ตอนที่ 572 เหล่าเซียนของทั้งสามสำนัก

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 572 เหล่าเซียนของทั้งสามสำนักมาถึงภูเขาวิญญาณ! (3)

หวงหลงเจินเหรินกล่าวแล้วโค้งคำนับให้อย่างลึกซึ้งด้วยการทำคารวะเต๋า

ในขณะนั้น ไอชั่วร้ายส่วนใหญ่ในสถานที่นั้นก็สลายไป และเหล่าเซียนจากทั้งสองฝ่ายก็รู้ว่าวันนี้พวกเขาจะไม่ได้ต่อสู้

มีคนสะเทือนใจบ้างแต่ก็ไม่มาก

กวงเฉิงจื่อและเซียนคนอื่นๆ ที่ฝึกบำเพ็ญอยู่ในลานเล็กๆ ในตอนนั้นต่างก็รู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจมากที่สุด

เหล่านักพรตเต๋าชราที่เฝ้าดูความตื่นเต้นจากด้านข้างของสระสมบัติบนภูเขาจิตวิญญาณถอนหายใจ พวกเขาส่ายศีรษะและกำลังจะจากไป

วันนี้ดูไม่สนุกเลย

ทว่าจู่ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามมาก็ทำให้เหล่านักพรตเต๋าชราทั้งหมดบนภูเขาวิญญาณไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน…

เสียงอารมณ์ของนักพรตเต๋าหวงหลงดังออกมาจากกระจกเมฆ

“ศิษย์พี่ หากท่านเชื่อข้า ข้าสาบานได้ข้าไม่เคยเผยแพร่ข่าวลือใดๆ เพื่อทำร้ายศิษย์หลานหั่วหลิง! ข้ามีมิตรภาพที่ดีกับศิษย์น้องกงหมิง ข้ายังรู้ด้วยว่าศิษย์น้องกงหมิงเป็นคนเที่ยงธรรมและซื่อสัตย์ เขาทุ่มเทอย่างสุดใจเพื่อแสวงหาเต๋าใหญ่!”

จ้าวกงหมิงก้าวออกไปข้างหน้าทันทีและกล่าวว่า “ข้าก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ยิ่งคิดถึงมันมากเท่าใด ข้าก็ยิ่งรู้สึกว่ามีคนจงใจสร้างความบาดหมางและพยายามสั่นคลอนรากฐานของสำนักบำเพ็ญเต๋า!”

ตั๋วเป่าและกวงเฉิงจื่อต่างมองหน้ากันและพยักหน้าพร้อมกัน

บรรดาเซียนของทั้งสองสำนักพากันขมวดคิ้ว หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาก็พบว่าเรื่องนี้มีบางอย่างแปลกๆ ที่น่าสงสัยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้!

ในขณะนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ในท้องฟ้า

“โชคดีที่พวกเจ้าไม่ได้ต่อสู้กันจริงๆ ข้ามีวิธีตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว”

ทันใดนั้นก็มีเมฆสีขาวลอยลงมาช้าๆ ซึ่งมีนักพรตเต๋าหนุ่มที่ดูธรรมดาแต่มีเสน่ห์ยืนอยู่บนนั้น แน่นอนว่า เขาคือ ศิษย์เพียงคนเดียวของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน

“ศิษย์พี่เสวียนตู!”

“น้อมพบศิษย์พี่เสวียนตู!”

บรรดาเซียนของทั้งสองสำนักต่างโค้งคำนับให้พร้อมๆ กัน ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มและตอบกลับการทักทายของพวกเขาและเผยสีหน้าท่าทางเคร่งขรึมสง่าผ่าเผย

“ศิษย์น้องทั้งชายและหญิง โปรดออกมาข้างหน้า” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เรียกออกมา บรรดาเซียนจากทั้งสองฝ่ายก็ก้าวออกไปข้างหน้าและรวมตัวกันรอบๆ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

จากนั้นปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็หยิบ ‘เกาะ’ ขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะยกมือขึ้นแล้วขว้างมันออกไปเบาๆ ทันใดนั้นเกาะเล็กๆ ก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อยูภายใต้ฝ่าเท้าของเหล่าเซียน และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง มันก็กลายเป็นเกาะอมตะที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสิบลี้ ลอยอยู่เหนือทะเลเมฆ

“ศิษย์น้องทุกคน โปรดฟังข้า!”

