บทที่ 644 ตามล่าเทพวารี (3)
“นายท่านมีบัญชาใด?”
ผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งกะพริบตาเบาๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ตี้จั้งยิ้มและกล่าวว่า “ข้าต้องการเลือกใครสักคนจากสำนักเซียนเพื่อสร้างปัญหาและบีบบังคับให้ เทพวารีปรากฏตัว
จากนั้นข้าจะใช้กรรมระหว่างปีศาจกับเทพวารีเพื่อให้ทุกคนและปรมาจารย์เผ่าปีศาจร่วมกันปิดล้อมโจมตีและสังหารเทพวารี
เหวินจิ่ง เจ้าได้ต่อสู้กับเทพวารีมาแล้ว เจ้าคิดว่า มีสำนักเซียนใดในบรรดาสำนักเซียนทั้งหกแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินที่เจ้าคิดว่ารับมือได้ง่ายที่สุด?”
ปิดล้อมและสังหารเทพวารี?
ผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งยิ้มและกล่าวว่า “แน่นอนว่า ข้าต้องเลือกสำนักเซียนที่สำคัญที่สุดสำหรับสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน เช่น สำนักเซียนเซียวเหยาและสำนักจื้อไจ้
แต่ข้าก็มีเรื่องจะขอให้ท่านพิจารณา”
“โอ้?” ตี้จั้งยิ้มและกล่าวว่า “พูดมา”
เหวินจิ่งขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือเทพวารี ก่อนหน้านี้เขาหักปีกของจั๊กจั่นสีทอง และหลังจากนั้น ก็มีการต่อสู้ที่ภูเขาเหยาเซิง และเวทลึกลับระเบิดวิญญาณของเขานั้นก็น่ากลัวจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ตี้จั้งปรบมือพลางหัวเราะ
จากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “เหวินจิ่ง ความกังวลของเจ้ามีหตุผลดีทีเดียว แต่เหวินจิ่ง เจ้าเคยคิดเรื่องนี้บ้างหรือไม่?
ครั้งนี้เราเริ่มปิดล้อมโจมตีสำนักเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน หากเขาใช้เวทจำแลงกายมาทำลายตัวเอง แล้วมันจะไม่เป็นการทำลายกำแพงเมืองเองหรอกหรือ?”
ผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งมีท่าทีตระหนักรู้ขึ้นทันที
นางยิ้มและกล่าวว่า “ผู้น้อยคิดมากไปเอง”
ตี้จั้งโบกมือและกล่าวว่า “ข้าจะไม่ปิดบังเจ้า ในขณะที่เจ้าและข้ากำลังพูดคุยกันอยู่ที่นี่ แผนของข้าก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
คราวนี้ สำนักเซียนที่ข้าเลือกเพื่อจะล่อให้เทพวารีมาปรากฏตัวในดินแดนเทวะบูรพานั้นก็คือ… สำนักตู้เซียน”
สัตว์ร้ายตัวหนึ่งถามว่า “นายท่าน เหตุใดท่านจึงเลือกสำนักเล็กๆ ที่ห่างไกลเช่นนี้? ต่อให้สำนักเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะถูกทำลาย ข้าก็เกรงว่า สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ”
“ผิดแล้ว” ตี้จั้งกล่าวอย่างสงบ
“อย่าได้ดูเบาสำนักตู้เซียน
ตามข้อมูลที่ข้าได้รับมาจากสำนักตู้เซียน ครั้งหนึ่ง เหวินจิ่งเคยพยายามที่จะทำลายสำนักตู้เซียน ทว่าในที่สุด ก็ดูเหมือนว่า นางจะพ่ายแพ้?”
ผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งกล่าวทันทีว่า “คราวนั้น มันเป็นการวางแผนต่อต้านการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า ที่ผู้น้อยต้องการทำลายสำนักเซียนเล็กๆ แห่งนี้ เพื่อทำให้พวกเขาได้ตื่นเต้นสนุกสนานบ้าง
แต่ไม่คาดคิดว่า ตู้เอ้อร์เจินเหรินจะรีบรุดมาทันเวลา และทำให้ศิษย์คนโตของจอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินตื่นตัว
นอกจากนี้ ศิษย์คนโตของจอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินก็เกือบจะติดตามร่องรอยของผู้น้อยได้แล้ว
นายท่านพร้อมที่จะรับมือกับศิษย์คนโตแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินหรือไม่?
“มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย” ตี้จั้งยิ้มและกล่าวว่า “ข้าได้สั่งให้ปีศาจแสนตนลงมือโจมตีสำนักเซียนเซียวเหยาในครึ่งชั่วยามแล้ว
หากปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ต้องการปรากฏตัว เขาก็จะไปปรากฏตัวในสำนักเซียนเซียวเหยา”
สัตว์ร้ายอีกตัวถามว่า “แล้วจะเป็นอย่างไรหากปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไปที่สำนักตู้เซียน? พวกเราควรทำอย่างไร?”
