ตอนที่ 3575 หมี่ซวนหนีเตลิด!

WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์

ด้านหมี่ซวนเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ที่เห็นต้วนหลิงเทียนนำอุปกรณ์เทพออกมา
  เนื่องเพราะจากการวิเคราะห์ของ หวู่หงชิง จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก ในเมื่ออาจารย์ของต้วนหลิงเทียน ฟงชิงหยางจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนสามารถบรรลุถึงขอบเขตราชาเทพได้ในเวลาอันสั้น หลังเข้าสู่นรกอสุรา 1 ใน 7 สถานที่ต้องห้ามของระนาบเทวโลกไม่กี่ร้อยปี ไม่พ้นต้องพบเจอวาสนาปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างมาแน่
  และวาสนาปาฏิหาริย์ที่ว่า ไม่น่าจะขาดอุปกรณ์เทพ!
  เพราะไม่ว่าฟงชิงหยางจะพบเจออะไร แต่สิ่งที่ทำให้บรรลุถึงราชาเทพขั้นกลางได้ มันต้องเลิศล้ำเป็นอย่างยิ่ง เผลอๆอาจจะเป็นมรดกหรือแหวนพื้นที่จากตัวตนที่เหนือกว่าราชาเทพ!
  ตัวตนระดับนั้น เกรงว่าคงไม่ขาดอุปกรณ์เทพ และต้องมีมากกว่าหนึ่งชิ้นแน่นอน!
  ในเมื่อฟงชิงหยางสมควรได้อุปกรณ์เทพมามากมาย ก็เป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะมอบให้ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวอย่างต้วนหลิงเทียน ทำให้มันไม่แปลกใจเลยที่ต้วนหลิงเทียนจะนำอุปกรณ์เทพออกมาเสริมพลัง ทำลายการป้องกันที่มันหนุนเสริมด้วยพลังของอุปกรณ์เทพลงได้
  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันไม่คิดจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับอีกต่อไป
  เพราะมันรู้ดีว่าหากเลือกจะตั้งรับ สุดท้ายที่รออยู่ก็คือความพ่ายแพ้!
  ระดับพลังของต้วนหลิงเทียนที่เผยออกมาเมื่อครู่หลังใช้อุปกรณ์เทพนั่น เผยให้เห็นว่าอุปกรณ์เทพของต้วนหลิงเทียนมีระดับสูงกว่าอุปกรณ์เทพของมัน และทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย ในเมื่อช่องว่างของอุปกรณ์มันห่างกันขนาดนี้ มันก็ไม่คิดจะลงมือพัวพันกับต้วนหลิงเทียนอย่างโง่เขลาอีกต่อไป
  เช่นนั้นมันจึงหลีกเลี่ยงการนำจุดอ่อนของตัวเองไปปะทะกับจุดแข็งของอีกฝ่าย และตัดสินใจใช้การโจมตีทางวิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่มันถนัดที่สุดเพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียนในคราเดียว!
  และหากมันใช้การโจมตีทางวิญญาณ มันก็สามารถผสานใช้พลังแห่งกฏที่มันเข้าใจได้เต็มที่ เพียงแค่จะไม่ได้รับพลังอำนาจหนุนเสริมจากอุปกรณ์เทพเท่านั้น! แต่ในสายตามัน ถึงแม้ตอนนี้มันจะไม่มีอุปกรณ์เทพหนุนเสริมการโจมตีทางวิญญาณ แต่อาศัยการโจมตีทางวิญญาณเดิมๆของมัน ก็ฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ง่ายๆ!
  “ต้วนหลิงเทียน วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งก่อน จากนั้นข้าจะให้อาจารย์เจ้าฟงชิงหยางนั่น มันร่วมกลบฝังไปพร้อมเจ้า!!”
  วาจาไร้แยแสของหมี่ซวนดังขึ้น
  ในเวลาเดียวกัน กลางหว่างคิ้วของมันก็ปรากฏลำแสงอันมีเกลียวพลังม้วนพันยิ่งพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูง ลำแสงพลังดังกล่าวมีสีทองห้อมล้อมไปด้วยไอพลังสีเทา พุ่งผ่านไปที่ใด ความว่างเปล่าตามรายทางล้วนสะท้านสะเทือน!