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเสียเวลาไปพอสมควร ข้าไปขอให้อาจารย์องค์เง็กเซียน ระดมพลังแห่งเต๋าสวรรค์เพื่อก่อตัวขึ้นเป็นอนุสาวรีย์หิน

อนุสาวรีย์หินนี้ เรียกว่า ความเที่ยงธรรมของจักรพรรดิแห่งสวรรค์และหน้าที่ของมันก็คือการยืมพลังเต๋าสวรรค์เพื่อติดตามต้นตอของเรื่องนี้และส่งเสริมความเที่ยงธรรมแห่งสวรรค์และปฐพี

เป็นเรื่องเหมาะสมอย่างยิ่งที่เขาจะใช้อนุสาวรีย์หินนี้เพื่อจัดการปัญหาแก้ปัญหาเรื่องนี้!

เหตุใดเราไม่ไปที่อนุสาวรีย์หินและรวบรวมพลังของสามสำนักบำเพ็ญเต๋าเพื่อสืบสวนว่าใครคือผู้กระทำความผิด!?!”

บรรดาเซียนล้วนเห็นด้วย จากนั้นปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็ผายมือทำท่าทางเชิญชวนและเดินเคียงข้างไปกับนักพรตเต๋าตั๋วเป่าและกวงเฉิงจื่อ และพวกเขาก็ร่อนร่างลงไปที่ด้านล่างก่อน

ในเวลาสั้นๆ บรรดาเซียนหลายร้อยคนจากทั้งสองสำนักก็มารวมตัวกันที่จุดสูงสุดของเกาะอมตะ พวกเขามองไปที่อนุสาวรีย์หินและพูดคุยกันเบาๆ…

ที่ด้านซ้ายและขวาของอนุสาวรีย์หินนั้น มีอักขระคำว่า “สยบคนด้วยคุณธรรม” และ “สยบคนด้วยหลักการ” ลงสลักเอาไว้ และเป็นดั่งท้องฟ้าในยามราตรี อนุสาวรีย์หินที่มืดมิดนี้ ก็ได้เปล่งแสงดาวบางเบาซึ่งอุดมไปด้วยพลังแห่งเต๋าสวรรค์ที่แข็งแกร่งออกมา

หลังจากนั้นปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยกมือขึ้นและผลักดันแสงเซียนออกไปในขณะที่นักพรตเต๋าตั๋วเป่า และกวงเฉิงจื่อต่างก็ปล่อยแสงเซียนใส่เข้าไปในอนุสาวรีย์หินทีละคน

หวงหลงเจินเหรินโค้งคำนับอนุสาวรีย์หินและกล่าวด้วยอารมณ์ว่า “ปรมาจารย์เต๋าสวรรค์ผู้รอบรู้ ได้โปรดชำระล้างนามแห่งข้า!”

ทันใดนั้นก็มีเมฆหมอกปรากฏขึ้นมาเหนืออนุสาวรีย์หิน และรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นในนั้น เกิดภาพที่พร่ามัวของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดกำลังหัวเราะ พูดคุย และส่งข้อความเสียง มันเป็นกระบวนการของการแพร่กระจายข่าวลือและการเปลี่ยนแปลงข่าวลืออย่างต่อเนื่อง

แล้วร่างต่างๆ นั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วในขณะที่พลังแห่งเต๋าสวรรค์ก็เข้มข้นหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ

….

หลี่ฉางโซ่วแผ่สัมผัสเซียนรับรู้ออกไปตรวจสอบและจับร่างที่คุ้นเคยได้… ระดับความเร็ว!

แค่กๆ มองผิด ข้าต้องมองผิดไปแน่ๆ

ทันใดนั้นภาพที่ปรากฏขึ้นก็เชื่องช้าลงและมีเมฆหมอกปิดกั้นต้นตอของข่าวลือ

นักพรตเต๋าตั๋วเป่าพลันร้องตะโกนเบาๆ ว่า “ศิษย์น้องทั้งชายหญิง หากไม่ลงมือตอนนี้ แล้วพวกเจ้าจะรอถึงเมื่อใดกัน!?!”

ทันใดนั้นบรรดาเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยก็ตกลงทันทีพร้อมด้วยเสียงปะทะดังปัง แล้วแสงเซียนก็พุ่งเข้าสู่อนุสาวรีย์หินนั้น

ทางด้านของสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน ก็ยกมือขึ้นและทำท่าทางให้บรรดาเซียนมากกว่าร้อย ลงมือในเวลาเดียวกัน แล้วเสี้ยวพลังเซียนก็ถูกถ่ายเทเข้าไปในอนุสาวรีย์หิน!

