บทที่ 837 ปล่อยพ่อฉันไป

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

คุณพ่อประสิทธิ์ถอนหายใจแล้วพยักหน้า “ใช่ พ่อกังวลลูกตรงนี้แหละ ลูกมันเด็กขี้ใจอ่อนเกินไป มีเมตตามากเกินไป เพื่อพ่อแม่อย่างเรา ไม่ใช่ว่าลูกจะทำไม่ลง”

ปาจรีย์ยิ้ม “สบายใจเถอะค่ะพ่อ ฉันรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ ฉันไม่ทำไปทั่วหรอก”

พูดจบ เธอก็หยุดคุณพ่อประสิทธิ์ แต่หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วออกมาจากข้างหลังคุณพ่อประสิทธิ์อย่างกล้าหาญ เดินไปที่เตียง

เดิมทีคุณพ่อประสิทธิ์อยากจะดึงเธอไว้ ไม่ให้เธอเข้าไป แต่ทันทีที่นึกถึงทำที่เธอพูดเมื่อกี้ สุดท้ายก็ปล่อยมืออย่างจำใจ ปล่อยให้เธอไป

ช่างเถอะ ในเมื่อลูกสาวต้องการแสดงความกตัญญูต่อชายชราอย่างเขา งั้นเขาก็จะปล่อยมือ ให้เธอเข้าไปแล้วกัน

ไม่อย่างนั้นการที่หยุดเธอ ก็คงไม่ได้ทำให้เธอมีความสุข

คิดอยู่ คุณพ่อประสิทธิ์จึงไม่ทำอะไรสักอย่าง ยืนอยู่ตรงมุมห้อง มองไปที่เตียงด้วยสายตาระมัดระวัง

เขาคิดได้แล้ว เขาไม่ห้ามเรื่องลูกสาวต้องการจะทำ

แต่เขาสามารถยืนป้องกันอยู่ข้างๆ ได้ ทันทีที่พงศกรนั่นต้องการให้ปาจรีย์ทำอะไรบางอย่าง เขาจะจัดการพงศกรก่อน

ปาจรีย์ไม่รู้ว่าคุณพ่อประสิทธิ์กำลังยืนอยู่อีกฝั่งอย่างขมึงทึง เธอมาถึงเตียงของพงศกรอย่างระมัดระวัง

พงศกรมองเธออยู่ตลอด

สิ่งที่คุณพ่อประสิทธิ์พูดกับเธอเมื่อกี้นี้ เขาเองก็ได้ยินหมด เขาไม่รู้ว่าตกลงแล้วเธอมาหาเขามีเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง เขาอยากให้เธอเข้ามา มาที่ข้างๆ เขา

แต่เมื่อปาจรีย์เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พงศกรก็ค้นพบว่าตัวเองสามารถรู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่เต้นอย่างไม่หยุด ความสุขแบบนั้น ความตื่นเต้นแบบนั้น ความฮึกเหิมแบบนั้น กำลังอยู่ในร่างกายของเขา หมุนขึ้นหมุนลงไม่หยุด

ถ้าเขาไม่กำหมัดให้แน่นอย่างสุดแรงเพื่อปกปิด เกรงว่าใบหน้านั้น จะแสดงออกมา

“คุณพงศกร” ปาจรีย์ไม่รู้ว่าพงศกรกำลังมีกิจกรรมอะไรอยู่ในใจ เธอหยุดลงที่เตียงผู้ป่วย มองที่พงศกร แล้วอ้าปาก พูดตะโกน

เมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อเขาราวกับห่างไกลแบบนี้ นัยน์ตาพงศกรก็หดลง อารมณ์ตื่นเต้นในใจที่ดึงดูดเธอเข้ามา ก็จมลงทันที กลายเป็นความมืดมน

เขาพูดด้วยเสียงแหบต่ำ “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”

“คุณพงศกร” ปาจรีย์ย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าดูไม่ได้ของเขา เธอก็กะพริบตาด้วยความไม่แน่ใจ “งั้น……ฉันเรียกผิดเหรอ?”

