บทที่ 947 ต้นอ่อนหยั่งราก

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 947 ต้นอ่อนหยั่งราก

บทที่ 947 ต้นอ่อนหยั่งราก

ซื่อเลี่ยงเข้าใจทันทีว่าน้องสาวหมายถึงอะไร “เธอสอบเข้าจิ่งเฉิงเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้นะ”

ปกติซูฉางจิ่วไม่รู้เรื่องความแตกต่างของระดับการศึกษาในมหาวิทยาลัยหรอก แต่สำหรับลูกสาวเขาที่เคยเรียนมาแล้ว แม้จะเป็นเพียงวิทยาลัยครู แน่นอนว่าเธอต้องรู้

เพียงแต่เจ้าตัวเป็นคนไม่มีความมั่นใจ ต่อให้ขยันหมั่นเพียรจนสอบเข้าวิทยาลัยได้ และตอนนี้ได้เป็นครูซึ่งถือว่าดีกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ มาก แต่ก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี

เสี่ยวเฉ่ารู้สึกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ตนจะเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดและเป็นคนที่จมน้ำก่อนใครด้วย

แถมเจ้าตัวก็ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะเก่งได้มากกว่านี้จนสามารถมีชีวิตที่สุขสบาย

ทั้งยังสามารถเป็นนักศึกษาของจิ่งเฉิงได้ด้วย!

หญิงสาวรีบส่ายหัว “ฉันไม่เก่งแบบนั้นหรอก ไม่กล้าคิดเลยด้วย!”

ความต้องการในการสอบเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของจิ่งเฉิงต้องสูงมากเลยใช่ไหม?

แล้วเธอจะไปสอบผ่านได้อย่างไร?

เป็นครูอย่างสงบ ๆ ในมณฑลเหมือนเดิมเถอะ อย่าหวังสูงเลย

ที่ชีวิตนี้ผ่านไปอย่างราบรื่นได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

ด้วยความที่เดิมทีเป็นคนไม่หวังอะไรมากมาย เพียงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วเท่านั้น

เสี่ยวเถียนไม่ได้พูดอะไร

เธอมองคนเป็นพี่แล้วยิ้ม

แต่จริง ๆ มีความคิดอื่นในใจแล้ว

พี่เสี่ยวเฉ่าต้องเป็นครูที่เก่งแน่ ๆ เห็นได้จากการที่ทางวิทยาลัยส่งเธอมาอบรมถึงเมืองหลวง

ถ้าไม่ใช่ความสามารถเหล่านั้น เธอคงไม่มีทางได้รับโอกาสนี้หรอก

พวกเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ผลการเรียนของอีกฝ่ายถือว่าไม่แย่

แต่ตอนสอบเข้าเธอทำคะแนนต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย

คิด ๆ ดูคงเป็นเพราะเจ้าตัวไม่มีความมั่นใจ

พื้นฐานความรู้ของเสี่ยวเฉ่าดีอยู่แล้ว ถ้าทบทวนบทเรียนตั้งแต่ตอนนี้ และมีคนคอยสอนด้วย ปีหน้าเธอสอบเข้าได้แน่นอน

ถึงจะไม่สามารถเข้าเรียนที่จิ่งเฉิงได้ แต่ก็ยังเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นรองลงมาได้อยู่นะ

เสี่ยวเถียนขบคิดก่อนมองพี่เขาอีกครั้ง

หญิงสาวหลุบตาลงไม่ได้พูดอะไร

เรื่องนี้ต้องคุยกันยาว โชคดีที่เสี่ยวเฉ่ายังอยู่เมืองหลวงอีกนาน เสี่ยวเถียนมั่นใจว่าจะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้สำเร็จ

มันอาจจะทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่รู้สึกไร้ตัวตนค้นหาเส้นทางของตัวเองเจอก็ได้

ในใจของเสี่ยวเถียน ซูเสี่ยวเฉ่าเป็นเด็กขี้อายและเก็บตัวมาโดยตลอด

ถ้าดูจากคนวัยเดียวกัน เธอมีความโอ้อวดและเอาแต่ใจน้อยกว่าเสี่ยวเหมยด้วย

เสี่ยวเถียนไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย

ครอบครัวของเสี่ยวเฉ่ามีพี่ชายสองคน คุณลุงคุณป้ารักลูกสาวคนนี้มาก แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่มีความมั่นใจเลย

เวลาไปโรงเรียน เสี่ยวเถียนจะเป็นคนที่ไร้ตัวตนที่สุดในกลุ่มเรา

แต่เสี่ยวเถียนรู้นะว่าช่วงสองปีนั้น พี่เขาแอบทำอะไรเพื่อเรามาตลอด

อาจพูดได้ว่าเป็นคนที่ดูแลเราเลยก็ว่าได้

เธออยากสนิทด้วยนะ

แต่ไม่รู้ทำไมพอเรามาถึงเมืองหลวง เราจึงค่อย ๆ ห่างเหินกันไป

ช่วงแรกที่มาเธอเขียนจดหมายหาเสี่ยวเฉ่าตลอด แม้อีกฝ่ายจะตอบกลับช่วงแรก ๆ แต่หลังจากนั้นก็น้อยลงจนเหมือนจะหยุดไป

