บทที่ 700 งั้นเรามาฝึกกัน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 700 งั้นเรามาฝึกกัน

บทที่ 700 งั้นเรามาฝึกกัน

พวกผู้หญิงที่คุยกับอิ่นหรูอวิ๋นก่อนหน้านี้ชอบที่เจ้าตัวเป็นคนนุ่มนวลและอ่อนหวาน และดีใจที่มีเพื่อนแบบนี้ แต่ไม่ว่าเราจะอยากสนิทด้วยแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่สามารถพูดแทนได้

เหตุผลไม่มีอะไรมากหรอก แค่ว่าเสี่ยวเถียนยังเด็กอยู่ เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ แล้วจะโน้มน้าวใจเด็กให้หลีกทางให้ผู้ใหญ่ได้ยังไง?

หรือตอนตัวเองเด็ก ๆ ก็ยอมหลีกทางให้ผู้ใหญ่หรือ?

นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรือไง?

ทำแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราช่วยพูดคงไม่สามารถก้าวข้ามความยากลำบากของจิตใจได้และเพราะไม่รู้จะพูดอะไร จึงทำได้แค่เงียบและทำเป็นไม่เห็นเท่านั้น

“ไม่งั้นเราไปหาป้าดูแลหอหรืออาจารย์ดีไหม?” สาวผมเปียมองสาวผมสั้นหน้ากลมเอ่ย

วุ่นวายแบบนี้ไม่ดีเลย

ถ้าเกิดความวุ่นวายขึ้นห้องของเราจะกลายเป็นตัวตลกเอาได้

สาวหน้ากลมกลับไม่คิดเช่นนั้น สองคนนี้ไม่ดูมีพิษภัยอะไรเลยนะ แล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ยังไง?

“พวกเราลองดูไปก่อนดีกว่า คอยโน้มน้าวสักหน่อย ถ้าเกิดเราไปแล้วพวกเขาสู้กันจะทำยังไง?”

ถึงจะพูดดูดี แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้

สาวหน้ากลมผมสั้นชื่อจ้าวหงเหมย ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าอิ่นหรูอวิ๋นทำอะไรผิดปกติ เพราะตอนตนมาถึงอีกฝ่ายกำลังจัดเตียงอยู่ เลยไม่คิดว่าเธอกำลังขโมยเตียงคนอื่น

แถมยังแย่งต่อหน้าตรง ๆ โดยไม่พูดอะไร

ขณะที่จ้าวหงเหมยขมวดคิ้วคิดจะโน้มน้าวอิ่นหรูอวิ๋นให้สละเตียง เสี่ยวเถียนก็เอ่ยขึ้นมาก่อน

“ต้องให้ฉันที่อายุ 13 ยกเตียงให้แกหรือ? มีแค่แกคนเดียวเลยนะที่กล้าพูดอย่างไม่อายปาก? ไม่เข้าใจคำว่าเคารพผู้อาวุโสและรักเมตตาเด็กหรือ?”

เสี่ยวเถียนร้องเหอะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

อิ่นหรูอวิ๋นอายเหลือเกิน แต่ไม่ว่าจะอายขนาดไหนก็ทำได้แค่ยึดมั่นต่อไป

“คิดให้ดีนะพี่สาว โชคดีที่ฉันยังเด็ก ถ้าโตกว่านี้อีกหน่อยแล้วเจอพี่ร้องไห้เนี่ย ก็กลายเป็นว่าฉันรังแกพี่ แล้วฉันก็ต้องกลายเป็นคนเสียเปรียบเสียเอง ต่อให้ไม่เสียเปรียบก็ต้องรับมันไปอยู่ดี”

เสี่ยวเถียนเอ่ยสิ่งที่คิดสะกัดความคิดแม่สาวใจชั่วร้ายเอาไว้

อิ่นหรูอวิ๋นไม่คาดฝันว่าเด็กตัวแค่นี้จะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งแย่ลง อีกฝ่ายร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม

ท่าทางน่าสมเพชมาก

เสี่ยวเถียนอยากจะด่าอีกฝ่ายให้สำนึกจริง ๆ

นี่มันอะไรเนี่ย?

“เสี่ยวเถียน ดูเธอร้องไห้สิ ทำไมไม่…” สาวผมเปียยาวทนไม่ไหวแล้วเอ่ยปากลองถาม

เสี่ยวเถียนพ่นลมหายใจเย็นชา

“ใครร้องไห้ก็คือคนมีเหตุผลหรือ? งั้นฉันร้องไห้ตอนนี้เลยได้ไหมล่ะ?”

คำพูดนั้นแทงใจดำจนไม่รู้จะตอบอะไร เป็นตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนสาวท่าทางลุย ๆ จะโพล่งเข้ามา พอเห็นอิ่นหรูอวิ๋นร้องไห้ก็วิ่งเข้าไปหาทันที

“ใครรังแกเธอเนี่ย?”

เสี่ยวเถียนมีความประทับใจอันดีต่อจ้าวหงเหมย จึงเอ่ยถาม “นี่ก็เป็นคนของห้องเราด้วยหรือคะ?”

“ไม่ใช่หรอก เป็นเพื่อนอิ่นหรูอวิ๋นอยู่ตึก 4 น่ะ” อีกฝ่ายตอบ “ไม่รู้ว่าคนที่นิสัยต่างกันขนาดนี้กลายมาเป็นเพื่อนกันได้ยังไง?”

