บทที่ 797 ความร้ายกาจของอาจารย์ฮั่ว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 797 ความร้ายกาจของอาจารย์ฮั่ว

บทที่ 797 ความร้ายกาจของอาจารย์ฮั่ว

ประเด็นคือมันคือรถแห่เกษตรกรรมเนี่ยสิ แต่เสี่ยวเถียนเรียนคณะภาษาจีนนะ สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันอยู่ตรงไหนเนี่ย?

เดี๋ยวก่อนนะ มหาวิทยาลัยไหนเชิญตัวเสี่ยวเถียนไปเข้าร่วมเดินขบวนนะ?

มหาวิทยาลัยเกษตรกรรมใช่ไหม?

แล้วตอนนี้ก็เป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีก?

หรือเสี่ยวเถียนจะมีตัวตนอื่นอีก?

เป็นนักวิทยาศาสตร์การเกษตรชื่อดัง ที่ยังเคยทำงานให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือ?

แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ?

ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองคิดเยอะไป เสี่ยวเถียนเพิ่งจะอายุเท่านี้ จะไปมีตัวตนอื่นซ่อนเร้นอีกได้ยังไง?พวกเราติดมากเกิดไปแล้ว

แต่มีแค่ฮั่วซือเหนียนเท่านั้นที่รู้เรื่องราวทั้งหมด

อันที่จริง เหตุผลที่เสี่ยวเถียนโดนเชิญตัวจากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรม เป็นข่าวที่เขาส่งให้ว่าที่พ่อตาในอนาคตน่ะ

เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าจิ่งเฉิงไม่ยินดีรักษานักศึกษามากคุณภาพแบบนี้หรอก แต่สำหรับที่นั่นมันหายากมาก ไม่งั้นเขาจะโทรมาแบบนี้หรือ? ไม่คิดเลยว่า ว่าที่พ่อตาจะใจกว้างขนาดนี้ ถึงขนาดแจ้งเรื่องไปถึงทางกระทรวงเลยด้วย

สมแล้วที่เป็นท่าน!

ฮั่วซือเหนียนไม่แปลกใจเลย

ตำแหน่งน้องภรรยาในใจว่าที่พ่อตาสูงมาก ถ้าจะบอกว่า มีเรื่องอะไรที่ท่านเสียใจมากที่สุด ก็คงเป็นเขาไม่สามารถพาเสี่ยวเถียนไปที่มหาวิทยาลัยเกษตรกรรมได้ล่ะมั้ง เหมือนอธิการที่นั่นจะสนใจเสี่ยวเถียนมาก จากที่ได้ยินมาเขาพยายามคิดหาทางพาตัวเด็กสาวไปมหาวิทยาลัยตน

ส่วนคำเชิญจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ค่อบแปลกใจกับเขานัก ระดับของเสี่ยวเถียนในใจท่านผู้นำทุกท่านที่นั่นไม่ใช่น้อย ๆ เลย!

คาดว่าคงได้ยินข่าวคราวมาก็เลยส่งคำเชิญมาสินะ! แต่ที่อยากรู้มากกว่าคือ สายที่สามมาจากใคร! ฮั่วซือเหนียนที่อึดอัดจึงใจถามออกไปตรง ๆ

“ท่านอธิการ แล้วสายที่สามล่ะครับ? ที่ไหนโทรมาหรือ?”

อธิการในตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อสักนิด เขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ด้วยซ้ำ แต่พออาจารย์ฮั่วเอ่ยปาก มันก็ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปจริง ๆ

จากนั้นก็เหลือบมองไปที่อีกฝ่าย ได้ยินว่าคู่หมั้นฮั่วซือเหนียนเป็นพี่สาวของซูเสี่ยวเถียน งั้นเขาน่าจะรู้สถานการณ์เด็กคนนี้เป็นอย่างดี แต่ไอ้เด็กนี่มันไม่ได้บอกอะไรสักคำ

ทว่าอธิการยังพูดอะไรมากมายไม่ได้ จากนั้นก็เบนสายตาไปทางเสี่ยวเถียน และไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน

สายที่สามมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ได้ข่าวว่าพวกเขาก็มีรถแห่เป็นของตัวเองเหมือนกันจึงโทรมาเชิญเสี่ยวเถียนไปเข้าร่วมด้วยกัน

“ท่านอธิการคะ ฉันก็อยากรู้เช่นกันค่ะ มีที่ไหนเชิญซูเสี่ยวเถียนไปอีกบ้าง? หรือว่าอนาคตจะมีใครมาเชิญเธออีกไหม?”

อาจารย์เซี่ยหนานถามเหมือนกลัวสถานการณ์จะสงบเกินไป

อธิการยิ่งแก่ตัวลงยิ่งเลอะเลือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าจะรักษานักศึกษาทรงคุณภาพแบบนี้ยังไง

ที่จริงอาจารย์เซี่ยหนานกำลังกล่าวหาอธิการอยู่

หลังจากที่อธิการฟังการรายงานของฮั่วซือเหนียน เขาก็ได้จัดประชุมเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่ารองอธิการอย่างเซียวหย่วนหยางจะแอบทำเรื่องลับหลังด้วยการประกาศรายชื่อที่ไม่มีชื่อซูเสี่ยวเถียนในนั้น!

