ตอนที่ 3,440 : จักรพรรดิสวรรค์แห่งหยวนสื่อเทียน
แต่ถึงจะรู้แล้วว่าไฉนชายหนุ่มชุดฟ้าถึงได้เขม่นเขา ต้วนหลิงเทียนก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจกับพลังฝีมือของมันอยู่บ้าง
เจ้านั่น มันเทียบเทียมกับจักรพรรดิอมตะสมญานามได้ตั้งแต่อายุ 800 ปีเศษ?
ก่อนหน้านี้อัจฉริยะที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา นอกจากเขากับคนรอบกายแล้ว ก็เห็นทีจะมีแต่ ฉือหย่าชี ศิษย์พี่หญิงใหญ่ในวังเทียนฉือเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายก็สามารถกลายเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามได้ตั้งแต่ตอนมีอายุได้พันเศษ
แน่นอนว่าหลังจากศิษย์พี่หญิงใหญ่อายุได้พันเศษแล้ว ความก้าวหน้าหลังจากนั้นก็รวดเร็วจนเหลือเชื่ออยู่บ้าง เพราะใช้เวลาไม่นานนัก พลังฝีมือของนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าจ้าววังเทียนฉือแล้ว
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่พูดไม่ได้ว่าความสำเร็จของศิษย์พี่หญิงใหญ่เขาตอนอายุไม่ถึงพัน ยังไม่อาจสู้ชายหนุ่มชุดฟ้านั่นได้!
“นายน้อย ถึงมันจะไม่เชื่อว่าท่านมีคุณสมบัติพอเป็นศิษย์ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ แต่มันก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร”
เมิ่งหลัวเอ่ยเสริมออกมาต่อว่า “ท่านอย่าได้ถือสาหาความมันเลย”
จะอย่างไรเมิ่งหลัวก็รู้จักกับประมุขนิกายกระบี่ลี้ลับดี หาเลือกได้เมิ่งหลัวก็ไม่อยากเห็นต้วนหลิงเทียนมีเรื่องมีราวกับชายหนุ่มชุดฟ้า เพียงเพราะอีกฝ่ายบังเกิดความอิจฉาไม่พอใจ
“อาวุโสเมิ่งหลัว ท่านอย่าได้ห่วงไป ข้าไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น”
ได้ยินเสียงผ่านพลังด้วยน้ำเสียงกังวลของเมิ่งหลัว ต้วนหลิงเทียนก็รีบตอบกลับทันท่วงที ขณะเดียวกันก็พยักหน้าให้ชายหนุ่มชุดฟ้าที่มองจ้องเขาตาเขม็งเป็นการทักทาย ก่อนจะเลิกสนใจมัน
“จางเทียนโย่ว ไม่ใช่เจ้าเคยลั่นวาจาไว้หรือไร ว่าหากพบเจอศิษย์ของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เราเมื่อไหร่ จะขอคำชี้แนะสักครา?”
ทันใดนั้นเอง สตรีเพียงหนึ่งเดียวก็หันไปส่งยิ้มหยอกเย้าให้ชายหนุ่มชุดฟ้า พลางเอ่ยแซวออกมา “ไหนเล่า? พอเห็นคนแล้ว ไยไม่ลุยสักตั้งล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มชุดฟ้า ที่เป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ลี้ลับ อัจฉริยะอายุ 800 กว่าปีแต่มีพลังเทียบเทียมจักรพรรดิอมตะสมญานามคนนี้ มีนามว่า ‘จางเทียนโย่ว’
พอจางเทียนโย่วได้ยินคำของสตรีดังกล่าว ก็เร่งหันไปมองแผ่นหลังฟงชิงหยางด้วยสายตาหวาดกลัวเล็กน้อย ค่อยหันไปมองเขม่นสตรีที่ว่าตาขวาง…ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์อยู่ตรงหน้า มันจะกล้าเหิมเกริมท้าตีศิษย์ผู้อื่นเขาได้อย่างไร?
มันย่อมรู้เป็นธรรมดา ว่าสตรีดังกล่าวคิดหางานให้มัน!
อย่างไรก็ตามฟงชิงหยางไม่ได้สนใจเรื่องหยุมหยิม เพียงนำต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆไปถึงหน้าประตูใหญ่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนเงียบๆ
“ยินดีต้อนรับใต้เท้า มิทราบใต้เท้าคือ?”
พอฟงชิงหยาง ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆมาหยุดลงหน้าประตูใหญ่ ด้านคนของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนที่ยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นผู้มาอย่างต้วนหลิงเทียนและฟงชิงหยางมีลักษณะไม่ธรรมดา ก็เร่งเข้ามาเอ่ยคำต้อนรับอย่างไม่กล้าละเลย
ฟงชิงหยางเหลือบมองคนที่เอ่ยถาม กล่าวตอบเสียงเรียบ “ไปแจ้งให้จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของเจ้าทราบเสีย…แค่บอกว่า จักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง นำคนมาเข้าร่วมศึกอัจฉริยะสวรรค์”
“จักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน!?”
