เจียงหยุนเอ๋อดึงชายเสื้อของลี่จุนถิง ไม่ได้สนใจลี่จุนซิน ยื่นหน้าไปถามเสียงเบา “ทำไมคุณถึงเชื่อมั่นในตัวฉันขนาดนี้คะ แม้แต่งานเลี้ยงฉลองก็จองก่อนแล้ว?”
ลี่จุนถิงเอามือของเจียงหยุนเอ่อวางไว้ที่ต้นขาของตน นิ้วโป้งของเขาลูบหลังมือของเธอไปมา ทว่าใบหน้ากลับยังคงเคร่งขรึม นานครู่หนึ่ง เขาพูดเสียงเรียบ “ผมแค่เชื่อมั่นในตนเองก็เท่านั้น!”
สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อแสดงความโมโหออกมาทันที
จากนั้น พลิกมือ แล้วหยิกต้นขาของลี่จุนถิง
หลังจากหยิกเสร็จ หันหน้าไป อุ้มถวนจื่อมาจากลี่จุนซิน “ไม่เล่นกับพ่อของเราแล้ว เราเล่นกันสองคนนะครับ”
“หม่ามี้ หม่ามี้เป็นคนผิดนะครับ แด๊ดดี้ช่วยให้หม่ามี้สอบผ่าน หม่ามี้ยังจะไม่เล่นกับแด๊ดดี้อีก”
หลังจากถวนจื่อพูดจบ พวกลี่จุนซินพากันหัวเราะ
เจียงหยุนเอ๋อทำสีหน้าเหนือความคาดหมาย “เอ๊ะ? ทำไมยังพูดเข้าข้างแด๊ดดี้ละครับ ทั้งๆที่แด๊ดดี้เป็นคนรังแกหม่ามี้นะ”
“แด๊ดดี้ไม่ได้รังแกหม่ามี้ครับ แด๊ดดี้ช่วยให้หม่ามี้สอบผ่าน”
เจียงหยุนเอ่อหันหน้าไปแล้วส่งเสียง “หึ” จากนั้นถลึงตามองลี่จุนถิง ลี่จุนถิงเงียบ ยิ้มแล้วมองดูเธอ
สุดท้าย เพราะเวียร์ขอร้อง ทำให้วันที่สองลี่จุนซินก็ยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน เหตุเพราะถวนจื่อต้องไปเรียนเรียน ดังนั้นเขาจึงอยู่บ้าน
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาสี่คนรถยนต์สองคันขับออกจากบ้านแต่เช้ามุ่งหน้าสู่ทางหลวง
สถานีจ่ายค่าผ่านทาง เจียงหยุนเอ๋ออดใจไม่ไหว สุดท้ายก็เอ่ยถาม “ทั้งๆที่สี่คนนั่งรถคันเดียวกันก็ได้ ทำไมพวกคุณต้องแบ่งเป็นสองคันด้วยคะ? คุณดูสิ ไม่อย่างนั้นค่าใช้จ่ายก็น้อยลงหน่อย”
ผ่านหน้าต่างรถยนต์ ลี่จุนถิงยื่นมือออกไปรับการ์ดที่พนักงานยื่นมาให้ จากนั้นเหยียบคันเร่งขับออกไป
เจียงหยุนเอ๋อเห็นเขาเงียบ แอบรู้สึกหมดสนุก เปิดกล่องเก็บของภายในรถ หยิบCDออกมาหนึ่งแผ่นแล้วเปิดฟัง
ตอนที่เสียงดนตรีค่อยๆดังขึ้น เจียนหยุนเอ๋อแค่ฟังก็รู้ทันทีว่านี่คือเสียงของFish Leong
“…..หลงใหลฝ่ามืออุ่นๆของคุณมาตั้งนานแล้ว จับมือฉันไว้ไม่ยอมปล่อย แอบดมกลิ่นของคุณ ที่หอมกลิ่นชายหนุ่ม วู้……ฉันชอบ……พาฉันไปพร้อมกับคุณทุกที่……”