  “เจ้าที่ได้ตายด้วยแสงเกลียววิญญาณดับสูญของข้า ก็นับว่าตายไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”
  ถึงแม้พลังวิญญาณที่หมี่ซวนใช้ออกในปัจจุบัน จะเป็นพลังวิญญาณของจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ แต่ด้วยความเข้าใจในกฏมิติของมัน แม้จะไม่มีอุปกรณ์เทพเสริมการจู่โจมด้วยวิญญาณให้ใช้ แต่พลังของมันที่สำแดงออกมา ให้กวาดมองไปทั่วฟ้าดินของสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้ ก็ยากที่จะมีใครอาศัยพลังสามารถของตัวเองต้านทานรับได้
  และคนที่ต้านทานรับได้ ก็มีแต่ผู้ที่มีพลังภายนอกให้พึ่งพา!
  พลังภายนอกที่ว่า อาจมาจากอุปกรณ์เทพป้องกันวิญญาณโดยเฉพาะ หรือไม่ก็อุปกรณ์เทพที่สามารถหนุนเสริมการโจมตีด้วยพลังวิญญาณ
  ซูววววว!!
  ลำแสงอันมีเกลียวพลังดั่งสว่านอัดแน่นไปด้วยพลังของกฏมิติ พุ่งเข่นฆ่าเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยอำมหิต และหมี่ซวนก็ไม่แยแสห่าพิรุณกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนควบคุมให้เปลี่ยนทิศทางเข่นฆ่าเข้าใส่มันแม้แต่น้อย!
  เพราะในปัจจุบันหมี่ซวนไม่คิดป้องกันการโจมตีของต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป
  ในสายตามัน ขอเพียงสำแสงเกลียววิญญาณดับสูญสามารถสังหารต้วนหลิงเทียนได้เมื่อไหร่ กระบวนท่ากระบี่ของต้วนหลิงเทียนก็จะสลายตัวไปเอง!
  “ตาย!!”
  สายตาหมี่ซวนที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรจากสายตาที่ใช้มองคนตายแม้แต่น้อย
  ให้มองไปทั่วสมรภูมิ 9 ยมโลก มันมั่นใจว่าไม่มีตัวตนใดที่ไม่ใช่เทพ สามารถหยุดการโจมตีทางวิญญาณครั้งนี้ของมันได้…ต้วนหลิงเทียนนั่นจึงต้องตายโดยไม่ต้องสงสัยเลย!
  “การโจมตีทางวิญญาณ?”
  เผชิญหน้ากับการจู่โจมด้วยพลังวิญญาณของหมี่ซวน ต้วนหลิงเทียนก็เลิกคิ้วขึ้น หากแต่ใบหน้าไม่เผยความแตกตื่นใดๆ กระทั่งมุมปากยังยกยิ้มแสยะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ข้ารออยู่นานแล้ว!”
  หลังมุมปากต้วนหลิงเทียนยกยิ้มแสยะขึ้นมาได้ไม่ทันไร สองตาเขาพลันทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง!
  พร้อมกันนั้นเอง กระบี่แสง 7 สีที่อยู่ในมือเขา ก็แปรเปลี่ยนเป็นละอองแสงหลากสีม้วนวนทั่วร่าง ต่อมาสองตาเขาก็ปรากฏลำแสงพลัง 7 สีสันพุ่งยิงออกไปฉับไว!
  ซัวว!! วู้มมม!!
  พลังวิญญาณที่ต้วนหลิงเทียนจู่โจมออกไป พริบตาก็แปรลักษณ์กลับกลายเป็นกระบี่แสง 7 สีสัน ก่อนจะผสานรวมเข้ากับพลังจากมรรคากระบี่มิติ ก่อเกิดเป็นกระบี่วิญญาณ อันมีกลิ่นอายพลังลี้ลับยากหยั่งถึง จี้ตรงเข้าใส่ลำแสงพลังของหมี่ซวน!
  มองไกลๆ บัดนี้คล้ายมีดาวหาง 2 ดวง กำลังพุ่งผ่านท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวเข้าใส่กัน!
