บทที่ 1027 ครอบครัวควรห่วงใยกันและกัน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1027 ครอบครัวควรห่วงใยกันและกัน

บทที่ 1027 ครอบครัวควรห่วงใยกันและกัน

เธอนัดกับพวกจ้าวหงเหมยเอาไว้ว่าจะไปโรงงานกันตอนบ่าย เลยมอบหมายให้พี่ชายจัดการส่วนที่เหลือ

ซูเสี่ยวซื่ออารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อให้ความช่วยเหลือได้

โชคดีที่น้องไม่ได้ทำทุกอย่างเองจนหมด ยังมีงานให้เขาทำในฐานะพี่ชายด้วย

“สัญญาเลยว่าจะทำให้อย่างดี!” ชายหนุ่มให้คำมั่น

สหายชุยประหลาดใจเล็กน้อย

หรือเด็กสาวเป็นคนออกคำสั่ง?

เงินก็ของเธอด้วยใช่ไหม?

หนุ่มสาวสมัยนี้เก่งขนาดนั้นเลยหรือ?

แต่เขาแก้ปัญหาของตัวเองได้แล้ว เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่สนใจหรอกนะ

หลังจากนัดพบที่หน้าประตูสำนักงานการเคหะช่วงบ่ายสาม พวกเราก็แยะย้ายกันไป

ระหว่างทางซูเสี่ยวซื่อมองน้องสาว

“ทำไมพี่เอาแต่มองหนูตลอดเลยเนี่ย”

“แค่คิดว่ามีอะไรที่น้องพี่ทำไม่เป็นอีกหรือเปล่า” ชายหนุ่มยิ้ม

เพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองเก่งมาก กระทั่งวันนี้ถึงได้ตระหนักว่าตนเทียบน้องไม่ได้เลย

ไม่รู้น้องไปรู้เรื่องราคาทองคำของต่างประเทศมาตั้งแต่เมื่อไร

แน่นอนว่าเขาไม่รู้อยู่แล้ว

เสี่ยวเถียนยิ้ม “มีหลายอย่างที่ทำไม่ได้ค่ะ พี่พูดแบบนี้คนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะพี่เอานะ”

“หัวเราะเรื่องอะไรล่ะ? น้องเล็กของเราเก่งขนาดนี้”

สองพี่น้องกลับถึงบ้านก็เกือบเวลาอาหารพอดี

ตอนนี้อยู่ในช่วงวันหยุด คุณย่าซูเองไม่ได้ไปร้านบ่อยแล้วด้วย จึงอยู่บ้านดูแลหลานแทน

ท่านทำอาหารกลางวันให้เป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าหลานสาวต้องไปโรงงานหลายวัน กลัวจะกินไม่อิ่มท้องนอนหลับไม่สบาย จะไม่ให้เตรียมตัวได้ยังไง?

“เอาซอสเนื้อกับเกี๊ยวเนื้อไปให้พ่อใหญ่แม่ใหญ่ด้วยนะ พวกเขาน่าจะลำบาก” หญิงชราไม่ได้นึกถึงแค่หลานสาว แต่รวมไปถึงลูกชายลูกสะใภ้ด้วย

“ได้ค่ะ”

“ส่วนอันนี้ มุ้งที่ย่าเจอเมื่อสองวันก่อน ระบายอากาศได้ดีกว่ามุ้งตาข่ายน่ะ เอาไปด้วยนะ”

ซูเหล่าต้าและภรรยาพักอยู่ในฟาร์มหมู ต่อให้มันเป็นฟาร์มที่เสี่ยวเถียนสร้าง ทำให้อนามัยแค่ไหนก็ยังมียุงอยู่ดี

จึงมีมุ้งกับยากันยุงที่เตรียมไว้ให้สองสามีภรรยาคู่นั้นเป็นพิเศษ

เสี่ยวเถียนนึกถึงถุงหอมไล่ยุงที่เตรียมเอาไวเมื่อหลายวันก่อน ไว้ให้พ่อใหญ่แม่ใหญ่เอาไปแขวนในมุ้งดีกว่า

“คุณย่ามีถุงหอมไล่ยุงของหนูด้วยนะ ไว้ให้พ่อแม่เขาเอาติดตัวไปด้วยสักใบแล้วกันค่ะ”

“รอบคอบจังเลยนะ ได้สิ ให้คนที่ไปทำงานด้วยล่ะ”

ท่านเอ่ยชมหลานสาวพร้อมรอยยิ้ม

เพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดี สิ่งสำคัญคือการดูแลซึ่งกันและกัน

หญิงชราตระเตรียมข้าวของไว้ให้เสี่ยวเถียน ตอนพวกจ้าวหงเหมยเห็นถุงก็ได้แต่ตกใจ

“เสี่ยวเถียน เธอมาอยู่สองสามวันหรือย้ายบ้านมาเลย?” จ้าวหงเหมยเอ่ยถามอย่างหยอกล้อ

“ส่วนใหญ่เป็นของพ่อใหญ่แม่ใหญ่น่ะ”

