ตอนที่ 742 อับอายขายหน้า

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

หาง​ตาขอ​งอ​วี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​ไป​เห็น​ฉี​อ๋อง​เดิน​มา​แต่ไกล​ ​แต่​เขา​ไม่​อยาก​ไป​สนใจ

แม้​เขา​จะ​รู้​ล่วงหน้า​อยู่​แล้ว​ว่า​จะ​โง่เง่า​ผู้​นี้​จะ​ต้อง​ก่อเรื่อง​ขึ้น​แน่นอน​ ​และ​ตัว​เขา​ก็​คาดหวัง​รอคอย​ ​แต่​จะ​ให้​อีก​ฝ่าย​มองออก​ไม่ได้

หาก​อีก​ฝ่าย​มองออก​แล้ว​ ​เขา​จะ​ทำให้​อีก​ฝ่าย​เกรงกลัว​ได้​อย่างไร

“​ท่าน​อ๋อง​ ​ข้า​ขอดื​่ม​ให้ท่าน​หนึ่ง​จอก​”​ ​ผู้​ที่​กล่าว​ขึ้น​คือ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย​นั่นเอง

ตอนที่​เดินทาง​เข้ามา​ใน​วัง​ ​ทั้งสอง​ได้​สนทนา​กัน​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​ดังนั้น​อวี​้​จิ​่น​จึง​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​ให้​ไว้หน้า​เขา​และ​ร่วม​ดื่ม​กัน​จน​หมด​จอก

คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย​ยิ้ม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ช่าง​เป็น​คนที​่​ใจกว้าง​เสีย​จริง​ ​นับจากนี้​ ​ต่อไป​หาก​เชิญ​ท่าน​อ๋อง​มาร​่ว​มดื​่ม​สุรา​ด้วย​ ​หวัง​ว่า​ท่าน​จะ​ให้เกียรติ​เดินทาง​มา​”

เซียง​อ๋อง​ผู้​ที่​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ

อย่า​เห็น​ว่า​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย​เป็น​เพียงแค่​ชิน​อ๋อง​ธรรมดา​ ​แต่​ใน​ตระกูล​เขา​นับว่า​เป็น​ผู้​มีหน้ามีตา​ไม่น้อย​ ​ใน​อดีต​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย​ไม่เคย​มาป​ระ​จบ​ประแจง​เขา​เช่นนี้​เลย

ความรู้สึก​ไม่​พึงพอใจ​ทวีคูณ​มากยิ่งขึ้น​ ​ทำให้​ความลังเล​ของ​เซียง​อ๋อง​ถูก​ขจัด​ทิ้ง​ไป​จน​สิ้น

เขา​ก้าว​เข้าไป​ด้านหน้า​แล้ว​ตะโกน​ว่า​ ​“​พี่​เจ็ด​!​”

ทุกคน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป

เซียง​อ๋อง​ยก​จอก​สุรา​ใน​มือขึ้น​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​นับจาก​วันนั้น​ ​ข้า​ยัง​ไม่เคย​มีโอกาส​สนทนา​กับ​ท่าน​พี่​เลย​ ​ใน​วันนี้​ขอดื​่ม​ให้​พี่​เจ็ด​สัก​หนึ่ง​จอก​”

อวี​้​จิ​่​นม​อง​ไป​แล้ว​ยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​เยาะเย้ย

“​พี่​เจ็ด​คงจะ​ไม่​คิด​หักหน้า​ข้า​ใช่​หรือไม่​”​ ​จู่ๆ​ ​เซียง​อ๋อง​ก็​รู้สึก​ประหม่า

พี่​เจ็ด​ไอ้​สารเลว​นี่​มัก​ไม่​ทำตาม​สถานการณ์​ที่​ดำเนิน​ไป​ ​หาก​เขา​ไม่​ร่วม​ดื่ม​สุรา​กับ​ตน​จอก​นี้​ ​แล้ว​แผนการ​จะ​สำเร็จ​ได้​อย่างไร

ในขณะที่​เซียง​อ๋อง​รู้สึก​ประหม่า​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ได้​ยิ้ม​ขึ้น​กล่าวว่า​ ​“​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ได้​อย่างไรเล่า​ ​น้อง​แปด​ยินดี​จะ​ดื่ม​สุรา​กับ​ข้า​ ​ข้า​รู้สึก​ดีใจ​ยิ่งนัก​”

