บทที่ 721 จุ๊บแจงที่สองมาตรฐาน

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็สู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้

อย่างแรกหน้าตา ต่อมาเป็นสภาพครอบครัว สุดท้ายเป็นความสามารถและบุคลิก

สรุปคือ สู้อะไรไม่ได้เลย

ดังนั้นต่อมา เธอก็คิดดีแล้วว่า นัทธีไม่ชอบเธอ เพราะว่าเธอไม่มีเหล่านี้ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนท่าที ติดต่อกับลูกคนรวยเหล่านั้นที่เคยดูถูก ที่พออยู่ห่างจากพ่อแม่ก็ทำอะไรไม่เป็น ให้พวกเขาพาเธอเข้าออกสถานที่ต่างๆของพวกคนรวย

ในสถานที่พวกนั้น เธอสามารถเรียนรู้ทักษะมากมายที่คนรวยทำได้ จากนั้นทำให้ตัวเองเพอร์เฟคมากยิ่งขึ้น

ที่จริงเธอเรียนมาช่วงหนึ่ง ถึงจะยังเทียบวารุณีไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่แย่เท่าไหร่นัก

อย่างไรก็ตามตอนนี้จุ๊บแจงเห็นวารุณี ก็รู้ว่าตัวเองผิดไป ผิดอย่างมาก เธอไม่ใช่แค่ต่างกันมาก แต่เธอเทียบไม่ได้เลยสักนิด ถึงแม้ตอนนี้เธอจะได้ทักษะมากมายที่คนรวยทำเป็น

อย่างแรกด้านบุคลิก หากเธอไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมรับ ว่าตัวเองแพ้โดยสิ้นเชิง

บุคลิกของวารุณีเหมือนราชินีผู้สูงศักดิ์ ส่วนเธอ กลับเหมือนหญิงโสเภณีที่มีชื่อเสียงที่มาจากซ่อง

ไม่อาจเทียบได้ และเทียบไม่ได้ด้วย!

นึกถึงตรงนี้ มือสองข้างของจุ๊บแจงก็กำแน่นขึ้นมา ร่างกายสั่นเล็กน้อย เพราะว่าเธอรับผลลัพธ์เล่นนี้ไม่ได้เลย

ทั้งๆที่เธอพยายามขนาดนั้น พยายามเรียนพวกนี้ขนาดนี้ ก็เพื่อจะได้มีสักวันหนึ่ง ที่ทำให้นัทธีเปลี่ยนความคิดกับเธอได้ และคู่ควรกับนัทธี

แต่ตอนนี้เห็นวารุณี จู่ๆเธอก็พบว่า เหมือนเธอจะเรียนผิดด้านไป……

“คุณจุ๊บแจง คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”วารุณีเห็นจุ๊บแจงกัดริมฝีปาก ด้วยสภาพที่สีหน้าเปลี่ยนไป จึงหรี่ตาลงเล็กน้อย ถามเบาๆ

ดวงตาจุ๊บแจงเป็นประกาย จากนั้นเก็บความคิดในใจไว้ มองเธอแล้วตอบเสียงแข็งเล็กน้อย:“เปล่าค่ะ คุณวารุณี คุณให้คนพาฉันมานี่……”

“กรุณาเรียกฉันว่าคุณภรรยานัทธีขอบคุณค่ะ”วารุณีพูดเตือนตัดบทเธอไปด้วยรอยยิ้ม

ผู้หญิงคนนี้ รักนัทธีมากไม่ใช่เหรอ?

ไม่ใช่ว่าอยากดึงเธอลงมาจากตำแหน่งสะใภ้ตระกูลไชยรัตน์แล้วตัวเองขึ้นไปนั่งเองเหรอ?

งั้นเธอก็ต้องเตือนผู้หญิงคนนี้ ว่าเธอต่างหากที่เป็นสะใภ้ตระกูลไชยรัตน์สมจริง

เธอจะบอกผู้หญิงคนนี้ว่า ผู้หญิงคนนี้ดึงเธอลงมาไม่ได้ และเธอยังสามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้ ต้องเรียกเธอว่าคุณภรรยานัทธีชื่อเรียกที่ผู้หญิงคนนี้อยากได้มากที่สุดด้วย

ยังไงซะ เธอก็ขยะแขยงผู้หญิงคนนี้!

