บทที่ 754 แบ่งกลุ่ม

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ลีน่าจะไม่เข้าใจได้ยังไง ตาของเธอมองบนจนแทบทะลุขึ้นไปบนท้องฟ้า“บ้าจริง ที่แท้ก็ผสมผสานกัน เอางานแบบของนักออกแบบคนอื่นๆมารวมกัน ถึงว่าทำไมความไม่เข้ากันถึงได้โดดเด่นนัก แต่ฉันก็นับถือเขานะ กล้าเอางานแบบสไตล์ต่างๆมาผสมเข้าด้วยกัน จนทำเป็นกระโปรงออกมา หมดคำจะพูดแล้วเหมือนกัน”

มุมปากยิ้มเยาะของวารุณียกหยักขึ้น“ ทำยังไงได้ ในมือเขาไม่มีงานแบบที่เข้ากับโจทย์ที่กำหนดนี้ ดังนั้นเขาก็เลยต้องทำแบบนี้ ไม่งั้นก็ไม่มีงานส่ง หากเขาเอางานแบบในหัวข้ออื่นมาใช้ ก็ยิ่งจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้คนอื่นๆจับได้ว่าแบบนั้นลอกมาหรือขโมยมันมา สิ่งที่เขาทำได้คือวิธีการปะติดปะต่อกันเพื่อให้ข้ามผ่านความยากลำบากนี้ไป”

“แม้ว่าฉันอยากจะคัดชื่อเขาออกมาก แต่การแข่งขันในรอบนี้ไม่มีการคัดคนออก ไม่มีทางเลือก คงต้องเก็บเขาไว้ก่อน” ลีน่าถอนหายใจ

วารุณีวางงานแบบของจุ๊บแจงลง“ รอไปก่อน ครั้งนี้เขาอาจจะผ่านความยากนี้ไปได้ แต่ต่อไปเธอผ่านมันไปไม่ได้แน่ ต้องมีสักวันที่เธอจะต้องมานั่งเสียใจ พอเถอะ การให้คะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจับเลือกลูกทีมเรากันดีกว่า”

ลีน่าพยักหน้าให้“ ขออย่าให้จับโดนจุ๊บแจงคนหลอกลวงคนนั้นเลย”

“จับได้ก็ไม่เป็นไร คัดชื่อเธอออกซะแต่เนิ่นๆก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมาถ่วงผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆของเรา”วารุณีพูดอย่างเรียบเฉย

หลังจากนั้น ทั้งสองก็เดินไปหาพิธีกร จับฉลากเลือกลูกทีมของตัวเอง

หลังจากที่จับฉลากแล้ว ทั้งสองก็กลับไปยังที่นั่งของกรรมการ

และทางฝั่งของพิธีกร ก็ขึ้นไปยืนที่แท่นพร้อมรายชื่อกลุ่ม และเริ่มประกาศผลการแบ่งกลุ่ม

จุ๊บแจงนั่งอยู่ในที่ของตัวเอง สองมือกำกันแน่น ในใจรู้สึกร้อนรนไม่รู้จะถูกจับลงไปยังกลุ่มของใคร

พูดตามตรง เธอไม่ค่อยอยากไปอยู่ทีมเดียวกับวารุณี วารุณีกับเธอไม่กินเส้นกัน หากอยู่ด้วยกัน ใครจะไปรู้ว่าวารุณีจะใช้อำนาจกลั่นแกล้งอะไรเธอหรือเปล่า

ดังนั้นจุ๊บแจงก็จึงอธิษฐานในใจเงียบๆ ขอให้ฟ้ามีตา อย่าให้เธอได้ไปอยู่กลุ่มเดียวกับวารุณีและลีน่าเลย

โชคดีที่ในที่สุดก็ราวกับพระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของจุ๊บแจง เธอได้เข้ากลุ่มกับกรรมการผู้ตัดสินคนอื่น

สิ่งนี้ทำเอาจุ๊บแจงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ตอนนี้จะขอแจกแจงรายชื่อของกลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มนี้อาจารย์ที่ปรึกษาคือคุณวารุณีกับนักออกแบบลีน่า”ในตอนนี้เอง เสียงของพิธีกรก็ดังขึ้นอีกครั้ง

แม้จุ๊บแจงจะไม่อยากเข้ากลุ่มกับวารุณี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอไม่สนใจกลุ่มนี้

