บทที่ 949 เฉาซื่อผู้มั่งคั่ง
บทที่ 949 เฉาซื่อผู้มั่งคั่ง
เป็นอย่างที่คิดไว้ นางเห็นเฉาซื่อซื้อเครื่องประดับราคาเกือบร้อยตำลึง ลูกจ้างภายในร้านมีความสุขมาก และเอาแต่ร้องเรียกฮูหยินไม่หยุด
กู้ซินเถาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา อีกฝ่ายเป็นเพียงหญิงหยาบคายที่ทำไร่ทำนาในชนบท แต่กลับมีคนเรียกขานว่าฮูหยิน นางเหมาะสมกับคำคำนี้แล้วงั้นหรือ?
กู้ซินเถาขบเม้มริมฝีปากแน่น ครั้นเห็นเฉาซื่อซื้อของเสร็จแล้ว และออกมาท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ประจบประแจงของลูกจ้างภายในร้าน
เมื่อเห็นว่าเฉาซื่อซื้อของมามากมาย กู้ซินเถาจึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่า เหตุใดนางจึงใช้เงินมากมายเช่นนั้นโดยไม่ลังเล
ฉาซื่อร่ำรวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ดังนั้นหลังจากที่เฉาซื่อออกจากร้าน กู้ซินเถาก็เข้าไปในร้านจินอวี้ทันที
เมื่อเห็นว่าลูกจ้างภายในร้านดูคุ้นเคยกับเฉาซื่อ เหมือนว่าเฉาซื่อน่าจะมาที่นี่บ่อย ๆ บางทีลูกจ้างภายในร้านผู้นี้น่าจะรู้
ดังนั้นกู้ซินเถาจึงแสร้งทำเป็นไปดูเครื่องประดับ และลูกจ้างภายในร้านเองก็รู้จักกู้ซินเถา
เมื่อเห็นกู้ซินเถากำลังย่างเท้าเข้ามาในร้านก็ทำหน้าเหยเกเล็กน้อย “อ้าว แม่นางกู้เองหรือ! ในร้านมีเครื่องประดับใหม่ ๆ มากมาย เจ้าสามารถดูก่อนได้”
กู้ซินเถาแสร้งทำเป็นเลือกเครื่อง และพูดคุยกับลูกจ้างภายในร้านอย่างไม่เป็นทางการ
“พี่ชาย ฮูหยินผู้นั้นมาจากตระกูลไหนหรือ? นางแต่งตัวดูดียิ่งนัก ทำไมข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลย” กู้ซินเถาถามด้วยความสงสัย
วันนี้กิจการเป็นไปได้ดีมาก เขาจึงบอกกู้ซินเถาว่า “แม่นางกู้ ข้าไม่รู้ว่านี่คือฮูหยินจากตระกูลไหน รู้แค่ว่าแซ่ของนางคือ เฉา หญิงผู้นี้ใจดีมาก ครั้งที่แล้วซื้อเครื่องประดับมากมายในร้าน ผ่านไปไม่กี่วันก็กลับมาที่ร้านเล็ก ๆ ของข้าอีก คงจะดีมากถ้ามีลูกค้าแบบหญิงผู้นั้นมากขึ้น”
ผู้ที่เปิดประตูสู่การค้าย่อมหวังว่ายิ่งลูกค้าใช้เงินมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น
“โอ้ ดูเสื้อผ้าของหญิงผู้นั้นสิ นางดูเหมือนคนที่มาจากครอบครัวใหญ่ มีโชคลาภมหาศาล ข้าคิดว่าครอบครัวก็คงดีมากด้วย” กู้ซินเถาเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
หากแต่ในใจของนางนั้นคิดไม่ออก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในครอบครัวของเฉาซื่อ
ออกมาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายหลายร้อยตำลึงเงิน ฉาซื่อไปทำสิ่งใดมาจึงได้เงินมามากมายถึงเพียงนี้
กู้ซินเถาไม่สนใจเรื่องการซื้อของอีกต่อไป นางแสร้งทำเป็นสงสัยและหลอกถาม ก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านนางก็เล่าทุกอย่างที่เห็นในร้านจินอวี้ให้ซุนซื่อฟัง
เมื่อนางได้ยินดังนั้น ใบหน้าของซุนซื่อเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ ซินเถา เจ้าจำผิดคนหรือเปล่า”
กู้ซินเถาเม้มริมฝีปาก “ท่านแม่ อาสะใภ้สามเดินผ่านหน้าข้าไป ข้าจะจำผิดได้อย่างไรกัน?”
