ตอนที่ 2725 : ทักษะการแสดงระดับ ดารานา!
“ตงเอ๋อ อย่าได้เสียมารยาท!” หลังองค์ชาย 4 แห่งประเทศเถิงหลงมองสบตาต้วนหลิงเทียนพักหนึ่ง มันก็หันไปกกล่าวกับโจวชู่ตงด้วยน้าเสียงห้ามปราม “คุณชาย อาคันตุกะมาเยือนถึงเรือนเช่นนี้ ท่านคิดจะให้พวกเรายืนสนทนากันจริงหรือ?” หลังหันไปกล่าวปรามโจวชู่ตงแล้ว หลงเซี่ยงอวิ๋น ก็หันมามองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนทันที ไม่รอให้โจวชู่ตงได้แผลงฤทธิ์โอดครวญอะไร “อาคันตุกะ?”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มบางๆ กล่าวออกอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “หากองค์ชาย 4 มาในฐานะอาคันตุกะข้าไหนเลยจะไม่ต้อนรับ…แต่ข้าเกรงว่าองค์ชาย 4 มาครานี้ คงไม่ได้คิดมาเป็นอาคันตุกะหรอกมั้ง?” กล่าวถึงท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองจ้องโจวชู่ตงที่มีทีท่ากระฟัดกระเฟียดข้างๆ ทาให้สีหน้าหลงเซี่ยงอวิ๋นเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด “เรียนองค์ชาย 4 ข้าน้อยลองตรวจสอบมันดูแล้ว…กลิ่นอายเลือดเนื้อของมันบอกให้รู้ ว่าอายุของมันยังมิถึง 100 ปีขอรับ!” แทบจะพร้อมกันกับที่เสียงต้วนหลิงเทียนดังจบคา ในหูขององค์ชาย 4 หลงเซี่ยงอวิ๋นก็มีเสียงชราหนึ่งกล่าวรายงานผ่านพลังมาพอดิบพอดี แจ้งว่าต้วนหลิงเทียนเบื้องหน้าอายุไม่ถึงร้อยปี!
พอได้ยินว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าอายุไม่ถึงร้อยปี ลูกตาของหลงเซี่ยงอวิ๋นก็หดเล็กลงอย่างยากจะมองเห็น เปี่ยวเม่ยของมัน เป็นจินเซียนตะวันเขียว (เปี่ยวเม่ย = ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นน้องสาว ฝั่งแม่) ทว่าชายหนุ่มเบื้องหน้า อาศัยการลงมือส่งๆด้วยมือเปล่าไร้ศาสตราอมตะ ไม่เพียงแต่จะรับแส้ของเปี่ยวเม่ยมันได้อย่างไร้เรื่องราว ยังซัดแส้แฝงพลังร้ายกาจย้อนกลับมาจนทาร้ายเปี่ยวเม่ยมันบาดเจ็บภายใน! เรื่องนี้มากพอจะบอกให้รู้ชัด… ว่าชายหนุ่มเบื้องหน้า อย่างต่าๆก็ต้องเป็นจินเซียนตะวันคราม หรืออาจจะบรรลุถึงจินเซียนตะวันม่วง!
