บทที่ 734 ความหวาดกลัวและเป็นกังวลของเธอ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ความเป็นจริงเจียงหยุนเอ๋อและกุ่นกุ่นเจ้าน้อยก็เล่นด้วยกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะกุ่นกุ่นเจ้าน้อยเพิ่งอายุได้สามเดือน ทุกวันต้องนอนประมาณ15—20ชั่วโมง

อีกทั้งระยะเวลานี้ เป็นช่วงที่สมองของลูกน้อยพัฒนาด้วยความรวดเร็ว และเคลื่อนไหวด้วยความคล่องแคล่ว เวลาที่กุ่นกุ่นเจ้าน้อยตื่นขึ้นมานั้น เจียงหยุนเอ๋อจะคอยอ่านหนังสือให้เธอฟัง อ่านกลอนโบราณต่างๆ

ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังจำไม่ได้ แต่ก็ช่วยพัฒนาสติปัญญาได้ อีกเรื่องนี้เจียงหยุนเอ๋อมักจะสอนเธอเรียก “ป๊าป๊าหม่าหม่า” แต่ทุกครั้งกุ่นกุ่นเจ้าน้อยจะพูดคำว่า “อ่าอ่าอ่า”

หลังจากเจียงหยุนเอ๋อป้อนน้ำนมแม่ให้กุ่นกุ่นเจ้าน้อย กุ่นกุ่นเจ้าน้อยก็นอนหลับ เจียงหยุนเอ๋อคอยเฝ้ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยอยู่ข้างๆพร้อมกับดูดีวีดี

ตอนใกล้เที่ยง กุ่นกุ่นเจ้าน้อยตื่นนอน จากนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็อุ้มเธอ เข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมมื้อกลางวันให้กับลี่จุนถิง

เพราะโม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีไปเดินซื้อของ ตอนเที่ยงไม่กลับมากินข้าว ตอนเที่ยงถวนจื่อเองก็อยู่โรงเรียนไม่กลับมา ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อจึงตัดสินใจไปหาลี่จุนถิงแล้วกินมื้อเที่ยงด้วยกัน

หลังจากทางห้องครัวเตรียมอาหารให้เจียงหยุนเอ๋อเสร็จแล้วนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็อุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยไปบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป

หลังจากทั้งสามกินมื้อเที่ยงที่ห้องทำงานของลี่จุนถิงเสร็จแล้วนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็อุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยไปนอนกลางวันที่ห้องรับรอง

เธอตื่นเพราะลี่จุนซินปลุกให้ตื่น

“หยุนเอ๋อ หยุนเอ๋อ ตื่นเร็ว”

เจียงหยุนเอ๋อลืมตาขึ้นก็เห็นสีหน้ากระวนกระวายของลี่จุนซิน เจียงหยุนเอ๋อรีบนั่งลง

“พี่คะ เป็นอะไรไปคะ?”

ลี่จุนซินเม้มกัดริมฝีปาก ไม่รู้จะบอกเจียงหยุนเอ๋ออย่างไร

ที่แท้ เมื่อกี้ตอนที่ลี่จุนซินมารายงานเรื่องงานให้ลี่จุนถิงฟัง โม่เสี่ยวฮุ่ยโทรศัพท์มาหาลี่จุนถิง โม่เสี่ยวฮุ่ยบอกว่า จู่ๆซูม่านลีซึ่งเป็นแม่ของเจียนงหยุนเอ๋อก็หายตัวไป

หลังจากลี่จุนถิงฟังจบ ถึงแม้สีหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

“แม่ครับ แม่อย่าเพิ่งกระวนกระวายนะครับ แม่แน่ใจแล้วเหรอครับว่าหาทั่วแล้ว? แม่ได้บอกให้คนในห้างคอยช่วยหาด้วยรึเปล่าครับ?”

