เธอมองเขาด้วยรอยยิ้ม จนเข้าไปหา แล้วกอดเขาไว้ จากนั้นแขนสองข้างก็โอบคอของเขาแล้วถาม“ดังนั้นคุณไม่คิดถึงฉันจริงๆเหรอ?”
นัทธีเผชิญหน้ากับความคาดหวังและน้อยใจของหญิงสาว แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆทันที กอดเอวเธอแล้วตอบว่า:“คิดถึงสิ”
“งั้นคุณคิดถึงฉันจนถึงขั้นเหม่อลอยเลย ไม่จริงเหรอ?”
“จริง!”นัทธีพยักหน้า
ช่างเถอะ ในเมื่อถูกป้าส้มกับมารุตแฉแล้ว ก็ยอมรับไปเลยดีกว่า
วารุณียิ้มอย่างสดใส“แบบนี้ถูกต้องแล้ว และก็ ฉันประทับใจมาก ยังไงคิดถึงฉันจนเหม่อลอยได้ ก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่า ฉันสำคัญกับคุณมากแค่ไหน”
“ใช่”ป้าส้มพยักหน้า“ยังไงสองวันนี้ที่คุณไม่อยู่ อารมณ์ของคุณผู้ชายหดหู่มาก และบางครั้งก็กังวลและตื่นตระหนกมาก ฉันเดาว่าเป็นเพราะครั้งที่แล้วคุณถูกไอ้สารเลวนิรุตติ์นั่นจับไป ทำให้คุณผู้ชายเกิดปมในใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณไม่อยู่นานแบบนี้ คุณผู้ชายจึงเป็นเช่นนี้”
ได้ยินคำนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าวารุณีก็ชะงักไป จากนั้นมองชายหนุ่มอย่างละอายใจ“ขอโทษนะสามี ที่ทำให้คุณเป็นห่วง”
“ไม่เป็นไร รอจับนิรุตติ์ได้ ผมก็ไม่เป็นแบบนี้แล้ว
ยังไงเบื้องหลังนิรุตติ์ก็ยังมีองค์กรแห่งหนึ่งอยู่ มีอิทธิพลมาก ถึงข้างกายเธอจะมีบอดี้การ์ดคุ้มครอง แต่ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่านิรุตติ์จะไม่เอาช่องโหว่มาทำร้ายเธอ
ดังนั้นเขาถึงได้กังวลแบบนี้
แต่ดีที่ผ่านไปสองวัน เธอกลับมาอย่างปลอดภัย
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดเลย เข้าไปก่อนเถอะ ข้างนอกหนาว”นัทธีเอาเสื้อคลุมให้วารุณี
วารุณีพยักหน้า“ใช่ เข้าไปข้างในก่อน”
พูดไป เธอก็หยิบถุงสองสามใบในมือมารุตมา แล้วยื่นให้ป้าส้ม“ป้าส้มคะ นี่เป็นของฝากบางส่วนที่ฉันเอากลับมาจากเมืองธารา และยังมีซอสที่พ่อของปาจรีย์ทำด้วย รสชาติดีมาก”
“เหรอคะ?”ป้าส้มมองถุงในมืออย่างตกใจ“งั้นคืนนี้ป้าจะเอาน้ำซอสมาทำอาหารให้ทาน”
“โอเค”วารุณีพยักหน้า
จากนั้นทั้งสามก็เข้าไปในห้อง มารุตไม่ได้เข้าไป แต่ขับรถออกไป
นัทธีไม่กลับบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปแล้ว งั้นเขาที่เป็นผู้ช่วยพิเศษ ก็เลิกงานได้แล้ว
เขายังถือโอกาสนี้ ไปหาแฟนได้ ให้แฟนปลอบเขาที่วันนี้อิจฉาคู่รักแสดงความรักกัน
เดินเข้าไปในห้องรับแขก วารุณีก็เอากระเป๋าวางไว้บนโซฟา ถามว่า:“ใช่สิป้าส้ม ตอนนี้เด็กสองคนอยู่ที่โรงฝึกซันดาเหรอคะ?”
“ไอริณอยู่นั่น อารัณไม่อยู่ เขาไปคณิตศาสตร์โอลิมปิก”ป้าส้มตอบ
วารุณีตะลึงเล็กน้อย“คณิตศาสตร์โอลิมปิก?”
