปเยือนจวนขององครักษ์พิทักษ์เมืองหลวง เจ้าห้ามแสดงกิริยาที่ทำให้ฝ่ายนนั้นตกใจเด็ดขาด หลีกเลี่ยงไม่ให้สร้างความตกใจให้กับลูกสะใภ้ของข้า”

เหยาเฉาเอ่ยเสียงสูง “รู้แล้ว เจ้าว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง”

สะใภ้รองเหยาดูแลเรื่องของขวัญสำหรับเยี่ยมเยือน จะให้ผู้อื่นมองตระกูลเหยาต้อยต่ำไม่ได้

เช้าตรู่วันที่สอง พวกเขาตื่นกันตั้งแต่เช้า ปลุกเหยาเอ้อหลาง

“เอ้อหลาง ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้! วันนี้เราต้องไปทาบทามหญิงงามขององครักษ์พิทักษ์เมืองหลวง!”

“ว่าอย่างไรนะ? วันนี้รึ?”

“ทำไม? ก็เจ้าเอาแต่พร่ำเพ้อว่าอย่างสู่ขอสตรีผู้นั้นไม่ใช่รึ ตอนนี้เรากำลังช่วยเจ้า เจ้าไม่เอาหรือ?”

เหยาเอ้อหลางไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ปี้ชุนกำลังจะมาเยือนจวนตน เรื่องนี้สร้างความลำบากให้ให้แก่เขาอย่างมาก

“เอาล่ะ เด็กคนนี้รีบออกมาได้แล้ว!”

——————————————–