บทที่ 1121 หญิงผู้ตัดสินอย่างเด็ดขาด

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1121 หญิงผู้ตัดสินอย่างเด็ดขาด

บทที่ 1121 หญิงผู้ตัดสินอย่างเด็ดขาด

หูอวี้หงถูกพักงาน

ชีวิตบนสวรรค์ร่วงสู่นรกกะทันหันจึงไม่สามารถยอมรับได้

เจ้าหล่อนไม่เต็มใจยอมแพ้เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด

ถึงการซื้อจดหมายตอบรับเข้าเรียนจะไม่ได้มีเกียรติ แต่เราใช้เงินจ่ายมันมาแล้ว

หลังจากนั้นก็ได้ใกล้ชิดกับเซี่ยงอิง เขาชอบเธอและไล่จีบกันซึ่ง ๆ หน้า

แต่เซี่ยงอิงกับหูเสี่ยวเหลียนนังหน้าโง่นั่นไม่ได้จดทะเบียน ไม่ได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำไมเธอต้องสนใจด้วย?

หูอวี้หงไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงไปยังกระทรวงศึกษาเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียน เพราะเชื่อว่าโรงเรียนปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรม

แต่ฝ่ายกระทรวงศึกษาย่อมรู้อยู่แล้วจากการตรวจสอบอย่างละเอียด หูอวี้หงจึงไม่สามารถหันหลังกลับได้

หลังจากวิเคราะห์ พวกเขาจึงตัดสินใจว่าครูคนนี้ไม่สมควรทำหน้าที่เป็นแบบอย่างแก่นักเรียน

หูอวี้หงได้ยินว่าจะโดนไล่ออก พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้หูเสี่ยวเหลียนนังหน้าโง่พันหยวนก็แทบคลั่ง

แน่นอนว่าเธอไม่เต็มใจจ่าย เงินเดือนที่มียังไม่เคยใช้เลยสักแดงเดียวเพราะเก็บออมเอาไว้ ส่วนเงินทั้งหมดที่เซี่ยงอิงไปยักยอกมาอยู่ที่ตน

นอกจากใช้ซื้อของกินของใช้แล้วยังเหลืออีกเยอะเลย แต่หูอวี้หงไม่อยากเอาออกมา

เซี่ยงอิงโดนจับ ตกงาน เธอจึงต้องพึ่งพาเงินก้อนนี้นะ

นอกจากฝ่ายกระทรวงการศึกษาแล้ว พวกเขายังขอให้หน่วยงานความปลอดภัยสาธารณะเข้ามาช่วยจัดการด้วย

หญิงสาวกลัวโดนฟ้องเลยมอบเงินให้ด้วยความไม่เต็มใจ

ด้วยความเสียดายจึงต้องการพูดจาทิ่มแทง

บอกว่าหูเสี่ยวเหลียนเป็นเมียแก่ ๆ โทรม ๆ ที่ไม่มีใครเอาด้วยความภาคภูมิใจ เป็นผู้หญิงไม่ได้เรื่องเพราะมีลูกชายให้ไม่ได้ และอีกหลายอย่าง

“หูอวี้หง ทำเรื่องหน้าด้านไม่พอยังจะกล้าด่าฉันโดยไม่ขายขี้หน้าอีกหรือ? เออ ฉันมีลูกชายไม่ได้ งั้นก็ขออวยพรให้แกมีลูกชายกับเซี่ยงอิงออกมาไว ๆ แล้วกัน!”

หูอวี้หงอับอายมาก

“แก แก… หูเสี่ยวเหลียน ฉันรู้นะว่าแกคิดว่าฉันเป็นตัวทำลายครอบครัวแก แล้วทำไมไม่คิดบ้างล่ะว่าฉันก็อาจจะเป็นเหยื่อเหมือนกัน?”

คนรอบข้างเข้ามามุงมากขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวนึกภาพตัวเองโดนวิพากษ์วิจารณ์ก็ทำท่าทำทางราวกับคนไม่ได้รับความยุติธรรม

“เธอเป็นเหยื่อหรือ? จะเป็นไปได้ยังไง?” คนข้าง ๆ หัวเราะลั่น

“เพราะฉันไม่รู้ว่าเซี่ยงอิงมีลูกมีเมียแล้วไง ถ้าฉันรู้ก็คงไม่แต่งหรอก!”

ต้องมีคนเชื่อในคำพูดตนแน่ ๆ

“ไม่รู้หรือ? วันที่ฉันกับเซี่ยงอิงแต่งงาน แกยังมากินข้าวที่บ้านฉันอยู่เลย!” หูเสี่ยวเหลียนหมุนตัวจากไป

คนที่รู้เรื่องวงในขยายความให้คนอื่น ๆ ฟัง

เมืองนี้ไม่ได้ขนาดใหญ่มาก จากบ้านหูอวี้หงไปบ้านเซี่ยงอิงใช้เวลาเดินห้านาทีเอง

มีแต่คนคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น ไม่มีทางไม่รู้หรอกว่าผู้ชายแต่งงานมีลูกแล้ว

