บทที่ 693 ไม่ควรสร้างปัญหาอีก

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 693 ไม่ควรสร้างปัญหาอีก

บทที่ 693 ไม่ควรสร้างปัญหาอีก

“ท่านแม่ เมื่อวานปี้ชุนเพิ่งคุยกับข้าว่านางและต้าชุนจะมาเยือนจวนของเรา เหตุใดตอนนี้เราต้องไปเยือนจวนของพวกเขาอีกล่ะขอรับ?”

ครั้นสะใภ้รองเหยาได้ยินคำพูดของเหยาเอ้อหลางก็พาลตำหนิเหยาเอ้อหลางว่าไม่รู้ความทันที

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้ามันโง่เขลา มีอย่างที่ไหนให้สตรีมาเยือนถึงจวนของเรา ถ้าเกิดว่าปี้ชุนรู้สึกไม่เป็นธรรมขึ้นมา ต้องมาโวยวายเจ้าแน่นอน!”

นางเร่งเร้าเหยาเอ้อหลางและเหยาเฉาให้หยิบของขวัญงานหมั้นออกมา ทั้งสามคนยังไม่ทันจะย่างเท้าข้ามประตูใหญ่ ก็ปะทะกับต้าชุนและปี้ชุนที่เพิ่งมาถึงพอดี

“ไอหยา เหตุใดพวกเจ้าถึงมากันก่อน? เราต่างหากต้องเป็นฝ่ายไปเยือนจวนของพวกเจ้า”

สะใภ้รองเหยามองพิจารณาลูกสะใภ้ด้วยความพอใจ ตอนที่เจอกับแม่นางผู้นี้ครั้งแรกนางดีใจจนพูดไม่ออก อยากให้เด็กสาวผู้นี้แต่งเข้ามา

ใครจะไปรู้เล่าว่าเหยาเฉาผู้นี้จะไม่เห็นด้วย ถึงขั้นบอกว่าเหยาเอ้อหลางนั้นไม่เหมาะสมกับแม่นางที่แสนดีผู้นี้

โชคดีที่ตอนนี้เด็กทั้งสองมีใจต่อกัน ประหยัดความยุ่งยากไปได้มากทีเดียว

“ปี้ชุน ต้องโทษเอ้อหลางของเราที่ไม่รู้ความ ไม่ยอมบอกเราว่าพวกเจ้าจะมาเยือนจวนในวันนี้”

“ของขวัญเหล่านี้เป็นสิ่งที่ฝ่ายชายอย่างเราต้องนำไปทาบทามฝ่ายหญิงถึงในจวนของพวกเจ้า ตอนนี้ของขวัญของเราดูไม่สมราคาเลย”

ต้าชุนโบกมือใหญ่ “ใต้เท้าเหยา ฮูหยินเหยา สิ่งเหล่านี้เป็นของนอกกายไม่คุ้มค่ากับการกล่าวขวัญ งานแต่งของพวกเขาสองคนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่ถือสาหรอกว่าจะใครจะไปเยือนจวนของใคร”

เหยาเฉาพึงพอใจกับต้าชุนมาก ภูมิหลังของตระกูลองครักษ์พิทักษ์เมืองหลวงนั้นค่อนข้างดี พูดออกไปย่อมเป็นเกียรติต่อเขา

ในฐานะพ่อสามี เหยาเฉาต้องอยากรักษาหน้าตาของตัวเองอยู่แล้ว

“เอาล่ะ เข้าไปคุยกันในจวนดีกว่า”

ในที่สุดเขาก็แสดงท่าทีเคร่งขรึมของความเป็นเจ้าคนนายคนออกมา เชื้อเชิญทุกคนเขามาหารือกันในจวน

“ต้าชุน นี่คือรายการของขวัญจากครอบครัวของเรา เจ้าตรวจทานเสียหน่อยสิ”

ในฐานะที่เหยาเฉาเป็นใหญ่ของตระกูล เขาให้สะใภ้รองนำรายการของขวัญสำหรับหมั้นไปวางตรงหน้าของอีกฝ่าย

หลังจากที่ต้าชุนตรวจทานรายการของขวัญสำหรับหมั้นแล้ว ก็วางใบรายการของขวัญสำหรับหมั้นนั้นตรงหน้าของปี้ชุน “น้องหญิง เจ้าดูสิว่าเจ้าพอใจหรือไม่ ถ้าไม่พอใจเจ้ารีบเสนอเหยาเอ้อหลางได้เลย”

ครั้นได้ยินคำพูดของต้าชุน สะใภ้รองเหยารีบคล้อยตามทันที

“ใช่ ถ้าเจ้าไม่พอใจตรงส่วนไหน เจ้ารีบเอ่ยออกมาทันที ต่อไปเราทุกคนจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เราต้องพึงพอใจกันและกันให้มากที่สุด”

