บทที่ 1183 โชคดี

บทที่ 1183 โชคดี

ฉืออี้หย่วนขมวดคิ้ว ก่อนเหลือบมองอีกฝ่าย

เคยเจอกันหรือ?

“ผมไม่รู้จักคุณ”

สีหน้าฮวางเหวินรุ่ยบิดเบี้ยวทันที

ฉืออี้หย่วนรู้หรือเปล่าว่าพ่อเธอมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอนาคตของเขา

ซูหม่านซิ่วเห็นการเคลื่อนไหว สุดท้ายก็ทนไม่ได้

เธอเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม แล้วเอ่ยทักทายหลานชาย

ฮวางเหวินรุ่ยรู้จักซูหม่านซิ่ว

แล้วก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับอีกฝ่ายมานิดหน่อยด้วย

ผู้หญิงคนนี้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของลี่เฉิง

ว่ากันว่าเฉินจื่ออันให้ความเคารพและรักภรรยาเป็นอย่างมาก

เมื่อก่อนใคร ๆ ก็อยากให้ลูกสาวตัวเองมาที่แทนตำแหน่งนี้ แต่ก็ล้มเหลว

ไม่ว่าจะถูกเสนอตัวไปมากแค่ไหน ฝ่ายชายก็ปฏิเสธหมดทุกคน และไม่ให้โอกาสสักนิด

หลังจากนั้นพวกเขาก็ล้มเลิกความคิดไปโดยสิ้นเชิง

“สวัสดีค่ะคุณนายเฉิน”

“ลูกสาวผู้อำนวยการฮวางนี่เอง ไม่ได้เจอแม่เธอมาสักพักเลย ฉันฝากสวัสดีท่านหน่อยนะจ๊ะ”

ซูหม่านซิ่วยิ้มใจดี

“ได้เลยค่ะคุณนาย”

ฮวางเหวินรุ่ยรู้ดีว่าจะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจไม่ได้ เลยระวังการพูดจาเป็นอย่างยิ่งเพราะอาจนำหายนะมาสู่พ่อได้

“เสี่ยวหย่วน เดี๋ยวฉันพาไปรู้จักคนอื่น ๆ นะ อย่าเสียเวลาอยู่ที่นี่เลย!”

ฮวางเหวินรุ่ยหน้าแดงก่ำ

พูดจาแบบนี้หมายความว่ายังไง?

ฉืออี้หย่วนเสียเวลาเพราะคุยกับเรา?

เอ๊ะ! ไม่สิ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเสียหน่อย ประเด็นคือคุณนายรู้จักฉืออี้หย่วนได้ยังไง?

เธอไม่มีลูกสาวนี่ ไม่น่าสนใจและอยากได้เขาเป็นเขยหรือเปล่า?

“ครับ”

ฉืออี้หย่วนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

เขาไม่ได้ใช้คำเรียกใด ๆ ตอบกลับไปเพื่อไม่ให้เกิดเป็นข่าว คนอื่น ๆ จะตำหนิเอาได้

ฮวางเหวินรุ่ยขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขณะเฝ้ามองคนทั้งสองจากไป

ฉืออี้หย่วนทำตัวหยาบคายขนาดนี้ได้ยังไง?

อย่างน้อยก็พูดอะไรสักหน่อยก่อนจะไปไม่ได้หรือ?

“เสี่ยวหย่วนรำคาญหรือเปล่า? อยากออกไปก่อนไหม?”

หลังจากพ้นสายตาผู้อื่น ซูหม่านซิ่วยกยิ้มถามทันที

ชายหนุ่มมองซูเสี่ยวเถียนจากที่ไกล ๆ “ผมรอเสี่ยวเถียนดีกว่าครับ รอเธอให้เสร็จงานก่อนเพราะมีเรื่องอยากคุยด้วยครับ”

เราห่างกันมาหลายเดือนแล้ว แม้จะโทรหากันสองครั้ง เขียนจดหมายถึงกัน แต่ยังไม่สามารถบรรเทาความคิดถึงไว้ได้เลย

“เสี่ยวหย่วน หลานคิดยังไงกับเสี่ยวเถียนหรือ?” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งผู้เป็นอาก็เอ่ยถาม

ถึงทุกคนจะคิดว่ามันเป็นความรักเชิงชู้สาว แต่ถ้าเราเข้าใจผิดกันไปเองล่ะ?

เพราะเด็กมันก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกให้รู้ด้วย

“ผมชอบเสี่ยวเถียนครับ หวังว่าหลังจากนี้จะได้เจอเธอทุกวันเลย”

ซูหม่านซิ่วพึงพอใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น

“ถ้างั้นก็รีบจัดการเรื่องนี้เถอะ จะดีมากถ้าหมั้นหมายกันก่อนนะ”

ฉืออี้หย่วนตกใจมาก เขายังไม่ได้สารภาพรักเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องคิดยังไง นี่คุณอาคิดถึงขั้นขอหมั้นแล้วหรือ?

