“อะไรนะ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยเดินเซไปทางด้านหลัง พลางใช้อีกมือจับขมับเอาไว้ “ตอนนี้หาเจอหรือยัง?”

“ยังหาอยู่เลย!” ลี่จุนซินเองก็อยากจะร้องไห้แล้ว

โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับใจเย็นลง “อย่าร้อนรนไป ยิ่งในเวลาแบบนี้พวกเราจะยิ่งร้อนใจไม่ได้เลย”

เธอพูดไปพลางหยิบเสื้อคลุมด้านนอก “จุนซิน คุณกำชับคนขับรถให้มาเร็วหน่อย!”

โม่เสี่ยวฮุ่ยพยายามทำให้ตัวเองยืนหยัด เพื่อไม่ให้ตัวเองไม่วู่วาม

แต่ว่าลี่จุนซินกลับมองออกว่าเธอร้อนใจกว่าใคร มือที่ถือกระเป๋าก็สั่นเล็กน้อย

สีหน้าบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดลงไปอย่างมาก

รถขับไปด้วยความรวดเร็วราวกับฝนดาวตก โม่เสี่ยวฮุ่ยคิดว่ามวนท้องไม่น้อย กลับทำให้อดไม่ได้ที่จะพูด “เร็วหน่อย เร็วขึ้นไปอีก!”

มันเป็นตอนกลางคืนอยู่แล้ว จนเมื่อตอนที่พวกเธอไปถึง

ลมบนหน้าผาก็ยิ่งแรงกว่าเดิม

โม่เสี่ยวฮุ่ยคิดถึงลูกชาย พลางมองคนที่รีบร้อนบนหน้าผาเลยดึงคนหนึ่งเอาไว้พลางถาม “หาลูกชายฉันเจอหรือยัง?”

คนคนนั้นหันกลับมาตอบ “เกือบจะหนึ่งวันแล้ว ยังไม่มีข่าวคราวของประธานลี่เลย”

เขายังอยากจะพูดปลอบใจ แต่กลับถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยสะบัดออกทันที

ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋ออยู่ในเต็นท์ เมื่อได้ยินว่าแม่สามีมาแล้ว ก็รีบวิ่งออกไป “แม่!”

ทั้งสองคนกอดคอร้องไห้กันในสถานที่นี้

ลี่เจี้ยนหวาที่ชี้สั่งการอยู่ ลูกชายเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ เขาเองก็ไม่มีอารมณ์จะไปพัก

แต่เมื่อเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยมา เขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก

ก่อนจะอยากซ่อนตัวด้วยสัญชาตญาณ

ใครจะไปรู้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยจะตาไว เลยเช็ดน้ำตา ก่อนจะตบไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อ “เด็กดี!ไม่แปลกเลยที่จุนถิงถึงได้ชอบคุณขนาดนี้”

เธอมองความเป็นห่วงของเจียงหยุนเอ๋อออกว่ามันไม่น้อยไปกว่าเธอที่เป็นแม่

ตอนที่พูดไป ความตาไวของเธอก็มองเห็นลี่เจี้ยนหวาที่กำลังจะหนีไป เลยปล่อยเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะตกโกนใส่เขาด้วยความโกรธ “ลี่เจี้ยนหวา!คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

คนที่ดูอยู่บนริมหน้าผาต่างมองเป็นตาเดียวกัน

ซู่จี้งยี้เองก็เดินมาทางนี้

ลี่จุนซินเลยรีบเข้ามารับ “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“กำลังช่วยตามหาอยู่!” เขามองลี่เจี้ยนหวากับโม่เสี่ยวฮุ่ยด้วยความระแวง เพราะกลัวว่าถ้าหาลี่จุนถิงไม่เจอ พ่อแม่ของเขาจะเป็นอะไรไปอีก

โม่เสี่ยวฮุ่ยเรียกลี่เจี้ยนหวาเองไว้ แถมยังได้ยินสิ่งที่ลูกสาวกับซู่จี้งยี้คุยกันอีก เลยโกรธขึ้นมาเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าของลี่เจี้ยนหวา

เธอใช้มือหนึ่งกระชากแขนเสื้อของเขา ลี่เจี้ยนหวาพยายามดิ้นแต่ก็ดิ้นไม่หลุด เลยต้องยอมเธอ

โม่เสี่ยวฮุ่ยตะโกนใส่เขาด้วยความโกรธ “ลี่เจี้ยนหวา!ในเมื่อไม่เอาครอบครัวนี้แล้ว ทำไมยังไม่ยอมหายไปอีก ทำไมต้องมาทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉัน ต้องมาช่วยลูกเนรคุณของคุณด้านนอกอีก?”