ทีแรกคิดว่าเพราะอยู่ห่างกันเลยค่อย ๆ แยกย้ายกันเติบโต

แต่คิด ๆ ดูตอนนี้ คงเป็นเพราะปมด้อยนั้นที่ฝังลึกในกระดูกมากกว่า

ตอนนี้เจ้าตัวได้มาถึงเมืองหลวงแล้ว ทุกอย่างอาจจะต่างไปก็ได้

“จริงนะเสี่ยวเฉ่า ต่อให้เธอสอบระดับบัณฑิตศึกษาของจิ่งเฉิงไม่ได้ แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่นคอยอยู่นะ เช่นมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมของเราน่ะ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน แม้จะไม่ได้ดีเท่าม.จิ่งเฉิง แต่เธอก็ยังได้อยู่กับฉันและเสี่ยวเหมยด้วย ไม่ได้แย่เลยนา”

ซานกงไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น

เสี่ยวเถียนมองพี่ชายด้วยสายตาว่างเปล่า พี่เลอะเลือนอะไรหรือเปล่า?

“พี่สาม พี่เสี่ยวเฉ่าจะไปเรียนเกษตรกรรมได้ยังไงล่ะ?”โนเวล-พีดีเอฟ

คำพูดของน้องสาวทำให้พี่ชายได้สติ จริงด้วย ทางมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมจะรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาก็ต่อเมื่อจบจากที่เดิมเท่านั้น เพราะมันเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะด้านน่ะ

ซานกงรู้สึกผิดหวังอย่างมาก

จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงผิดหวัง แล้วทำไมถึงชักชวนอีกฝ่ายให้อยู่ด้วยกัน

แต่จิตใต้สำนึกกลับบอกว่าอยากเจอผู้หญิงคนนี้

ซานกงในตอนนี้โง่เขลาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมาก เขาไม่รู้ว่าความชอบที่มีต่อผู้หญิงคนนี้แตกต่างไปจากความรู้สึกที่มีให้เสี่ยวเถียนผู้เป็นน้องสาว

เขาคิดว่ามันคือความรู้สึกของหนุ่มสาว

เสิ่นจื่อเจินกับซูเสี่ยวเฉ่าไม่สนิทกันเท่าไร ถึงจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันมาหลายปี แต่เด็กคนนี้ค่อนข้างไร้ตัวตนในกลุ่มเด็ก ๆ ด้วยกัน ก็เลยไม่ได้สนใจแต่แรก

ไหน ๆ ก็มีคนอื่น ๆ กระตุ้นให้เสี่ยวเฉ่าลองดู เสิ่นจื่อเจินจึงเอ่ยขึ้นบ้าง

“ถึงเธอจะสอบระดับบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ยากถ้าจะหาสาขาที่เกี่ยวข้องนะ ถ้าอยากสอบผมให้คำแนะนำได้”

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยต่อ “ถ้าเรียนระดับบัณฑิตได้ จบไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้เลย ไม่เหมือนตอนนี้ที่เป็นแค่ครูมัธยมต้นนะ”

สิ้นประโยคของเขา แววตาของทุกคนพลันเปล่งประกายขึ้นมา

จริงหรือ?

เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้ด้วยหรือ?

เสี่ยวเฉ่ารู้สึกถึงอัตราการหายใจที่เร็วขึ้น

การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างกับครูในโรงเรียนมัธยมแน่นอน เธอรู้เรื่องนี้ดี

แต่ไม่อยากเชื่อเนี่ยสิ เธอมีคุณสมบัติมากพอจะเป็นอาจารย์เลยหรือ?

“พี่เสี่ยวเฉ่ายังอยู่ที่นี่อีกนาน ค่อย ๆ คิดดูนะคะ ไม่ต้องรีบ”

เสี่ยวเถียนรู้จักพี่สาวคนนี้ดีในระดับหนึ่ง เจ้าตัวเป็นคนที่ไม่อยากพัฒนาตัวเอง ถ้าผลักดันมาก ๆ ก็อาจจะล้มเลิกไปเลยก็ได้

เพราะงั้นต้องทำให้เธอคิดได้เอง

มันคือเส้นทางที่คุณเลือกเอง ไม่สามารถให้คนอื่นทำแทนได้

เสี่ยวเฉ่าที่กล้า ๆ กลัว ๆ โล่งอกหลังจากได้ยินเช่นนั้น

แต่ภายในใจมีต้นอ่อนงอกเงยและค่อย ๆ เติบโตขึ้นแล้ว

——————————————————-