“วันก่อนอารัณเจอศาสตราจารย์คณิตศาสตร์คนหนึ่งที่ส่งหลานชายไปเรียนซันดาที่โรงฝึกซันดา ศาสตราจารย์คนนั้นเห็นความสามารถของอารัณ ดังนั้นเลยให้ไปอารัณเรียนรู้โอลิมปิก และอารัณก็สนใจพอดี ดังนั้นผมเลยให้เขาไป”นัทธีนั่งลงข้างเธอแล้วตอบ
ป้าส้มพยักหน้า“ใช่ ตามนี้แหละค่ะ”
“ที่แท้ก็แบบนี้”วารุณีเข้าใจทันที จากนั้นมองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ“เรื่องตั้งแต่เมื่อวานซืน ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ”
ในฐานะแม่ ดันเป็นคนสุดท้ายที่รู้
“ผมอยากบอกคุณ แต่อารัณไม่ให้ เขาอยากบอกคุณเอง”นัทธียักไหล่ตอบกลับ ไม่ละอายใจสักนิดที่เปิดเผยความลับของลูกชาย
ทำให้วารุณีอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่“นี่ ในเมื่ออารัณอยากบอกฉันเองกับตัว แต่คุณเพิ่งบอกฉันไป คุณดูสิลูกชายกลับมาจะโวยวายไหม”
นัทธีกุมหัวแล้วหัวเราะเบาๆ“ไม่เป็นไร ถึงตอนนั้นคุณแกล้งเป็นไม่รู้ก็พอแล้ว”
มุมปากวารุณีกระตุก“คุณเป็นพ่อที่ดีในการหลอกลูกเสียจริง เอาล่ะ ฉันไปอาบน้ำก่อนละ เสื้อผ้าติดกลิ่นบนเครื่องบิน ต้องเปลี่ยน”
พูดจบ เธอก็ยืนขึ้นมา เดินไปที่ชั้นบน
ไม่นาน จู่ๆนัทธีก็ยืนขึ้นมา แล้วตามขึ้นไป
ในห้องน้ำที่ห้อง วารุณีกำลังแช่ตัวในอ่าง หลับตาไปพร้อมกับฟังเพลง และดื่มด่ำกับการนวดในอ่างอาบน้ำ สบายไปทั้งตัวสุดๆ
ตอนนี้เอง ประตูห้องน้ำค่อยๆเปิดออก นัทธีเข้ามาจากด้านนอก เดินไปนั่งลงเบาๆที่ด้านข้างอ่าง มองเธอด้วยดวงตาสีเข้มนั้น
วารุณีรู้สึกถึงอะไร ก็ลืมตาขึ้น จากนั้นก็สบตาเข้ากับใบหน้าหล่อเหลานั้นของชายหนุ่ม จึงตกใจ“นัทธี คุณเข้ามาได้ไง?”
“ผมก็อยากอาบน้ำ”นัทธีพูดไป ก็ยื่นมือไปดึงเนกไท
วารุณีเบิกตาโต“คุณก็จะอาบน้ำ?แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังอาบอยู่นะ รอฉันอาบเสร็จ คุณค่อยเข้ามาเถอะ”
“ไม่ต้อง อาบด้วยกันสิ”
พูดจบ เขาก็เข้ามาในอ่างอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำใหญ่มาก ทรงกลม บอกว่าเป็นโรงอาบน้ำก็ไม่เว่อร์ไป แช่ด้วยกันสี่ห้าคนก็ไม่ใช่ปัญหา ดังนั้นหลังจากนัทธีเข้าไป พื้นที่ก็ไม่แคบสักนิด
เขามานั่งด้านข้างวารุณี“ช่วยผมนวดไหล่หน่อย”
วารุณีกลอกตาใส่เขาอย่างพูดไม่ออก ได้แต่นวดให้เขา
ยังไงเขาก็เข้ามาแล้ว เธอจะไล่เขาออกไปก็ไม่ได้
และก็ พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน และไม่ใช่ว่าไม่เคยแช่น้ำด้วยกัน
วารุณีนวดไหล่ให้นัทธีอย่างไม่เบาหรือหนักมากไป
กล้ามเนื้อที่ไหล่เขาแข็งเป็นพิเศษ ไม่อ่อนสักนิด จะเห็นว่าช่วงนี้ ร่างกายของเขาเหนื่อยมาก ไม่งั้นไหล่ก็คงไม่แข็งขนาดนี้
วารุณีถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ จากนั้นหยิบน้ำมันหอมระเหยข้างๆมาเทใส่มือ นวดให้เขา
เธอนวดได้สบายมาก นัทธีหลับตาอย่างทนไม่ไหว สุดท้ายก็ค่อยๆหลับไป
วารุณีได้ยินเสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขา พอมองขอบตาที่คล้ำเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกแย่มาก
ตั้งดูแลบริษัท และยังต้องเป็นห่วงเธออีก และยังต้องเป็นห่วงเรื่องสุขใจและยังเรื่องตามจับนิรุตติ์อีก
ภาระเหล่านี้ตกอยู่ที่เขาเพียงผู้เดียว แค่คิดก็รู้ว่า เขาแข็งแกร่งแค่ไหน และเหนื่อยล้ามากแค่ไหน
วารุณีก้มหน้า จูบเบาๆไปที่หน้าผากชายหนุ่ม จากนั้นนวดให้เขาต่อ
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่นวด เธอยังทำการครอบแก้วด้วย
ใช่ ครอบแก้ว
ถึงแม้ครอบแก้วจะเชยไปหน่อย หลายๆคนมักจะดูถูก แต่ผลลัพธ์ของการครอบแก้วกลับดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อที่เจ็บอะไรพวกนั้น
เธอคุ้นเคยกับการครอบแก้ว เพราะว่าต้องวาดรูปออกแบบ ดังนั้นเธอต้องนั่งนานอยู่แล้ว
พอนั่งนานไปก็จะปวดเอวปวดหลัง จากนั้นปวดคอ ใช้แค่นวดอย่างเดียวก็ไม่ ทำการครอบแก้ว ก็จะสบายตัวไปหมด ดังนั้นเธอเลยตั้งใจซื้ออุปกรณ์ชุดหนึ่งมาไว้ในห้องน้ำ
เธอยังจำได้ว่า ตอนที่นัทธีเห็นแก้วที่ใช้ครอบแก้วเหล่านี้ ก็มีสายตาประหลาดใจ
ชัดเจนว่านัทธีไม่เคยทำการครอบแก้ว และเขาที่เป็นคนสูงส่งแบบนี้ เธอก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเขาไปครอบแก้วเป็นอย่างไร ดังนั้นครอบแก้วเป็นเธอที่ทำตลอด นัทธียังไม่เคยทำ
ตอนนี้ เธอสามารถทำให้เขาดูได้พอดี
วารุณีจุดไฟ หยดน้ำมันระเหย จากนั้นเอาแก้วแนบไปที่หลังของนัทธี
ทันใดนั้นนัทธีก็ตกใจกับอุณหภูมิที่มาจากด้านหลัง
เขาลืมตาขึ้น นั่งขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้น?คุณกำลังทำอะไร?”
เขาหันหน้า อยากดูว่าหญิงสาวกำลังทำอะไรด้านหลังตัวเอง
วารุณีตบไหล่ของเขา“อย่าขยับ ฉันกำลังครอบแก้วให้คุณอยู่”
“ครอบแก้ว?”นัทธีตะลึง จากนั้นก็เห็นว่าหลังเอวตัวเองมีขวดแก้วหลายอัน
ในขวดแก้วมีเปลวไฟ แต่กลับมีควันขาว เขายังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ปากขวดแก้วนั้นกำลังดูดเนื้อของเขา
“ใช่ กล้ามเนื้อคุณแข็งมาก แข็งแบบไม่ใช่กล้ามเนื้อปกติ ช่วงนี้คงเหนื่อยสินะ ดังนั้นเลยจะครอบแก้วให้คุณ ให้คุณผ่อนคลายลงหน่อย ดังนั้นอย่าขยับมั่ว และก็อย่าคิดจะเอาพวกนี้ออกไป ไม่งั้นฉันจะร้องไห้ให้คุณดู”วารุณีมองนัทธี จ้องเขาแล้วพูดเตือน