นี่มันบังเอิญเกินไปแล้วรึเปล่า? เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลงมองฝ่ามือตนเอง เมื่อกี้ตนยื่นมือออกไป แต่ว่า แค่คิดเท่านั้น? เพราะถึงยังไงก็ขับรถ ความปลอดภัยสำคัญที่สุด
ไม่รู้ว่าเนื้อเพลงขับร้องความคิดที่แท้จริงของเธอ หรือเป็นเพราะในรถอากาศไม่ถ่ายเท ไม่นาน แก้มของเจียงหยุนเอ่อเริ่มแดงระเรื่อ
รู้สึกหูร้อนผ่าว เจียงหยุนเอ๋อรีบกดเร่ง ตอนที่ชักมือกลับเธอเพิ่งตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของตนคือร้อนตัว
แกล้งทำเป็นจริงจังแล้วเปิดกล่องอีกครั้ง ขณะที่กำลังคิดอยากจะเปลี่ยนแผ่น CD วินาทีต่อมา มือใหญ่ของลี่จุนซินยื่นมา
มือขวาของลี่จุนถิงกุมมือซ้ายของเจียงหยุนเอ๋อพอดิบพอดี ไม่หันหน้ามาแม้แต่น้อย “ด้านในเป็นอัลบั้มของFish Leongหมดเลย คุณค่อยๆเลือก ถ้าไม่ชอบแผ่นนี้ ก็เปลี่ยนแผ่น”
ชะงักไปพักหนึ่ง ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อถอนสายตาจากหน้าของเขา ลี่จุนถิงพูดขึ้นอีก “แต่ว่า ผมชอบเพลงเมื่อกี้มากนะ”
เจียงหยุนเอ๋อหยุดชะงักไม่สนใจเขา มือขวาเปิดลิ้นชัก เป็นอัลบั้มของFish Leongทั้งหมดจริงๆด้วย
“ถ้าจำไม่ผิดละก็ คุณชอบเพลงของเธอมาก อย่างเช่นเพลงช้ำคือเรา”
“เพราะว่าฉันชอบ ดังนั้น คุณเลยซื้อมาหมดเหรอคะ?”
เจียงหยุนเอ๋อแทบไม่อยากจะเชื่อ เมื่อคราวที่แล้วตอนที่ทั้งสองฟังเพลงของFish Leongด้วยกันนั้น ยังไม่ได้คบกันเลย
เวลาเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ!หนึ่งปีกว่าให้หลัง ฟังเพลงของFish Leongอีกครั้ง ทั้งสองกลับเป็นสามีภรรยากันแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดแล้วค่อยๆกางมือตนเองออก ประสานมือกับนิ้วทั้งห้าของลี่จุนถิง จากนั้นโน้มตัวลงพิงเบาะรถยนต์ เอียงศีรษะด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วมองไปที่หน้าด้านข้างของเขา
อื้ม……ทำไมถึงยิ่งอยู่ยิ่งหล่อ?
เจียงหยุนเอ๋อขยับตัว เข้าไปใกล้อีกนิด จากนั้นยื่นมือขวาออกไปอย่างห้ามใจไม่ได้
“หยุนเอ๋อ” ลี่จุนถิงพูดขึ้น
“คะ?” รีบดึงมือขวากลับ เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลงแล้วจับนิ้วชี้ของลี่จุนถิงเป็นการกลบเกลื่อน “ช่วงนี้คุณเพิ่งตะไบเล็บเหรอคะ?”