“แม่แน่ใจว่าหาหมดทุกที่แล้ว รวมถึงร้านทุกร้านที่ไปเมื่อตอนเช้า ผู้จัดการที่นี่สั่งให้คนหาแล้ว รวมถึงห้องน้ำทุกชั้นก็หาแล้ว แต่ก็ไม่เจอร่องรอย”

โม่เสี่ยวฮุ่ยกระวนกระวายอย่างมาก เดินซื้อของอยู่ดีๆ ทำไมถึงหายไปได้ล่ะ? อีกทั้งเธอยังกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจของเจียงหยุนเอ๋อ เพราะถึงอย่างไรเจียงหยุนเอ๋อก็เพิ่งหายจากการป่วยหนัก

“แม่ครับ แม่อย่าเพิ่งเป็นกังวล แม่กลับมาก่อน ให้พวกคนที่ห้างหาต่อไป แม่มาที่บริษัทแล้วบอกให้พวกผมฟังก่อนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ระหว่างทางกลับมาแม่ระวังตัวด้วยนะครับ”

หลังจากวางสาย ลี่จุนถิงสั่งให้ซู่จี้งวี้และฝ่านประสานงานของห้างสรรพสินค้า เพิ่มกำลังคนแล้วค้นหาอีกหนึ่งรอบ

“จินถิง แล้วทางด้านหยุนเอ๋อจะทำยังไง?” ลี่จุนซินเห็นสีหน้าเป็นกังวลของลี่จุนถิง ถามด้วยความระมัดระวัง

“พี่ครับ พี่เข้าไปช่วยผมปลุกเธอก่อน ตอนนี้ผมคิดหาวิธีก่อน”

ลี่จุนซินเดินเข้าไปในห้องรับรอง เห็นเจียงหยุนเอ๋อนอนหลับสบาย ไม่อยากจะปลุกเธอ แต่ว่าตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จำเป็นต้องบอกเธอ

เธอปลุกเจียงหยุนเอ๋อด้วยความระมัดระวัง จากนั้นพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้อย่างอ้อมค้อม

ถึงแม้ลี่จุนซินจะพูดอ้อมค้อม แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อฟังออก

“อะไรนะคะ? พี่บอกว่าอะไรนะ?” เจียงหยุนเอ๋อหายง่วงทันที ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ

เจียงหยุนเอ๋อไม่อาจสนใจกุ่นกุ่นเจ้าน้อยที่นอนอยู่ข้างๆแล้ว ลงจากเตียงแล้ววิ่งออกไป ลี่จุนซินมองดูเธอกระวนกระวาย ขมวดคิ้วเป็นปม ถอนหายใจ หมุนตัวหันหลังแล้วอุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยที่ตื่นแล้วขึ้นมา เดินออกไป

ลี่จุนถิงมองเจียงหยุนเอ๋อที่วิ่งเท้าเปล่าออกมา ถอนหายใจ เหยียดตัวลุกขึ้นแล้วช้อนตัวเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา วางไว้บนโซฟา จากนั้นก็เดินไปหยิบรองเท้าของเธอที่ห้องรับรอง แล้วสวมให้เธอ

ลี่จุนซินนั่งลงข้างๆเธอ คอยปลอบโยนเธอ “หยุนเอ๋อ เธออย่าเพิ่งเป็นกังวล ตอนนี้จุนถิงส่งคนไปตามหาแล้ว เดี๋ยวหลังจากที่แม่มาถึง พวกเราค่อยถามรายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

ลี่จุนถิงเงียบ ย่อตัวลงตรงหน้าเจียงหยุนเอ๋อ จับจ้องไปที่เธอ ทั้งยังจับมือเจียงหยุนเอ๋อแน่น

เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงบนโซฟา นานครู่หนึ่งกว่าจะดึงสติกลับา ถามด้วยเสียงสั่นเทา “จุนถิง แม่ของฉันหายตัวไปเหรอคะ?”

