เล่ม 1 ตอนที่ 396-1 ยิ่นอ๋องรู้ความจริง

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

ตอนที่ 396-1 ยิ่นอ๋องรู้ความจริง

“ไม่ดี!”

เฉียวเวยปฏิเสธทันควัน

ยิ่นอ๋องสูดหายใจลึกหลายหน ก่อนจะถลึงตาจ้องเฉียวเวยอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าคิดดูอีกหนแล้วค่อยตอบข้า!”

เฉียวเวยคิดอย่างตั้งใจแล้วตอบซ้ำ “ไม่ดี”

ยิ่นอ๋องโกรธจนแทบจะหงายหลัง แม้จะโมโหอย่างยิ่ง แต่เหมือนเขาจะคุ้นชินกับนิสัยประหลาดของเฉียวเวยแล้ว หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น ต่อให้ในใจไม่พอใจก็คงไม่สะดวกใจจะปฏิเสธ นี่เป็นปกติของมนุษย์ เป็นสามัญสำนึก แต่สตรีนางนี้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่นางไม่เคยทำตัวอย่างที่สามัญสำนึกคนอื่นเขามีกันบ้างเลย “เฉียวซื่อ”

เฉียวเวยซ่อนชุดแต่งงานไว้ด้านหลัง แล้วเลิกคิ้วมองเขา “ไม่ต้องมาตะโกนโวยวายใส่ข้า เจ้าเรียกจนคอแตกก็ไม่มีประโยชน์ น้ำใจที่ติดค้างเจ้า หนหน้าข้าค่อยคืน! แต่ของสิ่งนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตคนในครอบครัวของข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่มีวันมอบให้เจ้า!”

“เจ้าก็พูดเองว่ามันเป็นเพียงชุดแต่งงานชุดหนึ่ง เหตุไฉนจะเกี่ยวข้องกับชีวิตคนในครอบครัวของเจ้าได้” พูดมาถึงตรงนี้ ยิ่นอ๋องก็เหมือนจะฉุกคิดถึงบางสิ่ง ดวงตาฉายแววอันตราย “เจ้ารู้ใช่หรือไม่ เจ้าคิดจะเอามันไปฟ้องข้ากับฝ่าบาทใช่หรือไม่”

เฉียวเวยเบิกตามองเขาอย่างแปลกใจ “ข้ารู้อะไร ข้ารู้หรือ เจ้าอย่ามาเสแสร้งหลอกกันที่นี่! สรุปก็คืออาภรณ์ชุดนี้ ข้าจะค้นแน่แล้ว! หลังจากค้นเสร็จ หากแน่ใจว่าไม่มีของที่ถูกขโมยมาจริง ข้าจะเย็บให้สวยคืนให้เจ้า!”

ยิ่นอ๋องจ้องมือของนางเขม็ง “เจ้ากล้าหรือ”

เฉียวเวยตอบด้วยการเริ่มฉีกชุดด้วยมือเปล่า!

ยิ่นอ๋องก้าวพรวดเข้ามาคว้ามือของเฉียวเวยไว้!

มือของเฉียวเวยจับไม่มั่น ชุดแต่งงานจึงหลุดจากมือ

ยิ่นอ๋องเงยหน้า สายตามองตามชุดแต่งงานที่ลอยขึ้นไปกลางอากาศ หลังจากนั้นเขาก็เคลื่อนกำลังภายในลงไปที่ฝ่าเท้า สะกิดเท้าหนึ่งหน ใช้วิชาตัวเบาเหินขึ้นไป

คิดจะแย่งชุดแต่งงานหรือ ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก!

เฉียวเวยแววตาเย็นเยียบ นางคว้าข้อเท้าของยิ่นอ๋องอย่างว่องไวแล้วออกแรงดึง ฉุดยิ่นอ๋องลงมาที่พื้นทั้งตัว!

ยิ่นอ๋องเกือบจะล้มลงไปบนกองมูลสุนัขกองหนึ่ง เขาพลิกมือกลับมาฟาดหนึ่งฝ่ามือบนพื้น อาศัยแรงตบดีดตัวขึ้นมาตั้งหลักมั่นคงได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อปีกลายสตรีนางนี้ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเองสักนิด แต่ไม่พบหน้ากันเพียงไม่กี่เดือนสั้นๆ นางก็ราวกับกินยาบำรุงขนานใหญ่ ก้าวหน้าพรวดพราดจนเขาเกือบจะรับมือไม่ไหวแล้ว!

ชุดแต่งงานลอยร่วงลงมาอย่างเชื่องช้า

เฉียวเวยทะยานร่างเข้าไปรับ

นางไม่มีวันยอมให้ยิ่นอ๋องสมหวัง ยิ่นอ๋องเองก็ไม่มีทางให้นางได้ดั่งใจ เขาเอื้อมแขนยาวๆ ของตนออกมาคว้าหัวไหล่ของนาง ฝ่ามือวาดลงไปตามท่อนแขนกลมกลึงจนไปถึงข้อมือขาวผ่องดุจมันแพะของนางแล้วยึดไว้แน่น

ร่างกายของเฉียวเวยพุ่งออกไปแล้ว แต่แล้วก็ถูกยิ่นอ๋องกระชากกลับมา

เฉียวเวยหันกลับไปถลึงตาใส่ยิ่นอ๋องอย่างเย็นชา

ยิ่นอ๋องแค่นเสียงหยันด้วยสีหน้าเฉยชา

เฉียวเวยเงื้อสันมือขึ้นฟันใส่เขาอย่างรุนแรง

ยิ่นอ๋องคิดไม่ถึงว่านางจะกล้าใช้กระบวนท่าสังหารกับตนเองจริงๆ ของที่หายไปนั่นคือสิ่งใดกันแน่ นางถึงได้กล้าแม้แต่จะเอาชีวิตคนผู้หนึ่ง!