หลาย ๆ คนเชื่อว่าหูอวี้หงเต็มใจเป็นเมียน้อยโดยรู้อยู่เต็มอก

ต่อให้จดทะเบียนกัน แต่จากสถานการณ์ พวกเขาเชื่อว่าหูเสี่ยวเหลียนที่แต่งเข้าบ้านก่อนเป็นเมียหลวง ส่วนหูอวี้หงเป็นเมียน้อย

เพราะแบบนั้นจึงทำให้หูอวี้หงมีชื่อเสียในลี่เฉิงไม่น้อย

ส่วนหูเสี่ยวเหลียนเป็นคนเด็ดเดี่ยวจริง ๆ ในเมื่อตัดสินใจทะเลาะด้วยแล้วก็ไม่ตั้งใจจะมีชีวิตที่ดีในอนาคตสักนิด

จากนั้นก็กลับบ้านเซี่ยงอิง เก็บข้าวของพาลูกออกจากบ้านทันที

ก่อนจากยังโดนแม่สามีโวยวายลั่น พูดจาเหยียดหยามใส่

เอาแต่ชี้หน้าลูกสะใภ้

ฝ่ายครอบครัวหูอวี้หงทราบข่าวก็มาด่าทอหูเสี่ยวเหลียน

ทุกคนรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผู้หญิงคนนี้ ถึงกับบอกด้วยซ้ำว่าอยากให้คนอื่นตกต่ำไปพร้อม ๆ กับตัวเอง

หูเสี่ยวเหลียนเกือบหัวเราะลั่น

เจอคนมาตั้งมาก แต่ไม่ยักรู้เลยว่าจะมีคนหน้าด้านขนาดนี้อยู่ด้วย

หูเสี่ยวเหลียนไม่ได้ก้าวร้าวใส่แม่สามีมากไป เพราะเป็นผู้อาวุโส ถ้าลงไม้ลงมือขึ้นมาจะโดนคนอื่นว่าเอาได้

แต่กับครอบครัวฝั่งแม่ของหูอวี้หงที่มาหาถึงบ้าน หูเสี่ยวเหลียนไม่เกรงใจแล้วใช้ไม้ไล่ฟาดอย่างเดียว

แค่นี้ไม่พอ เธอยังด่าไปอีกชุดด้วย

“ก็เพราะครอบครัวแบบพวกแกนี่แหละที่ยกลูกสาวให้มาเป็นเมียน้อยชาวบ้าน แล้วยังมีหน้ามาด่าฉันอีกหรือ?”

“ไม่อยากได้หนังหน้าเหี่ยว ๆ อีกแล้วสินะ? หรือไม่กลัวชาวบ้านเขานินทาเวลาออกจากบ้านแล้ว?”

“ถ้าฉันเป็นพวกแกนะ คงเอาหินมาทุบตัวเองตายไปแล้ว ยังมีหน้าถ่อมาให้ฉันขยะแขยงอีก”

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันก็ไม่ถือว่าครอบครัวแกเป็นญาติหรอก จะเอาไม้ฟาดให้หมดทุกตัวเลย!”

เพราะเมียน้อยและครอบครัวเมียน้อยไม่ถือว่าเป็นญาติกันแล้ว หูเสี่ยวเหลียนจึงบอกเช่นนั้น

คนรอบข้างที่เข้าใจหัวเราะลั่น

แม่หูอยากจะพูดอย่างอื่น แต่พูดไม่ออกสักคำ

มีแต่เพื่อนบ้านที่รู้จักกันทั้งนั้น ถ้าบอกว่าเราไม่รู้ เซี่ยงอิงคงได้โดนชาวบ้านตบปากแน่!

ในที่สุดหูเสี่ยวเหลียนก็ได้ระบายความคับข้องทั้งหมดออกมาเสียที

แต่ก็ไม่ได้ใช้ไม้ไล่ฟาดแม่หู แค่หยิบมาไล่เฉย ๆ

หลังจากนั้นก็จากไปพร้อมกับลูกสาว แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปที่ไหน

ครอบครัวฝั่งแม่ของเธอก็ออกตามหาเหมือนกัน

ด้วยความสงสัยว่าหล่อนได้ไปหาต้วนหงหย่วนหรือเปล่า

พอวางสายได้ก็โทรไปหาผู้ช่วยต้วนทันที

อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า หูเสี่ยวเหลียนไม่เคยมาหาเลย

คงอยากรักษาหน้าสินะ

ไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่ม แต่ว่าผู้หญิงที่มีลูกสองคนหางานยากอยู่นะ

ลูกเล็กแบบนี้ใครที่ไหนจะรับ?

แม้เงินพันหยวนจะไม่ได้มาก แต่ก็พอให้ใช้กินได้ในช่วงนั้น ๆ แถมเธอคิดว่าหูเสี่ยวเหลียนไม่ใช่คนไร้ความสำคัญเสียทีเดียว

การที่ออกมาจากบ้าน ไม่กลับไปหาครอบครัวแสดงว่ามีแผนอยู่แล้ว

บางทีเพราะประโยคที่ซูเสี่ยวเถียนกล่าวทิ้งท้ายไว้อาจเข้าหูเจ้าตัวก็ได้

คิดละทิ้งอดีตและเริ่มต้นชีวิตใหม่

เด็กสาวจึงพักเรื่องนี้ไว้ก่อน

ถ้าฝ่ายนั้นไปไม่รอด อาจจะมาขอความช่วยเหลือเองนั่นแหละ