พอได้ยินคำพูดดังกล่าวของฟงชิงหยาง เหล่าผู้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนก็ผงะไปทันใด ลูกตาหดหยีเล็กลง สีหน้าฉายชัดถึงความประหลาดใจ!
ให้ตายเถอะ!
ชายหนุ่มเบื้องหน้าพวกมันก็คือจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง?!
จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง แม้จะเคยมีชื่อเสียงเลื่องลือมาก่อน แต่หากฟงชิงหยางมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกมันตั้งแต่ในอดีต พวกมันจะไม่แลดูตกใจถึงขนาดนี้…ที่ไฉนพวกมันถึงตกใจ เพราะอันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ของฟงชิงหยาง ได้แซงหน้าจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของพวกมันไปแล้ว!
ก่อนหน้าอันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของพวกมันก็คือ อันดับ 3
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางสามารถรอดชีวิตกลับออกมาจากนรกอสุราได้ ทั้งยังลงมือเข่นฆ่าจักรพรรดิสวรรค์คนใหม่ในพริบตา หลายคนจึงสงสัยกันว่า…ฟงชิงหยางน่าจะทะลวงถึงขอบเขตเทพได้แล้ว! เพราะเรื่องนี้จึงเป็นเหตุให้อันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ ของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์พวกมันตกลงมา 1 อันดับ!!
ส่วนอันดับที่ 3 ก็โดนจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางเข้ามาแทนที่
ยิ่งไปกว่านั้น ด้านจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของพวกมัน กลับไม่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้!
ต้องทราบด้วยว่าจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของพวกมัน ปกติแล้วใช่คนยอมอะไรง่ายๆที่ไหน! ในอดีตเคยมีครั้งหนึ่งที่ไม่พอใจอันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ของตัว ก็ถึงกับบุกไปท้าสู้กับจักรพรรดิสวรรค์ของระนาบเทวโลกอื่นที่มีอันดับสูงกว่าอย่างเอิกเกริกมาแล้ว! ทั้งหมดเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้โลกรู้ว่าอยู่เหนือกว่า!!
จากนั้นวิหารเฟิงฮ่าวที่มีหน้าที่จัดทำรายนามจักรพรรดิสวรรค์ก็จำต้องแก้ไขเป็นการด่วน และออกประกาศรายนามจักรพรรดิสวรรค์ฉบับใหม่ออกมา
ถึงแม้รายนามจักรพรรดิสวรรค์จะสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์บอกอันดับพลังฝีมือของจักรพรรดิสวรรค์ จะอย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้จัดสร้างขึ้นหลังจากให้จักรพรรดิสวรรค์ทั้งหลายมาประมือกันวัดความสูงต่ำเป็นเรื่องเป็นราว…แถมบางทีจักรพรรดิสวรรค์ที่ได้อันดับกลางๆก็ไม่แน่ว่าจะมีไพ่ตายซุกซ่อนเอาไว้
ทำให้จักรพรรดิสวรรค์ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับรายนามจักรพรรดิสวรรค์สักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม ยังมีจักรพรรดิสวรรค์ไม่น้อยที่บังเกิดความไม่พอใจ เมื่อเห็นอันดับของตัวอยู่ต่ำกว่าจักรพรรดิสวรรค์ที่ตัวเองเห็นว่าด้อยกว่า ด้วยเหตุนี้ก็เลยเกิดการบุกไปท้าประลองเพื่อหาความเป็นธรรมขึ้นมา และตราบใดที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ วิหารเฟิงฮ่าวก็ยินดีแก้อันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ให้
ย้อนกลับไปในอดีต จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนเองที่ไม่พอใจในอันดับของตัว ก็เลยไปท้าสู้กับจักรพรรดิสวรรค์อันดับสูงกว่าเพื่อเปลี่ยนแปลงอันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์
แต่ครั้งนี้ถึงแม้จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนของพวกมัน จะเห็นจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางมีอันดับสูงกว่า…แต่กลับนิ่งเฉย ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าใช่มีไปลอบท้าประลองลับหลังแล้วแพ้พ่ายมาหรือไม่?