มือของลี่จุนถิง ทั้งสิบนิ้วเรียวยาว ขาวสะอาด เจียงหยุนเอ๋อมองไปมองมา จู่ๆก็นึกถึงบทความเกี่ยวกับลายนิ้วมือเมื่อไม่นานมานี้
พลิกมือของใครบางคน เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลงแล้วนับอย่างละเอียด
“คุณมีลายนิ้วมือก้นหอยหนึ่งลาย?” ครุ่นคิดถึงคำโบราณหนึ่งก้นหอยยากไร้สองก้อนหอยมั่งคั่ง เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นถาม
“สองก้นหอย ทำไมเหรอ?” ลี่จุนถิงขยับมือ หลังมือของเขาคันเล็กน้อยเพราะเส้นผมของเจียงหยุนเอ๋อพันเอาไว้
“สองก้นหอย……”
เจียงหยุนเอ๋อคิดถึงอีกเรื่องหนึ่งอย่างรวดเร็ว “คนที่มือขวามีหนึ่งก้นหอยคือคนที่ทำอะไรด้วยตนเอง มีความสามารถ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ แต่ว่า—”
“แต่ว่าอะไร?” ตามคำพูดของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงพูดต่อ
“แต่ว่า เป็นคนที่ทุกคนชื่นชอบ”
มือซ้ายของลี่จุนถิงจับพวงมาลัย หันไปมองใครบางคนที่มีความสุขแล้วจู่ๆก็เศร้า รู้สึกมีความสุขเล็กน้อย แบบนี้เรียกว่าหึงรึเปล่า?
นานครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้น “ผมได้ยินว่า ด้านความรักของคนที่มือซ้ายมีหนึ่งก้นหอยร้อนแรงเหมือนไฟ!”
จับหลังมือที่เนียนนุ่มของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงกุมมือเล็กๆของเธอเอาไว้ “ผมคิดว่า ถ้าด้านหลังมีคนอื่น ตอนนี้ ผมคงไม่ได้กลิ่นเปรี้ยวที่ฟุ้งกระจายไปทั่วแบบนี้แน่นอน”
เจียงหยุนเอ๋อชะงัก รีบชักมือกลับ เงยหน้าขึ้นมองเขา แก้มของเธอกลับแดงระเรื่อด้วยความไม่เอาไหน ขับรถสองคน เพราะเหตุผลนี้เนี่ยนะ?
ถ้าสายตาสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ เจียงหยุนเอ๋อคิดว่า เธอต้อง……
อยู่ด้วยกันหนานครึ่งวัน เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนยังคงเสียดายเล็กน้อย
แต่ว่า เมื่อกี้ยังฟังเพลงอยู่ดีๆ ทำไมบรรยากาศถึงเต็มไปด้วยเสน่หารวดเร็วขนาดนี้?
ดูเหมือนว่า เธอเป็นคนเริ่มก่อน มองดูมือของทั้งสองที่ยังจับกันไว้ เจียงหยุนเอ๋อขยับเขยื้อน
คล้ายว่าลี่จุนถิงรู้ว่าเธอจะดึงมือกลับอย่างไรอย่างนั้น พลิกมือแล้วทับมือซ้ายของเธอไว้บนเบาะนุ่ม “อย่าขยับ กำลังขับรถอยู่!”
เลือกเหตุผลได้สุดยอดจริงๆ เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดอยู่นาน พูดขึ้น น้ำเสียงของเธอเคล้าไปด้วยความอ่อนโยน “ขับรถสำคัญ ดังนั้นเอ่อ คุณปล่อยมือเถอะค่ะ!”
ลี่จุนถิงพยักหน้าเห็นด้วย เจียงหยุนเอ๋อแอบดีใจ ที่แท้ก็ต้องหาเหตุผลมาโน้มน้าวนี่เอง!
ทว่าใครจะไปรู้ วินาทีต่อมากลับได้ยินคำปฏิเสธที่ชอบธรรม “อื้ม ขับรถสำคัญ ดังนั้นคุณอย่าขยับไปมาแล้วทำให้ผมไม่มีสมาธิ”
เจียงหยุนเอ๋อหมดคำจะพูดแล้ว
ฉันขยับไปมา? ตอนนี้คุณกำลังจับมือฉันแล้วลูบไล้ไปมาชัดๆ?
เจียงหยุนเอ่อรู้สึกหายใจไม่ออก หมดคำจะพูด ไหวพริบคนละระดับ มีอุปสรรคเวลาพูดคุยกันจริงๆ!
หันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง เจียงหยุนเอ๋อพยายามบอกให้ตนเองสงบสติ จากนั้นก็เห็นรถของเวียร์ขับผ่านไป
เพราะพวกเขาแข่งกันขับรถ ดังนั้นตอนที่ไปถึงไร่สตรอว์เบอร์รีก็เก้าโมงเช้าแล้ว