ปี้ชุนกวาดตามองรายการของขวัญสำหรับหมั้นมายแวบหนึ่ง สิ่งของที่ต้องใช้ในการสู่ของฝ่ายหญิงแสดงออกถึงความจริงใจของตระกูลเหยา

พวกเขาแสดงความยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้แค่ชั่วข้ามคืน เป็นการพิสูจน์ถึงความพึงพอใจที่มีต่อปี้ชุน

ปี้ชุนไม่มีสิ่งใดต้องกล่าว นางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“พอใจ ข้าอยากรู้ความคิดเห็นของพี่เอ้อหลาง”

เหยาเอ้อหลางนั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างกาย จู่ ๆ ก็ถูกพวกเขาเอ่ยถึง เขาได้แต่เกลาหัวแก้เขิน

ปี้ชุนคุ้นชินมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว แล้วจู่ ๆ ก็ต้องมาพูดคุยเรื่องงานแต่งกับแม่นางที่ตัวเองชื่นชอบ เขาถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว

เขามองปี้ชุนอย่างเขินอาย กระทั่งเห็นความประกายภายในดวงตาของปี้ชุน

เหยาเอ้อหลางเอ่ยว่า “ปี้ชุน ข้าอยากสู่ขอเจ้าด้วยความสัตย์จริง หวังว่าเจ้าจะยินดีมาอยู่ในจวนของข้า”

“พี่เอ้อหลาง ข้ายินดีออกจวนกับท่าน แต่สินสอดทองหมั้นเหล่านี้คือความจริงใจที่ตระกูลเหยามีต่อเรา ข้ารู้ถึงความจริงใจของท่านแล้ว”

ปี้ชุนไม่มีความสนใจในสร้อยเงินรวมทั้งเงินทองของมีค่าเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ของเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งของนอกกาย เธออยากเห็นความจริงใจของเหยาเอ้อหลางมากกว่า

การออกจวนกับชายผู้หนึ่ง นางจะคุ้มหรือไม่คุ้มค่าก็ไม่รู้

เหยาเอ้อหลางจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาของปี้ชุน ทดสอบอย่างจริงจัง ชายหนุ่มตบศีรษะของตัวเอง เกิดเสียงดัง ‘พลั่ก’ ฉับพลัน

“ความจริงใจของข้าเต็มเปี่ยมแน่นอน!”

เขาวิ่งเบา ๆ กลับมาในห้อง แล้วหยิบสิ่งของที่ตนรักที่สุดออกมา

ตอนที่เหยาเอ้อหลางวิ่งกลับมาต่อหน้าทุกคนในคราที่สอง ในมือของเขาได้ถือดาบเล่มหนึ่งออกมาด้วย

นี่คือดาบที่เขาซื้อกลับมาเมื่อครั้งที่เขาได้ออกไปเดินทางก่อนหน้านั้น นี่คือดาบเงินที่เขาชื่นชอบและทะนุถนอมที่สุด

การนำสิ่งของชิ้นนี้มอบให้แก่แม่นางที่ตนรัก ได้แสดงถึงความจริงใจของเขาแล้ว

ครั้นสะใภ้รองเหยาเห็นท่าทีเช่นนี้ของบุตรชายของตน จึงรีบเข้ามาขอโทษต้าชุนและปี้ชุนอย่างอดไม่ได้

“ลูกชายคนนี้ของข้ามักจะบ้าบิ่นเสมอ สมองก็เชื่องช้า พวกเจ้าได้โปรดอย่างถือสา”

“ไม่ใช่นะ!”

เหยาเอ้อหลางรีบอธิบายด้วยความร้อนใจ “นี่คือดาบเงินที่ข้ารักมากที่สุด ไม่ว่าจะไปที่ใด ข้าจะพกมันติดตัวไปด้วยเสมอ ข้าขอมอบสิ่งนี้ให้ปี้ชุน เพื่อบอกนางว่า นางก็คือสตรีเพียงผู้เดียวที่ข้าก็ขาดไม่ได้เช่นกัน”

“เอาล่ะ! เจ้าเด็กโง่ ใครเขาเอากริชให้สตรีกัน เจ้ารีบเก็บไปเดี๋ยวนี้ อย่าเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้อื่น”

นัยน์ตาของปี้ชุนเปล่งประกาย มุมปากของนางกระตุกยิ้ม จากนั้นก็รับดาบเงินชิ้นนั้นจากมือของเหยาเอ้อหลาง

“ใต้เท้าเหยา อย่าห้ามให้เหยาเอ้อหลางเก็บมันกลับไปเลย ข้าจะรับของชิ้นนี้ไว้เอง ข้าชอบมาก”

