บทที่ 1119 คุ้มค่าให้ไว้วางใจ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1119 คุ้มค่าให้ไว้วางใจ

บทที่ 1119 คุ้มค่าให้ไว้วางใจ

ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้แนะนำอะไรมาก เรื่องบางเรื่องให้คิดเองจะดีกว่า

“ไว้ฉันคุยเรื่องนี้กับผู้อำนวยการอวี๋ทีหลังนะคะ แล้วก็อีกเรื่อง วันนี้อดีตภรรยาของเซี่ยงอิงมาพบฉัน ฉันบอกเธอไปว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้มาหาคุณที่โรงงานได้เลย ยังไงฝากคุณช่วยเท่าที่ได้ด้วยนะคะ ถ้าไม่ได้โทรมาหาฉันได้เลยค่ะ”

ต้วนหงหย่วนประหลาดใจนิดหน่อย

อดีตภรรยาของเซี่ยงอิงหมายถึงหย่ากันแล้วหรือ?

ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย ไหนว่าเซี่ยงอิงโดนจับอยู่?

ทำไมเจ้านายบอกว่าเป็นอดีตภรรยานะ รู้สึกขัดแย้งจัง

เพราะเซี่ยงอิงแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว ภรรยายังสาวอยู่เลย หน้าตาสะสวยด้วย ได้ยินว่าเป็นครู

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในใจ

สิ่งสำคัญคือเจ้านายทำแบบนี้จะดีหรือ?

เซี่ยงอิงทำเรื่องแบบนั้นก็ยังให้ความช่วยเหลือเขา?

ต้วนหงหย่วนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

เด็กสาวจ้องมองอีกฝ่าย

ทีแรกก็คิดว่าจะตอบตกลงทันที ที่แท้กลับไม่ใช่

“ผู้ช่วยต้วนมีความคิดเห็นอะไรไหมคะ?”

“เจ้านาย เรื่องเห็นใจพอรับกันได้อยู่นะครับ แต่เรื่องในครั้งนี้อาจมีคนคิดใช้ประโยชน์อีกก็ได้นะครับ!”

เขาเอ่ยด้วยความจริงใจ ใบหน้าเชิดตรงจนทำให้คนฟังแบบเธอรู้สึกเหมือนทำอะไรผิด

เด็กสาวพยักหน้า “คุณพูดถูกค่ะ แต่เรื่องนี้อยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษน่ะ”

ต้วนหงหย่วนไม่เชื่อ

“หวังว่าคุณจะรู้เรื่องราวในสองสามวันนี้นะคะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวคนอื่นน่ะ ฉันพูดไม่ได้หรอกค่ะ”

สำหรับลี่เฉิงแล้ว ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นยังไงมันจะแพร่ข่าวไปไวในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น

เมื่อถึงตอนนั้นมันจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาตามท้องถนนและซอกตรอกซอย กลายเป็นเรื่องปกติที่ต้วนหงหย่วนจะต้องรู้

แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นด้วย แต่ในเมื่อเจ้านายบอกจึงจำใจรับไว้เท่านั้น

ขณะกำลังจะจากไป ซูเสี่ยวเถียนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ถ้ามีเวลาช่วยจับตาโรงเรียนประถมลี่เฉิงทีนะคะ”

เพราะกลัวหูเสี่ยวเหลียนจะเสียเปรียบถ้าไปตัวคนเดียว

ช่วยจับตามองอีกแรงดีกว่า!

ต้วนหงหย่วนไม่รู้ว่าเจ้านายหมายถึงอะไร แต่ก็ยังพยักหน้ารับ

แม้ไม่ได้เกี่ยวกับการงาน แต่ชายคนนี้ย่อมตัดสินใจช่วยเหลือสุดกำลัง

ด้วยเหตุนี้ ต้วนหงหย่วนจึงเดินทางไปยังโรงเรียนแห่งนั้นทุกครั้งที่ว่าง จนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่นแล้ว

ซูเสี่ยวเถียนไม่รู้เรื่องนั้น คล้อยหลังผู้ช่วยต้วนไปก็บอกแผนการของโรงงานกับผู้อำนวยการอวี๋และคนอื่น ๆ ฟัง

อวี๋กวางฮุยเห็นด้วยอย่างยิ่ง

สมแล้วที่ได้เธอเป็นเจ้านาย

ความคิดก้าวหน้า หากโรงงานพัฒนาไม่ดีก็คงเป็นเพราะพวกเราดูแลไม่ดีเอง

“เจ้านายเป็นคนที่มองการณ์ไกลเสมอเลยครับ” เขาชื่นชมจากใจจริง

“รู้จักพูดนะคะ ฉันแค่หาหนทางให้ได้เงินไว ๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีชีวิตที่ดีน่ะค่ะ”

แม้จะตั้งเป้าไว้ว่าก่อตั้งโรงงานทั้งทีก็หวังผลประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่เธอไม่คิดบีบบังคับคนงานให้หาแต่เงินลูกเดียวหรอกนะ

ควรจะตอบแทนด้วยเงินที่สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน

เพราะเชื่อว่าการสร้างรายได้จำเป็นต้องมีรูปแบบธุรกิจที่ดีและมีปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วย

ไม่ใช่พึ่งพาแต่คนงานเท่านั้น!