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังหวังให้อีกฝ่ายเป็นจินเซียนตะวันม่วงมากกว่า! เพราะยิ่งระดับพลังฝึกปรือต่า แต่ทว่ากลับลงมือได้รุนแรงถึงขนาดนั้น นั่นหมายความว่าวรยุทธ์อมตะ ทั้งเวทย์พลังที่ฝึกปรือ รวมถึงเคล็ดวิชาบ่มเพาะก็ยิ่งมีระดับสูง สุดที่คนทั่วไปจะร่าเรียนฝึกฝนได้! และทั้งหมดทั้งมวลบ่งชี้ให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีความเป็นมาไม่ธรรมดามากขึ้นเท่านั้น!! “แล้วด่านพลังบ่มเพาะของมันล่ะ?” หลงเซี่ยงอวิ๋นส่งเสียงถามผ่านพลัง “ข้ามิอาจหยั่งถึงพลังฝึกปรือของมันได้…ดูเหมือนมันจักมีทักษะบางประการที่สามารถปกปิดด่านพลังงฝึกปรือได้ขอรับ”
ชายชรายังคงส่งเสียงผ่านพลังกล่าวตอบ และทันทีที่ถ้อยคาผ่านพลังนี้ดังขึ้นในหูหลงเซี่ยงอวิ๋น มันก็ยิ่งรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้ายิ่งมายิ่งไม่ธรรมดาเสียแล้ว! “ตงเอ๋อ มาขอขมาคุณชายท่านนี้เสีย!” มันที่มองสบตตาต้วนหลิงเทียนอยู่อีกสักพัก แต่พบว่าต้วนหลิงเทียนยังคงยกจอกชาขึ้นมาจิบ โดยที่แววตาสงบไร้เรื่องราว ท่วงท่าสภาวะให้ความรู้สึกเสมือนลมคล้อยเมฆเคลื่อน ไม่ได้รู้สึกกดดันกังวลอะไรแม้แต่น้อย มันจึงหันไปมองกล่าวกับโจวชู่ตงด้านข้างเสียงดุทันที และในขณะที่โจวชู่ตงหน้าเปลี่ยนสี คิดโวยวายอาละวาดเพราะถูกถังเกอดุนั้น (ถังเกอ = ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นพี่ชาย ฝั่งพ่อ)
“ตงเอ๋อ ก่อนที่ถังเกอจะสืบเสาะหาพื้นเพความเป็นมาของมันพบ คงต้องรบกวนให้เจ้าทนรับความไม่เป็นธรรมไปก่อน ตอนนี้เจ้าช่วยให้ความร่วมมือกับถังเกอก่อนเถอะ…หากถังเกอยืนยันได้ว่ามันไม่ได้มีความเป็นมายิ่งใหญ่อันใด ถังเกอจะช่วยเจ้าล้างแค้นมันให้สาสมใจเลยทีเดียว!” เสียงผ่านพลังของหลงเซี่ยงอวิ๋นมาถึงหูของโจวชู่ตงได้ทันเวลาก่อนที่จะนางวีนแตกพอดิบพอดี ได้ยินคาของถังเกอ โจวชู่ตงก็รับทราบได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตั้งใจจะให้นางขอโทษจริงๆ เพียงแค่ให้ทาไปพอเป็นพิธีเท่านั้น ทั้งหมดเพื่อให้ถังเกอมีเวลาสืบค้นความเป็นมาของอีกฝ่ายให้แน่ชัดเสียก่อน เช่นนั้นนางจึงไม่คิดฮึดฮัดอะไรอีก หันไปกล่าวคาขอขมากับต้วนหลิงเทียน
แต่โดยดี “คุณชายท่านนี้ วันก่อนเป็นข้าผิดเอง ต้องขอโทษท่านด้วย..” “องค์ชาย 4 เชิญนั่งลงก่อน” ดังคากล่าว ‘ไม่อาจตบหน้าคนยิ้ม’ ในเมื่อองค์ชาย 4 ของประเทศเถิงหลงมาแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เลิกตั้งแง่อีกฝ่าย ผายมือเชื้อเชิญให้มันนั่งลงทันที หลงเซี่ยงอวิ๋นยิ้มบางๆ ค่อยนั่งลงอย่างสง่า อย่างไรก็ตามทันทีที่หลงเซี่ยงอวิ๋นนั่งลง มือข้างหนึ่งของมันที่ยกขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมาในฉับพลัน จากนั้นต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนหนึ่งแล่นตรงมาถึงมือเขาที่วางบนโต๊ะ! ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดแคบลงเล็กน้อย
แม้อีกฝ่ายจะลงมือโดยไร้เจตนาคุกคามอะไร แต่เขาก็รู้ได้ชัดว่าเป็นอีกฝ่ายกาลังคิดทดสอบเขา! และคลื่นพลังที่หลงเซี่ยงอวิ๋นส่งผ่านโต๊ะมาถึงมือเขานั้น ก็มีพลังอานุภาพของขอบเขตต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลือง! แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนยังบอกได้ทันที เป็นอีกฝ่ายเพียงลงมือส่งๆไม่ได้จริงจังอะไร คลื่นพลังเพียงเท่านี้ยังห่างไกลจากพลังที่แท้จริงของมัน! ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มบางๆ ลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยเปล่งพลังผ่านโต๊ะสลายคลื่นพลังแฝงเร้นของหลงเซี่ยงอวิ๋นจนราบคาบ ยังผลให้มีคลื่นพลังขุมหนึ่งรุกคืบไปกระแทกฝ่ามือของอีกฝ่ายจนสะท้านไปเบาๆ ‘ต้าหลัวจินเซียน!!’
