บทที่ 1118 พี่เขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกันน่ะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1118 พี่เขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกันน่ะ

บทที่ 1118 พี่เขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกันน่ะ

“แม่สามีเอาแต่ด่าว่าฉันเป็นตัวโชคร้าย ทำลายชีวิตลูกชายเธอ”

“ด่าว่าฉันเป็นคนไม่ได้ความ มีหลานชายให้ไม่ได้ สมควรแล้วที่ไม่มีคนต้องการฉัน!”

“ทำไมไม่นึกถึงเรื่องที่ฉันดูแลแกเลยล่ะ? ไม่รู้สึกผิดบ้างหรือ?”

“ถ้ารู้ก่อนหน้านี้… ก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก!”

หูเสี่ยวเหลียนสะอื้น

หลังจากได้ระบายออกมาก็รู้สึกดีขึ้นมาก

ซูเสี่ยวเถียนโล่งใจ

อีกฝ่ายเหมือนเพิ่งตระหนักได้ว่าเพิ่งพูดอะไรแปลก ๆ ให้เด็กฟังไปเยอะ

แล้วก็มีหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมาะจะเล่าให้เด็กฟังด้วย

“ขอบคุณที่รับฟังนะคะ ขอบคุณมากค่ะ!”

เธอยืนขึ้นโค้งคำนับด้วยความละอายใจ

“พี่ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ”

เด็กสาวเข้าไปประคองอีกฝ่ายเอาไว้ เพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงน่าสงสารคนหนึ่ง

จริง ๆ พี่เขาเลือกกลับไปหาพ่อแม่ตัวเองก็ได้นะ แต่เรื่องแบบนี้ร้อยทั้งร้อยย่อมรับผิดชอบด้วยตัวเอง ไม่ปล่อยให้ที่บ้านทุกข์ร่วมไปด้วยหรอก

“ฉันไม่รู้จะพูดกับใครน่ะ ขอโทษด้วยนะ คุณยังเด็กอยู่เลย ไม่สมควรให้ฟังเรื่องโสมมพวกนี้สักนิด”

หูเสี่ยวเหลียนเป็นคนมีเหตุผลมากกว่าที่คิด บางทีถ้าหลุดพ้นจากบ่วงนี้ได้ อนาคตคงดีกว่านี้เยอะ

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่รู้สึกดีขึ้นก็ดีแล้วละค่ะ อีกอย่างเรื่องอื่น ๆ ฉันก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี!”

เธอคิดช่วยอยู่เหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เนี่ยสิ

หูเสี่ยวเหลียนส่ายหัว “คุณช่วยฉันไว้แล้วละ ถ้าไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็คงไม่รู้หรอกว่าชีวิตแต่งงานจะเป็นแบบนี้ เผลอ ๆ คงดูแลครอบครัวเขาเหมือนขี้ข้าแน่ ๆ!”

เจ้าตัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่มันทั้งขมขื่นและเศร้าโศก ไม่ได้ยินดีเลยสักนิด!

“แล้วจะทำยังไงต่อไปหรือคะ?”

ซูเสี่ยวเถียนจินตนาการไม่ออกเลยว่าสามแม่ลูกไร้เงิน ผัวพึ่งพาไม่ได้จะมีอนาคตแบบไหน

เผลอ ๆ กลายเป็นเมียน้อยในสายตาชาวบ้านอีก

อนาคตไร้หนทางสูงมาก

“ฉันจะไปตามหาผู้หญิงคนนั้นที่โรงเรียนประถมน่ะ หล่อนขโมยชีวิตฉันและพรากสามีของฉันไป ให้กล้ำกลืนแบบนี้ต่อไปฉันทำไม่ได้หรอก!”

น้ำเสียงของหูเสี่ยวเหลียนเด็ดขาดมาก และเตรียมจะไปแล้ว

เด็กสาวอยากจะเกลี้ยกล่อม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

อับจนหนทางแล้วละ

ผู้หญิงคนนั้นก็แย่จริง ๆ

การซื้อจดหมายตอบรับเข้าเรียนถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ แต่จะไปว่าฝ่ายนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้

เพราะแม่เซี่ยงอิงจงใจขโมยไปขายเพื่อแลกเงินยังไงละ

แต่ว่าฝ่ายหญิงก็เต็มใจแต่งงานด้วยทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฝ่ายชายมีลูกมีเมียอยู่แล้วก็ถือเป็นความผิดอีกกระทงเช่นกัน

เซี่ยงอิงเป็นก้อนเนื้อร้าย ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็คือแมลงวันที่ไล่ตามเนื้อเน่า

เทียบกันแล้วไม่มีใครดีกว่าใครสักนิด

เหยื่อของเรื่องราวคือหูเสี่ยวเหลียนและลูกสาวทั้งสอง!