เธอไม่รู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองเรียกผู้ชายคนนี้ว่าอะไร แต่เธอมั่นใจว่าเธอเรียกถูกอย่างแน่นอน

ยังไงตัวเธอเองก็รักเขา ไม่มีทางที่จะเรียกเขาแบบห่างเหินอย่างนั้น

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ตัวเองตอนนี้ไม่ได้รักเขา และก็จำเขาไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเรียกเขาอย่างเมื่อก่อนได้อีกต่อไป

เธอทำได้แค่เปลี่ยนการเรียกชื่อใหม่ มารยาทใหม่ แต่กลับดูไม่สนิทสนม

คิดแล้ว ชื่อคุณพงศกรเหมาะสมที่สุด

แต่ไม่รู้ว่าทำไม ผู้ชายคนนี้ กลับมีท่าทางเหมือนว่าไม่ดีใจเท่าไหร่นัก

พงศกรไม่ได้ตอบคำถามของปาจรีย์

เพราะเขาไม่สามารถพูดได้ว่า เธอเรียกเขาผิดจริงๆ

เมื่อก่อนเธอเรียกเขาว่าพงศกร ต่อให้เขาเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ให้เธอเรียกเขาแบบนั้น เขาขยะแขยง เธอก็ยังคงเรียกเขาแบบนั้นเหมือนเดิม

เมื่อเวลาผ่านไป เขาจึงปล่อยตามๆ เธอ

แต่ทว่าตอนนี้ อยู่ๆ เธอก็กลับเรียกเขาว่าพงศกรขึ้นมา ตลกอะไรขนาดนี้

นี่คือบทลงโทษของพระเจ้าที่มอบให้เขา แก้แค้นเขางั้นเหรอ?

เมื่อมองไปที่สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยของพงศกร หัวใจของปาจรีย์ก็สั่นสะท้าน ก้าวไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว เพื่อดึงระยะห่างจากเขาอีกหน่อย

เมื่อมองเห็นฉากนี้ สีหน้าของพงศกรก็ดูไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง “เธอ……กลัวฉันมากเลยเหรอ?”

ปาจรีย์ทั้งส่ายและพยักหน้า “ขอโทษด้วยนะคะคุณพงศกร ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่ฉันรู้ว่าฉัน เมื่อก่อนฉันคนนั้น คงจะกลัวคุณ เพราะเมื่อฉันได้เห็นคุณ ความรู้สึกกลัวในใจของฉันมันก็เลยผุดขึ้นมาเอง ก็เลยส่งผลถึงตัวฉันในตอนนี้ จนกระทั่งเมื่อได้เห็นสีหน้าที่ผิดไปของคุณ จิตใต้สำนึกในร่างกายของฉันเลยแสดงออกมาก่อน”

พงศกรหรี่ตา แล้วรู้สึกแห้งกร้านในใจ

เพราะประโยคนี้ของเธอ ก็เพราะความกลัวที่เธอมีต่อเขาด้วยเช่นกัน

ที่แท้ เขาในเมื่อก่อน ไม่รู้ตัวเลยว่า ได้มอบความกดดันและความกลัวให้เธอมากขนาดนี้เลยเหรอ?

ครู่หนึ่ง พงศกรรู้สึกผิดหวัง

ถ้าเขาไม่ได้รู้ว่าตัวเองรักเธอ สิ่งเหล่านี้ที่เขาได้ยิน ก็จะไม่ได้มีผลอะไรรมากนัก กลับกันคงรู้สึกดีใจที่ได้เห็นว่าเธอกลัวเขา

แต่ตอนนี้ เขารู้ ว่าตัวเองคงรักเธอเข้าแล้ว

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเธอกลัวตัวเองมากอย่างนี้ ในใจนั้นไม่ใช่แค่ไม่มีความสุข แต่ยังรู้สึกหดหู่มาก อึดอัดใจอย่างมาก

ถึงขนาดที่เขาอยากจะเอ่ยปากขอโทษเธอ แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงที่ปาก กลับจะพูดยังไงก็พูดไม่ออก

“คุณพงศกรคะ” ปาจรีย์ไม่ได้สนใจว่าเขาฝ่ายชายกำลังคิดอะไรอยู่ เธอบีบฝ่ามือแล้วมองไปที่ชายหนุ่ม หลังจากนั้นก็โค้งตัวคำนับเขา “คุณพงศกรคะ ฉันมาขอโทษคุณค่ะ”

เมื่อฟังคำที่เธอใช้เรียกชื่อตัวเอง คิ้วของพงศกรก็ขมวด น้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ขอโทษอะไร?”

