บทที่ 697 ราชวงศ์ซาง 2 (4)
นอกเหนือจากนั้น สำนักเซียนเต๋าเวยยังได้เสนออาณาจักรในดินแดนเทวะมัชฌิมาที่พวกเขาควบคุมดูแลอยู่ให้กับสำนักตู้เซียนอีกด้วย
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกำลังเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมต่างๆ ไปรอบๆ โดยใช้ตัวตนของเทพวารีแห่งศาลสวรรค์
ในเวลานี้เขาเพียงแค่ขอให้พวกเขาไปหารือเรื่องนี้กับสำนักตู้เซียนเท่านั้น ตราบใดที่ทั้งสองสำนักไร้ความขัดแย้งระหว่างกัน เขาก็จะไม่เข้าไปแทรกแซงมากนัก
เมื่อจัดการเรื่องนั้นแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ผายมือ ทำท่าทางเชื้อเชิญให้ข่งเชวี่ยนต่อหน้าบรรดาเซียนหลายร้อยคนจากสำนักเซียนทั้งสองและลงไปบนพื้นพร้อมกับข่งเชวี่ยน
ในขณะนั้น เขาจำเป็นต้องแยกความแตกต่างระหว่างเทพวารีและร่างหลักของเขา
ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วซึ่งปกป้องโหย่วฉินเสวียนหย่า ได้โค้งคำนับให้กับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเขา และข่งเชวี่ยนก่อนจะถอยกลับไปด้านข้าง
ในขณะนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าก็ได้รับคำแนะนำจากหลี่ฉางโซ่วผ่านการส่งข้อความเสียง นางจึงลุกขึ้นยืนโดยพิงกระบี่ใหญ่ของนาง แล้วทำการคารวะเต๋าให้ “เทพวารี”
“ศิษย์แห่งสำนักตู้เซียน องค์หญิงโหย่วฉินเสวียนหย่าแห่งอาณาจักรหงหลิน ขอน้อมพบท่านเทพวารีเจ้าค่ะ!
วันนี้ อาณาจักรหงหลินประสบภัยพิบัติ ศิษย์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปภายหน้าจริงๆ ขอท่านเทพวารีได้โปรดช่วยศิษย์ด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”
นางต้องการให้ศาลสวรรค์มีเหตุผลในการแทรกแซงเรื่องของมนุษย์
เทพวารีกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “เพื่อช่วยญาติๆ ของเจ้า ข้าได้เห็นสถานการณ์แล้วว่า เจ้าช่วยคนที่เจ้ารักอย่างไม่กลัวความตายและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ
ศาลสวรรค์ยังไร้ผู้มีพรสวรรค์เช่นเจ้า ไม่รู้ว่า เจ้าจะยินดีมารับใช้ศาลสวรรค์หลังจากนี้หรือไม่”
โหย่วฉินเสวียนหย่าตะลึงงันทันที
หลี่ฉางโซ่วไม่ได้ส่งข้อความเสียงให้คำชี้แนะใดๆ ในคำถามเรื่องนี้กับนางมาก่อน แต่เขาก็ได้ให้คำตอบล่วงหน้าแล้ว
“ไม่ว่าเทพวารีจะขออะไรต่อจากนี้ เจ้าก็ต้องกลับไปขออนุญาตจากท่านอาจารย์ที่สำนักก่อน”
“เสวียนหย่าต้องกลับไปขออนุญาตจากท่านอาจารย์ที่สำนักก่อนเจ้าค่ะ!”
“ดี”
“เทพวารี” พยักหน้ารับพร้อมเผยรอยยิ้ม เขาได้คำนวณโหย่วฉินเสวียนหย่าเอาไว้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากนั้นเขาก็ผายมือ ทำท่าให้โหย่วฉินเสวียนหย่าก้าวถอยไป แล้วเดินไปหาพี่สะใภ้ใหญ่ของนาง
นางคือคนสำคัญในราตรีนี้
หลี่ฉางโซ่วถามอย่างอบอุ่นว่า “ข้าคือ เทพวารีผู้ชอบธรรมแห่งศาลสวรรค์ ให้ข้าสัมผัสทารกในครรภ์ของเจ้าได้หรือไม่?”
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวก้มศีรษะลงแล้วตอบ จากนั้นนางก็รีบลุกขึ้นยืน
หลี่ฉางโซ่วหลับตาและชี้มือขวาไปที่ท้องน้อยของหญิงสาว แล้วสีทองจางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
เป็นเขา
หลี่ฉางโซ่วยืนอยู่ตรงนั้น และจมจ่อมอยู่ในห้วงแห่งความคิดลึกซึ้ง บัดนี้มีข้อมูลเชิงลึกทุกประเภทผุดขึ้นมาในใจของเขา ราวกับว่ามีคำแนะนำบางอย่างในความมืดที่ชี้ให้เห็นหนทาง
ชั่วครู่ต่อมา หลี่ฉางโซ่วก็ลืมตาขึ้นแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ข้าคือเทพวารีแห่งศาลสวรรค์ ข้าอยู่ภายใต้บัญชาแห่งองค์เง็กเซียนและเทพมารดา
ข้าและแม่ทัพตงมู่ได้เป็นตัวแทน เข้าจัดการดูแลเรื่องต่างๆ แห่งศาลสวรรค์ในระหว่างกาลเป็นการชั่วคราว!
เต๋าสวรรค์ได้โปรดฟังข้า ข้ามีเรื่องร้องขอ!”