จะอย่างไรก็แล้วแต่ เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ยังจะมีผู้ใดกล้าถามตรงๆ เพราะสุดท้ายพลังฝีมือของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางก็ร้ายกาจจริงๆ ดังนั้นคนที่เอ่ยถามฟงชิงหยางก็ไม่กล้าถามเรื่องนี้ เพียงกล่าวไปตามหน้าที่เร็วไว “ที่แท้ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ข้าจะเร่งส่งข้อความถึงใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เพื่อแจ้งการมาของท่าน”
พอกล่าวจบคำ มันก็ส่งข้อความไปทันที
ฟงชิงหยางก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็รอคอยพร้อมต้วนหลิงเทียนและพวกเมิ่งหลัวเงียบๆ
หลังผ่านไป 10 ลมหายใจ ก็มีเสียงชายชราหัวเราะร่าโพล่งดังขึ้นแต่ไกล “น้องฟงท่าน ข้าจำได้ว่าท่านมีลูกแก้ววิญญาณของข้าอยู่ไม่ใช่หรือ…ไฉนถึงมาที่นี่โดยไม่แจ้งข้าแต่แรกเล่า?”
พร้อมกันกับที่เสียงชรามากอัธยาศัยดังขึ้น ก็ปรากฏร่างในชุดคลุมสีเทาหลวมๆหนึ่งวูบตัดฟ้ามาหยุดลงฉับไว เป็นชายชราหนวดเครายาวเฟิ้ม เส้นผมขนคิ้วเป็นสีดอกเลา รูปร่างแลดูกำยำแข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกเถื่อนๆอยู่บ้าง
อย่างไรก็แล้วแต่น้ำเสียงของมันแลดูกระตือรือร้นในการต้อนรับขับสู้นัก
และฟังจากคำทักทายดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าสมควรรู้จักกันกับฟงชิงหยางแต่แรก และท่าทางจะสนิทสนมกันไม่น้อย
‘นี่คงไม่ใช่จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนหรอกนะ? ท่านอาจารย์รู้จักมันด้วยหรือ?’
เห็นชายชราที่วูบร่างมาปรากฏตัวปานภูตผี ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะอื้ออึงไปอยู่บ้าง เพราะเขาไม่เคยได้ยินอาจารย์เขาพูดถึงจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนมาก่อนเลย…กระทั่งก่อนหน้าอาจารย์เขายังต้องไปถามทางผู้คน เห็นได้ชัดว่าพึ่งจะมาที่นี่ครั้งแรก…
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์”
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์”
…
เดิม 3 คนที่ลอยร่างอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนกับเมิ่งหลัว ก็พอจะคาดเดาตัวตนผู้มาใหม่ได้รางๆ จนพอคนเฝ้าประตูหน้าพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนเอ่ยทักอย่างมากคารวะ พวกมันก็มั่นใจได้ทันทีว่าผู้มาเป็นใคร
“พี่ติง”
ตอนนี้เองฟงชิงหยางก็เอ่ยทักชายชราด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเองก็คิดจะส่งข้อความไปหาท่านแต่แรก เพื่อจะได้ไม่ต้องลำบากไปถามทางมาพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนจากผู้อื่นเขา…แต่พอดีแหวนพื้นที่วงเก่าของข้าดันถูกทำลายในนรกอสุรา ลูกแก้ววิญญาณของท่านเองก็พลอยโดนทำลายไปด้วย…”
พอฟงชิงหยางเอ่ยประโยคนี้ออกมา ไม่เพียงแต่ลูกตาของชายชราจะหรี่ลงเล็กน้อย ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆก็ตกใจเช่นกัน!
แหวนพื้นที่…ถูกทำลาย!?!
ต้องทราบด้วยว่าความทนทานของแหวนพื้นที่นั้น กระทั่งจักรพรรดิอมตะที่ทรงพลังที่สุดก็ยังไม่อาจสร้างได้แม้รอยขีดข่วน! แต่ตอนนี้ฟงชิงหยางกลับบอกว่าแหวนพื้นที่ถูกทำลายในนรกอสุรา!!
โอทวยเทพ!
ในนรกอสุรา มีอันตรายชวนขนหัวลุกถึงขั้นใด…จึงทำลายได้กระทั่งแหวนพื้นที่!?
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแหวนพื้นที่ในมือฟงชิงหยาง!!
“เข้าใจแล้ว…”
ชายชราคลี่ยิ้มแห้งๆค่อยกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “น้องฟงท่าน ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ในนรกอสุรา 1 ใน 7 สถานที่ต้องห้ามของระนาบเทวโลกนั่นได้…ที่นั่นให้ตานข้าก็ไม่กล้าเข้าไป! เพราะทุกแห่งล้วนอันตรายยิ่ง แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นสวนหลังบ้านของน้องฟงท่านเสียได้ คิดจะเข้าก็เข้าคิดจะออกก็ออก…”
หลังกล่าวจบคำชายชราก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนข้างๆฟงชิงหยาง “หนุ่มน้อยผู้นี้สมควรเป็นศิษย์ที่แท้จริงที่ท่านพึ่งรับมาใช่หรือไม่?”
ตอนนี้วันเวลาได้ผ่านไป 100 ปีแล้ว ตั้งแต่ต้วนหลิงเทียนได้พบเจอฟงชิงหยาง
ในช่วง 100 ปีที่ผ่าน หลังจากที่ทางพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนได้ยืนยันตัวตนของต้วนหลิงเทียน ก็ได้ประกาศออกไปว่าจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนได้ยอมรับศิษย์ที่แท้จริงแล้ว นับเป็นเหตุการณ์สำคัญมากพอจะทำให้ระดับสูงๆของทุกราบเทวโลกตื่นตัว
ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียน ติงฟู่ เองก็เลยได้รับทราบข่าวด้วย
“เสี่ยวเทียน เจ้ามาหาลุงติงเร็ว”
ด้านฟงชิงหยางก็หันไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเร็วไว “ลุงติงของเจ้า ให้มองไปในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ทั้งมวลของระนาบเทวโลก ก็นับเป็นยยอดฝีมือระดับต้นๆ…โดยเฉพาะเวทย์พลังมหาเวทย์กลืนกิน ไม่เพียงแต่จะกลืนกินพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของศัตรูได้ ยังกลืนกินได้กระทั่งพลังแห่งกฏของผู้อื่น!”
“ต้วนหลิงเทียน ขอคารวะลุงติง”
ต้วนหลิงเทียนก็ยกมือขึ้นป้องประสานเป็นการคารวะทักทายทันที ขณะเดียวกันก็ลอบตกใจไม่น้อย เวทย์พลังของจักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนผู้นี้ สามารถกลืนกินได้กระทั่งพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดและพลังแห่งกฏของศัตรูเชียวหรือ!?
ต้องทราบด้วยว่าเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินที่เขาใช้บ่อยๆในอดีต ก็ทำได้แค่กลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินรอบๆตัวเท่านั้น
แต่มหาเวทย์กลืนกิน กลับยกระดับจากปฐมเวทย์กลืนกินจนร้ายกาจได้ถึงขนาดนั้นเลย?
“ศิษย์หลานต้วน อย่าได้ฟังวาจาเหลวไหลของอาจารย์เจ้า…พลังฝีมืออันดับต้นๆอะไรที่ไหนกัน! อาจารย์เจ้ายังร้ายกาจกว่าลุงเสียอีก ตอนแรกลุงเองก็ไม่พอใจที่โดนอาจารย์เจ้าชิงอันดับในรายนามจักรพรรดิสวรรค์ไป ก็เลยบุกไปท้าตีอาจารย์เจ้าสุดท้ายก็ถูกทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว นับว่าลุงหาเรื่องทุ่มหินทับเท้าตัวเองแท้ๆ…”
ติงฟู่ส่ายหัวไปมาพลางกล่าว
และนี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ ติงฟู่ จักรพรรดิสวรรค์แห่งหยวนสื่อเทียนพูดถึงเรื่องนี้ออกมา!
ในอดีตนั้น นอกจากฟงชิงหยางแล้ว ก็มีแต่ศิษย์ของมัน 2 คนเท่านั้นที่รับทราบ
เมื่อฟงชขิงหยางไม่บอกใคร มันไม่บอกใคร และศิษย์ทั้ง 2 ของมันก็ไม่ได้เอาไปบอกใคร เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เลยไม่มีใครรู้เป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม เหล่าคนของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์หยยวนสื่อเทียนไม่กี่คนที่เฝ้าประตูใหญ่ก็ได้แต่ตะตกลึงกันยกใหญ่ เพราะพวกมันไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน พวกมันก็เลยหันหน้ามามองสบตากันทันใด ก่อนจะแลเห็นถึงความตื่นตระหนกตกใจในสายตากันและกัน
ที่แท้ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์แห่งหยวนสื่อเทียนของพวกมัน ไปท้าประลองกับจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนมาแล้วจริงๆ!
แถมดูท่ายังแพ้ยับกลับมาอีก!
“ที่ข้าชนะก็ไม่นับว่ายุติธรรมเท่าไหร่…”
ฟงชิงหยางส่ายหัวไปมาพลางกล่าว
ในความเห็นฟงชิงหยาง จะอย่างไรพลังในร่างของตัวเองก็เป็นถึงพลังเทพแล้ว ถึงแม้จักรพรรดิสวรรค์หยวนสื่อเทียนจะเป็นครึ่งก้าวเทพ แต่พลังในร่างก็ยังเป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอยู่ จะสู้ไม่ได้ก็ไม่แปลก
ชัยชนะแบบนี้ ฟงชิงหยางไม่รู้สึกว่ามันเป็นชัยชนะแต่อย่างใด