บทที่ 1053 ข้างในคือผู้ใดกันแน่

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1053 ข้างในคือผู้ใดกันแน่

บทที่ 1053 ข้างในคือผู้ใดกันแน่

คอยดูกันว่าฉินเย่จือยังจะต้องการหญิงที่สร้างเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้อีกหรือไม่

เด็กสาวที่ชื่อเสียงป่นปี้ ผู้ใดเล่าจะต้องการ

เมื่อถึงเวลานั้นก็บังคับให้นายน้อยรับนางไป อย่างมากแค่ก็เกรงว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะไปชั่วชีวิต

ก็แค่เสี้ยนจู่ไม่ใช่หรือ คิดว่าเป็นเสี้ยนจู่แล้วจะสูงส่งกว่าคนได้จริง ๆ งั้นหรือ?

กล้าดีกอย่างไรถึงไม่ชายตามองตระกูลเจียง เช่นนั้นก็ให้นางลิ้มลองรสชาติของการล่วงเกินตระกูลเจียงว่าเป็นอย่างไร

สีหน้าอับอายและไม่พอใจของมามาเหลิ่ง ดูเหมือนนางจะเป็นกังวลอย่างมาก

“หรือจะเกิดเรื่องกับเสี้ยนจู่จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร” มามาเหลิ่งพึมพำและกล่าวกับทุกคนว่า บุคคลไร้ยางอายที่พวกนางเห็นเมื่อครู่คือเสี้ยนจู่

หญิงบางคนที่ไม่หวาดกลัวจึงลอบมองดูเล็กน้อย และโดยธรรมชาติแล้วต้องสามารถมองเห็นคนที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน

ทว่าลักษณะของคนในนั้นไม่มีความคลับคล้ายกับเสี้ยนจู่เลยแม้แต่น้อย

หญิงสาวทุกคนต่างสบตากันและกัน ราวกับพวกนางสงสัยว่าคนไร้ยางอายที่มามาเหลิ่งพูดหมายถึงเสี้ยนจู่

หญิงสาวใจกล้าบางคนกล่าวอย่างไม่มั่นใจ “มามาเหลิ่ง คนในนั้นไม่น่าจะเป็นเสี้ยนจู่นะเจ้าคะ”

มามาเหลิ่งเห็นบางคนคัดคาดตนเอง หัวใจย่อมรู้สึกไม่พอใจ หากแต่ยังพยายามเอ่ยออกมาอย่างอดทน “ข้าก็ไม่ได้หวังว่าจะเป็นเสี้ยนจู่ ขอเพียงแค่ไม่ใช่เจ้าเมืองอันผิงก็จะจัดการได้อย่างง่ายดาย” จากนั้นกล่าวต่อ “แต่ถ้าหากไม่ใช่เสี้ยนจู่ แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ? สาวใช้เหล่านั้นก็บอกว่าในห้องมีเพียงแค่เสี้ยนจู่เท่านั้น”

มีหญิงสาวบางคนเหลือบมองมามาเหลิ่งปราดหนึ่ง และอยากจะเอ่ยบางอย่างออกมา แต่พอนึกถึงตนเองในเมื่อสักครู่แล้ว นางก็รีบปิดปากสนิท เบี่ยงกายซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเพื่อไม่ให้มามาเหลิ่งมองเห็นตนเอง

คนที่นอนอยู่ข้างในคือใครกันแน่ ทุกคนต่างรับรู้เรื่องนี้ หากแต่ไม่กล้าปริปากพูด

บางคนที่ฉลาดหน่อยก็ดูเหมือนจะรู้สึกถึงความคิดที่มุ่งร้าย

มามาเหลิ่งยังไม่เห็นว่าคนที่อยู่ข้างในคือใคร และเอ่ยอย่างมั่วซั่วว่าคนข้างในคือเสี้ยนจู่ นี่จะไม่เป็นการทำให้เสี้ยนจู่เสื่อมเสียชื่อเสียงใช่หรือไม่

ความแค้นของฮูหยินเจียงที่มีต่อกู้เสี่ยวหวาน เหล่าคุณหนูเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาเช่นกัน ได้ยินมาว่า เป็นเพราะหลิวเทียนฉือทำผิดต่อเสี้ยนจู่ ฮูหยินเจียงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งหลิวเทียนฉือกลับเมืองหลวง

ฮูหยินเจียงเสียลูกสะใภ้คุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้ไป แล้วนางจะยอมวางมือได้อย่างไร

ถ้อยคำไม่น่าฟังไร้ความเชื่อถือ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นก็เป็นเพราะฮูหยินเจียงต้องการแก้แค้นเสี้ยนจู่

เพียงแต่เสี้ยนจู่เป็นตำแหน่งเจ้าเมืองที่ฮ่องเต้ประทานให้กู้เสี่ยวหวาน ไม่นึกเลยว่าฮูหยินเจียงจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ นับว่าใจกล้ามากจริง ๆ

หญิงสาวรอบด้านต่างถอนหายใจ บางคนหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงกราวกับมดที่อยู่ในกระทะร้อน พวกนางเอาแต่พึมพำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี้ยนจู่