ก่อนฮั่วซือเหนียนจะมา เขาเรียกรองอธิการมาคุยด้วยแล้ว แต่ก่อนจะได้พูดอะไร ฮั่วซือเหนียนก็เข้ามาพอดี หลังจากนั้นตามมาด้วยกลุ่มอาจารย์เซี่ยหนาน

ทว่าเรื่องราวทุกอย่างกลับวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ท่านอธิการเหมือนโดนย่างบนเตาไฟร้อน ๆ

“กระทรวงการต่างประเทศ!” อธิการกัดฟันพูด

สิ้นประโยคทุกคนอ้าปากค้าง

สวรรค์!!

ได้ยังไงกัน?

พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเสี่ยวเถียนทำนาได้ และยังไม่อยากเชื่ออีกว่าเธอจะแปลภาษาได้อีกด้วย

“ผมนึกว่ากระทรวงพาณิชย์เสียอีก!” ฮั่วซือเหนียนหัวเราะ

อธิการได้ยินก็เกือบสะดุดล้ม เขาไม่สงสัยในคำพูดอาจารย์ฮั่วเลย ไม่มีทางที่อยู่ ๆ อีกฝ่ายจะพูดขึ้นมาหรอก เขาจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน

เสี่ยวเถียนกุมขมับ อาจารยฮั่วตั้งใจจัดการเธอหรือไง?

เซียวหย่วนหยางตกตะลึง

นี่มันอะไรกัน?

แค่คำเชิญจากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมก็พอให้คิดว่าเยอะแล้วนะ แต่อีกสองที่ที่เหลือกลับทำเอาตกตะลึงยิ่งกว่า

ฮั่วซือเหนียนยังบอกอีกว่ากระทรวงพาณิชย์อาจจะเชิญเด็กคนนี้ด้วยซ้ำ แล้วถ้าเชิญจริง ๆ ฝ่ายนั้นก็ต้องมีรถแห่เหมือนเมื่อก่อนนะ

แต่ปีนี้ไม่มีเลยทำได้แค่ดูเท่านั้น!

“อาจารย์ฮั่วอย่ามาพูดจามั่วซั่ว บอกมา คนที่โทรมาคือคนที่คุณจ้างมาใช่ไหม?”

เซียวหย่วนหยางคิดว่ามันมีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น

นี่คือการขี้โม้ เป็นเรื่องหลอกลวง!

ฮั่วซื่อเหนียนหัวเราะลั่น

อวดรู้เหลือเกิน!

“ท่านอธิการ ผมขอแนะนำให้รู้จักนักศึกษาซูเสี่ยวเถียนคนนี้ครับ” ฮั่วซือเหนียนยิ้ม

เซียวหย่วนหยางรู้สึกว่าเรื่องต่าง ๆ คงไม่อาจควบคุมได้อีกแล้ว

หรือจะมีเรื่องอัศจรรย์ใจกับเด็กคนนี้จริง ๆ?

“อาจารย์ฮั่ว!” เสี่ยวเถียนรีบพูดแทรก

“เสี่ยวเถียน ถึงเธอจะไม่พูดตอนนี้ แต่ยังไงทุกคนก็ต้องรู้อยู่ดีนะ!”

เด็กหญิงขบคิด แต่ก็จริงอย่างที่เขาว่า เมื่อก่อนเธอคิดจะทำตัวเงียบ ๆ แต่เหมือนจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว!

“ท่านอธิการครับ ซูเสี่ยวเถียนเป็นสมาชิกคนสำคัญในทีมวิจัยการผลิตเมล็ดพันธุ์ของอาจารย์เสิ่นจื่อเจินจากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรม รัฐมนตรีอู๋จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าซูเสี่ยวเถียนจะสามารถไปเรียนที่นั่นได้ เพื่อเป็นผู้สืบทอดของอาจารย์เสินจื่อเจินครับ”

ฮั่วซื่อเหนียนไม่ได้พูดเสียงดังก็จริง แต่ทุกคนในบริเวณได้ยินกันหมด

เพื่อน ๆ มองเด็กสาวด้วยสายตาเหลือจะเชื่อ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย ถ้าสิ่งที่ได้ยินคือเรื่องจริง แล้วทำไมเสี่ยวเถียนถึงไม่ไปเรียนที่นั่นล่ะ? ไม่ใช่แค่เพื่อน ๆ ที่มีความคิดเช่นนั้น แต่นั่นรวมถึงตัวอธิการและรองอธิการด้วย

เซียวหย่วนหยางร้องเหอะ ความหมายชัดเจน ‘ถุย อวดต่อไปอีกสิ!’

“สองปีที่ผ่านมา ซูเสี่ยวเถียนได้ให้ความช่วยเหลือกับโรงงานไฟฟ้าตงเฟิง และโรงงานผ้าไหมฉี่ลี่ เพื่อบรรลุเป้าหมายการร่วมมือระหว่างนักธุรกิจต่างชาติ รัฐมนตรีฉางจากกระทรวงพาณิชย์ชื่นชมซูเสี่ยวเถียนเป็นอย่างมาก และหวังว่าเธอจะสามารถหันมาพัฒนาด้านธุรกิจได้”

เรื่องสร้างโรงงานเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดหรอกนะ แค่พรสวรรค์ที่มีอยู่ก็มากพอแล้ว ถ้าเอาเรื่องเงินมาเกี่ยวอีกคนอื่นคงสิ้นใจก่อน!

เด็กพวกนี้เป็นนักศึกษาของเขาเอง หากรู้มากจะกดดันเกินไป

ฮั่วซือเหนียนคิดว่าเขาเป็นอาจารย์ที่ดีใส่ใจนักศึกษา แต่ไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่พูดออกมาทำให้เด็ก ๆ สงสัยในชีวิตตัวเองเสียแล้ว!