  และในที่สุด พลังสองขุมก็ปะทะกัน!
  ครู่ต่อมา ไร้ซึ่งเสียงระเบิดดังสะท้านสะเทือนแดนดินอันใด…
  ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็คือการโจมตีทางวิญญาณ ยังแตกต่างจากการโจมตีทางกายภาพค่อนข้างมาก เมื่อพลังสองขุมปะทะกัน กระบี่แสง 7 สีก็เปล่งประกายวาบหนึ่ง ก่อนจะลบลำแสงพลังของหมี่ซวนให้หายไปในความว่างเปล่า…
  พลังวิญญาณทั้ง 2 ขุมหักล้างกันจนสลายตัว
  “อะ…อุปกรณ์เทพขั้นสูง!?”
  ไม่ทันที่คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับจะตอบสนองเรื่องราวใด เสียงอุทานของหมี่ซวนก็ดังขึ้นอย่างประจวบเหมาะ ลูกตาของมันตอนนี้เบิกกว้างปานจะถลนออกเบ้า สีหน้าฉายชัดถึงความตกตะลึงเหลือเชื่อ!
  ก่อนหน้า ต้วนหลิงเทียนยังอาศัยกระบี่นั่นขยายพลังจู่โจมกายภาพเล่นงานมันอยู่เลย…
  แต่ตอนนี้กลับอาศัยกระบี่นั่น หนุนเสริมพลังวิญญาณ จนสามารถหักล้างลำแสงพลังวิญญาณของมันได้หน้าตาเฉย!
  และเท่าที่มันรู้มามีเพียงอุปกรณ์เทพขั้นสูงขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะมีพลังอำนาจหนุนเสริมทั้งกายภาพและวิญญาณในตัว!
  กล่าวอีกอย่างได้ว่า…
  กระบี่ของต้วนหลิงเทียนนั่นสมควรเป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูง! ส่วนเรื่องอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดมันไม่กล้าคิด!!
  หลังจากตื่นตระหนกตกใจ สองตาของหมี่ซวนก็ฉายสีสันแห่งความโลภออกมาขุ่นคลั่ก เพราะหากมันได้อุปกรณ์เทพระดับสูงมาครอง พลังของมันจะสูงขึ้นเกินกว่า 1 ขีดขั้น!
  แต่ทว่าครู่ต่อมา ราวกับมันฉุกคิดอะไรได้ออก สีหน้าหมี่ซวนพลันเปลี่ยนไปใหญ่หลวง “ไม่—!!”
  ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
  …
  เสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวติดๆกัน! เป็นห่าพิรุณกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนควบคุมให้เปลี่ยนทิศทางและเข่นฆ่าเข้าใส่หมี่ซวนก่อนหน้า! หลังจากที่พลังวิญญาณของหมี่ซวนถูกทำลาย มันก็พุ่งถล่มเข้าใส่ร่างหมี่ซวนที่ไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ!!
  ร่างหมี่ซวนที่ถูกห่าพิรุณกระบี่ซัดเข้าอย่างจัง ไม่เพียงปรากฏหลุมเลือดมากมายแต่ชิ้นเนื้อทั้งอวัยวะยังถูกทำลายไปกว่า 7 ส่วน! ไร้ซึ่งหนทางรักษาแล้ว…
  วู้มม!
  ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างวิญญาณร่างหนึ่ง ลอยออกจากร่างกายหมี่ซวนที่กลายเป็นเศษเนื้อเลอะเลือน…เป็นร่างวิญญาณของหมี่ซวน!
  ร่างวิญญาณของหมี่ซวนที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศ บัดนี้สั่นไหวราวเปลวไฟต้องลม มันมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงอาฆาต “ต้วนหลิงเทียน! จากนี้ไปไม่เจ้าตายก็ข้าม้วย!!”
  ในน้ำเสียงอาฆาตของหมี่ซวน ยังแฝงไว้ด้วยความไม่ยินยอมถึงที่สุด!
