บทที่ 744 พลั้งปาก
บทที่ 744 พลั้งปาก
“ทำไมนุ่มขนาดนี้!”
แม่ชียุงขมวดคิ้ว หน้าอกของผู้หญิงคนนี้ใหญ่จริง ๆ มันคงช่วยรองรับแรงกระแทกได้อย่างมาก การโจมตีของนางก่อนหน้านี้อาจไม่เพียงพอที่จะฆ่าอีกฝ่าย!
นางรีบตามเข้าไปหมายจะโจมตีซ้ำ…
ซูอันไม่สนใจยุงที่รุมกัดตนเองอีก เขารีบกระโดดไปช่วยเพ่ยเหมียนหมาน แต่แม่ชียุงฟาดกระบี่ของเขาด้วยสันมือของนาง
ด้วยแรงปะทะอันมหาศาล ชายหนุ่มเกือบทำกระบี่หลุดออกจากมือ แต่ทว่าความเสียหายที่เขาได้รับนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยง มีเลือดไหลออกจากระหว่างนิ้วของเขา
เมื่อไม่ถูกโคมจักรพรรดินีขัดขวางอีกต่อไป แม่ชียุงสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของนางได้อย่างเต็มที่
ซูอันหมดหนทางอย่างสมบูรณ์ เขาทำได้แค่ยืนต่อหน้าเพ่ยเหมียนหมานและใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเกราะป้องกัน
แม่ชียุงมองเห็นความตั้งใจของเขาและโกรธเกรี้ยว “เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า!”
นางซัดฝ่ามือใส่หลังของเขา
แม่ชียุงมั่นใจว่าการโจมตีครั้งนี้จะสามารถเจาะทะลุร่างกายของซูอันได้อย่างสมบูรณ์และเพียงพอที่จะทะลวงไปฉีกหัวใจของเพ่ยเหมียนหมานที่ถูกปกป้องอยู่ด้านหลังได้
เพ่ยเหมียนหมานจะต้องตายอย่างแน่นอนและซูอันอาจยังคงมีชีวิตอยู่ นางไม่ได้เล็งไปที่จุดสำคัญใด ๆ ของเขา ด้วยความสามารถในการฟื้นฟูอันน่าสะพรึงกลัวของซูอัน นางมั่นใจว่าซูอันคงไม่ตายกับอีแค่แผลทะลุสักจุดสองจุด
ซูอันยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่า “ดูเหมือนว่าเราสองคนจะต้องร่วมเดินทางไปด้วยกันในชีวิตหลังความตาย ราวกับคู่รักตัวจริง”
เพ่ยเหมียนหมานจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของซูอัน แววตานางอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ ชายผู้นี้กระโจนเข้ามาขวางและเต็มใจสละชีวิตเพื่อช่วยนางอย่างเต็มที่ เมื่อได้รับน้ำใจเช่นนี้ นางรู้สึกว่าความตายไม่ใช่ชะตากรรมที่น่าสะพรึงกลัว
แต่แล้วจู่ ๆ อุณหภูมิลดลงอย่างกะทันหัน บริเวณโดยรอบกลับบังเกิดปรากฏการณ์หิมะตกอย่างน่าอัศจรรย์ ยุงสีดำจำนวนมากที่บินอยู่ทั่วบริเวณเริ่มร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า พวกมันถูกแช่แข็งเหมือนประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็ก
ซูอันตกตะลึง “หิมะในฤดูร้อน? บางทีแม้แต่สวรรค์ก็ไม่เต็มใจที่จะเห็นคู่รักเยวียนยางอย่างเราพินาศไปด้วยกัน”
ใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมานเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหมด “เยวียนยางก้นเจ้าสิ! เจ้าจำกระบี่เกล็ดหิมะของภรรยาเจ้าไม่ได้เหรอ!?”
ลำแสงอันเยือกเย็นตัดผ่านท้องฟ้ายามราตรีจากด้านข้าง พุ่งผ่านอากาศเข้าหาแม่ชียุงด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
แม่ชียุงก็ตกใจเช่นกัน ระดับการบ่มเพาะของบุคคลนี้สูงกว่าอีกสามคนและมีแนวโน้มมากที่สุดว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับเจ็ด!
ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่ผู้มาใหม่เลือกช่วงเวลาขัดขวางได้ดีอย่างมาก หากแม่ชียุงโจมตีสำเร็จ เมื่อครู่นี้แม้ว่าเด็กสาวหน้าอกใหญ่จะตายอย่างแน่นอนแต่ตัวนางเองก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
หลายปีที่นางต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำให้นางให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด และนางไม่เคยเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อที่จะฆ่าใครซักคน นางถอนการโจมตีของนางทันทีและปัดป้องกระบี่ที่เข้ามา
ทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของนางมีเล่ห์เหลี่ยมมาก และไม่ได้พยายามที่จะเอาชนะนางโดยตรง ซึ่งลดข้อได้เปรียบของระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่าของนางลงอย่างมาก
แม่ชียุงในที่สุดก็มองเห็นคู่ต่อสู้ของนาง อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่สวยราวกับแสงอรุณในฤดูเหมันต์ มองดูเหมือนเทพธิดาลงมาจากสวรรค์!
แม่ชียุงรู้สึกว่าความมั่นใจในตนเองของนางตกต่ำลงในทันที ปกติแล้วนางอวดตัวเองว่าเป็นผู้หญิงที่สวย แต่ผู้หญิงทุกคนที่เจอในวันนี้กลับดูเหมือนจะงดงามกว่าตัวนางเองทั้งหมด!