สิ่งนี้ทาให้ลูกตาของหลงเซี่ยงอวิ๋นหดหยีลงอย่างแรง และเมื่อเห็นทีท่าสบายๆไร้เรื่องราวของต้วนหลิงเทียน หลงเซี่ยงอวิ๋นก็เลิกแผ่พุ่งคลื่นพลังทันใด ไม่คิดลงมือทดสอบสืบต่อ เมื่อสัมผัสได้ถึงการถอนรั้งพลังของหลงเซี่ยงอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็ถอนรั้งพลังคืนกลับเช่นกัน “ไม่ทราบว่าน้องชายท่านนี้มีนามว่าอะไร?” หลังถอนรั้งพลังคืนกลับแล้ว หลงเซี่ยงอวิ๋นก็ยิ้มถามต้วนหลิงเทียนด้วยน้าเสียงสนิทสนม ทาราวกับได้พบพานสหายที่จากลากันไปนานปี… ได้ยินคาเรียกหาที่เปลี่ยนไปจากคุณชายเป็นน้องชายอย่างตี้ซี้ ไม่ว่าจะเป็นชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลังหลงเซี่ย
งอวิ๋น หรือผู้ดูแลโรงเตี๊ยมหลิวเหนียน แม้กระทั่งสาวใช้อย่างเฉิงเอ้อก็ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด! ต้องทราบด้วยว่านี่คือองค์ชาย 4 แห่งประเทศเถิงหลงของพวกมัน! ทว่าตอนนี้กลับเรียกหาบุรุษแปลกหน้าที่พึ่งพบพานกันครั้งแรกอย่างสนิทสนมว่า น้องชาย! “เจ้านี่…ด่านพลังฝึกปรือของมัน อย่างน้อยๆก็ต้องบรรลุถึงต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลือง!” หลงเซี่ยงอวิ๋นลอบส่งงเสียงผ่านพลังแจ้งเรื่องราวให้ชายชรากับโจวชู่ตงรับทราบ และได้ยินเสียงผ่านพลังดังกล่าว โจวชู่ตงเพียงประหลาดใจ ทว่าด้านชายชรานั้น…สองตาของมันหดแคบลงแทบ
ปิดในพริบตา มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตายังยากจะปกปิดความแตกตื่นทั้งประหลาดใจได้ไหว! นั่นเพราะมันทราบแล้ว ว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้ายังมีอายุไม่ถึงร้อยปีที!! ต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลืองอายุไม่ถึงร้อย? ให้มองไปทั่วประเทศเถิงหลงในตอนนี้ เกรงว่าหามีแม้แต่คนเดียวไม่! กระทั่งให้มองไปทั่วประเทศอมตะระดับสูงอื่นๆ รอบแดนร้าง ต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลืองที่อายุไม่ถึงร้อย น่ากลัวว่าต้องเป็นตัวตนที่พบพานได้ยากเย็นยิ่งกว่าเขามังกรขนหงส์!
ทว่าตอนนี้ต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลืองอายุไม่ถึงร้อย กาลังนั่งละเลียดชาอย่างสบายอารมณ์ตรงหน้ามัน! “ตงเอ๋อ…มันอายุไม่ถึงร้อยปี” ขณะเดียวกัน โจวชู่ตงก็ได้ยินเสียงผ่านพลังของถังเกอนางอีกครั้ง และพอได้ยินประโยคดังกล่าว คราวนี้โจวชู่ตงซึ่งแต่เดิมที่ประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนเป็นต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลือง ก็หน้าเปลี่ยนสีไปในฉับพลัน ลูกตายังฉายชัดถึงความอึ้งทึ่ง และไม่อยากจะเชื่อ ชายหนุ่มในชุดสีม่วงที่นางบังเอิญพบเจอริมถนน และต้องตาพึงใจในความหล่อเหลารวมถึงลักษณะองอาจ
จนอยากได้อีกฝ่ายมาเป็นนายบาเรอ…กลับกลายเป็นต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลือที่อายุไม่ถึงร้อย!? ต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลืองนั้น ในประเทศอมตะเถิงหลงมีเกลื่อนกลาดปานสุนัข ทว่าต้าหลัวจินเซียนขั้นเหลืองที่อายุอานามไม่ถึงร้อยปีเช่นนี้ ให้ขุดดินลึกกสามฉื่อทั่วประเทศอมตะเถิงหลงก็คงไม่เจอ! “ข้าไม่ค่อยคุ้นชินกับการบอกชื่อให้คนที่ข้าไม่สนิทและไม่รู้จักแม้แต่ชื่อน่ะ…” เผชิญหน้ากับคาถามของหลงเซี่ยงอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนที่ยกชาขึ้นมาจิบอีกอึกหนึ่ง ก็ค่อยๆวางถ้วยชาลงช้าๆ เอ่ยคาออกเสียงเบา