เพราะวารุณีคือศัตรูของตัวเอง รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ไม่แน่ว่าในอนาคต เธออาจจะลงมือทำอะไรกับลูกทีมของวารุณีก็ได้ ทำให้ลูกทีมของวารุณีตกรอบ หากเป็นแบบนั้น คนเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างวารุณี ก็ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างผู้ตัดสินด้วยกันได้ เป็นได้แค่ผู้ตัดสินทั่วไปเท่านั้น

เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ถูกคัดชื่อออกของวารุณี จุ๊บแจงก็หรี่ตาลง แววตาที่เก็บซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิดก็ไหววูบ

แต่เธอก็มีความสุขได้เพียงไม่นาน ข้างกายนั้นทันทีทันใดก็มีเสียงอันน่าตื่นเต้นดังขัดจังหวะเธอขึ้นมา

เธอหันไปมอง เห็นผู้เข้าแข่งขันคนที่สนิมกับตัวเธอ กำลังกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจอยู่กับที่ และปากก็เอาแต่พร่ำพูดว่า“ เยี่ยมไปเลย ฉันถูกเลือกไปอยู่ทีมเดียวกับคุณวารุณีเขา โอ้พระเจ้าช่างรักฉันมากจริงๆฮ่าๆๆ”

ทันทีที่จุ๊บแจงได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็มืดมนลงทันที

ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ ได้ถูกแบ่งกลุ่มไปอยู่ในทีมของวารุณี อย่างนั้นแล้ว ตัวเธอเองก็ต้องแยกกับผู้เข้าแข่งขันคนนี้นะสิ

หากเป็นแบบนี้แล้ว ต่อไปตัวเธอเองจะทำยังไง ?

มีเพียงผู้เข้าแข่งขันคนนี้ที่ดูจะใสซื่อ และน่าคบหา อะไรที่ตัวเองไม่รู้ ถามเอากับเขาก็จะรู้คำตอบได้

แต่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างก็หยิ่งยโสมาก เมื่อได้ยินว่าเธอไม่มีชื่อเสียงอะไร ก็ไม่มีใครสนใจเธอ ดังนั้นต่อไปหากมีอะไรที่อยากจะถาม เธอก็ไม่รู้จะไปถามเอากับใครแล้ว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของจุ๊บแจงก็ดูแย่ลง แต่ก็ไม่มีทางเลือก

เพราะต่อให้เธอจะคัดค้าน ก็ไม่มีใครตอบรับ

“เอาล่ะ รายชื่อกลุ่มได้แจกแจงไปเรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้ใครอยู่กลุ่มไหน กับอาจารย์ที่ปรึกษาคนไหน ให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน เดินไปรวมกลุ่ม เพื่อพบปะกับอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเอง ” พิธีกรวางรายชื่อลง แล้วพูดกับทุกคน

หลังจากที่พูดจบ เขาก็ยกยิ้ม จากนั้นก็โค้งคำนับแล้วเดินออกไป

ลีน่าบิดขี้เกียจแล้วลุกยืนขึ้นจากที่นั่ง “เอาล่ะวารุณี เราไปต้อนรับกลุ่มของเรากันเถอะ”

วารุณีวางขวดน้ำดื่มในมือลง พยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม “ไปซิ”

ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไปยังกลุ่มของพวกเขา

พวกเขาถือว่ายังโชคดีมาก มีผู้เข้าแข่งขันเกือบยี่สิบคนในกลุ่ม ในนี้มีสี่คนที่มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ด้วย ที่เหลือ แม้พรสวรรค์จะไม่โดดเด่นมาก แต่ฝีมือการออกแบบก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน

ยังไงเสีย ก็เป็นต้นอ่อนที่เพาะเลี้ยงปลูกฝังกันได้

หลังจากที่วารุณีกับลีน่าทำความรู้จักกับทุกๆคนไปแล้ว ก็พากันแยกย้าย ให้ผู้เข้าแข่งขันกลับไปพักผ่อนกันก่อน

เพราะยังไงวันนี้ก็แค่การแข่งขันเพื่อแบ่งกลุ่มเท่านั้น ตอนนี้แบ่งกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก็จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ

แต่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้น ก็จะเป็นการแข่งขันกันอย่างเป็นทางการของจริง