ถ้าจะให้เธอพูด ที่จริงแล้วจุ๊บแจงก็หน้าตาไม่ได้แย่ คนที่ชอบจุ๊บแจง ก็มีไม่น้อยแน่

จุ๊บแจงสามารถหาผู้ชายที่ดีได้เลย อย่างไรก็ตามจุ๊บแจงกลับไม่ยอม เอาแต่จ้องผู้ชายของเธอ อยากแย่งตำแหน่งเธอไป

งั้นก็ขอโทษ เพราะเธอไม่ไว้หน้าจุ๊บแจงแน่นอน

อย่างที่วารุณีคิด จุ๊บแจงได้ยินวารุณีให้เธอเรียกว่าคุณภรรยานัทธีสีหน้าก็เหยเกทันที

จุ๊บแจงรู้ว่า นี่วารุณีจงใจทำนิสัยเสียใส่เธอ จะบอกเธอว่า เธอไม่ใช่แค่ไม่ได้ตำแหน่งสะใภ้ตระกูลไชยรัตน์ไป แต่ยังต้องเรียกวารุณีได้แค่ว่าคุณภรรยานัทธีด้วย

ผู้หญิงคนนี้ ต่ำทรามเสียจริง!

จุ๊บแจงกำโทรศัพท์แน่น หลังจากแววตามีความแค้นแวบมา ก็หายไปทันที จากนั้นยกมุมปากขึ้น ฉีกยิ้มออกไป หลังจากสูดหายใจลึกๆแล้วก็ตะโกนไปว่า;“คุณภรรยานัทธี”

“แบบนี้ถูกแล้วค่ะ”วารุณีนั่งไขว่ห้างหัวเราะชอบใจ จากนั้นทำท่าส่งสัญญาณให้เธอ“เอาล่ะคุณจุ๊บแจง ตอนนี้คุณจุ๊บแจงพูดต่อไปได้แล้วค่ะ ฉันให้คนทำไมเหรอคะ?”

“แน่นอนว่าคุณภรรยานัทธีให้คนพาฉันมาที่นี่คงไม่ค่อยดีมั้งคะ?”จุ๊บแจงมองวารุณีอย่างไม่พอใจ

วารุณีเลิกคิ้วขึ้น“อ้อ?ไม่ค่อยดี?ไม่ค่อยดีตรงไหนคะ?ฉันก็ไม่รู้สึกว่าไม่ดียังไงเลย และฉันก็ไม่คิดว่า ฉันทำแบบนี้ไปจะมีปัญหาอะไร”

“จะไม่มีปัญหาได้ไงคะ”จุ๊บแจงโกรธจนตัวสั่น“คุณให้คนบังคับพาฉันมาที่นี่ เป็นการจับตัวมา เป็นการกักขังเสรีภาพส่วนตัวของฉัน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ฉันโทรแจ้งตำรวจได้เลย!”

วารุณีเหมือนได้ยินเรื่องตลก เม้มริมฝีปากแล้วหัวเราะขึ้นมา

จุ๊บแจงได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ ในใจก็เต้นตึกตัก ไม่สบายใจเล็กน้อย เสียงสูงขึ้น“คุณภรรยานัทธี คุณหัวเราะอะไร?ฉันพูดตลกมากเหรอคะ?”

“ไม่ๆๆ ไม่ตลก ไม่ตลกสักนิดค่ะ”วารุณีส่ายมือ“แต่ฮามาก”

รอยยิ้มที่ใบหน้าเธอหุบไป ดูเย็นชาอีกครั้ง แล้วพูดว่า:“ที่แท้คุณจุ๊บแจงก็รู้ว่าอะไรคือสิ่งผิดกฎหมาย ฉันคิดว่าคุณจุ๊บแจงไม่รู้เสียอีก”

“คุณหมายความว่าไง?”จุ๊บแจงกัดริมฝีปาก ในใจก็ยิ่งไม่สบายใจ

วารุณีส่งเสียงฮึดฮัด“หมายความว่าไง?ความหมายของฉันก็คือ จุ๊บแจงทำตัวสองมาตรฐานได้ดีนี่ ตัวเองทำผิดกฎหมายไม่พูดถึง คนอื่นทำผิดกฎหมาย กลับมัดไว้แน่น หน้าด้านจริงๆ”

“คุณ……”สีหน้าจุ๊บแจงก็ยิ่งซีดเซียวมากขึ้น ดูแย่สุดๆ

เธอกำมือไว้แน่น สักพักก็คลายออก ดวงตาคู่นั้นจ้องไปที่วารุณีเขม็ง“ในเมื่อคุณภรรยานัทธีบอกว่าฉันทำผิดกฎหมาย งั้นคุณภรรยานัทธีบอกมาสิคะ ฉันทำอะไรผิดกฎหมาย?”