  ร่างถังซานเป่าที่มันช่วงชิงมา มันเสียเวลาฝึกฝนเพื่อให้คุ้นชินอย่างหนัก แถมมันยังใช้ความสามารถแต่กำเนิดของเผ่าภูตเพื่อช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่จะใช้ได้ครั้งเดียวตลอดชั่วชีวิตกับร่างถังซานเป่าไปแล้ว เช่นนั้นวันหน้าถึงมันจะยึดร่างผู้ใดอีก มันก็ไม่อาจรับทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่ายมาได้…
  ได้แค่เฉพาะร่างกายเท่านั้น
  “โฮ่ ไม่ข้าตายก็เจ้าม้วยรึ? แต่นั่นหมายความว่าเจ้าต้องรอดถึงตอนนั้นเสียก่อน…”
  ต้วนหลิงเทียนกล่าวเย้ยหยันจคำ ก็กล่าวออกด้วยน้ำเสียงอำมหิต “หวงเอ้อ ฆ่ามัน!!”
  วู้มมม!!
  แทบจะพร้อมๆกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ กระบี่แสง 7 ที่หวนมามาลอยล่องอยู่เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ก็ปรากฏเงาร่างงดงามหนึ่งลอยออกมา จากนั้นเงาร่างดังกล่าวก็ค่อยๆควบแน่นจนมีสภาพ เป็นสตรีงดงามในชุดกระโปรงยาวสีสันสดใสปานสายรุ้ง แลดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
  และเมื่อสตรีนางนี้ปรากฏตัว ทุกสายตาของสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็คล้ายต้องมนต์สะกดให้อดหันไปจับจ้องมองนางจนตาลอยไม่ได้
  “จะ…จิตวิญญาณศาสตรา!?”
  พอเห็นฉากเรื่องราวเบื้องหน้า ร่างวิญญาณของหมี่ซวนก็เริ่มสั่นไหวมากขึ้น เผยให้เห็นว่าตอนนี้อารมณ์ของมันปั่นป่วนมากกว่าที่เคย!
  อุปกรณ์เทพขั้นสูงที่กำเนิดจิตวิญญาณ?
  อุปกรณ์เทพระดับนี้ ต่อให้นำไปวางไว้ในระนาบเทพ ก็ถือว่าเป็นสมบัติชั้นยอด!
  “ทราบแล้ว นายท่าน”
  สตรีที่ขานรับต้วนหลิงเทียน ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นจิตวิญญาณของกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน หวงเอ้อ!
  หลังจากที่หวงเอ้อขานรับต้วนหลิงเทียน นางก็คว้ากระบี่หลิงหลง 7 ที่ลอยอยู่เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนมากระชับไว้ในมือ ก่อนจะตวัดกระบี่จู่โจมเข้าใส่ใส่หมี่ซวนในฉับพลัน อุบัติลำแสงพลังหลากสีสันสายหนึ่ง พุ่งเข่นฆ่าเข้าใส่หมี่ซวนอย่างอำมหิต!!
  ท่ามกลางสายตาของทุกคน ทั้งๆที่ลำแสงพลังของหวงเอ้อยังมาไม่ถึง ร่างวิญญาณของหมี่ซวนก็สั่นไหวเหมือนเปลวเทียนต้องลมแรง ราวพร้อมจะดับสลายลงได้ทุกเมื่อ!
  “ต้วนหลิงเทียน! อาศัยเจ้ายังไม่มีความสามารถพอจะฆ่าข้า!!”
  หากทว่าในห้วงเวลาคับขัน ร่างวิญญาณของหมี่ซวนพันประกบมือเข้าหากัน จากนั้นทั่วร่างวิญญาณของมันก็ปรากฏเพลิงพลังสีเขียวลุกโชนขึ้นมา เสมือนกำลังจะแผดเผาร่างวิญญาณตัวเอง!
  พริบตาต่อมา เมื่อเพลิงพลังสีเขียวลุกไหม้ขึ้นวาบหนึ่ง ก็ปรากฏหมอกประหลาดสีเลือดปานโลหิตฟุ้งขึ้น จากนั้นร่างหมี่ซวนก็อันตรธานหายไปในฉับพลัน!
  ซู่มมม!!