“เดี๋ยวพวกเราช่วยถือนะ” หญิงสาวยิ้มก่อนเสนอตัวช่วย

แต่กลายเป็นว่าเสี่ยวเถียนกลับถือด้วยตัวเองทั้งหมดโดยไม่ต้องพยายามใด ๆ เลย

คนแข็งแกร่งก็คือคนแข็งแกร่งสินะ

“เสี่ยวเถียนให้เราถือคนละใบเถอะ ให้เธอแบกคนเดียวแบบนี้มันดูไม่ดีนะ จะให้เรามือเปล่าได้ยังไงล่ะ!” จ้าวหงเหมยรีบบอก

“ใช่ ๆ ให้เราถือคนละใบเถอะ” ต่งเยี่ยนอันเสนอช่วยอีกแรง

สุดท้ายเพื่อนทั้งสองก็ถือไปคนละใบ ก่อนเสี่ยวเถียนพาเพื่อนขึ้นรถ

ตอนแรกคุณย่าจะให้หลานชายไปส่ง แต่เสี่ยวเถียนปฏิเสธ

รถประจำทางไปถึงชานเมือง สภาพถนนหนทางไม่ได้แย่คนก็ไม่ได้เยอะด้วย

แรก ๆ สองสาวก็คุยกัน แต่สักพักจึงผล็อยหลับไป

เสี่ยวเถียนปลุกเพื่อนเมื่อมาถึงที่หมาย

“ถึงแล้วหรือ?”

ทั้งสองคนเดินตามด้วยความมึนงง สภาพแวดล้อมไม่ต่างไปจากพื้นที่ชนบทนัก

“ถึงแล้วละ ตรงนั้นคือฟาร์มเพาะพันธุ์ ส่วนทางนี้เป็นโรงงาน” เสี่ยวเถียนชี้ให้ดู

“พื้นที่ใหญ่ ๆ นั่นน่ะนะ?” ต่งเยี่ยนอันไม่คิดว่าอาณาเขตของโรงงานจะขนาดนี้

“ใช่ อีกเดี๋ยวจะใหญ่กว่านี้อีกนะ” เสี่ยวเถียนไม่ได้ปิดบังอะไร

พื้นที่ในตอนนี้ยังไม่เป็นที่พึงพอใจน่ะ เธอตั้งใจว่าอนาคตจะขยายให้ใหญ่กว่านี้ แต่ราคาที่ดินแพงมาก เลยไม่รู้จะหมุนเวียนเงินทันไหม

“ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีต้นขาทองคำกับเขาด้วย ฉันต้องกอดให้แน่นแล้วละ” จ้าวหงเหมยแหย่

เสี่ยวเถียนตวัดสายตามอง “พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว”

“ฉันพูดจริงนะ แค่เธอเปิดร้านเฟิงชางก็ดีมากแล้วนะ นี่ยังมีโรงงานตึกเบ้อเริ่มอีก ไม่แปลกใจเลยที่ซุนเสี่ยวอวี๋เกาะเธอซะแน่น”

ซุนเสี่ยวอวี๋ทำงานกับเสี่ยวเถียนมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ร่ำรวยเชียว

เราเป็นรูมเมตกับเพื่อนแท้ ๆ ทำไมไม่เห็นได้ผลประโยชน์กับเขาบ้างเลยล่ะเนี่ย?

จ้าวหงเหมยรู้สึกพลาดโอกาสไปเยอะมาก

หลังจากนี้ต้องเกาะเสี่ยวเถียนไว้ให้ได้แล้ว

หวังเซียงฮวาเห็นหลานสาวก็ดีใจมาก

“ได้ยินว่าหนูจะมา แม่เลยทำความสะอาดหอพักตรงนั้นไว้แต่เช้าเลย” ท่านยิ้มจนตาปิด

สองสาวรู้แค่ว่าความสัมพันธ์ของคนบ้านซูดีมาก แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนั้น

หากไม่รู้มาก่อนก็คิดว่าหวังเซียงฮวาเป็นแม่แท้ ๆ ของเสี่ยวเถียนแน่นอน

“ขอบคุณค่ะแม่ใหญ่ แม่ใหญ่ดีกับหนูเสมอเลย” เด็กสาวเข้าไปกอดแขนแล้วออดอ้อน

“ตาย ๆ อย่ากอดแม่เลย แม่เพิ่งให้อาหารหมูเสร็จเอง ตัวสกปรกมาก”

หวังเซียงฮวาดีใจที่ได้ใกล้ชิดกับหลาน แต่ก็อยากดึงอีกฝ่ายออกไปก่อน

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ พวกหนูนั่งรถมาก็มีแต่ฝุ่นเหมือนกัน”

เธอเป็นเด็กชนบท ทำตัวติดดินมาก

แต่ตัวแม่ใหญ่กลัวว่าเพื่อนหลานจะรังเกียจเอา

เธอได้ยินว่าสองคนนี้ต่างจากสามสาวที่มาอยู่บ้านเราตอนปีใหม่ด้วย เป็นเด็กเมืองกรุงฐานะทางบ้านดีพอตัว

เสี่ยวเถียนอีกคน อยู่ดีไม่ว่าดี พาเพื่อนมาฟาร์ม ไม่กลัวคนเขาจะขบขันเอาเรอะ