“ในเมื่อคุณอยากรู้ ได้ ฉันจะทำให้คุณสมใจเอง”วารุณีพิงไปที่โซฟา ยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว“อย่างแรก ก่อนหน้านี้คุณรังควานสามีของฉัน รุมล้อมสามีฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำผิดโดยการสะกดรอยตามและคุกคาม อย่างที่สอง คุณจะเป็นมือที่สาม อยากให้ฉันกับสามีฉันหย่ากัน แล้วตัวเองเข้ามาแทนที่ ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการทำผิดคุณธรรม และจะถูกวิจารณ์ว่า เป็นมือที่สาม!”

วารุณียกสามนิ้วขึ้นมา มองจุ๊บแจงที่สีหน้านั้นเหยเกมากขึ้น ในใจก็รู้สึกสะใจ“อย่างที่สาม คุณสร้างข่าวลือให้ฉันบนเครื่องบิน และยังกระจายข่าวลือที่ไม่เป็นจริงของฉัน ทำให้เสียหายและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจของ ซึ่งนี่เป็นการกระทำผิดโดยสร้างข่าวลือ ที่ฉันพูดพวกนี้ คุณจุ๊บแจงยังไม่คิดว่าตัวเองทำผิดกฎหมายอีกเหรอคะ?”

“……”จุ๊บแจงอ้าปาก อยากหักล้างว่าเธอพูดเหลวไหล

อย่างไรก็ตามคำพูดจะพูดออกมา แต่กลับพูดไม่ออก

อาจเพราะในใจเธอเองรู้ว่าตัวเองทำสิ่งพวกนี้มันผิดกฎหมาย ก็แค่ไม่ยอมรับ

แต่ไม่อยากยอมรับ สีหน้าเธอที่ดูเหยเกจนแย่ และทำท่าพูดไม่ออกแบบนี้ ได้เปิดเผยแล้วว่า เธอร้อนตัวจริงๆ

“คุณจุ๊บแจงไม่พูด ฉันก็จะถือว่าที่คุณจุ๊บแจงเงียบคือการยอมรับ ดังนั้นฉันว่าคุณจุ๊บแจงสองมาตรฐาน ก็ถูกใช่ไหมล่ะ?”วารุณีผายมือออก จากนั้นพูดต่อไปว่า:“คุณจุ๊บแจงอยากแจ้งความ ฟ้องฉันที่กักขังเสรีภาพส่วนบุคคลของคุณ ฉันก็ไม่คัดค้าน และไม่ห้าม เดี๋ยวคุณจุ๊บแจงไปแจ้งความฉันได้เลยค่ะ แน่นอนว่า ก่อนจะแจ้งความ พวกเรามาจัดการเรื่องที่คุณสร้างข่าวลือฉันบนเครื่องบินก่อนหน้านี้ดีกว่า คุณจุ๊บแจง คุณจะชดใช้ฉันยังไงคะ?”

“ทำไมฉันต้องชดใช้?”จุ๊บแจงเบิกตาโต“ได้ ฉันยอมรับว่าฉันพูดคำพูดพวกนั้นจริง แต่คุณไม่ได้เสียหายอะไร ทำไมฉันต้องชดใช้คุณ?ฉันขอโทษคุณได้ แต่เรื่องชดใช้ คุณอย่าได้คิดเลยเถอะ คุณกำลังรีดไถ!”

เธอพูดอย่างจริงจัง แต่ตาคู่นั้นกลับมองวารุณีอย่างโกรธจัด

เธอรู้สึกจริงๆว่าวารุณีกำลังจงใจรีดไถเธอ

เธอไม่คิดเลยว่า เรื่องนี้ที่ตัวเองทำ ต้องชดใช้ด้วย เธอแค่พูดไม่กี่คำที่ไม่เหมือนความจริงเท่านั้น

พูดก็ต้องชดใช้ด้วย?

ยังไงซะเธอก็ไม่เคยเห็น

วารุณีเห็นจุ๊บแจงโกรธจัด เห็นตัวเองอยากจะรีดไถ ก็ทั้งโกรธจัดและตลก

“คุณจุ๊บแจงคิดว่า สร้างข่าวลือไม่ต้องชดใช้ ดังนั้นคุณเลยคิดว่าฉันตั้งใจพูดเว่อร์ๆ ให้คุณชดใช้เหรอ?”มุมปากของวารุณียกขึ้นเป็นมุมอย่างเย็นชา

จุ๊บแจงหันไปมองเธอ“หรือว่าไม่ใช่?ฉันก็แค่พูดเท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายคุณสักหน่อย คุณก็จะให้ฉันชดใช้ ต้องเรียกว่าเกินไปมั้ง?