หากเป็นก่อนหน้านี้ ลองต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาแบบนี้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นชายชราเบื้องหลังหลงเซี่ยงอวิ๋นหรือโจวชู่ตง คงคิดว่าอีกฝ่ายนั้นช่างรนหาที่ตายแท้ๆเป็นแน่… ทว่าตอนนี้พวกมันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย กลับกันยังคิดว่าเป็นแบบนี้ก็สมควรแล้ว “เช่นนั้นรอให้พวกเราสนิทสนมกันมากกว่านี้แล้วข้าค่อยถามชื่อน้องชายอีกทีดีหรือไม่?” แม้ลึกลงไปในแววตาของหลงเซี่ยงอวิ๋นจะฉายแววไม่พอใจ หากแต่ใบหน้ายังไม่เผยอาการใด เพียงกล่าวคาด้วยรอยยิ้ม ในเมื่อต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะเอ่ยนามออกมาให้รับทราบ หลงเซี่ยงอวิ๋นจึงไม่อาจจาบจ้วงถามเรื่องพื้นเพความ
เป็นมาอีกฝ่ายสุ่มสี่สุ่มห้า เพียงหาหัวข้อทั่วไปมาสนทนากับต้วนหลิงเทียนแทน สุดท้ายจึงได้ทราบว่าต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อพึ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวงของประเทศอมตะเถิงหลงแห่งนี้ “น้องชาย ข้าได้ยินจากเปี่ยวเม่ยมาว่าข้างกายเจ้ายังมีสตรีอีกคน…นางเป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้าหรือ?” หลังสนทนากันไปเรื่อยเปื่อยสักพัก ยิ่งมาน้าเสียงที่หลงเซี่ยงอวิ๋นใช้กล่าวกับต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งคล้ายพี่น้องที่สนิทสนมกลมเกลียวกันมานาน “นางไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของข้าหรอก แต่เป็นศิษย์น้องหญิงของข้าน่ะ” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ พลางกล่าวออกด้วยสีหน้าท่าทางคล้ายปวดหัวไม่รู้จะทาอย่างไรดี “บอกตรงๆเลย
ครั้งนี้ที่ข้ามาเมืองหลวงของประเทศเถิงหลง มันไม่ใช่ความต้องการของข้าแม้แต่น้อย…แต่เป็นศิษย์น้องหญิงของข้าที่อยากออกมาเที่ยวเล่นคนเดียว…นางยังใจกล้าถึงขั้นออกอุบายหลอกล่อ จนพาข้าหลบหนีสายตาผู้อาวุโสลาดตระเวนของนิกายรวมถึงผู้อาวุโสที่อาจารย์ส่งมาดูแลนางมาถึงที่นี่ได้…” “บอกตามตรง ที่จริงข้าเองก็ไม่อยากถ่อมาถึงที่นี่นักหรอก…แต่ใครใช้ให้พลังฝีมือนางร้ายกาจกว่าข้าเล่า…ข้าอยู่ของข้าดีๆ ไม่ทันรู้ตัวก็ถูกนางพามาถึงแดนร้างแล้ว” กล่าวถึงท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนก็ชักสีหน้าอับจนหนทาง ได้ยินคากล่าวของต้วนหลิงเทียน สองตาหลงเซี่ยงอวิ๋นเรืองสว่างขึ้นเล็กน้อย เพราะฟังจากคาพูดของต้วนหลิง
เทียนแล้ว มันก็ตระหนักได้ว่านิกายของต้วนหลิงเทียนอาจไม่ได้อยู่ในแดนร้าง สถานที่ๆไม่ใช่แดนร้างหากแต่มีขุมพลังเหนือนิกายในแดนร้างนั้นแน่นอนว่ายังมีอยู่ ที่สาคัญขุมพลังในสถานที่เช่นนั้นก็ร้ายกาจไม่น้อย ถึงขั้นอาจจะเหนือกว่า 3 นิกายอมตะของแดนร้างเสียอีก และทรัพยากรกับสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะ รวมถึงมรดกตกทอด ก็อาจยอดเยี่ยมสุดที่พวกมันจะคาดคิด! “น้องชาย นางเป็นศิษย์น้องของเจ้า…เพราะนางกราบอาจารย์หลังเจ้าหรือ?” หลงเซี่ยงอวิ๋นกล่าวถามด้วยความสงสัย “ไม่เชิง”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “เหตุผลที่นางเป็นศิษย์น้องข้า ไม่เพียงแต่จะเป็นเพราะนางกราบอาจารย์หลังข้า แต่อายุของนางก็ยังอ่อนกว่าข้ามากอีกด้วย…ทว่าด้วยพรสวรรค์ของนาง อาจารย์ข้าถึงขั้นประกาศรับนางเป็นศิษย์ปิดสานัก และทุ่มทรัพยากรให้นางมากกว่าใคร…” กล่าวถึงท้ายประโยค แววตาของต้วนหลิงเทียนก็ฉายถึงความอิจฉาให้เห็นวาบหนึ่ง แววตาอิจฉานี้ ยังคล้ายถูกต้วนหลิงเทียนพยายามเก็บงาไว้ไม่อยากให้ใครเห็น อย่างไรก็ตาม ถึงแววตาอิจฉาที่ว่าจะปรากกฏขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตาดุจละอองไฟวาบดับ แต่หลงเซี่ยงอวิ๋นก็ยังสังเกตเห็นได้ทัน!