รวมหัวกันชัด ๆ

“ถ้ามีปัญหาอะไรมาหาคนชื่อต้วนหงหย่วนที่โรงงานได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกเขาเอาไว้”

ซูเสี่ยวเถียนกลัวว่าผู้หญิงตรงหน้าจะหมดหวังในการใช้ชีวิตจึงให้คำมั่นสัญญาเช่นนั้น

“ขอบคุณนะคะเจ้านาย!”

ว่าจบก็หมุนตัวจากไป

เด็กสาวมองแผ่นหลังของเธอ “พี่เสี่ยวเหลียน มันมีคำพูดหนึ่งที่เขาบอกว่า ‘ดับสิ้นเพื่อเกิดใหม่’ นะคะ!”

หลังของเธอตั้งตรง ไม่ได้หันกลับมามองแต่เลือกที่จะจากไป

ซูซื่อเลี่ยงตามเข้ามาหลังจากนั้น

เขานั่งฟังบทสนทนาอยู่ห้องข้าง ๆ และเตรียมจะบุกเข้ามาหากเกิดเรื่องขึ้น

แต่สงสัยกำแพงกันเสียงได้ดีไปหน่อยเลยไม่ได้ยินอะไรเท่าไร

เขามองสำรวจน้อง ตรวจสอบจนแน่ใจว่าปลอดภัยดีถึงค่อยโล่งใจ

“ทำไมคุยกันนานจัง เขาเป็นภรรยาเซี่ยงอิงไม่ใช่หรือ แล้วมีอะไรให้คุยด้วยอีก?”

ชายหนุ่มเสียใจ ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ปล่อยให้มาพบกันหรอก

เผื่อมีเจตนาไม่ดีคิดล้างแค้นจะทำยังไง

เด็กสาวถอนหายใจ มองประตูบานนั้นอยู่ข้างหน้าต่าง

แผ่นหลังของหูเสี่ยวเหลียนค่อย ๆ ลับสายตาไป

กระทั่งไม่เห็นใครอีกจึงกลับมานั่งที่โต๊ะ

“พี่เขาก็เป็นเหยื่อของเรื่องนี้ค่ะ ไม่มีทางทำร้ายหนูหรอก”

ซูซื่อเลี่ยงไม่รู้เรื่องราวทัั้งหมด และไม่เคยคิดด้วยว่าหูเสี่ยวเหลียนจะโดนเอารัดเอาเปรียบ

แต่ซูเสี่ยวเถียนละอายใจเกินกว่าจะหยิบยกเรื่องนั้นขึ้นมาพูด

หลังจากนั้นก็นึกถึงเรื่องสำคัญที่มาโรงงานในวันนี้ได้เลยเรียกต้วนหงหย่วนให้เข้ามา

เธอถามเขาว่าอยากตามไปที่เมืองหลวงด้วยกันไหม

ด้วยความสามารถของเขาแล้วถือว่าดี แม้วุฒิการศึกษาจะต่ำไปหน่อยก็ตาม

แต่สิ่งที่เธอสนใจคือนิสัยและความยืดหยุ่นของเขาต่างหาก

ในอนาคตอีกฝ่ายสามารถผันตัวมาเป็นมือขวาเธอได้

ต้วนหงหย่วนได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแล้ว และคิดมาพอสมควร

ถ้าเราตามไปจะต้องมีพัฒนาที่ดีขึ้นแน่ ๆ แต่พ่อแม่เราแก่แล้ว ต้องดูแลน่ะ

“ขอบคุณสำหรับความเมตตาครับ แต่บ้านผมอยู่ที่นี่คงไม่ได้ไปเมืองหลวงหรอกครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะตั้งใจเรียนและกลายเป็นคนที่มีประโยชน์ให้ได้ในภายภาคหน้าครับ!”

ซูเสี่ยวเถียนพยักหน้า “ถ้าอย่างนัั้น นับจากนี้ไปคุณจะกลายมาเป็นผู้ช่วยของฉันค่ะ คอยรับผิดชอบเรื่องที่ฉันต้องการนะคะ”

ที่จริงตำแหน่งนี้ไม่ใช่จะได้กันง่าย ๆ คนอื่นอาจมองได้ว่าเขาเป็นคนทรยศด้วยซ้ำ

แต่ซูเสี่ยวเถียนถือว่าเป็นการฝึกฝน

อยากจะรู้ว่าอวี๋กวางฮุยเป็นผู้นำที่มีความอดทนหรือเปล่า

“เข้าใจแล้วครับเจ้านาย ผมจะตั้งใจทำงานอย่างดีครับ!”

ต้วนหงหย่วนคงถือว่าโรงงานคือกองทัพสินะ การเชื่อฟังจึงเป็นหน้าที่ของเขา

ไม่รู้นิสัยนี้จะเปลี่ยนไปไหม

เชื่อฟังก็ดี แต่ผู้นำต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง ไว้ให้เขาลองพิจารณาดู!

เชื่อว่าจะต้องค่อย ๆ เปลี่ยนไปแน่ ไม่อย่างนั้นการทำงานในโรงงานลำบากแน่ ๆ

—————————————————————–