แสงแดดอบอุ่น ลมเย็นๆ เคล้าไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของสตรอว์เบอร์รีปะทะมาตรงหน้า
มองดูสตรอว์เบอร์รีสีแดงแซมอยู่ตรงใบไม้สีเขียวในโรงเพาะชำ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด หันหน้ากลับไปด้วยความเกรงใจ ลี่จุนซินตื่นเต้นมาก
ในโรงเพาะชำที่อบอุ่นมีผึ้งบินมาเก็บน้ำหวานเป็นครั้งคราว จากนั้น ก็ได้ยินเสียงลี่จุนซินที่ร้องด้วยความตกใจเป็นพักๆ
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้น เห็นลี่จุนซินหลบอยู่ด้านหลังเวียร์ จับเสื้อของเวียร์แน่น
“คุณไม่กลัวเหรอ?” ลี่จุนถิงเดินมาใกล้เธอ ก้มหน้าลงมาใกล้แล้วเอ่ยถาม
เจียงหยุนเอ๋อยิ้ม ส่ายหน้า จากนั้นหยิบสตรอว์เบอร์รีในตะกร้าป้อนให้ลี่จุนถิงกิน “นี่ค่ะ หวานมากเลยนะ ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะเจอสตรอว์เบอร์รีสีส้ม ว่ากันว่าสตรอว์เบอร์รีสีนี้หวานที่สุด นี่คะ อ้าม—”
ลี่จุนถิงยิ้มบางๆ นัยน์ตาสีดำปกคลุมไปด้วยดอกท้อ อ่อนๆ คล้ายกำลังเต้นด้วยความครึกครื้น
“หยุนเอ๋อร์ เธอเจอผู้ชายแล้วลืมพี่สาว ฉันเอาด้วย!” ลี่จุนซินร้องตะโกนแล้ววิ่งมือ ยื่นมือมาจะแย่ง
ลี่จุนถิงมือไว รับสตรอว์เบอร์รีมาแล้วใส่ลงไปในตะกร้าของตน “ล้างก่อนค่อยกินเถอะครับ เชื่อฟังนะ!”
สวยงาม ลูบผมของเจียงหยุนเอ๋อ เพิกเฉยต่อลี่จุนซิน
“อื้ม~” เจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่แววตาที่มองแผ่นหลังของลี่จุนถิงกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เชื่อฟังนะ ฮ่าๆๆ ความรู้สึกที่ถูกรัก
ลี่จุนซินถูกเพิกเฉยอีกครั้ง
กินอาหารท้องถิ่นที่ในไร่ พวกเขารู้สึกว่ากลับเช้าไปก็ไม่มีความหมายอะไร ดังนั้นจึงหาที่โล่งๆมีแดดแล้วล้างสตรอว์เบอร์รี
กินแค่สตรอว์เบอร์รีอย่างเดียวก็ดูน่าเบื่อไปหน่อย ด้วยเหตุนี้เวียร์วิ่งกลับไปที่รถแล้วหยิบไพ่ออกมาสองสำรับ “เราสี่คน เล่น‘หนีเร็ว’เป็นไง?”
“เล่นกันแค่สี่คนน้อยเกินไปแล้วรึเปล่า” ลี่จุนซินรู้สึกว่าสี่คนน่าเบื่อเกินไปแล้ว หันหน้ากลับไปเห็นคู่รักคู่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาพอดี
“พวกเราเรียกพวกเขามานี่เถอะ เล่นหกคนถึงจะสนุก”
เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้สึกว่าสี่คนน่าเบื่อเกินไป พยักหน้าเห็นด้วย
ลี่จุนซินวิ่งไป เอ่ยถาม จากนั้นคู่รักคู่นั้นก็เดินตามมา พวกเขาแนะนำตัว แล้วเริ่มเล่นเกม
คู่รักคู่นั้น ผู้หญิงชื่อเซี่ยปิง ผู้ชายชื่อหนี่เจี๋ย
“ถ้าอย่างนั้นก็สามต่อสาม!” สตรอว์เบอร์รีในมือของลี่จุนถิงเพิ่งยื่นเข้าปากแล้วเปลี่ยนไปให้เจียงหยุนเอ๋อแทน เป็นสีส้ม
หลังจากนั้น เขาเสนอะ “ผู้หญิงหนึ่งทีม ผู้ชายหนึ่งทีม?”
