บทที่ 802 ซุนเสี่ยวอวี้

บทที่ 802 ซุนเสี่ยวอวี้

หออีหมิงสาขานี้เหมือนกับสาขาหลัก เราจะล็อคห้องส่วนตัวบนชั้นสองไว้สำหรับกินข้าวแบบครอบครัว

หลินหลินรบกวนพนักงานพาทั้งสองขึ้นไป แต่การกระทำนี้กลับทำให้บางคนไม่พอใจ

“เถ้าแก่ ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ ผมมารอตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณก็บอกตรง ๆ ยังไม่มีที่ว่าง แล้วทำไมคนพวกนี้ถึงได้ก่อนล่ะ?”

เด็กชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก

“สวัสดีจ้ะ สองคนนี้เป็นคนในครอบครัวฉันเอง ยกโทษให้ฉันด้วยนะ!” หลินหลินยิ้ม

“แล้วคนในบ้านคุณมันประเสริฐนักหรือไง? เข้าแถวเป็นไหม? บอกทีว่ามันใช่เหตุผลหรือเปล่า?”

เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้เป็นพวกอารมณ์ร้าย แทนที่จะลดทิฐิเพราะคำตอบแต่กลับขึ้นเสียงดังกว่าเดิม สำหรับลูกค้าประจำ รู้อยู่แล้วว่าหออีหมิงไม่มีห้องส่วนตัวสำหรับคนนอก แต่เห็นเลยว่าเด็กคนนี้มาใหม่

“แถมยังมีคนพูดอีกนะ ว่าที่นี้บริการและเสิร์ฟอาหารแค่ชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าพวกคุณกลับปฏิบัติต่อเราแบบนี้”

เด็กหนุ่มเป็นนักศึกษาใหม่จึงไม่รู้เรื่องการจัดการของหออีหมิง เขาเลยคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นมีเหตุผลที่สุด แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนับสนุนเลยล่ะ?

หลังจากรู้สึกตัวจึงมองไปรอบ ๆ ก่อนได้รับสายตาดูแคลนราวกับเห็นคนโง่กลับมา

อะไรเนี่ย?

ในที่สุดก็มีคนพูดขึ้น “หออีหมิงมาเปิดสาขาที่หน้ามหาวิทยาลัยเพื่ออำนวยความสะดวกของเรา นายว่ามันมีที่ไหนทำแบบนี้หรือเปล่าล่ะ?”

ทำไมเจ้าหมอนี้ถึงได้โง่เขลาเช่นนี้นะ ใครที่ไหนมันจะยอมเปิดร้านถ้าลูกค้ากินแล้วไม่อร่อยน่ะ?

“สหาย เข้าใจหรือยัง?” เสี่ยวเถียนยิ้ม

เด็กหนุ่มเอาแต่โมโหจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงการปรากฏตัวของเสี่ยวเถียน ยามเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของสาวเจ้า ตาเขาพร่ามัวไปชั่วขณะหนึ่ง มหาวิทยาลัยเรามีสาวงามอยู่ด้วยหรือ?

“สวัสดี ฉันชื่อซุนเสี่ยวอวี้ เสี่ยวอวี้ที่ทุกคนรู้จักกันดีน่ะ ดีใจที่ได้รู้จักเธอนะ ปีนี้เธอก็เป็นเด็กใหม่เหมือนกันใช่ไหม? ขอถามได้ไหมว่าเรียนอยู่คณะไหนหรือ?”

เด็กหนุ่มนามซุนเสี่ยวอวี้ไม่ได้เห็นใบหน้าดำทะมึนของซื่อเลี่ยงสักนิด เอาแต่แนะนำตัวอย่างกระตือรือร้น

มีแค่สาวสวยแบบนี้เท่านั้นที่จะคู่ควรกับเขา และเขาก็อยากให้เธอรู้จักว่าพ่อตนเป็นผู้นำยศใหญ่

เสี่ยวเถียนตะลึงงัน อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น?

เธอไม่ได้อยากจะรู้จักเขาสักนิด เข้าใจไหม?

“ขอโทษด้วยนะ ฉันอยู่ปีสองน่ะ แล้วก็ไม่สะดวกบอกนายด้วยว่าเรียนอยู่คณะไหน” เสี่ยวเถียนรักษามารยาทที่ดีเอาไว้

พอได้ยินเช่นนั้น ความรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที

อยู่ปีสองแล้ว? แก่ขนาดนี้เลยหรือ ถ้าอายุเยอะก็ควรแก่สิ ทำไมหน้าเด็กขนาดนั้น?

“ฉันไม่ชอบที่เธออยู่ปีสองเลยเพราะอายุมันเยอะกว่า แต่พี่ใหญ่แก่กว่าฉันปีสองปีเอง ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ ในเมื่อเธอแก่กว่าเวลาเราคุยกันก็อย่าถือสากันเลยนะ?”

ซุนเสี่ยวอวี้พึมพำท่ามกลางสายตาสายตาดูแคลนของผู้คนรอบ ๆ

เจ้านี้มันบ้าไปแล้วเรอะ ไม่เห็นท่าทางรังเกียจของเสี่ยวเถียนหรือไง ว่าแต่เขาไม่ชอบเสี่ยวเถียนที่อายุเยอะหรือ รู้ไหมว่าปีนี้เธอเพิ่งจะอายุเท่าไร?