“แล้วนางเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน” ซุนซื่อขมวดคิ้วเช่นกัน นึกไม่ออกว่าเฉาซื่อเพิ่งได้รับโชคลาภชนิดใดมา
“ท่านแม่อาสามรวยขึ้นหรือเปล่า” กู้ซินเถาถาม
“เป็นไปไม่ได้” ซุนซื่อส่ายหัว “อาสามของเจ้ากลับมาไม่กี่ครั้งต่อปี เมื่อเขากลับมา เขาก็แค่ไปเอาเงิน เขาจะเอาเงินให้เฉาซื่อได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้ในตอนนี้ กู้ฉวนโซ่วจะให้เงินเฉาซื่อใช้มากมายขนาดนั้นได้อย่างไร”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของซุนซื่อว่าเป็นไปไม่ได้ กู้ซินเถารู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ตอนที่ข้าอยู่บนถนน ข้าน่าจะตามไปดูความเคลื่อนไหวของนาง
ตอนนี้ข้าต้องมานั่งเดาและข้าไม่สามารถเดาได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด
“ท่านแม่ ข้าว่าเรื่องนี้ควรบอกท่านพ่อ ถ้าอาสามหาเงินข้างนอกได้เยอะจริง ๆ แล้วจงใจหาเรื่องทะเลาะกับอาสะใภ้สามแบบนี้เพื่อหลอกพวกเราหรือไม่? กลัวว่าครอบครัวของเราจะไปหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องเงินอะไรทำนองนี้” กู้ซินเถาพูดทันที
แม้แต่ครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานก็สามารถร่ำรวยได้ หากกู้ฉวนโซ่วกลายเป็นคนรวยเช่นกัน กู้ซินเถาก็ไม่แปลกใจเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างกู้ฉวนโซ่วกับเฉาซื่อก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรและตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร
มันต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้านางไม่เห็นท่าทางของเฉาซื่อในวันนี้ นางจะไม่มีทางรู้ว่าเฉาซื่อกลายเป็นคนร่ำรวยไปแล้ว
บางทีจุดประสงค์ของสามีและภรรยาอย่างพวกเขาก็เพื่อตบตาของทุกคนและป้องกันไม่ให้ทุกคนเห็นว่าตอนนี้พวกเขาร่ำรวย
เมื่อซุนซื่อได้ยินการวิเคราะห์ของกู้ซินเถา นางก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลมาก
“ใช่ ทำไมข้าคิดไม่ถึงกันนะ อาสามและอาสะใภ้สามของเจ้าเคยเป็นคนดีมาก ตอนนี้ทัศนคติของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อีกอย่างตลอดทั้งปีมานี้ไม่เห็นพวกเขาอยู่บ้าน บางทีพวกเขาสองคนอาจออกไปหาเงินข้างนอกแล้วหลอกพวกเราว่ามีปัญหาระหว่างสามีภรรยาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราหยิบยืมเงิน” ซุนซื่อตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาน่าจะถูกบ้านสามตระกูลกู้หลอก
“ทันทีที่ท่านพ่อกลับมา เราบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อเถอะ” กู้ซินเถาพูดพลางทำหน้าตาบูดบึ้ง
ไม่ต้องพูดถึงว่าเสียใจแค่ไหน
เมื่อเห็นว่าบ้านสองของตระกูลกู้ก็เติบโตได้ด้วยมือของกู้เสี่ยวหวาน แม้แต่ครอบครัวของอาสามตอนนี้ก็รวยแล้ว และอาสะใภ้สามก็ใช้เงินหลายร้อยตำลึงเพื่อซื้อเครื่องประดับโดยไม่ต้องคิด
นางไม่เคยมีชีวิตที่สามารถซื้ออะไรก็ได้ที่นางต้องการ
กู้ซินเถารู้สึกเศร้าเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกหดหู่
เมื่อกู้ฉวนลู่กลับมาเห็นสองแม่ลูกพูดคุยกันท่ามกลางความตึงเครียดก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
“เจ้าสองคนกำลังพูดเรื่องอะไรกัน” ช่วงนี้กู้ฉวนลู่อารมณ์ดี
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำงานเป็นคนทำบัญชีอีกต่อไป แต่เขาก็สามารถหาวิธีอื่นที่จะรวยได้
วันนี้เขาออกไปกับหมอเหลยอีกครั้งเพื่อหารือเรื่องกิจการเกี่ยวกับวัตถุดิบยา หากสามารถขายวัตถุดิบยาเหล่านี้ได้ เกรงว่าจะได้เงินมากกว่าที่เขาเป็นคนทำบัญชีมาทั้งชีวิต
กู้ฉวนลู่อารมณ์ดีและใบหน้าของเขาก็ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้รู้สึกดีมาก
ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกู้ซินเถาและเจียงหย่วนมีเสถียรภาพแล้ว และหุ้นส่วนทางกิจการของเขากับหมอเหลยก็ดีขึ้นเช่นกัน รอจนถึงปีหน้า เหวินเอ๋อร์ก็คงผ่านการสอบคัดเลือกขุนนาง
ยิ่งกู้ฉวนลู่คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่หัวใจของซุนซื่อก็คงมีความสุขมากขึ้น
นางจึงรีบเข้ามาทักทายเขาและพูดว่า “เมื่อครู่กู้ซินเถาบอกว่านางเจอใครบางคนบนถนน”
“ใคร”
“เฉาซื่อ”
——————————————-