เซียง​อ๋อง​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​โบกมือ​เรียก​นางใน​คน​หนึ่ง​เข้ามา​ ​นางใน​ผู้​นั้น​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​ถาด​ใน​มือ

เซียง​อ๋อง​หยิบ​เหยือก​สุรา​หยก​ขาว​บน​ถาด​นั้น​ ​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ริน​สุรา​ให้​พี่​เจ็ด​เอง​”

ก่อนหน้านี้​อวี​้​จิ​่​นร​่ว​มดื​่ม​สุรา​กับ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย​ ​สุรา​ใน​จอก​นั้น​หมด​แล้ว​ ​การกระทำ​นี้​ของ​เซียง​อ๋อง​จึง​ไม่ได้​เป็นที่ดึงดูด​ของ​ผู้ใด

เซียง​อ๋อง​ใช้​โอกาส​ชั่ว​วินาที​ที่​ริน​สุรา​ลง​ไป​สะบัด​ปลายนิ้ว​ซึ่ง​ซ่อน​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​เพื่อให้​ยา​หล่น​ลง​ไป​ใน​จอก​ ​การกระทำ​นี้​ทำให้​หัวใจ​ของ​เขา​เต้น​โครมคราม​ราวกับ​ฟ้าร้อง​ ​ราวกับว่า​หัวใจ​จะ​หลุด​ออกมา​จาก​ลำคอ

“​เชิญ​พี่​เจ็ด​”​ ​เมื่อ​ทุกสิ่ง​อย่าง​กระทำ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เซียง​อ๋อง​จึง​ได้​ยื่น​จอก​สุรา​ไป​ให้​อวี​้​จิ​่น​ ​โดย​ไม่ได้​แสดงท่าที​ผิดแปลก​ออกมา

อวี​้​จิ​่​นก​้​มล​งม​อง​ไป​ที่​จอก​สุรา

สุรา​สีเหลืองอำพัน​สั่นคลอน​ไปมา​อยู่​ใน​จอก​หยก​ ​เป็น​จอก​ของ​ราช​วัง​ที่​ไม่​อาจ​หา​ซื้อ​ได้​ตาม​ท้องตลาด

สายตา​ของ​เขา​จับจ้อง​อยู่​เนิ่นนาน​จึง​ทำให้​หัวใจ​ดวง​นั้น​ของ​เซียง​อ๋อง​ตื่นเต้น​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

พี่​เจ็ด​เฉลียวฉลาด​ยิ่งนัก​ ​เขา​คง​ไม่ได้​รู้สึก​ถึง​ความผิดปกติ​ไป​ใช่​หรือไม่​!

เซียง​อ๋อง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป​ยัง​สายตา​ของ​อวี​้​จิ​่​นที​่​จับจ้อง​ไป​ทาง​จอก​สุรา​ซึ่ง​ตน​ใส่ยา​ลง​ไป

สุรา​ใน​จอก​ยังคง​เป็น​สีเหลืองอำพัน​ ​ดู​ไม่​ต่าง​จาก​สุรา​ใน​จอก​ของ​เขา

ไม่​หรอก​ ​พี่​เจ็ด​ไม่ได้​พบ​ความผิดปกติ​ใด

เซียง​อ๋อง​ได้​แต่​ปลอบใจ​ตนเอง​ ​ด้านหลัง​ของ​เขา​กลับ​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย​เหงื่อ

วินาที​นี้​เขา​เพิ่งจะ​รู้ตัว​ว่า​ทุกสิ่ง​อย่างมากมาย​ที่​เขา​เป็น​คน​ลงมือทำ​เอง​ ​แม้​จะ​ไม่​อยาก​ตื่นเต้น​กังวล​ก็​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้

เมื่อ​อวี​้​จิ​่​นพบ​ว่า​ตน​ทำให้​อีก​ฝ่าย​ตกใจ​ได้​พอประมาณ​แล้ว​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​ยื่น​จอก​สุรา​ออก​ไป​ยก​ชนกับ​จอก​สุรา​ของ​เซียง​อ๋อง

เซียง​อ๋อง​รู้สึก​โล่งใจ​แล้ว​รีบ​ชน​จอก​กับ​อวี​้​จิ​่น

อวี​้​จิ​่น​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ยก​จอก​ขึ้นไป​ที่​ริมฝีปาก​ ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ยกขึ้น​ช่วย​ประคอง​จอก​ ​จากนั้น​เงยหน้า​ขึ้น​ดื่ม​จน​หมด​จอก