“ต้วนหงหย่วนเป็นคนดีนะคะ ฉันตั้งใจจะฝึกอบรมเขาน่ะค่ะ”

อวี๋กวางฮุยไม่แปลกใจเท่าไร

ซูเสี่ยวเถียนแสดงให้เห็นตั้งแต่แรกแล้ว

“เจ้านายมีแผนจะพาเขาตามไปที่เมืองหลวงหรือครับ?”

เธอส่ายหัว

“เขาไม่ไปค่ะ หลังจากนี้คงต้องรบกวนผู้อำนวยการอวี๋ฝึกฝนเขาแล้วนะคะ!”

เธอไม่ได้มีความตั้งใจให้เขาอยู่สบาย ๆ

ชีวิตคนเราต้องมีผกผันถึงจะเติบโตได้

ในที่สุดตำแหน่งของต้วนหงหย่วนก็ถูกกำหนดให้เป็นผู้ช่วยเจ้านาย ซึ่งเทียบเท่ากับตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงงานทีเดียว

แม้อนาคตจะทำงานหนักมากขึ้น แต่เงินเดือนจะเพิ่มตามไปด้วย

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็กล่าวอำลาก่อนกลับบ้านพร้อมพี่ชาย

พอมาถึงเฉินจื่ออันก็มาถึงแล้วเช่นกัน

“วันนี้อาเขยกลับบ้านเร็วจังค่ะ!”

“พรุ่งนี้พวกเธอสองคนจะกลับแต่เช้าเลยนี่ ในฐานะอาเขยก็ต้องไปส่งอยู่แล้ว!”

เฉินจื่ออันนั่งอยู่บนโซฟา กล่าวยิ้ม ๆ ด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“พูดถึงเรื่องนี้ ต้องขอบคุณอาเขยจริง ๆ ค่ะ ที่หาคนที่มีประโยชน์อย่างต้วนหงหย่วนมาให้หนูนะ”

เธอเข้าเรื่องทันที

เฉินจื่ออันประหลาดใจเมื่อรู้ว่าหลานสาวเลื่อนตำแหน่งให้ต้วนหงหย่วน และอีกฝ่ายก็ยอมรับเสียด้วย

“คนคนนี้เป็นคนหัวรั้นมากนะ กลัวการติดหนี้บุญคุณผู้อื่น ยากมากที่จะยอมรับข้อตกลงเธอน่ะ”

เมื่อก่อนเคยเสนองานดี ๆ ให้เหมือนกัน แต่อีกฝ่ายปฏิเสธหมดเลย

ต้วนหงหย่วนบอกว่าตนเป็นอดีตหัวหน้าของเขา ไม่ควรทุจริตเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนน่ะ

ต่อมาก็เสนอให้ไปทำงานที่หลู่เซียงเซียงเพราะเป็นองค์กรเอกชน ไม่ใช่พนักงานราชการอะไร อีกฝ่ายถึงยอมตอบตกลง

หาข้อแก้ตัวหวังดูแลไม่ได้เลยจริง ๆ

“คนแบบเขาควรค่าแก่การมีอนาคตที่ดีค่ะ”

“เลือดและหยาดเหงื่อของเขาจะต้องไม่สูญเปล่าแน่นอน!”

“แล้วก็สองคนที่เฝ้าประตูด้วยค่ะ ไว้จะเตรียมการให้เขาดี ๆ สักหน่อย”

เพราะพวกเขาพิการ เธอไม่รู้ว่าควรมอบหมายตำแหน่งงานไหนให้

แต่บอกผู้อำนวยการไปแล้วว่าขึ้นเงินเดือนให้ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

เฉินจื่ออันได้ยินพลันรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ

ตลอดเวลาที่เป็นผู้นำลี่เฉิง เขาคิดแก้ปัญหาทหารปลดประจำการมาไม่น้อย

แต่ว่าจำนวนคนมากงานมีน้อยเลยไม่สามารถดูแลได้

ต่อให้ส่งรายงานแจ้งเบื้องบน ก็ไม่ได้รับการอนุมัติใด ๆ เลย

“อาเขยขอบใจเธอมากนะ!”

“พวกเขามีประโยชน์นะคะ ไว้โรงงานใหญ่กว่านี้ค่อยจ้างทหารปลดประจำการเพิ่มดีกว่าค่ะ”

เธอเชื่อว่าคนที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนย่อมเป็นคนที่มีความเชื่อมั่น และจะไม่ทำอะไรต่ำช้าอย่างเซี่ยงอิงแน่นอน

——————————————