นางจ้องเขม็งไปที่ซูอัน เกิดอะไรขึ้นกับเด็กเหลือขอคนนี้? ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรพิเศษ แต่ทำไมมันถึงมีผู้หญิงงดงามมากมายมารุมล้อมเยอะขนาดนี้?
มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขาที่ข้าไม่เห็นงั้นเหรอ?
ตรงข้ามกับนาง ซูอันส่งเสียงดีใจทันทีเมื่อเห็นผู้หญิงในชุดสีฟ้าเยือกเย็น ผู้หญิงคนนี้ยังคงมีสีหน้าเย่อหยิ่งและงดงามอย่างเย็นชาเหมือนกับที่เขายังจำได้
“ที่รัก!”
ด้วยมรสุมปัญหามากมายพวกเขาต้องห่างกันหลายเดือน และแม้พวกเขายังคงเห็นหน้ากันบ้างเป็นครั้งคราวโดยใช้กระจกสื่อสาร แต่ต่อมาพวกเขาก็ไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเนื่องจากกระจกสื่อสารพังไป
สีหน้าที่เย็นชาและไม่แยแสของฉู่ชูเหยียนเปลี่ยนไปอย่างมากทันทีเมื่อนางได้ยินเสียงของเขา
นางหันไปมองซูอัน นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อจู่ ๆ นางสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกอดเพ่ยเหมียนหมานแน่นจนหน้าอกของเพ่ยเหมียนหมานเบียดแทบทลัก
สิ่งนี้ทำให้คิ้วสวยของนางขมวดเข้าหากันทันที
เพ่ยเหมียนหมานรู้ได้ทันทีว่าฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้วเพราะอะไร นางรู้สึกผิดมากในใจก่อนจะผลักซูอันออกและพูดว่า “ชูเหยียน ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่แล้ว!”
ฉู่ชูเหยียนยิ้มอย่างเลศนัย “ข้าอาจพลาดฉากที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ไป ถ้าข้ามาถึงช้ากว่านี้อีกนิด!”
ใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมานแดงก่ำ นางโบกมือแล้วพูดว่า “อย่าเข้าใจผิด! มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เขาทำเพื่อช่วยข้า…”
ฉู่ชูเหยียนหัวเราะคิกคัก “เหมียนหมาน นี่ไม่ใช่เหมือนเจ้าเลย! ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ ข้าชักสงสัยจริง ๆ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้าสองคนหรือเปล่า!”
เพ่ยเหมียนหมานตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า ขณะนี้นางกำลังแสดงกิริยาผิดปกติอย่างมาก ถ้าเป็นตามปกติของนาง นางคงใช้โอกาสนี้เพื่อหยอกล้อคนอื่นอย่างแน่นอน เมื่อไรกันที่นางปกป้องตัวเองด้วยความตื่นตระหนกเช่นนี้?
แต่นางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน นางยิ้มหวานและพูดว่า “จะว่าไป ตอนนี้พวกเจ้าสองคนไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว ดังนั้นมันไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ หากข้าจะรุกเข้าหาเขาจริง ๆ?”
ฉู่ชูเหยียนพ่นลมหายใจ “เอาเลย! เขาก็ไม่ได้ดีเด่อะไรอยู่แล้ว ข้าไม่สนใจหรอก!”
ซูอันใจสลาย “ชูเหยียน ทำไมเจ้าถึงพูดทำร้ายจิตใจข้าขนาดนี้…”
ไม่มีใครหรือแม้แต่ซูอันจะคาดคิดว่าจู่ ๆ เพ่ยเหมียนหมานจะเดินปรี่เข้ามาคล้องแขนของซูอันแล้วมองฉู่ชูเหยียนด้วยแววตาเป็นประกาย “เจ้าพูดเองน้า…”
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกตกใจ ผู้หญิงคนนี้จริงจังหรือเปล่า!? จากนั้นนางเริ่มจำได้ว่าเพ่ยเหมียนหมานปกติแล้วกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน นางรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในทันที
แต่นางได้พูดประโยคยินยอมไปแล้ว และไม่มีทางที่จะเอาคำพูดคืนมาได้ ตอนนี้นางจึงทำได้เพียงจ้องเขม็งไปที่ซูอันอย่างโกรธเคือง
เกิดอะไรขึ้นกับรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของเจ้า!
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
ซูอันเคลิบเคลิ้มในความรู้สึกอบอุ่นที่อ่อนนุ่มรอบแขนของเขา แต่เมื่อเขาเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่ได้รับ เขาเกือบจะกระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยความตกใจ
ชิวฮัวเล่ยมีสีหน้าแปลก ๆ ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจนี้ มุมริมฝีปากของนางก็โค้งขึ้นเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เพ่ยเหมียนหมานแสดงนิสัยข่มเหงและเอาแต่ใจมาตลอดในระหว่างที่คุยกับข้า ตอนนี้การได้เห็นนางแสดงกิริยากระอักกระอ่วนต่อหน้าคนอื่นมันช่างน่าขบขันจริง ๆ…
แต่คำพูดของเพ่ยเหมียนหมานก็เตือนนางว่าซูอันเป็นโสดแล้ว จากนี้ไปผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์ทำตามใจตัวเอง!
รอยยิ้มที่เบิกบานแผ่ไปทั่วริมฝีปากของนาง นางเคยเป็นคณิกาอันดับหนึ่งของหอสุขนิรันดร์ เสน่ห์หญิงคือความสามารถพิเศษของนาง