เซียง​อ๋อง​มอง​ไป​ทาง​ริมฝีปาก​แดง​เรื่อ​ที่​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย​สุรา​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​วางใจ

เพียงแค่​ดื่ม​เข้าไป​ก็​พอแล้ว​ ​หากว่า​ยานั​้​นอ​อก​ฤทธิ์​ได้​ดังเช่น​พี่​สี่​กล่าว​เอาไว้​ ​ใน​วันนี้​พี่​เจ็ด​ก็​คงจะ​จบเห่​แน่

มุม​ปากของ​เขา​เผยอ​ขึ้น​โดยไม่รู้ตัว​ ​เซียง​อ๋อง​ยิ้ม​ออกมา​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​แท้จริง​ก่อน​จะ​เตรียมตัว​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​ตำแหน่ง​ของ​ตน

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​ไป​ยัง​เขา​แล้ว​ยิ้ม​ขึ้น​จางๆ​ ​“​น้อง​แปด​อย่า​ได้​รีบร้อน​ใจ​ไป​”

สีหน้า​ของ​เซียง​อ๋อง​ไม่ได้​แสดงท่าที​ใด​ออกมา​ ​แต่​ใน​ใจ​เขา​กลับ​ปรากฏ​ความระแวดระวัง​ขึ้น

อวี​้​จิ​่น​เอื้อมมือ​ไป​หยิบ​เหยือก​สุรา​ที่​เมื่อ​ครู่​เซียง​อ๋อง​เพิ่งจะ​วาง​ลง​ไป​ใน​ถาด​ ​แล้ว​ริน​สุรา​จน​เต็ม​จอก​ให้​เซียง​อ๋อง

การกระทำ​นั้น​ช่าง​ว่องไว​เหลือเกิน​ ​เมื่อ​เซียง​อ๋อง​ได้สติ​กลับคืน​มา​พบ​ว่า​สุรา​นั้น​ถูก​ริน​จน​เต็ม​จอก​แล้ว

อวี​้​จิ​่​นริน​สุรา​ให้​แก่​ตนเอง​จน​เต็ม​จอก​เช่นกัน​ ​เขา​ยก​จอก​แล้ว​ยิ้ม​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่​ขอดื​่ม​ให้​น้อง​แปด​จอก​หนึ่ง​เช่นกัน​”

เซียง​อ๋อง​กุม​จอก​สุรา​หยก​นั้น​ไว้​ใน​มือ​แน่น​ ​เขา​รู้สึก​กระสับกระส่าย

สีหน้า​ของ​อวี​้​จิ​่น​ดู​หม่นหมอง​เล็กน้อย​ ​กล่าว​ด้วย​ความไม่พึงพอใจ​ว่า​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​น้อง​แปด​เจ้า​ไม่​อยาก​ดื่ม​หรือ​อย่างไร​”

เซียง​อ๋อง​ชะงัก​ลง​แล้ว​รีบ​ยิ้ม​ขึ้น​ว่า​ ​“​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ได้​อย่างไรเล่า​”

เขา​เดิน​ตรง​เข้ามา​ดื่ม​สุรา​ให้​แก่​พี่​เจ็ด​ท่ามกลาง​สายตา​ทุกคน​จับจ้อง​ ​บัดนี้​เมื่อ​พี่​เจ็ด​จะ​ดื่มอวยพร​กลับ​ให้​แก่​เขา​ ​หาก​เขา​ปฏิเสธ​ละ​ก็​ ​อีกสักครู่​เมื่อ​พี่​เจ็ด​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ทุกคน​คงจะ​สงสัย​ว่า​เป็นฝี​มือ​เขา

คิดได้​ดังนี้​เซียง​อ๋อง​ก็​ไม่กล้า​รีรอ​ ​ยก​จอก​ขึ้น​ดื่ม​จน​หมด

“​น้อง​แปด​ช่าง​ยอดเยี่ยม​เสีย​จริง​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ดื่ม​สุรา​ใน​จอก​ของ​ตน

จากนั้น​เซียง​อ๋อง​จึง​ได้​ปลีกตัว​ออกมา​ ​เขา​ส่งสายตา​ไป​ทาง​ฉี​อ๋อง​อย่าง​เงียบๆ​