ถ้ามีเด็กเก่าอยู่ในกลุ่มกินข้าวด้วยก็คงจะเอ่ยเตือนเขาแล้วล่ะ

แต่วันนี้เป็นวันแรกของการรายงานตัว ซุนเสี่ยวอวี้พารูทเมทมาเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการโอ้อวด ทุกคนล้วนเป็นเด็กใหม่ ไม่มีใครรู้จักเสี่ยวเถียนสักคน

เดิมทีพวกเขาอยากจะเกลี้ยกล่อมซุนเสี่ยวอวี้ แต่อีกฝ่ายเอาแต่ประกาศกร้าวว่าพ่อชื่อซุนกัง และพ่อของเขามีอำนาจมาก

ตระกูลเรามีเงินและอำนาจจริง ๆ ขอแค่ไม่ใช่การฆาตกรรมหรือวางเพลิงพ่อก็จัดการได้ทั้งนั้น

ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้พูดช่วยอะไรทั้งนั้น และทำแค่ยืนดูเฉย ๆ มีสองคนในกลุ่มที่รู้สึกเห็นใจเสี่ยวเถียนด้วย

ซุนเสี่ยวอวี้เวลาชอบใครไม่เคยยอมแพ้จนกว่าจะได้ครอบครอง เขาเสียดายสาวสวยคนนี้จริง ๆที่จริงเขาคิดเล่นสนุกเท่านั้น แค่หน้าตาดีให้ควงเล่นก็พอ ส่วนคนที่จะแต่งงานด้วยจริง ๆ ต้องไม่มีฐานะต่ำต้อยแบบนี้หรอกนะ

พ่อเคยบอกแล้วว่าไม่อนุญาตให้หาคู่ครองเอง แต่จะหาให้เขาอย่างแน่นอน

สีหน้าเสี่ยวเถียนในตอนนี้ไม่เต็มใจสักนิด หมอนี่เป็นคนยังไงเนี่ย? ปีที่แล้วว่าคนแปลก ๆ เยอะแล้วนะ ปีนี้ยังเยอะกว่าอีกหรือ?

“ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่คิดจะอยู่กับนายอยู่แล้ว แล้วก็ไม่คิดจะถือสาด้วย เพราะฉันไม่ใช่แม่นาย!”

เสี่ยวเถียนเอ่ยตรง ๆ พาให้คนรอบข้างหัวเราะยกใหญ่

เรารู้จักเด็กสาวคนนี้ดี หากมองเผิน ๆ เธอเหมือนสาวน้อยผู้อ่อนหวาน แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนชอบใช้กำลัง อีกอย่างเธอก็เรียนเก่งมากด้วย อาจารย์ในมหาวิทยาลัยชอบเธอกันทุกคน ที่จริงเธอสามารถเดินเหินไปไหนมาไหนก็ได้ด้วยซ้ำถ้าเต็มใจ

แต่เจ้าพวกตาไร้แววมันคิดจะกลั้นแกล้งเธอสินะ ไม่รู้หรือไงว่าก่อนหน้านี้มีคนเคยไปลองมาสุดท้ายโดนต่อยจนลุกไม่ขึ้นไปหลายวัน?

ทุกคนรู้ แต่ซุนเสี่ยวอวี้ไม่รู้…

ตอนนี้รู้แค่ว่าโดนทำให้ขายหน้า แถมยังต่อหน้ารูมเมทใหม่ด้วย ความคิดสร้างเรื่องปรากฏขึ้นทันที เขาเอื้อมมือไปหมายจะคว้าเด็กสาวไว้ แต่ซื่อเลี่ยงแทรกเข้ามาบีบมือเขาไว้เสียก่อน

“ซุนเสี่ยวอวี้ใช่ไหม? ฉันไม่สนใจว่านายจะเป็นลูกหลานใครที่ไหน ถ้าคิดจะมาเล่นซนที่นี่ก็ดูตัวเองก่อนเถอะว่าเก่งหรือเปล่า!”

น้ำเสียงซื่อเลี่ยงสงบมาก ไม่เหมือนกำลังขู่คนอื่นอยู่เลย แต่แขนซุนเสี่ยวอวี้ที่โดนบีบมันเจ็บจนไม่เหลือแรงแล้ว จึงทำได้แค่ร้องโอดครวญเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาอกเอาใจ เลยทนได้รับความคับข้องใจแบบนี้ไม่ได้

ซุนเสี่ยวอวี้ยังไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ ถึงจะโดนจับแขนแต่ปากยังว่างอยู่ ปากเอาแต่พร่ำบอกให้ซื่อเลี่ยงคุกเข่าขอความเมตตา

“รู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร? แกกล้าดูหมิ่นฉัน เชื่อไหมล่ะว่าฉันสามารถทำให้ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ปิดตัวได้เลย!”

“ฉันรู้ พ่อแกชื่อซุนกงใช่ไหมล่ะ? แล้วพ่อเขารู้ไหมว่าแกทำตัวแบบนี้ตอนอยู่มหาวิทยาลัย?” ซื่อเลี่ยงเอ่ยเสียงเรียบ

ซุนเสี่ยวอวี้ไม่ฉุกคิดสักนิดว่าทำไมคนแปลกหน้ารู้จักพ่อตัวเอง แต่คิดไปในทางที่ว่าตระกูลตนทรงพลังแม้กระทั่งคนแปลกหน้ายังรู้ว่าพ่อคือใคร