เจียงหยุนเอ๋อกลืนสตรอว์เบอร์รีเข้าปาก เธอเคยได้เรียนรู้ทักษะการเล่นไล่ของลี่จุนถิงมาก่อน แบ่งกลุ่มแบบนี้เสียเปรียบเกินไปแล้ว!
แต่ใครจะไปรู้ยังไม่ทันได้เอ่ยปากโต้เถียง ลี่จุนซินก็ตอบตกลงด้วยความทระนงไปแล้ว “ได้ ไม่มีปัญหา!”
หันหน้ากลับไป เจียงหยุนเอ๋อได้ยินหนี่เจี๋ยโน้มตัวเข้าไปใกล้เซี่ยปิงแล้วพูดกระซิบข้างหู “ถ้าพวกคุณแพ้ กลับไปต้องให้ผมลงโทษโดยการหอม”
ลี่จุนถิงคงไม่มีความคิดแบบเดียวกันใช่ไหม?
หนึ่งวินาทีต่อมา แก้มที่ไม่เอาไหนของเจียงหยุนเอ๋อแดงระเรื่ออีกแล้ว ทำไมตนถึงใสซื่อแบบนี้ ถึงยังไงก็เป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว หอมสักครั้งจะเป็นไรไป เจียงหยุนเอ๋อปรับสีหน้า
เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาโกง เวียร์เสนอให้ผู้ชายทั้งสามผู้หญิงทั้งสามแยกกันหนึ่ง “ต้องรู้ว่า จุนถิงกับเวียร์อยู่ด้วยกันไม่มีเรื่องดีๆแน่นอน ต้องสลับไพ่กันแน่!”
ตีพรมปิคนิค ลี่จุนซินเริ่มจัดแจงที่นั่ง
เพราะก่อนหน้านี้ลี่จุนซินแพ้บ่อยมาก ดังนั้นจึงรู้เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขาเป็นอย่างดี—สำหรับคู่ต่อสู้ที่แตกต่างกัน ทำได้เพียงใช้สมองที่เหมาะสมที่สุดในการเล่น
ดึงชายเสื้อของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากจะเชื่อจริงๆประธานใหญ่ผู้มีความสามารถในการคิดคำนวนจะทำเรื่องแบบนี้ “พวกนายสองคนทำเรื่องไร้ยางอายโดยการสลับไพ่ด้วยเหรอเนี่ย?”
“นี่ หยุนเอ๋อร์ เธออย่าเป็นกบฏสิ!” สตรอว์เบอร์รีในปากของลี่จุนซินยังไม่ทันกลืนลงคอ รีบพูดขึ้นทันที “ตอนนี้เธอกับเขาเป็นศัตรูกัน!”
ลี่จุนถิงมองไปที่เจียงหยุนเอ๋อ ยิ้มร่า “วิธีการรับมือนั้น แตกต่างกันตามบุคคล! เอาชนะพี่ ไม่ต้องใช้สมอง!”
“นาย……” เหิมเกริมเกินไปแล้ว!
เพราะก่อนหน้านี้ลี่จุนซินพูดเอาไว้แล้ว หลังจากนั้นลี่จุนซินก็ยอมสารภาพ
ดังนัน้พวกเธอสามคนจึงเล่นไพ่ด้วยความระมัดระวังอย่างมาก ทั้งต้องป้องกันไม่ให้ตนทิ้งไพ่ผิดใบแล้วยังต้องป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายฉวยโอกาส ทั้งยังต้องป้องกันไม่ให้คนตรงหน้าสลับไพ่
เล่นไพ่จบหนึ่งตา เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเหนื่อยมาก อดไม่ได้ที่จะพูดเสนอความคิดเห็น “พวกเราก็จะเปลี่ยนกลยุทธ์ในการต่อสู้! เห็นได้ชัดว่าหนี่เจี๋ยไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนั้น ดังนั้นพี่คอยจับตาดูเวียร์ให้ดี ฉันกับเซี่ยปิงรับผิดชอบจับตาดูลี่จุนถิงดีไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองลี่จุนถิงด้วยความภาคภูมิใจ “กลยุทธ์จับตามอง”
ทีมผู้หญิงต่างเห็นด้วย ในตอนท้าย ลี่จุนถิงตอบเสียงเรียบ ทำให้ทุกคนโมโหทันที
“คุณมองไปเถอะ ผมมีวิธีสลับไพ่อยู่ดี ทั้งยังสลับโดยที่ไม่มีใครรู้”
เจียงหยุนเอ๋อไม่เชื่อว่าลี่จุนถิงจะมีความสามารถนี้ แต่เล่นไปหลายตา พวกเธอไม่เคยชนะเลยสักครั้งจริงๆ
ทุกครั้งทั้งที่อีกแค่ก้าวเดียวก็จะชนะแล้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเธอทำไปทั้งหมดก็สูญเปล่า
ในที่สุด เจียงหยุนเอ๋อทนไม่ไหวแล้ว หันหน้ากลับไป มองลี่จุนถิงด้วยแววตาราวกับคบเพลิง “พูดมา คุณได้สลับไพ่รึเปล่า?”
“คุณมองมือผมตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ว่า……” เจียงหยุนเอ๋อหันกลับไปมองไพ่ของตนด้วยความโมโห ตนจ้องขนาดนี้แล้ว เขาไม่มีโอกาสที่จะสลับไพ่ได้จริงๆ
หกคนเล่นไพ่สองสำรับ ไพ่นี้ยากที่จะคำนวนจริงๆ หรือว่า พวกเธอโชคไม่ดีขนาดนั้นจริงๆเหรอ?
ตอนที่กินสตรอว์เบอร์รีจนหมด พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว
คำนวนอัตราการชนะ เล่นไปทั้งหมดสิบเก้าตา พวกเจียงหยุนเอ๋อชนะแค่สามตา น้อยจนน่าสงสาร
เห็นได้ชัด ทุกคนแพ้จนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ใครจะไปรู้ยังไม่ได้เดินออกไปจากสวนสตรอว์เบอร์รี ความลับที่แพ้ถูกเปิดเผยออกมา ลี่จุนถิงลวงตาด้วยความเจ้าเล่ห์
เพราะรถจอดด้านนอกสวน ตอนกลับทุกคนจึงต้องเดินผ่านคันนา
น่าจะเป็นเพราะสองสามวันมานี้อากาศอบอุ่น ตอนเดินผ่านสระน้ำมีเสียงกบร้องเป็นครั้งคราว
คู่รักที่อยู่ข้างๆผู้ชายที่ชื่อหนี่เจี๋ยได้ยิน รู้สึกสนุกขึ้นมา โอบเอวเซี่ยปิงแล้วก้มหน้าลงถาม “วันนี้ผมหล่อไหมครับ ชนะพวกคุณตั้งหลายตาขนาดนี้!”
“เป็นไปตามคาด เป็นไปตามคาด!” เวียร์หัวเราะแล้วพูดติดตลก “หนี่เจี๋ยคนอย่างคุณ เซี่ยปิงรู้สึกว่าคุณหล่อก็ดีแล้ว ทำไมต้องไปแข่งกับกบด้วยล่ะ?”
หลังจากฟังสิ่งที่เวียร์พูดจบ สีหน้าของหนี่เจี๋ยก็ยิ่งแย่
มองดูเขาประสานมือ เหมือนจะต่อสู้กับกบ เจียงหยุนเอ๋อปากไว กลั้นหัวเราะแล้วพูด “พอได้แล้วๆ ฉันรู้สึกว่าหนี่เจี๋ยหล่อดีนะ ไปกันเถอะๆ อย่าไปแข่งกับกบเลย กลับกันเถอะ!”
“สลับไพ่ แล้วยังคาดหวังให้กบบอกว่าคุณหล่อ?” ลี่จุนถิงหัวเราะในลำคอ แล้วเดินไปก่อน
“ที่แท้พวกนายก็สลับไพ่นี่เอง” ลี่จุนซินและเซี่ยปิงเริ่มโจมตี
“ลี่จุนถิง คุณเป็นคนต้นคิดแท้ๆ บอกว่าคุณจะดึงดูดความสนใจเอง แล้วให้ผมกับเวียร์ลงมือ”
กินมื้อดึกข้างนอกไม่ถือว่าดึกมาก ประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆ
หลังจากกินข้าวเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินและผู้หญิงที่ชื่อว่าเซี่ยปิงแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อเสร็จ พวกเขาทั้งหกคนก็แยกย้ายกัน