ฉี​อ๋อง​เดิน​ตรง​เข้ามา​แล้ว​ดื่ม​สุรา​กับ​เขา​ด้วย​เช่นกัน

เมื่อ​พบ​ว่า​อวี​้​จิ​่น​ไม่​ปฏิเสธ​การ​ดื่ม​สุรา​กับ​ผู้ใด​ ​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​เขา​ดื่ม​สุรา​ไป​หลาย​จอก​ทีเดียว​ ​ในที่สุด​เซียง​อ๋อง​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​เขา​แอบ​เช็ด​เหงื่อ​ที่อยู่​ใน​ฝ่ามือ​ ​เพื่อ​ไม่​ให้​ดู​เป็น​ที่​แปลกตา​เขา​จึง​ได้​ร่วม​ดื่ม​สุรา​กับ​คนอื่น​เช่นกัน

ระหว่าง​ที่​ดื่ม​อยู่​นั้น​ก็​ไม่ลืม​ที่จะ​เหลือบตา​ไป​มองดู​อวี​้​จิ​่น

พี่​สี่​กล่าวว่า​ยานั​้น​เมื่อ​ดื่ม​เข้าไป​ก็​จะ​ออกฤทธิ์​ภายใน​เวลา​หนึ่ง​ก้านธูป​ ​เหตุใด​บัดนี้​เจ้า​เจ็ด​จึง​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง

คาด​ว่ายั​งคง​ไม่​ถึง​เวลา​กระมัง​ ​อวี​้​จิ​่​นกำ​ลัง​สนทนา​และ​หัวเราะ​อยู่​กับ​คนอื่น​อย่างสนุกสนาน​ ​แต่​หัวใจ​ของ​เซียง​อ๋อง​กลับ​ดูกระ​สับ​กระ​ส่าย​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เดิน​เข้าไป​ข้าง​กาย​ของ​ฉี​อ๋อง​แล้ว​กระซิบ​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​เบา​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​เหตุใด​จึง​ยัง​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​เล่า​”

ทาง​ด้าน​ของ​ฉี​อ๋อง​เอง​ก็​รู้สึก​กระสับกระส่าย​เช่นกัน​ ​เขา​ขมวดคิ้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​อาจ​เป็น​เพราะ​ร่างกาย​ของ​แต่ละคน​ที่​แตกต่าง​กัน​ไป​…​”

เจ้า​เจ็ด​คือ​ผู้​ที่​ฝึกฝน​วรยุทธ์​มาก​่อน​ ​มองดู​แล้ว​ร่างกาย​เขา​คงจะ​แข็งแกร่ง​กว่า​คนอื่น​ ​ทำให้​ยา​ออกฤทธิ์​ช้า

เซียง​อ๋อง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ว่า​สมเหตุสมผล​ ​เขา​จึง​วางใจ​ลง​แล้ว​จับตาดู​การเคลื่อนไหว​ต่อไป

ผ่าน​ไป​อีก​ชั่วครู่​ ​ท่าทาง​ของ​เซียง​อ๋อง​ดู​เปลี่ยนไป​ ​เดิมที​แววตา​ที่​ดู​สดใส​เปลี่ยนไป​เป็น​เหม่อลอย​ว่างเปล่า​และ​เฉยชา

“​น้อง​แปด​ ​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​กัน​”​ ​เมื่อ​ฉี​อ๋อง​สังเกต​ได้​จึง​รีบ​เอ่ย​ถาม

จู่ๆ​ ​เซียง​อ๋อง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน

ดวงใจ​ของ​ฉี​อ๋อง​ตกลง​ไป​ที่​ตาตุ่ม​ ​เขา​รีบ​คว้า​แขน​เสื้อ​ของ​เซียง​อ๋อง​เอาไว้​ ​กระซิบ​ว่า​ ​“​น้อง​แปด​ ​เจ้า​จะ​ทำ​สิ่งใด​”

ขณะนั้น​ใน​ห้องโถง​ใหญ่​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​ ​มี​การ​สนทนา​กัน​มากมาย​เสียงดัง​แซ่ซ้อง​ ​จึง​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​การเคลื่อนไหว​นี้​ ​ต่อให้​มี​ใคร​มอง​มา​เขา​คง​คิด​ว่า​เซียง​อ๋อง​จะ​ลุก​ไป​ดื่ม​สุรา​ให้​แก่​ผู้ใด​สัก​คน