ปาจรีย์ยืดตัวขึ้น “สองวันก่อน ที่พ่อของฉันลงมือกับคุณ ต่อยคุณจนกลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริงๆ ค่ะ”

พูดอยู่ เธอก็โค้งคำนับอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดอีกครั้ง “แต่ว่าคุณพงศกรคะ ที่พ่อของฉันทำแบบนั้น ก็เพราะว่าเขาโกรธ เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกนะคะ ตอนนั้นเขาไม่มีสติ เพราะฉะนั้น คุณไม่เอาผิดพ่อของฉันได้ไหมคะ?แน่นอนว่า ค่ารักษาพยาบาลของคุณ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลต่อจากนี้ พวกเราจะรับผิดชอบ ฉันแค่หวังว่า คุณจะปล่อยพ่อฉันไป ได้ไหมคะ?”

เธอมองเขาอย่างอ้อนวอน

พงศกรเข้าใจถึงคำร้องขอของเธอ ริมฝีปากบางยกขึ้น “เธอคิดว่า หลังจากที่ฉันฟื้นขึ้นมา ฉันจะโทรไปแจ้งตำรวจ แจ้งที่พ่อเธอลงไม้ลงมือกับฉัน แล้วเอาพ่อเธอเข้าคุก เลยมาขอร้องให้ฉันปล่อยพ่อเธอไปใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ” ปาจรีย์รีบพยักหน้า

พงศกรเลิกคิ้ว

พูดตามตรง เขาไม่เคยคิดที่จะไปแจ้งตำรวจ

แต่เธอกลับ ทำไมถึงมั่นใจขนาดนี้ ว่าเขาจะต้องไปแจ้งตำรวจแน่ๆ หลังจากนั้นเลยมาขอร้องให้เขาปล่อยพ่อเธอไปในตอนนี้?

เมื่อพงศกรกำลังเตรียมที่จะถาม ว่าทำไมถึงมีความคิดแบบนั้น ทันใดนั้นปาจรีย์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “คุณหมอพงศกรคะ ฉันขอร้องคุณนะคะ อย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ ขอแค่คุณอย่างแจ้งตำรวจ คุณต้องการอะไร ฉันจะยอมทุกอย่าง”

เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร จึงเข้าใจว่าเขากำลังคิดว่าจะส่งพ่อของเธอเข้าไปยังไง

จึงรอไม่ไหว ขอร้องอีกครั้ง

แต่การขอร้องครั้งนี้ มันกลับทำให้พงศกรโกรธ

เขามองเธอด้วยสายตาที่มืดมน

นี่เธอหมายความว่ายังไง ขอร้องเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอเชื่อว่า เขาจะเอาพ่อเธอเข้าไปขนาดนั้นเลยเหรอ?

เธอไม่เชื่อเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?

ชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าของพงศกรมืดมนและดูไม่ได้อย่างมาก เสียงแหบแห้งขึ้นมากเช่นกัน “อ๋อ?แค่ปล่อยพ่อเธอไป ฉันต้องการอะไร เธอจะตอบรับทั้งนั้นเลยเหรอ?”

ประโยคนี้ ทำให้หัวใจปาจรีย์เต้นแรง และสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาทันที

แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจกับประโยคที่ตัวเองได้พูดออกไป

เพราะเธอต้องช่วยพ่อของตัวเอง

แต่ฝั่งของคุณพ่อประสิทธิ์เมื่อได้ยินที่พงศกรพูด ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที แล้วตะโกนใส่ปาจรีย์; “ปาจรีย์ ลูกอย่าไปฟังเขา เข้าใจไหม?ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ลูกอย่าได้ไปตอบรับ”

ปาจรีย์หันมามองเขา ก็ดึงมุมปากให้เขา หลังจากที่เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ฝืนใจ ก็หันกลับไปอย่างรวดเร็ว มองที่พงศกร

เมื่อคุณพ่อประสิทธิ์เห็นว่าลูกสาวไม่พูดอะไร ก็กระทืบเท้าอย่างร้อนใจ “ปาจรีย์ ลูกกลับมานะ เราไม่ต้องไปขอร้องเขา เรากลับกันเถอะ ต่อให้พ่อต้องไปนั่งอยู่ในคุก พ่อก็รับได้ สรุปแล้ว ลูกไม่ต้องมาเสียสละเพื่อพ่อ”

พูดอยู่ เขาก็จะเข้าไปลากปาจรีย์กลับมา

แต่ปาจรีย์กลับหลีกเลี่ยงมือของคุณพ่อประสิทธิ์ มองพงศกรแล้วถอนหายใจ พูดคำต่อคำอย่างตั้งใจ “ใช่ ขอแค่คุณปล่อยพ่อของฉันไป คุณต้องการอะไร ฉันจะยอมทุกอย่าง!