“ศิษย์น้องหญิงของน้องชาย…ยังมีพรสวรรค์มากกว่าน้องชายอีกหรือ?” ถึงแม้ผิวเผินหลงเซี่ยงอวิ๋นยังคงรักษาอาการสงบไม่เผยความแตกตื่นอะไรออกมาให้เห็น แต่ลึกลงไปภายในใจบัดนี้เสมือนมีมรสุมโหมกระหน่า! เท่าที่มันทราบ… สตรีชุดขาวที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า พลังฝีมือร้ายกาจถึงขั้นเข่นฆ่าอาวุโสผู้ดูแลของโจวชู่ตงได้อย่างง่ายดายในชั่วพริบตา ยังเป็นการลงมือส่งๆโดยใช้มือเปล่าด้วยซ้า! และต้องทราบด้วยว่าอาวุโสผู้ดูแลสกุลโจวคนนั้น พลังฝึกปรือได้บรรลุถึงต้าหลัวจินเซียนขั้นปฐพีแล้ว!!
มันลองถามชายชรามือดีที่คอยยติดตามคุ้มกันมันก็ได้รับคาตอบว่า อย่างน้อยๆพลังฝีมือของสตรีชุดขาวก็ต้องบรรลุถึงต้าหลัวจินเซียนขั้นสุดยอด!! จริงอยู่ที่หากภูมิหลังความเป็นมาของทั้งคู่สูงส่งจริงๆ จนทาให้มีวรยุทธ์อมตะและเวทย์พลังระดับสูงๆ นางก็อาจเป็นแค่ต้าหลัวจินเซียนขั้นกลางๆได้… “ใช่น่ะสิ ไม่งั้นอาจารย์ของข้าจะรับนางเป็นศิษย์ปิดสานักแล้วเอ็นดูนางขนาดนี้หรือ…” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ตอนนี้มองไปสีหน้าท่าทางของต้วนหลิงเทียน ไม่คล้ายกล่าวคาเท็จแม้แต่น้อย อารมณ์ความรู้สึกอิจฉาไม่พอใจที่ส่งมายังชัดเจนไม่แปลกปลอม
หากไปอยู่ในโลกเมื่อชีวิตที่แล้ว การเสแสร้งแสดงระดับนี้ ให้กล่าวว่าดารานามาเองยังไม่เกินเลย ขณะเดียวกันทางด้านของผู้ดูแลโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จา ตอนนี้ในใจก็เสมือนมีเมฆคุ้มฝนคลั่งเช่นกัน! เพราะถึงแม้มันจะไม่รู้ว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนบรรลุขีดขั้นอันใด… ทว่าเรื่องที่อายุของต้วนหลิงเทียนไม่ถึร้อยปีนั้น มันก็พึ่งตรวจพบได้เมื่อครู่! ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเอ่ยออกมาว่า สตรีชุดขาวที่อยยู่ข้างกายหรือก็คือศิษย์น้องหญิงนั้น ยังอ่อนวัยกว่า…
และเท่าที่มันทราบ… สตรีในชุดขาวที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า อาศัยแค่พลิกฝ่ามือก็เข่นฆ่าอาวุโสสกุลโจวตัวตนขอบเขตต้าหลัวจินเซียนขั้นปฐพีได้อย่างง่ายดาย!!