การแข่งขันในแต่ละรอบ ต้องใช้เวลาอยู่ราวๆสองสามวัน มิเช่นนั้นแล้วก็ตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้

ดังนั้นวันนี้ ก็จึงปล่อยให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย

“วารุณี เดี๋ยวเราออกไปกินข้าวกัน ได้ยินมาว่าอาหารพื้นเมืองของประเทศนี้รสชาติดีมาก ”ลีน่ามองดูนาฬิกาแล้วพูดเสนอ

วารุณีพยักหน้าให้ “เอาสิ ไม่ได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านนานแล้ว ออกไปก็ดีเหมือนกัน ”

“เยี่ยม!”ลีน่าปรบมือ“วารุณีฉันรู้ว่าเธอดีที่สุด งั้นเราไปกันเถอะ”

“อืม ”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองเดินคล้องแขนกันแล้วออกไปจากสถานที่แข่งขันนี้ ด้านหลังมีบอดี้การ์ดสองคนเดินตาม ซึ่งตลอดทางนั้นดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก

มายังร้านอาหารพื้นเมืองที่ค่อนข้างจะขึ้นชื่อของประเทศนี้

ลีน่าสั่งอาหารมาสองอย่าง จากนั้นก็ยื่นเมนูให้วารุณี“วารุณี เธอดูเอาเองว่าอยากจะกินอะไร?”

วารุณีรับเมนูอาหารมา เลือกอยู่สักพัก ก็เลือกมาได้สองอย่าง จากนั้นก็คืนเมนูให้พนักงาน แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “แค่นี้ค่ะ ”

“ได้ค่ะ คุณผู้หญิงทั้งสองกรุณารอสักครู่”พนักงานเก็บเมนูอาหาร แล้วพูดตอบ จากนั้นก็หันหลังแล้วไปแจ้งกับฝ่ายครัว

วารุณีรินน้ำให้ตัวเองและลีน่าคนละแก้ว “ อ่ะนี่ ”

“ขอบใจนะ ”ลีน่ารับแก้วน้ำมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “ วารุณี ฉันขอไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยว จะรีบกลับมา ”

วารุณีดื่มน้ำ แล้วโบกมือให้ “ไปเถอะ ”

ลีน่ายกยิ้ม ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังทิศทางของห้องน้ำ

ส่วนวารุณี นั่งมือเท้าคาง เล่นโทรศัพท์อย่างเบื่อหน่าย

ผ่านไปไม่กี่นาที ลีน่าก็กลับมา คิ้วที่ได้รูปย่นขึ้นเล็กน้อย สีหน้าดูไม่ค่อยจะดี

เมื่อวารุณีเห็น สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา วางโทรศัพท์ลงแล้วถามว่า “ลีน่า เป็นอะไรไป ?”

“วารุณี เดาสิว่าเมื่อกี้ฉันไปเจอใครมา ? ” ลีน่าโน้มตัวไปข้างหน้า ขยับเข้าหาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น

วารุณีหรี่ตาลง“ใคร?”

ท่าทีของเธอยังคงจริงจัง ดูท่าแล้วคนคนนั้น คงไม่ใช่คนที่เป็นมิตรกับพวกเขาแน่

คนที่เป็นศัตรูกับพวกเขา เธอนึกไม่ออกแล้วจริงๆว่าเป็นใคร

หากเป็นศัตรูกับเธอแค่คนเดียว เธอคงพอจะเดาได้อยู่สักสองสามคน แต่คนที่เป็นศัตรูกับลีน่าด้วย เธอไม่รู้ว่าเป็นใครจริงๆ

เพราะเธอกับลีน่า ไม่เคยมีความแค้นกับใคร

เมื่อลีน่าเห็นท่าทางของวารุณี ก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ หันซ้ายมองขวา จากนั้นก็พูดอธิบาย“ที่ฉันหมายถึงไม่ใช่ศัตรูของฉัน แต่เป็นของเธอ”

“ของฉัน?”วารุณีชี้ไปที่จมูกตัวเอง คิ้วผูกกันเป็นปม

ลีน่าพยักหน้าให้อย่างหนักแน่น “ใช่ ของเธอ”

วารุณีขบริมฝีปาก “ อย่างนั้นเหรอ แล้วลีน่า สรุปเธอเห็นใคร ? จุ๊บแจงเหรอ?