ตูม
ทันใดนั้นก็มีเมฆสีทองลอยลงมาจากท้องฟ้าและค่อยๆ เคลื่อนตัวไปรอบๆ อาณาจักรหงหลินอย่างช้าๆ
พลังเต๋าสวรรค์ที่อุดมอยู่ภายในนั้น ทำให้บรรดาผู้ฝึกบำเพ็ญต่างรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็มองลงไปที่สตรีสาวและมารดาของเสวียนหย่าที่อยู่ข้างๆ นาง
เขากล่าวออกมาอย่างอบอุ่นว่า “วันนี้ เสวียนหย่าได้เชิญพวกเจ้าแล้ว เรายังมีโอกาส ข้าสามารถให้โชคชะตาบัญชาสวรรค์แก่บุตรของเจ้าได้
เขาและลูกหลานของเขาจะนำเผ่าหงหลินของพวกเจ้าไปก่อตั้งอาณาจักรแห่งใหม่ ซึ่งจะรุ่งเรืองยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทว่าก็มีเงื่อนไขอมตะสามประการที่พวกเจ้าต้องปฏิบัติตาม
เงื่อนไขแรกคือ จ้าวผู้ปกครองของอาณาจักรแห่งใหม่จะต้องเสียชีวิตด้วยวัยชรา หากเขาฝืนชะตาบัญชาสวรรค์ วิญญาณของเขาจะถูกทำลายและเขาจะเข้าสู่สังสารวัฏกลับชาติมาเกิดอีกไม่ได้!
เงื่อนไขประการที่สองคือ อาณาจักรแห่งใหม่นั้นต้องเคารพจักรพรรดิแห่งสวรรค์ บูชาฟ้าดิน เคารพบรรพบุรุษและพิธีกรรม
เงื่อนไขประการที่สามคือ ห้ามไม่ให้เลี้ยงดูบรรดาเซียนเอาไว้ในอาณาจักร เช่นนั้นแล้ว จักรพรรดิสวรรค์จะปกป้องคุ้มครองพวกเจ้า
พวกเจ้ายินดีหรือไม่?”
สตรีผู้นั้นรีบหันขวับไปมองมารดาที่อยู่ข้างๆ และมารดาก็รีบพยักหน้าอย่างเร็ว
จากนั้นสตรีสาวก็คุกเข่าลงต่อหน้าหลี่ฉางโซ่วทันที
“เจี่ยนตีขอน้อมรับคำสั่งของท่านผู้เป็นเซียนเจ้าค่ะ”
“ดี” หลี่ฉางโซ่วกวาดมือขวาไปที่สตรีผู้นั้น แล้วเมฆสีทองบนท้องฟ้าก็เปล่งแสงสีทองออกมา และไปรวมตัวแล้วเข้าสู่ช่องท้องของสตรีสาวผู้นั้นในพริบตา
จากนั้นก็มีตราวงกลมสีทองปรากฏขึ้นบนหน้าผากของสตรีผู้นั้น นางพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “ข้าต้องไปทางตะวันออก…”
“สหายเต๋าข่งเชวี่ยน โปรดมาที่นี่เถิด”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวพลางผายมือทำท่าทางชื้อเชิญให้ข่งเชวี่ยนมาอยู่ข้างๆเขา และกล่าวกับสตรีหลายสิบคนหรือมากกว่านั้นว่า “นี่คือ เซียนวิหคศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าหงส์
เขาจะช่วยพาพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ในภายหลังและปกป้องอาณาจักรแห่งใหม่ของพวกเจ้าเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี พวกเจ้าต้องใช้รูปสลักบนเสาสัญลักษณ์ของเขาสำหรับอาณาจักรแห่งใหม่เพื่อเป็นการขอบคุณเขา”
สตรีสาวก้มศีรษะลงและกล่าวว่า “เจ้าค่ะ”
ข่งเชวี่ยนเผยรอยยิ้มบาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงบสุข
เขาถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้าไม่เคยคิดเลยว่า มันจะรวดเร็วเพียงนี้”
“หลังจากนี้ต้องทำงานหนักแล้ว สหายเต๋า” หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางกล่าว
“เผ่าหงส์ของข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้ามาก”
ในขณะนั้น จ้าวกงหมิงก็ร่อนลงมาจากฟากฟ้าและดุอย่างติดตลกว่า “ไฉนจู่ๆ พวกเจ้าถึงจริงจังยิ่ง? ข้าไม่คุ้นชินกับมันเลย
วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ!
หากพวกเจ้าทำธุระของพวกเจ้าเสร็จแล้ว เช่นนั้นก็ไปหาสถานที่ใกล้ๆ แล้วดื่มกันสักสองสามจอกดีหรือไม่?”
หลี่ฉางโซ่วและข่งเชวี่ยนเห็นด้วย
จากนั้น ข่งเชวี่ยนก็ใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีเพื่อปกป้องเหล่าสตรีนับสิบคนจากอาณาจักรหงหลิน
เขาขอให้พวกนางจัดระเบียบตัวเองใหม่ที่นั่น แล้วจะรีบไปพบหลังจากนี้ จากนั้นเขาก็ขี่เมฆจากไปพร้อมกับหลี่ฉางโซ่วและจ้าวกงหมิง…
ที่มุมหนึ่งนั้น หลี่ฉางโซ่วและโหย่วฉินเสวียนหย่าต่างมองหน้ากัน โหย่วฉินเสวียนหย่ามีสีหน้าท่าทีผิดแปลกไปเล็กน้อย
“ศิษย์พี่…”
“หือ?”
โหย่วฉินเสวียนหย่าฉงนใจเมื่อกล่าวว่า “ข้ามีทักษะอ่อนด้อยนัก แล้วข้าจะทำอะไรในศาลสวรรค์ได้บ้างเจ้าคะ?”
“ผู้ใดจะล่วงรู้เล่า?” หลี่ฉางโซ่วกล่าวพลางยิ้มและส่ายศีรษะ “ข้าไม่อาจเดาความคิดของเทพวารีแห่งศาลสวรรค์ได้”