ในขณะนั้น อนุสาวรีย์หินสั่นเล็กน้อยและเมฆหมอกก็ถอยกลับไป ทว่าจู่ๆ ก็มีม่านน้ำปรากฏขึ้นอีกครั้งและเข้าปิดกั้นสถานการณ์ที่อยู่ด้านหลัง

บรรดาเซียนจากสำนักบำเพ็ญเต๋าล้วนรู้สึกงงงวย

นักพรตเต๋าหรานเติ้งกล่าวว่า “ทุกคน ข้าเกรงว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับปรมาจารย์จอมปราชญ์ เช่นนั้น เหตุใดไม่…”

“เหอะ!”

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูแค่นเสียงเย็นชาในขณะที่เหล่าศิษย์ของจอมปราชญ์ ต่างมองไปที่หรานเติ้ง

หรานเติ้งจึงแก้ไข เปลี่ยนคำพูดตัวเองทันทีและกล่าวเบาๆ ว่า “เราจะพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบหลังจากที่เราตรวจสอบแล้ว”

“แผนภาพไท่จี๋ จงออกมา!”

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูร้องตะโกนและชูมือซ้ายขึ้น ทันใดนั้นสมบัติเซียนเทียนขั้นสูงสุด แผนภาพไท่จี๋ขนาดเท่าฝ่ามือก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา แล้วลมปราณหยินหยางสองสายก็พุ่งออกมาแล้วเข้าไปในอนุสาวรีย์หินนั้น

ม่านน้ำระเบิดออกทันที และเผยให้เห็น… ดอกบัวสีทองสิบสองกลีบที่พลิ้วไหวอย่างนุ่มนวล!

ในขณะนั้น บรรดาเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าล้วนตกอยู่ในความเงียบงัน

เหล่านักพรตเต๋าชราที่อยู่ข้างๆ สระสมบัติบนภูเขาวิญญาณพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก บัดนี้คำว่า “ภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด” ถูกเขียนขึ้นมาทั่วศีรษะของพวกเขา และดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

นักพรตเต๋าหนุ่มที่อยู่ตรงมุมนั้นหน้าซีดไปแล้ว เขายืนขึ้นและเดินสองก้าวไปยังภูเขาด้านหลังของภูเขาวิญญาณ ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักกะทันหัน ร่างแข็งค้างดุจรูปปั้นดินเหนียวและนิ้วของเขาก็สั่นเทา…

บัดนี้สภาวะจิตใจของเขาปั่นป่วนวุ่นวาย เกิดการต่อสู้กันระหว่างสวรรค์และมนุษย์[1]

ในยอดเขาหยกน้อยของสำนักตู้เซียน เวลานี้หลี่ฉางโซ่วสัมผัสได้ว่าพลังของแผนภาพไท่จี๋ในปราณวิญญาณของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นช้าๆ เห็นได้ชัดว่า ปรมาจารย์จอมปราชญ์ได้ลงมือปกป้องเขาจากการถูกทางฝ่ายสำนักบำเพ็ญประจิมทำการหยั่งรู้

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นโค้งคำนับให้ท้องฟ้าในขณะที่เผยรอยยิ้มกว้างขึ้น

หลังจากเหตุการณ์นี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจ

แน่นอนว่า ไม่มีปรมาจารย์หนึ่งหรือสองคนจากสามสำนัก แต่เป็นกลุ่มของพวกเขา

เขาต้องเคารพผู้อาวุโสเหล่านั้น

ที่ก้นบึ้งในใจของหลี่ฉางโซ่ว จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนสองเสียงที่ดังขึ้นมาจากตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ หลี่ฉางโซ่วจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป

หลี่ฉางโซ่วหยุดรบกวนสองเสียงตะโกนที่

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้คือ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูและผู้ยิ่งใหญ่ไม่กี่คนของสำนักบำเพ็ญเต๋าจะเป็นผู้นำ ส่วนเขาก็เพียงแค่ดูการแสดงและทำหน้าที่ของเขาให้ดีในฐานะสมาชิกของหน่วยกู้ภัยเท่านั้น

คนผู้นั้นร้องตะโกนว่า “เรียกศิษย์น้องชายหญิงทุกคนมาที่นี่!”

“เหล่าเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย จงตามข้าไปที่ภูเขาวิญญาณ!”

………………………………………………………………..

[1] การต่อสู้ระหว่างสวรรค์กับมนุษย์ หมายถึง สวรรค์ในที่นี้ เป็นตัวแทนหลักการของสวรรค์ คือ ความคิดที่ดี ส่วนมนุษย์ หมายถึง ความปรารถนา กิเลส สิ่งล่อใจของมนุษย์ ซึ่งหมายถึง ความคิดชั่วร้าย เพื่ออธิบายเมื่อผู้คนเผชิญกับสิ่งล่อใจ