เธอตะโกนเสียงดัง แถมยังเหวี่ยงลี่เจี้ยนหวาเต็มแรง

คนที่อยู่ข้างๆ นั้นต่างงงเป็นไก่ตาแตก

ซู่จี้งยี้กับคนอื่นๆ เองก็ขมวดคิ้ว

“คุณพูดมาสิ!มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?คุณทนเห็นเราดีกว่าไม่ได้งั้นเหรอ?จุนถิงที่น่าสงสารของฉัน เอาตัวเองมาแลกกับคนที่ไม่ควรเป็นพ่อแบบคุณ คุณทนได้อย่างไร?” โม่เสี่ยวฮุ่ยตบหน้าอกของลี่เจี้ยนหวาอย่างหนัก

เขาเองก็แก่แล้ว ไม่ได้พักมาหนึ่งวันเลยเซถอยไปเล็กน้อย

เมื่อถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยด่าแรงขนาดนั้น เลยไม่เห็นแก่หน้าที่ของการเป็นพ่อแล้ว จากนั้นจึงคุกเข่าลงด้วยความรู้สึกผิด

“ฉันไม่เหมาะ ไม่เหมาะแก่การเป็นพ่อเลย!”

เขาเอามือหนึ่งปิดหน้า ดูโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

ลี่จุนซินกัดฟันก่อนจะหันหัวไป พลางมองไปทางเจียงหยุนเอ๋อที่เหม่ออยู่ทางด้านข้าง ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ที่ลี่เจี้ยนหวาโยนลงพื้นก็ดังขึ้นมาอีก

เป็นสายของจ้าวเฟยเฟย

ลี่เจี้ยนหวาอารมณ์เสียเลยไม่ได้รับสาย แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับโกรธเป็นอย่างมาก

ก่อนจะยื่นมือมากดรับสาย ในนั้นก็มีเสียงของจ้าวเฟยเฟยที่รีบร้อนดังขึ้นมา “เจี้ยนหวา คุณรีบมาดูลี่หุยเร็ว เขาบาดเจ็บเป็นอย่างมากจนไม่สามารถให้คุณมาอยู่ด้านหน้าไม่ได้!”

“งั้นเหรอ?น่าเสียดายที่ลี่เจี้ยนหวาไม่มีทางไปได้แล้ว!” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดอย่างหักใจ

เมื่อจ้าวเฟยเฟยได้ยินเสียงของเธอ เลยตกใจไป “ทำไมคุณถึงถือโทรศัพท์ของเจี้ยนหวา?โม่เสี่ยวฮุ่ย ฉันจะเตือนคุณนะ เจี้ยนหวาไม่เอาคุณแล้ว คุณรีบคืนโทรศัพท์เขาไปเถอะ”

“เหอะ!” โม่เสี่ยวฮุ่ยหัวเราะพรวดออกมา “คุณออกไปจากผู้ชายก็มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ ฉันไม่สนใจหรอกนะ!”

เธอพูดไปก็เอามือล้วงลงไปในคูน้ำลึกซึ่งไหลออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุด

ลี่เจี้ยนหวาเอามือกุมหัว ตอนแรกที่เขายังรู้สึกผิด ตอนนี้ก็ยังจะสนใจจ้าวเฟยเฟยได้อีกที่ไหน

โม่เสี่ยวฮุ่ยขว้างโทรศัพท์ไป เขาเองก็ไม่ไปเก็บมา

“แม่!” ลี่จุนซินเดินเข้ามาจับมือของเธอ พลางจูงมือเธอเดินไปตรงที่ที่ปลอดภัย “ตอนนี้จุนถิงจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ คุณต้องหนักแน่นอย่าได้รับผลกระทบเพราะคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง”