ณ​ ​บน​แท่น​สูง​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เอ่ย​ถาม​ไท​เฮา​ด้วย​ความเอาใจใส่​ว่า​ ​“​หาก​เสด็จ​แม่​เหนื่อย​ ​ลูก​จะ​ส่ง​ท่าน​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท​เฮา​พระชนมายุ​มาก​แล้ว​ ​นั่ง​เป็นเวลา​นาน​อาจ​ทนไม่ไหว

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​ไท​เฮา​มักจะ​เสด็จ​กลับ​ก่อน​ใน​งาน​ครื้นเครง​เช่นนี้​ ​บัดนี้​นาง​กลับ​ส่ายหน้า​กล่าวว่า​ ​“​วัน​เวลา​หมุนเวียน​ผ่าน​ไป​ ​ไม่รู้​ว่า​ข้า​จะ​ได้​เห็น​งานเลี้ยง​อัน​ครึกครื้น​เช่นนี้​ได้​อีก​สัก​กี่​หน​ ​ข้าม​อง​ดูแล​้ว​ช่าง​ดีใจ​ยิ่งนัก​”

“​เสด็จ​แม่​ชื่นชอบ​ ​ลูก​ยินดี​ยิ่งนัก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​รอ​ให้​อากาศ​อุ่น​ขึ้น​กว่านี​้​แล้ว​ลูก​จะ​ให้​ฮองเฮา​จัดงาน​ชมดอกไม้​บาน​ขึ้น​ ​ถึง​เวลา​นั้น​คาด​ว่า​คงจะ​มีชีวิตชีวา​กว่านี​้​ ​เสด็จ​แม่​อยาก​จะ​ชื่นชม​ความ​ครื้นเครง​เช่นไร​ล้วน​มี​ให้​ชม​ ​อย่า​ได้​กล่าว​คำ​เช่นนี้​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท​เฮา​ยิ้ม​ขึ้น​แล้ว​พยักหน้า​ ​สายตา​มอง​ไป​ทาง​อวี​้​จิ​่น​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​การ​สงสัย

สาย​ประคำ​ไม้​กฤษณา​ที่​เยี​่​ยน​อ๋อง​มอบให้​นั้น​เป็น​เพียงแค่​ความบังเอิญ​หรือ​ตั้งใจ​กัน

ทันใดนั้น​เอง​ ​เซียง​อ๋อง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​ยื่นมือ​ออกมา​ฉีก​เสื้อผ้า​ด้านนอก​ของ​เขา​ออก​ ​วิ่ง​ไป​ที่​แท่น​สูง​นั้น​ด้วย​ดวงตา​แดง​เรื่อ

เขา​วิ่ง​ไป​พลาง​ฉีก​เสื้อผ้า​ของ​ตน​ออก​ ​ชั่วพริบตา​เดี๋ยว​ก็​เหลือ​เพียง​เสื้อ​บาง​ชั้นใน​สีขาว​ชิ้น​เดียว​เท่านั้น

เนื่องจาก​เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​อย่างกะทันหัน​ ​คนใน​ห้องโถง​จึง​ลืม​ที่จะ​กรีดร้อง​แล้ว​ได้​แต่​หยุด​มอง​ ​สายตา​เหม่อลอย​จ้อง​ไป​ยัง​เซียง​อ๋อง​ที่​ก้าว​ขึ้นไป​บน​แท่น​สูง

แม้แต่​องครักษ์​ที่​มีหน้า​ที่​คุ้มกัน​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​ยัง​ตกใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สมอง​ของ​พวกเขา​แล่น​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​คิด​วิเคราะห์​ถึง​ปัญหา​ข้อ​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ว่า​ ​เซียง​อ๋อง​เสียสติ​จะ​ทำร้าย​ฝ่า​บาท​หรือ​ไร​…​แต่​ดู​จาก​ท่าทาง​ที่​เขา​เตรียม​จะ​เปลือยเปล่า​ ​อาวุธ​จะ​ซ่อน​ไว้​ที่ใด​กัน

ช่างเถิด​ ​ต่อให้​ไม่มี​อาวุธ​ก็​ควรจะ​กุม​ตัว​เซียง​อ๋อง​ไว้​ก่อนที่จะ​เข้าไป​ถึง​ข้าง​กาย​ฝ่า​บาท

องครักษ์​ที่​คิดได้​ดังนี้​ต่าง​พากั​นพุ​่ง​ตรง​เข้าไป​กุม​ตัว​เซียง​อ๋อง​เอาไว้