ลี่จุนถิงพยักหน้า “ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งเป็นกังวล ผมส่งคนไปหาแล้ว”

เจียงหยุนเอ๋อจ้องมองไปที่ลี่จุนถิง พยักหน้าเศร้าๆ

ทั้งสามคนต่างไม่พูดไม่จา ภายในห้องเงียบอย่างมาก แม้แต่กุ่นกุ่นเจ้าน้อยก็เหมือนสัมผัสได้ ไม่ส่งเสียงร้องใดๆ

รอพักหนึ่ง โม่เสี่ยวฮุ่ยก็มาถึงห้องทำงาน หายใจหอบถี่ เหงื่อเต็มหน้าผาก

ลี่จุนถิงบอกให้ซู่จี้งยี้เทน้ำให้โม่เสี่ยวฮุ่ยกินก่อนหนึ่งแก้ว โม่เสี่ยวฮุ่ยดื่มหมดแก้วในครั้งเดียว จากนั้นหันไปมองเจียงหยุนเอ๋อ

เธอเห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งหน้าเศร้าบนโซฟา ยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม

เจียงหยุนเอ๋อสัมผัสได้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยกำลังมองดูเธอ เงยหน้าขึ้นเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยมองดูเธอด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เธอดึงสติกลับมาทันที ลุกขึ้น แล้วพาโม่เสี่ยวฮุ่ยมานั่งที่โซฟา

“แม่คะ แม่บอกหนูหน่อยได้ไหมคะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

“หยุนเอ๋อ แม่ขอโทษเราด้วย แม่ไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่ของเราหายตัวไป ผิดที่แม่ไม่ได้ไปกับเธอ แม่คิดว่าคนของจุนถิงคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ลับๆ ก็เลยคิดว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ซูม่านลีหายตัวไป โม่เสี่ยวฮุ่ยรู้สึกผิดอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่เห็นเจียงหยุนเอ๋อ ตอนนี้เธอร้อนใจจนร้องไห้แล้ว

ถึงแม้เมื่อกี้เจียงหยุนเอ๋อจะตกใจจนหน้าถอดสี แต่ตอนนี้เธอดึงสติกลับมาแล้ว เธอรู้ดีว่าตอนนี้ตนร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์ เรื่องนี้ต้องสืบให้แน่ชัดจึงจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เจียงหยุนเอ๋อตบมาโม่เสี่ยวฮุ่ยคล้ายเป็นการปลอบโยน “แม่คะ แม่ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ หนูไม่โทษแม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือแม่ต้องบอกพวกหนูว่าเมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกหนูถึงจะรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง ถึงจะคิดหาวิธีได้”

โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้โทษตน ปรับอารมณ์ของตนเองเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟัง

“ตอนเช้าหลังจากพวกแม่เดินซื้อของเสร็จ ก็ไปกินข้าว หลังจากกินข้าวเสร็จพวกแม่ก็ไปเดินดูเสื้อผ้าที่ร้านข้างๆ ตอนที่แม่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่นาน ม่านลีก็บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ”

“เพราะแม่กำลังจะไปลองเสื้อ แม่ก็เลยไม่ได้ตามเธอไป เธอเองก็บอกว่ามีคนของจุนถิงคอยดูแลความปลอดภัยอย่างลับๆอยู่ บอกแม่ว่าไม่ต้องตามเธอไป”

“หลังจากแม่ลองเสื้อเสร็จ ม่านลีก็ยังไม่กลับมา แม่คิดว่าเธอคงถ่ายหนัก ดังนั้นจึงรอเธอที่ร้านพักใหญ่ ระหว่างนั้นแม่ก็ลองเสื้อผ้าอีกหลายตัว หลังจากลองเสร็จแม่ก็เห็นว่าเธอยังไม่กลับมา จากนั้นแม่ก็เริ่มกระวนกระวาย”

“แม่ไปหาคนของจุนถิงแล้วถามว่าเห็นม่านลีออกมาจากห้องน้ำไหม พวกเขาบอกว่าไม่เห็น หลังจากนั้นแม่ก็ไปหาที่ห้องน้ำ แม่หาทุกห้องแล้ว แต่ก็ไม่เห็นม่านลี”

“แม่ก็เลยรีบไปหาผู้จัดการแห้ง เขาส่งคนไปหาที่ร้านที่พวกเราไปเมื่อตอนเช้า แต่ก็ไม่เจอ แม่ก็เลยรีบโทรหาจุนถิง”

เจียงหยุนเอ๋อฟังโม่เสี่ยวฮุ่ยพูดจนจบด้วยท่าทางที่คล้ายนิ่งสงบ แต่เมื่อเธออ้าปากขึ้นก็เผยความหวาดกลัวและเป็นกังวลออกมา