เธอพูดไปก็ส่งสัญญาณให้โม่เสี่ยวฮุ่ยมองเจียงหยุนเอ๋อ “เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ถ้าเกิดคุณไม่เอามันขึ้นมาบ่อยๆ ครอบครัวของพวกเราคงจะแตกสลายเลย”

เสียงของลี่จุนซินสั่นครืน

ครั้งนี้กลับโน้มน้าวโม่เสี่ยวฮุ่ยได้สำเร็จ เธอพูดพร่ำ “ใช่ คุณพูดถูก ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจุนถิงบ้างแล้วล่ะ”

เธอเป็นคนที่ตัดสินใจแล้วจะทำเลยโดยที่ไม่เปลี่ยนความตั้งใจของตัวเอง

พูดไปโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เข้าไปถามขั้นตอนการช่วยเหลือต่างๆ

ซู่จี้งยี้เองก็ไม่ได้ปิดบัง เลยบอกเธอไป

โม่เสี่ยวฮุ่ยฟังพลางพยักหน้าไป “ผู้ช่วยซู่ การจัดการของคุณนั้นมันเหมาะสมมาก หวังว่าสวรรค์จะปกป้อง ปกป้องให้จุนถิงของเราจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นปี คุณพูดถึงอาเธอร์อะไรนั่น ควรจะตายจริงๆ เพราะเลวร้ายได้ขนาดนั้น”

ซู่จี้งยี้พยักหน้า โดยที่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่าเดิม

เขาฝ่าฟันมากับประธานลี่ ประธานลี่ยกยอเขา ในใจก็โทษตัวเองไปไม่น้อยกว่าคนอื่น

ถ้าไม่ใช่ชิงโม่บอกให้เขาคุมการวางแผนโดยรวม เขาคงจะลงไปช่วยตามหาแล้ว

เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่บนท้องฟ้าบินไปมาๆ บริเวณนั้นไม่หยุด

โม่เสี่ยวฮุ่ยก็จ้องอุปกรณ์ที่ทำงานเหล่านั้นอย่างไม่ขยับ

ส่วนทางของลี่เจี้ยนหวากลับเอามือกุมหัวโดยไม่รับรู้เรื่องภายนอก

ลี่จุนซินถอนหายใจ ก่อนจะจูงเจียงหยุนเอ๋อที่เหม่อลอยอยู่ไปอีกด้านหนึ่ง

ท้องฟ้านั้นเปลี่ยนจากสีเข้มเป็นอ่อนลง ในตอนนี้ชิงโม่ที่อยู่ด้านล่างจู่ๆ ก็ประกาศให้หยุดการค้นหา และทุกคนขึ้นฝั่งมารวมตัวกัน

ทุกคนต่างสงสัย แต่ชิงโม่เป็นหัวหน้าควรคุมการค้นหาในครั้งนี้

เขาพูดอย่างมีเหตุผล

ลมบริเวณผานั้นแรงมาก ชิงโม่เลยขยับขึ้นมาเล็กน้อย

สักพักใหญ่ๆ คนด้านข้างถึงจะช่วยถอดชุดประดาน้ำอันหนักอึ้ง

เมื่อออกมา ก็พบว่าหัวเปียกไปหมด

ครั้งนี้คนของตระกูลลี่ต่างเข้ามาล้อมรอบ ลี่เจี้ยนหวาก็ยิ่งตื่นตัวกว่าเดิม “ทำไมพวกคุณไม่ตามหาต่อแล้วล่ะ?”

ชิงโม่เองก็ไม่ได้เห็นแต่กลับมองไปทางโม่เสี่ยวฮุ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อ “ป้าฮุ่ย พี่สะใภ้ หาประธานลี่เจอแล้วล่ะ!”

“หาเจอแล้วเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อตื่นเต้นจนน้ำตาไหล

โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับนิ่งสงบ “แล้วตอนนี้ลูกชายฉันเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

เธอพูดพลางมองไปด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นเงาของลี่จุนถิงเลย

ชิงโม่ถอนหายใจพลางพูด “สถานการณ์ของประธานลี่ไม่ค่อยดี ตอนนี้ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว”