“……”ปาจรีย์อ้าปาก พูดไม่ออก
เพราะเธอคิดจะทำแบบนี้จริง
ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ต้องปิดบังแน่ ไม่บอกใครเลย
เพราะอย่างแรกเธอไม่รู้ว่าบอกพ่อแม่แล้ว พ่อแม่จะถูกกระตุ้นหรือไม่
อย่างที่สองคือ เด็กคนนี้มากะทันหันไป เธอไม่ได้เตรียมใจไว้ ว่าจะบอกคนอื่นอย่างไร
เห็นปาจรีย์ไม่พูด คุณแม่ปารวีก็รู้ว่าพูดจี้จุด จึงโกรธจนตีไหล่เธอไปสองที“ลูก……ลูกทำแม่โกรธจะตายอยู่แล้ว!”
“เอาล่ะๆภรรยา”คุณพ่อประสิทธิ์กลัวคุณแม่ปารวีโกรธจนเกิดเรื่องขึ้นมา จึงรีบดึงคุณแม่ปารวีไว้ ให้เธออย่าโกรธ
คุณแม่ปารวีหอบ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นมา“สิทธิ์ คุณดูลูกสาวคุณสิ เรื่องใหญ่แบบนี้ เธอยังจะปิดบังฉันกับคุณ เธอเห็นพวกเราเป็นพ่อแม่บ้างไหม?”
“แม่ อย่าพูดแบบนี้สิ”ปาจรีย์เม้มริมฝีปาก พูดอย่างไม่พอใจ
อะไรคือบอกว่าเธอไม่เห็นพวกเขาเป็นพ่อแม่ พวกเขาเป็นพ่อแม่เธอนะ เธอจะไม่เห็นพวกเขาเป็นพ่อแม่ได้ไง
ถึงแม้ ตอนที่เธอฆ่าตัวตาย จะไม่เคยคิดจริงๆว่าหลังจากตัวเองตายไป พวกเขาจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เธอสำนึกผิดแล้ว
“เอาล่ะภรรยา อย่าติดใจเอาความเธอเลย ตอนนี้เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว คุณเอาความเธอไปจะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้ที่สำคัญ คือถามเธอว่าจะเอายังไงกับเด็กคนนี้”คุณพ่อประสิทธิ์ถอนหายใจแล้วพูด
วารุณีก็พยักหน้าเห็นด้วย“ใช่คุณน้า ถามปาจรีย์ก่อนดีกว่าค่ะ ว่าจะจัดการเด็กคนนี้อย่างไร”
คำนี้พูดออกมา ทั้งสามก็มองไปที่ปาจรีย์
มือปาจรีย์ที่วางไว้บนท้อง ก็ค่อยๆกำแน่น
คุณพ่อประสิทธิ์ถามเสียงหม่น“ปาจรีย์ ลูกบอกพวกเรามาตรงๆ เด็กคนนี้ ลูกจะเอาอย่างไร เอาออก หรือว่าเก็บไว้?”
ได้ยินคำว่าเอาออกสองคำนี้
ปาจรีย์เบิกตาโตขึ้นมา ร่างก็ยืดตรงขึ้นมา ส่ายหน้าอย่างแรง ตอบอย่างไม่รู้ตัว:“ไม่ เอาออกไม่ได้”
“เอาออกไม่ได้?”คุณพ่อประสิทธิ์ขมวดคิ้ว“ดังนั้นความหมายของลูกคือ ลูกจะเก็บไว้?”
“ฉัน……”สายตาปาจรีย์ดูตกใจไป
เก็บไว้?
พูดตรงๆ เธอก็ไม่เคยคิดเลย
เธอก็แค่ไม่อยากเอาเด็กคนนี้ออกเท่านั้น แต่ถ้าเก็บไว้ เธอก็ไม่รู้ว่าถูกหรือไม่
ยังไงพงศกรก็ไม่รักเธอ และไม่รู้ด้วยว่าเธอท้องลูกเขา และถึงรู้ พงศกรจะทำอย่างไรล่ะ?
จากนิสัยเขา จากระดับความรังเกียจที่เขามีต่อเธอ กลัวว่าจะขอร้องเธอให้เอาเด็กคนนี้ออกด้วยซ้ำ เขาไม่มีทางให้เธอคลอดลูกเขาออกมาแน่
ดังนั้นจากจุดนี้ ที่เธอน่าจะเลือกที่สุด ก็คือเอาเด็กคนนี้ออก
อย่างไรก็ตามพอคิดจะเอาออก ใจเธอก็เหมือนถูกบีบ ทำใจไม่ได้อย่างมาก และก็ไม่สบอารมณ์อย่างมาก
ถึงเด็กคนนี้จะมาอย่างไม่ตั้งใจ และไม่ได้คาดหวังแต่แรก แต่ตอนนี้มาอยู่ในท้องเธอ ก็ถือเป็นลูกเธอ และยังเป็นคนที่เธอรักที่สุดที่ให้ลูกเธอมาด้วย เธอก็ใจดำไม่ลง ที่จะเอาเด็กออก
เห็นปาจรีย์กำลังพัวพันกับสิ่งนี้ ไม่ให้คำตอบออกมาอยู่นาน วารุณีก็คิด แล้วจู่ๆก็พูด“ปาจรีย์ ที่จริงในใจเธอ อยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ มากกว่าเอาเด็กออกใช่ไหม?”
ปาจรีย์เงยมองไปที่เธอ อ้าปาก ตอบอือไปเบาๆ
คุณแม่ปารวีถอนหายใจ“ปาจรีย์ เพราะเด็กนี่เป็นของพงศกรใช่ไหม ลูกเลยไม่อยากเอาออก?”
เธอแน่ใจมากว่า สาเหตุหลักๆ ก็เป็นเพราะส่วนนี้แน่
ถ้าเด็กคนนี้ เป็นของคนอื่น งั้นปาจรีย์ต้องเลือกเอาออกแน่
ปาจรีย์ก็ไม่ปิดบัง พยักหน้ายอมรับ
ยังไงเรื่องนี้ ทุกคนก็คิดได้
“ลูกนะลูก ลูกรักพงศกรขนาดนี้เลยเหรอ?”คุณแม่ปารวีชี้เธอ โกรธอย่างมาก
คุณพ่อประสิทธิ์พูดด้วยสีหน้าหม่นไป“ปาจรีย์ ลูกต้องรู้นะว่า เด็กนี่ถ้าไม่เอาออก ต่อไปลูกอยากเริ่มความรักใหม่ ก็แทบไม่มีโอกาสเลย น้อยมากที่ผู้ชายจะไม่ถือสา และก็ ลูกท้องก่อนแต่ง ชื่อเสียงก็ไม่ดีแล้ว ลูกไม่กลัวคนอื่นว่าลูก ว่าเด็กคนนี้เหรอ?”
“ฉัน……”ปาจรีย์ได้ยินคำพูดของคุณพ่อประสิทธิ์ หัวใจก็หดไป อ้ำอึ้งพูดไม่ออก
คุณพ่อประสิทธิ์พูดอีกว่า:“แล้วก็ พงศกรไม่รักลูก และไม่มีทางที่จะรักเด็กคนนี้ในท้องแก ถึงแกคลอดเด็กคนนี้ออกมา เด็กคนนี้ก็จะไม่ได้รับความรักของพ่อ แบบนี้แกยอมได้เหรอ?ถ้าต่อไปเด็กถามแกขึ้นมาว่า พ่อของเขาคือใคร แกจะตอบอย่างไร?แกจะบอกความจริงเขา หรือปิดบังเขา?”
“ฉันไม่รู้……”ปาจรีย์ส่ายหน้าอย่างเจ็บปวด
เธอแค่ไม่อยากเท่านั้น และก็ทำใจไม่ได้ที่จะเอาเด็กคนนี้ออก จึงไม่ได้คิดมากขนาดนี้
ตอนนี้เอง วารุณีก็มองปาจรีย์ พูดเสียงเบา:“ที่จริง เก็บเด็กคนนี้ไว้ หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
คำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างมองไปที่เธอ
“วารุณี หมายความว่าไง?”ปาจรีย์รีบถาม
วารุณีหัวเราะ“พวกคุณน่าจะรู้สถานการณ์ของฉันสินะ ตอนนั้นฉันก็เหมือนกับปาจรีย์ ท้องก่อนแต่ง ในช่วงที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิงอันเจ็บปวด พัวพันว่าตัวเองควรจะเก็บเด็กไว้ หรือเอาออก ตอนแรกสุดฉันก็คิดว่าจะเอาออก แต่จากนั้นเพราะว่าสุขภาพจึงเอาเด็กออกไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้ฉันเก็บเด็กไว้ อีกสาเหตุนึ่งคือ เพราะว่าฉันไม่ได้คาดหวังกับความรักแล้ว ฉันไม่คิดจะอนาคตจะอยู่กับใคร แต่งงานกับใคร ดังนั้นสุดท้ายฉันจึงตัดสินใจเอาเด็กไว้”
เพราะว่าตอนนั้นเพื่อที่จะช่วยศรัณย์ จึงทำข้อตกลงกับพิชญา
พิชญาให้เธออุทิศตัวให้กับผู้ตัดสินการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกาย หลังจากเสร็จสิ้น ก็ช่วยเธอทำการผ่าตัดให้ศรัณย์ เธอจึงตกลง
ตอนนั้นเธอไม่รู้ด้วยว่าผู้ชายคนนั้นคือนัทธี ดังนั้นคืนนั้น สำหรับเธอแล้ว มันเป็นนรกโดยตรง ทำให้เธออยากจะตายซะเลย
จริงๆแล้ว หลังจากคืนนั้นเสร็จสิ้น เธอก็เคยคิดอยากตาย แต่ตอนนั้นศรัณย์ต้องการการดูแล เพราะว่าแม่หย่าแล้วไปแต่ตัวไม่ได้อะไร ทำให้สติเลื่อนลอย ดังนั้นเธอตายไม่ได้ ถ้าเธอตายไป แม่กับศรัณย์ก็ไม่มีใครดูแล เธอแค่คิดว่า รอให้ศรัณย์ดีขึ้นหน่อย สภาวะทางจิตใจของแม่ก็ฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง แล้วค่อยตัดสินใจตาย
เพราะว่าเธอคิดว่าตัวเองสกปรกแล้ว ตัวเองในแบบนั้น ไม่สมควรอยู่บนโลกนี้
สุดท้ายพอรู้ว่าตั้งท้อง เธอเปลี่ยนความคิดทันที เธอจะไม่ตายแล้ว
ทำไมเธอต้องตายล่ะ เธอทำข้อตกลงกับพิชญา ที่จริงทำเพื่อช่วยศรัณย์กับแม่ ถ้าเธอตายไป หลังจากแม่และศรัณย์รู้ความจริงที่เธอตายไป จะต้องใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้แน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศรัณย์ ศรัณย์จะโทษตัวเองและรู้สึกผิดไปตลอด เพราะศรัณย์จะคิดว่า ตัวเองเอาเลือดเนื้อของพี่สาวมาให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป
แม้แต่แม่ก็จะเกลียดชังตัวเอง คิดว่าไร้ความสามารถ ให้ลูกสาวขายตัวมาทำการผ่าตัดให้ลูกชาย
ดังนั้นเพื่อน้องชายและแม่ เธอจึงทนความรังเกียจที่มีต่อตัวเอง ทิ้งความคิดที่จะไปตาย ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเก็บลูกในท้องไว้
อย่างแรกเพราะว่า ตอนนั้นร่างกายเธอไม่ดี เอาลูกออก เป็นไปได้ที่ตัวเองจะตาย อย่างที่สองคือ ยังไงซะเธอก็สกปรกแล้ว ไม่มีความปรารถนากับความรัก และก็ไม่คิดจะรักใครอีก และก็ยิ่งไม่คิดจะแต่งงานกับใครอีกแล้วด้วย ดังนั้นคลอดลูกออกมา อยู่กับตัวเอง ก็ไม่ใช่เรื่องแย่
ดังนั้นไม่กี่เดือนต่อมา อารัณกับไอริณเกิดมา
ความน่ารักของลูกทั้งสองคน ทำให้เธอรู้สึกโชคดีมากอยู่หลายครั้งที่ตอนนั้นตัวเองเลือกไม่ผิด
ไม่อย่างนั้น กลัวว่าเธอจะเสียใจไปตลอดชีวิต
คิดถึงตรงนี้ วารุณีก็ได้สติคืนมา มองปาจรีย์ หัวเราะเบาๆ:“ปาจรีย์ ต่อไป ฉันอยากบอกอะไรกับเธอ ในฐานะคนที่เคยผ่านมาก่อน ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะฟังให้ดี”