เมื่อครู่ทุกคนมองเห็นร่างที่นอนอยู่บนพื้น เสื้อผ้าท่อนบนหลุดลุ่ย ครั้นมองดูร่างนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงโตเต็มวัย รูปร่างอ้วนท้วน เสื้อผ้าที่ถอดออกมาสีก็หมองคล้ำ ดูไม่เหมือนเสื้อผ้าที่เสี้ยนจู่สวมใส่เมื่อครู่เลยสักนิด

เหล่าคุณหนูต่างเหลือบมองกันและกัน ความสงสัยล้วนฉายชัดในดวงตา

ครั้นมามาเหลิ่งเห็นดังนั้นก็มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าคนข้างในคือเสี้ยนจู่ ดังนั้นนางจึงไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก

เพียงแค่รอใครสักคนมาตัดสินว่า ใครกันแน่ที่อยู่ด้านใน

สาวใช้ที่ไปตามหาคนกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน พวกนางกระวนกระวายจนเหงื่อออกท่วมตัว “มามาเหลิ่ง ข้าถามแล้ว ไม่มีใครพบฮูหยินเลย”

“แล้วแม่นางกู้ล่ะ” มามาเหลิ่งแปลกใจเล็กน้อย หากแต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น อาจเป็นเพราะฮูหยินยุ่งมากเลยยังไม่ได้มาดูแลทางนี้

สาวใช้ล้วนส่ายหัว แล้วบอกว่าไม่พบพวกนางทั้งสองเลย

หญิงชราหันไปมองในห้อง นางขบฟันแน่น แต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

“เอ๊ะ คุณหนูทั้งหลาย เหตุใดไม่เข้าไปดูสมบัติล้ำค่าในห้องนี้ล่ะ ภายในนั้นมีของเยอะแยะมากมายเลยนะ” ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

เมื่อมามาเหลิ่งได้ยินเช่นนั้น ทั้งร่างกายก็แข็งทื่อราวกับตกลงไปในธารน้ำเย็นเฉียบ

ร่างกายแข็งทื่อ

เมื่อหญิงสาวเหล่านั้นหันไปก็พบว่าเป็นกู้เสี่ยวหวาน พวกนางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เสี้ยนจู่”

คุณหนูเหล่านั้นเข้ามาทักทายกู้เสี่ยวหวานด้วยความเคารพนอบน้อม กู้เสี่ยวหวานเองก็ตอบกลับอย่างสุภาพทีละคนด้วยรอยยิ้ม และดูเหมือนว่านางไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าที่เย็นชาของมามาเหลิ่งเลย

หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานทักทายคุณหนูทั้งหลายด้วยรอยยิ้มเสร็จ นางก็เห็นมามาเหลิ่งกำลังตกตะลึงและไม่พูดอะไรสักคำ นางจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เมื่อครู่นี้ คุณหนูเหล่านี้กำลังคุยอะไรอยู่หรือ ครึกครื้นขนาดนั้น ทำไมมามาเหลิ่งถึงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยล่ะ”

หนึ่งในหญิงสาวสามารถเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับมามาเหลิ่งกันแน่ มุมปากของนางยกยิ้มขึ้น นางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดมุมปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “มามาเหลิ่งเกรงว่ากำลังเข้าใจผิดและกำลังคิดเรื่องนี้อยู่”

กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นสงสัย และถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

คุณหนูคนนั้นกำลังจะเอ่ยขึ้น แต่มามาเหลิ่งก็ตะโกนขึ้นขัดนางเอาไว้ “เสี้ยนจู่”

ความสนใจของกู้เสี่ยวหวานถูกนางดึงดูดไป

มามาเหลิ่งเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ จึงจะปล่อยคนเหล่านี้ออกไป

ตั้งแต่เมื่อครู่ที่ได้ยินเสียงของกู้เสี่ยวหวาน ความคิดมามาเหลิ่งเปลี่ยนไปกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้

คนข้างในที่ทำเรื่องน่าอายไม่ใช่กู้เสี่ยวหวานแน่ ๆ

หรือว่านางไม่ได้ดื่มชาถ้วยนั้น?…

นางไม่ได้ดื่ม แล้วตกลงใครเป็นคนดื่มกันแน่

มีหญิงหลายคนเห็นบุคคลที่อยู่ข้างใน

มามาเหลิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือว่าคนที่อยู่ข้างในคือกู้ซินเถา พอคิดถึงเรื่องนี้ ในใจมามาเหลิ่งรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่นางก็สงบสติอารมณ์ได้ในทันที

ถ้าหากคนข้างในเป็นกู้ซินเถาจริง ๆ อย่างนั้นคราวนี้ชื่อเสียงของนางก็จะเหม็นคาวคละคลุ้ง

เดิมทีฮูหยินก็ไม่ได้ชื่นชอบกู้ซินเถาคนนี้ การได้เห็นนางทำสิ่งน่าอายในที่สาธารณะในตอนนี้ เกรงว่าอย่างไรก็ไม่ยินยอมให้นางเข้ามาเหยียบบ้านตระกูลเจียงอีกเป็นอันขาด