พอเห็นความลังเล ฝ่ายอาพลันขมวดคิ้ว

หรือไม่ใช่อย่างที่คิดนะ? ไม่น่าใช่หรือเปล่า!

“ทำไมหรือ หรือไม่อยากหมั้น?”

ฉืออี้หย่วนมองเด็กสาว “ผมยังไม่รู้ความรู้สึกของน้องเลยครับ ผมชอบเธอ แต่ถ้าพูดเรื่องความสัมพันธ์แล้วผมอยากให้เราสองคนเต็มใจด้วยกันทั้งคู่ครับ”

เหตุผลนี้เองหรือ ซูหม่านซิ่วหัวเราะ

สงสัยเธอจะกระตือรือร้นไปหน่อย

“หาโอกาสบอกด้วยนะ ควรจัดการให้เร็วที่สุด ไม่งั้นผู้หญิงพวกนั้นไม่ยอมแพ้แน่ ๆ”

ว่าจบก็เหลือบมองพวกฮวางเหวินรุ่ย

มันไม่ใช่แค่ลูกสาวตระกูลฮวางที่ชอบฉืออี้หย่วนเท่านั้น อย่างน้อยก็มีอีกห้าหกคนด้วยซ้ำ

บางคนชอบที่ตัวเขา บางคนชอบที่ความสามารถ

แต่ไม่ว่าอย่างไรคนพวกนั้นมีเจตนาแน่นอน

“เข้าใจแล้วครับคุณอา” ฉืออี้หย่วนมีความสุขมาก

เขาคิดมาตลอดเลยว่าคนบ้านซูจะคัดค้าน แต่ไม่นึกเลยว่าคุณอาจะให้การสนับสนุนเราสองคนแบบนี้

งานเลี้ยงดำเนินเป็นระยะเวลาสองชั่วโมงก่อนเลิกรา

ชายหนุ่มเดินไปหาซูเสี่ยวเถียนด้วยความรวดเร็ว

“พี่อี้หย่วน!”

“เหนื่อยไหม? ให้พี่พากลับไปส่งที่ห้องหรือเปล่า?”

“ไม่เหนื่อยค่ะ พวกเรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า!” ซูเสี่ยวเถียนเองก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน

ฉืออี้หย่วนรู้สึกปวดใจนัก

เดินทางมาตั้งไกล ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงอีก สาวน้อยคงหมดแรงข้าวต้มแน่ ๆ

แต่เพราะมีเรื่องอยากคุย ถึงจะเสียใจต่อเธอแต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพูดให้ชัดเจนเพื่อให้เธอได้ไปพักผ่อนไว ๆ

เราสองคนไม่ได้ไปที่อื่น แค่ทรุดตัวลงนั่งคุยที่โซฟาหน้าล็อบบี้เท่านั้น

“เสี่ยวเถียน ไหน ๆ ก็เรียบจบแล้ว เธอคิดยังไงกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา?” เขาเอ่ยถามอย่างลังเล

ซูเสี่ยวเถียนไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

เธอมองด้วยสายตาว่างเปล่า

“เสี่ยวเถียน เธอมองว่าพี่พอจะเป็นแฟนเธอได้ไหม?” ฉืออี้หย่วนประหม่าจนเหงื่อออกมือ

ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะขี้อายแบบนี้มาก่อน จนแทบพูดไม่รู้เรื่อง

ซูเสี่ยวเถียนตกใจมาก

“พี่อี้หย่วน พี่หมายถึง…”

จู่ ๆ ก็ได้ยินคำสารภาพ จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง

ก่อนหน้านี้ยังนึกห่วงอยู่ว่าเขาจะชอบคนอื่นอยู่หรือเปล่า แต่หลังจากนั้นก็โดนสารภาพรักใส่

“เธอไม่เต็มใจใช่ไหม?” เขาเริ่มกังวลที่น้องหยุดพูดกลางคัน

“หนูเต็มใจค่ะ แต่พี่อี้หย่วนมีแต่คนชอบเยอะไปหมด แล้วทำไมถึง…”

แค่ประโยคเดียวทำหัวใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ฉืออี้หย่วนคว้ามือเธอมาจับ “พี่ชอบแค่เธอเท่านั้น มีคนชอบเยอะแล้วยังไงเล่า? พวกหล่อนไม่ใช่เธอเสียหน่อย!”

ซูเสี่ยวเถียนหน้าแดง จนรู้สึกราวกับว่ามันจะไหม้

“พี่อี้หย่วนชอบหนูจริง ๆ หรือคะ?”

“ชอบสิ พี่ชอบเธอมาตั้งแต่เด็กเลย พี่รอเธอโตในที่สุดก็ถึงวันนั้นแล้ว!”

ฉืออี้หย่วนไม่ได้ต่อด้วยประโยคที่ว่า ‘แล้วก็โชคดีที่เธอไม่มีคนในใจเหมือนกัน’

ระหว่างที่อยู่เยอรมนีเขาคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงหากน้องมีคนรักก่อนแล้ว

เพื่อกลับไปหาและคอยปกป้องโดยไว จึงตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้กลับบ้านได้เร็วที่สุด