สัตว์ร้ายเผยท่าทีกังวล
“ใช่แล้ว นายท่าน ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่นั้นทรงพลังยิ่ง เขาใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่เขาจะรีบไปที่สำนักตู้เซียน!”
“และปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยังได้เอาสมบัติเวทของปรมาจารย์จอมปราชญ์มาในวันนั้นด้วย…”
“นายท่านตี้จั้ง พวกเราควรใช้เวลาคิดเรื่องนี้ดีหรือไม่? นี่เป็นเพียงส่งพวกเราไปสู่ความตายเท่านั้น”
ตี้จั้งกล่าวอย่างสงบว่า “หากปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ละทิ้งสำนักเซียนเซียวเหยาแล้วไปช่วยสำนักตู้เซียน ย่อมเห็นได้ชัดว่า มีบางอย่างผิดปกติกับสำนักตู้เซียน
เมื่อเป็นเช่นนั้น เราย่อมสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ความลับของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินถูกซ่อนอยู่ในสำนักตู้เซียน
แล้วภูมิหลังของเทพวารีจะไม่ได้รับการยืนยันหรือ?
ทุกคนไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าปรากฏตัวก่อนล่วงหน้า เผ่าปีศาจจะสำรวจทางให้
หากข้าหาที่ซ่อนของเทพวารีได้ ข้าก็จะวางแผนอีกครั้งในอนาคต”
“นายท่านยอดเยี่ยมจริงๆ”
ผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งปิดปากและหัวเราะคิกคักเบาๆ
“หากข้าคาดไม่ผิด ข้าเกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนของท่าน นายท่าน ท่านค้นหาเทพวารีเพื่อดูว่าเราจะใช้กรรมของเผ่าปีศาจเพื่อกำจัดเขาได้หรือไม่
จากนั้นก็สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อไล่ต้อนเผ่าปีศาจให้จนมุมและทำให้พวกมันไปสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังจนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเข้าร่วมกับภูเขาวิญญาณของเราในอนาคต แต่นายท่านตี้จั้ง ข้ายังมีคำถาม…”
“พูดมา”
เหวินจิ่งขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ความสามารถของพวกปีศาจเหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่?”
“ไม่ต้องกังวล” ตี้จั้งยิ้มและกล่าวว่า “ข้าได้จัดเตรียมทุกย่างก้าวสำหรับปีศาจเหล่านั้นเอาไว้แล้ว พวกเขาต้องทำตามแผนของข้าเท่านั้นและจะไม่มีอะไรผิดพลาด เหวินจิ่ง”
“ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ”
ตี้จั้งยิ้มและกล่าวว่า “บางครั้ง ฉลาดเกินไปก็ใช่ว่าดี”
รอยยิ้มของผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งพลันแข็งค้าง และดวงตาของนางก็ฉายประกายเย็นยะเยือก
รอยยิ้มของตี้จั้งไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ เขาแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่เห็นแววดุร้ายในดวงตาของผู้บำเพ็ญเหวินจิ่งและเริ่มจัดเตรียมสัตว์ร้ายเพื่อโจมตีครั้งต่อไป
ในขณะนั้น ราชินีดูแข็งกร้าวและเป็นกังวล
วันนี้ ตี้จั้งเรียกชื่อนางซ้ำๆ เห็นได้ชัดว่า เขาไม่แน่ใจและต้องการทดสอบนาง และในขณะนี้ ยังมีตี้ทิงอยู่ข้างๆ นาง นางจึงต้องระมัดระวัง
ทว่า… เหตุใดตี้จั้งจึงดูแคลนสหายผู้นั้นต่ำไป ในเมื่อเขากล่าวว่าไม่มีอะไรผิดพลาด? เหวินจิ่งไม่แน่ใจว่าตี้จั้งเป็นมนุษย์หรือไม่ แต่เทพวารีเป็นจริง…
แค่กๆ ข้าพูดไม่ออกบอกไม่ได้
……
ในป่า ห่างออกไปสามหมื่นลี้ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสำนักตู้เซียนในดินแดนเทวะบูรพาที่ดินแดนของสำนักเซียนหลายแห่งมาบรรจบกันในป่าภูเขาที่ต่อเนื่องกัน
คลื่นพลังลมปราณที่ซ่อนเร้นเงียบๆ ได้รวมตัวกัน และพุ่งเข้าหารูขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน
ในหอโอสถแห่งยอดเขาหยกน้อย…
หลี่ฉางโซ่วเอามือไพล่หลังขณะเดินไปมา ในขณะนี้ ขามองภาพต่างๆ ในใจของเขาและรู้สึกเป็นทุกข์เล็กน้อย
………………………………………………………………..