“เจ้าบ้าไปแล้ว!”

ยิ่นอ๋องขวางกระบวนท่าสังหารของนางไว้แล้วตวาดเสียงกร้าว

“กล้าเอาของของข้าไป ข้าก็จะบ้าให้เจ้าดู!”

ตำราลับคือสิ่งที่จะช่วยชีวิตหมิงซิวได้ ผู้ใดไม่ยอมให้นางช่วยชีวิตหมิงซิว นางก็จะเอาชีวิตของคนผู้นั้น!

ยิ่นอ๋องต่อสู้กับเฉียวเวยอย่างดุเดือด ไม่ว่าผู้ใดก็เข้าใกล้ชุดแต่งงานไม่ได้ ชุดแต่งงานลอยละล่องเคว้งคว้างจนร่วงลงมาอยู่ในมือของฮองเฮาเยี่ยหลัว

ทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน “เอามาให้ข้า!”

ฮองเฮาเยี่ยหลัวนิ่งอึ้ง

เฉียวเวยฟาดฝ่ามือใส่ยิ่นอ๋องจะกระเด็นออกไปแล้วเอื้อมมือมาคว้าคอเสื้อของชุดแต่งงาน

ยิ่นอ๋องตามมาอย่างรวดเร็วจนคว้าแขนเสื้อของชุดแต่งงานเอาไว้ได้

ทั้งสองคนต่างไม่มีใครยอมใครทั้งสิ้น

ยิ่นอ๋องไม่อยากจะทำให้ชุดแต่งงานเสียหาย อีกทั้งยังมีเรื่องพะวงใจอยู่ แต่เฉียวเวยไม่เหมือนกัน นางไม่แม้แต่จะกะพริบตาก็ออกแรงกระชากชุดแต่งงานจนฉีกเป็นสองซีก

“เฉียวซื่อ!”

ยิ่นอ๋องโกรธจัด เขาเงื้อมือขึ้นตั้งใจจะใช้กระบวนท่าสังหารฟาดใส่เฉียวเวย ทว่าทันใดนั้นเองตำราบางๆ เล่มหนึ่งก็กระเด็นออกมาจากด้านในชุดแต่งงาน เขาตะลึงงันไปทันที

เฉียวเวยรับตำราไว้แล้วเปิดออกดู นางอ่านภาษาเยี่ยหลัวไม่ออก แต่ในดวงตาก็ฉายแววยินดี

หลังจากนั้นนางก็ชูตำราขึ้น แล้วหันไปจ้องยิ่นอ๋องเขม็ง “คราวนี้เจ้ายังมีอันใดจะพูดอีกหรือไม่”

ยิ่นอ๋องมองตำราเล่มนั้นอย่างนิ่งงัน สายลมพัดกระดาษในตำราเผยให้เห็นตัวอักษรแปลกตาแถวหนึ่ง เขาบื้อใบ้ไปเสียแล้ว

เฉียวเวยเห็นสีหน้าของเขาก็ทราบทันทีว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่าด้านในมีตำราเล่มนี้ซุกซ่อนอยู่ “ผู้ใดเป็นคนให้ชุดแต่งงานกับเจ้า”

สติของยิ่นอ๋องกลับมาเข้าร่าง เขากำหมัด อารมณ์เกรี้ยวกราดสงบลงกลายเป็นความสงบที่แฝงความเดียวดาย “ของข้าเอง”

เฉียวเวยไม่เชื่อคำนี้ของเขาสักนิดเดียว “เจ้าบุรุษตัวโตคนหนึ่ง เตรียมชุดแต่งงานของชาวบ้านไว้ทำอะไร ไม่ต้องมาใช้มุกว่าเจ้าจะเอาไปฝังแทนสหายนั่นเลย ยิ่นอ๋องเจ้าไม่ใช่คนยึดมั่นในรักหรือมิตรภาพอะไรอยู่แล้ว”

หากว่าใช่ ในอดีตเขาคงไม่แทงคุณหนูใหญ่เฉียวด้วยกระบี่

“ข้าบอกว่าของข้าก็คือของข้า” ยิ่นอ๋องกระซิบ

ท่าทางเหมือนวิญญาณหลุดลอยจากร่างอย่างนั้น เป็นของเจ้าสิถึงแปลก!

เฉียวเวยแอบประชดในใจเสร็จ ก็เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าไม่เดินทางถึงปรโลกไม่ยอมตัดใจสินะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่ขโมยตำราเล่มนี้คือผู้ใด เขาคือคนที่เคยประมือกับข้าที่ชนเผ่าลึกลับ แม้แต่ชนเผ่าลึกลับตัวเจ้ายังไม่เคยไป ยังจะหน้าด้านแอบอ้างเป็นอีกฝ่ายอีกหรือ”

แววตาของยิ่นอ๋องวูบไหว เขาอ้าปากเหมือนจะพูดบางสิ่ง แต่ตอนนั้นเองทหาราชองครักษ์ที่ถือหอกดาบกองหนึ่งก็ปรี่เข้ามา

ที่แท้ข่าวที่ยิ่นอ๋องอ้างว่าช่วยฝ่าบาทตามหาตำราลอยไปถึงพระกรรณของฮ่องเต้แล้ว ฮ่องเต้จำไม่ได้ว่าตนเองเคยสั่งโอรสองค์นี้ให้ทำสิ่งใด ในใจนึกประหลาดใจจึงส่งคนมาดู คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเห็นฉากที่ยิ่นอ๋องกับเฉียวเวยแย่งชิงชุดแต่งงานตัวหนึ่งกันอยู่