คืนแรกที่ได้เจอกับเหยาเอ้อหลาง เหยาเอ้อหลางเมาสุราแล้วจะชักดาบ บางทีอาจเป็นเพราะวันนั้น ปี้ชุนจึงได้ตกหลุมรักเหยาเอ้อหลางนับแต่นั้นมา

เหยาเอ้อหลางเกลาหัวด้วยความเขินอาย “ข้ารู้ สิ่งที่ข้าให้ เจ้าจะต้องชอบ”

“นี่คือของที่สำคัญที่สุดของเจ้า ข้าย่อมชอบเป็นธรรมดา”

ทั้งสองคนก่อเกิดความรู้สึกดี ๆ ให้กัน ทะนุถนอมกันและกัน

เหยาเฉาเห็นท่าทีของลูกชายตน ในใจก็พลันโล่งใจ เขาจ้องเขม็งไปยังเหยาเอ้อหลาง

“นับแต่นี้ต่อไป นางจะต้องอยู่ในจวนของเรา เจ้าห้ามคิดจะรังแกนางเด็ดขาด นี่คือลูกสะใภ้ที่ไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ และเป็นสะใภ้ที่เจ้าเลือกเอง”

ยากนักที่เหยาเฉาจะมาพูดความในใจเหล่านี้กับลูกชาย เหยาเอ้อหลางจึงได้พยักหน้าอย่างหนักหน่วง

แม้ว่าสองพ่อลูกจะทะเลาะกันไม่หยุด แต่ใจความสำคัญในคำพูดของเหยาเฉานั้นสมเหตุสมผลมาก เหยาเอ้อหลางไม่มีทางต่อต้านแน่นอน

“ต้าชุน นี่คือความลำบากที่ผู้เป็นพี่ชายต้องทำ พี่น้องเสมือนบิดา รูปแบบการกระทำของเราได้โปรดเจ้าอย่าถือสา”

“ใต้เท้าเหยาพูดอะไรเช่นนั้น ต่อไปเราสองตระกูลก็ต้องมีความสัมพันธ์ในรูปแบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”

พวกเขาคุยเรื่องงานแต่งของเด็กทั้งสอง ทั้งยังให้แม่สื่อมากำหนดฤกษ์งามยามดี วันที่เก้าเดือนเก้าคือวันอันเป็นสิริมงคลในการแต่งงานของพวกเขา

ปี้ชุนคิดว่าทั้งหมดนี้เหมือนความฝัน ตั้งแต่รู้ความกระทั่งตอนนี้ เหมือนทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

เหยาเอ้อหลางยืนข้างกายของนาง “เจ้ากำลังคิดสิ่งใด”

“ข้ากำลังคิดว่าโชคชะตาของเรามันช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก การได้พบกันในตอนนี้ ทำให้เราได้เดินไปยังทิศทางใหม่ด้วยกัน”

เอ้อหลางลูบศีรษะของแม่นางอย่างอ่อนโยน พลางกระซิบข้างหูเบา ๆ ว่า “ใครจะไปคิดเล่าว่าข้าที่ถูกเด็กสาวลักพาตัวไปตั้งแต่แรก ตอนนี้ยังลักพาหัวใจของข้าไปด้วย”

“ใช่ เช่นนั้นนับแต่นี้ต่อไป เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อให้เจ้าหนีก็หนีไม่พ้น”

เหยาเอ้อหลางและปี้ชุนมองหน้ากัน ทั้งสองคนเดินออกมาจากจวนและเดินไปตามถนนอย่างเชื่องช้า

ทั้งหมู่บ้านต่างรู้ข่าวดีของพวกเขาสองคน จึงทยอยกันเข้ามาอวยพร

“เอ้อหลาง ในที่สุดพ่อแม่ของเจ้าก็ไม่ต้องหาคู่มาให้เจ้าอีกแล้วกระมัง?”

“ตอนนี้เจ้าหอบเอาหญิงงามกลับจวนด้วยตัวเอง เหยาเฉาตาเฒ่านั่นคงจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว”

“ดูสิ คุณหนูใหญ่แห่งองครักษ์พิทักษ์เมืองหลวงได้ออกจวนกับเจ้า เจ้าต้องดูแลปรนนิบัติรับใช้นางนะ”

ปี้ชุนหน้าแดงก่ำของการวิจารณ์โดยรอบ ก่อนจะพาเหยาเอ้อหลางจากไปอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มไล่ตามนางทุกฝีก้าว “ค่อย ๆ เดิน”

ทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดง หญิงงามข้างกายยังคงตราตรึงใจ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ในที่สุดเอ้อหลางก็เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีนะ

ไหหม่า(海馬)

——————————————–