เสี่ยวเถียนคิด ไม่น่าอธิบายยากหรือเปล่า? คนหนึ่งใช้ประโยชน์ อีกคนโดนหลอกใช้

อิ่นหรูอวิ๋นฝีมือชั้นสูงเชียวนะ!

“อ้ายอวี้ ไม่มีใครรังแกฉัน มันเป็นความผิดของฉัน มันเป็นความผิดของฉันเอง!” หัวของอิ่นหรูอวิ๋นส่ายไปมาจนแทบจะหลุดจากคอ

แต่ตอนพูดเธอยังมองมายังเสี่ยวเถียนไม่ละสายตา

สาวชื่ออ้ายอวี้มองตามสายตาอีกฝ่าย ก่อนจะมองเสี่ยวเถียนด้วยความไร้ความปรานี

“เธอรังแกหรูอวิ๋น?”

“ฉันเป็นแค่เด็กจะไปรังแกผู้ใหญ่ได้ยังไงล่ะคะ?” เสี่ยวเถียนถามอย่างขบขัน “อีกอย่าง เธอไม่เห็นหรือไงว่าอิ่นหรูอวิ๋นเป็นคนขโมยที่นอนของฉัน”

เธอเป็นเหยื่อ เข้าใจไหม?

อ้ายอวี้มองสำรวจเด็กหญิง เด็กคนนี้ดูเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย แถมยังดูเก้งก้างไร้เรี่ยวแรง ไม่น่ารังแกอิ่นหรูอวิ๋นได้อยู่แล้ว

“แล้วเธอร้องไห้ทำไมล่ะ!”

“จะไปรู้เรอะ? เธออยากจะร้องก็เลยร้อง เหมือนเด็กที่ยังกินนมแม่นั่นแหละ ไม่รู้ร้องทำไม!”

เสี่ยวเถียนมองด้วยท่าทีเฉยเมย สิ่งที่ฝ่ายนั้นพูดมันน่ารำคาญจริง ๆ

อ้ายอวี้สำลัก

อิ่นหรูอวิ๋นร้องไห้หนักกว่าเดิม

นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรเนี่ย? จะบอกว่าเธอยังเป็นเด็กที่ไม่หย่านมแม่? นี่ไม่ได้แกล้งกันใช่ไหม?

“ฉันไม่ ฉัน ฉัน…”

อ้ายอวี้เห็นเพื่อนร้องไห้หนักก็โมโห

“ขอโทษหรูอวิ๋นซะ!” เธอตะคอกใส่เด็กหญิงทันที

ขอโทษ?

เสี่ยวเถียนระเบิดหัวเราะ หากแต่รอยยิ้มนั้นไม่ไปถึงดวงตา

ทำไมต้องทำ? เธอทำอะไรผิด?

“บอกเหตุผลมาสิ!”

เห็นได้ชัดเลยว่าอ้ายอวี้อะไรนี่ไร้สมองจนโดนเขาหลอกใช้แล้ว แต่เสี่ยวเถียนไม่อยากพูดให้มากความเลยบอกไปตรง ๆ

“เธอทำเขาร้องไห้ เธอต้องขอโทษ!” อ้ายอวี้ตวาดลั่น

“ถ้าไม่ทำล่ะ?”

“ไม่ทำก็ไม่เป็นไร คอยดูฉันจะตบเธอจนจำพ่อแม่ไม่ได้เลย!”

เหอะ ๆ เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงจริงเชียว!

เสี่ยวเถียนไม่ได้ขยับมือเท้ามาสักพักแล้ว และหวังก็แต่คนตรงหน้าจะสามารถสู้ด้วยได้ เธอจะได้ฝึกฝนไปด้วย

เด็กหญิงเงียบ แต่อ้ายอวี้คิดว่าอีกฝ่ายกลัวเลยเอ่ยอย่างมีชัย “ถ้าไม่อยากโดนก็ขอโทษซะ!”

เพราะเธอรู้ว่าเด็กคนนี้ต้องกลัวเธอย่างแน่นอน แค่เธอพูดว่าจะทำร้ายใคร อีกฝ่ายจะรีบขอโทษทันที และตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีด้วย

ตอนนี้เสี่ยวเถียนเข้าใจแล้ว สองคนนี้ร่วมมือกันเป็นอันธพาลสินะ?

คนหนึ่งร้องไห้ แต่ถ้ามันไม่เข้าท่า อีกคนก็จะรับช่วงต่อให้ เป็นการผสานพรสวรรค์สินะ วิเศษไปเลย คนข้าง ๆ รีบช่วยให้เรื่องไม่บานปลาย

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ?”

แม้อิ่นหรูอวิ๋นจะรู้ว่าเพื่อนไปท้าต่อยตีกับคนอื่น แต่ก็ยังแสร้งเป็นไม่เข้าใจ และเอาแต่ปิดหน้าร้องไห้

“เสี่ยวเถียนไม่ได้รังแกหรูอวิ๋นเสียหน่อย ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะ?” จ้าวหงเหมยช่วยอธิบาย

คาดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวเถียนจะมีนิสัยดื้อรั้นเช่นนี้

แต่ก็จริงนะ ถ้าไม่อยากเสียเปรียบก็อธิบายให้มันชัดเจนไปเลย

เสี่ยวเถียนเห็นความร้อนรน ดูเหมือนหอนี้ยังมีคนดี ๆ อยู่นะ

“งั้นเรามาฝึกกัน!” จากนั้นเด็กหญิงก็คลี่ยิ้มสดใส