  ลำแสงพลังที่หวงเอ้อซัดออกไป ก็ทำได้แค่ทะลวงความว่างเปล่า…
  ‘สมแล้วที่เป็นถึงอดีตผู้นำเผ่าพันธุ์ภูตขอบเขตราชาเทพขั้นกลาง หมี่ซวนผู้นี้ถึงจะผนึกพลังวิญญาณเอาไว้ให้อยู่ในระดับจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้มันยังอุตส่าห์หลบหนีรอดพ้นมือข้าไปได้…’
  หลังร่างวิญญาณของหมี่ซวนหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีทางฆ่าอีกฝ่าได้
  แต่เขาก็มีคิดไว้แล้วว่าถึงจะลงมือเต็มที่ ก็อาจจะฆ่าหมี่ซวนไม่ได้
  ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็เป็นถึงราชาเทพขั้นกลาง ถึงจะผนึกพลังวิญญาณตัวเองเอาไว้ แต่ไม่พ้นต้องมีไม้ตายก้นหีบมากมาย คิดจะฆ่ามันไหนเลยเป็นเรื่องราวอันง่ายดาย
  ‘ถังซานเป่า ถึงข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะเต็มใจมอบร่างกายให้หมี่ซวนหรือไม่…แต่ถ้าไม่ สักวันข้าจะช่วยล้างแค้นให้เจ้าเอง’
  ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองร่างของหมี่ซวน หรือกล่าวให้ชัดก็คือร่างถังซานเป่าที่ถูกห่ากระบี่ของเขาทะลวงจนปุพรุนร่วงฟ้าไปด้วยสายตาเวทนาพลางกล่าวในใจ
  และตอนนี้สมาชิกของพันธมิตรอุดรลี้ลับทั้งหลาย ก็มองจ้องมาที่ต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเร่าร้อนฮึกเหิมนัก!
  เทพสงคราม 9 ดารา!
  ยังเป็นเทพสงคราม 9 ดาราที่ครอบครองอุปกรณ์เทพขั้นสูงอันกำเนิดจิตวิญญาณแล้ว!
  เทพสงคราม 9 ดารา ที่เกือบจะสังหารเทพสงคราม 9 อีกคนได้สำเร็จ! บีบให้อีกฝ่ายถอดวิญญาณหลบหนี!!
  ตัวตนเช่นนี้ ก็คือผู้คุมกฏอาวุโสที่ฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ในพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันงั้นหรือ!?
  “ท่านหลัว…”
  หลังหมี่ซวนหลบหนีไป ต้วนหลิงเทียนก็เก็บกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนเข้าร่าง จากนั้นก็หันไปมองหลัวอี้หมิง ผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับ “ขอบคุณสำหรับการดูแลที่ผ่านมาของท่าน…”
  “ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว…”
  “กองกำลังพันธมิตรอุดรลี้ลับของท่าน ไม่จำเป็นต้องยุบเหมือนพันธมิตรสวรรค์…อย่างไรเสียท่านเองก็ไม่รู้ตัวตนของข้ามาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนี้พันธมิตรฟ่านเทียนเอง พวกมันก็คงไม่มีโอกาสมาสร้างปัญหาอะไรให้ท่านได้อีกแล้ว…”
  หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ เขาก็จากไปทันที ไม่รอให้หลัวอี้หมิงทันได้พูดอะไร
  ยังใช้การเคลื่อนย้ายข้ามมิติ จากไปต่อหน้าต่อตาเหล่าสมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับ…
  “ไปแล้ว?”
  สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของต้วนหลิงเทียน ด้านหลัวอี้หมิงผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ไม่ติดใจอะไรมากมาย เพราะเดาไว้แต่แรกว่าต้องจบลงอีหร็อบนี้ แต่คนอื่นๆยังอดผิดหวังไม่ได้ “เฮ่อ…ข้าหลงคิดว่าผู้คุมกฏอาวุโสจะพาพวกเราบุกตะลุยไปยังภาคกลาง ครอบครองพื้นที่สักเขตให้พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเราเสียอีก…ไม่คิดเลยว่าจะจากไปในลักษณะนี้”
  “ความคิดเจ้ามันจะไม่ไร้เดียงสาไปหน่อยหรือไร ให้ถอยไปหมื่นก้าว ต่อให้ผู้คุมกฏอาวุโสจะช่วงชิงพื้นที่ให้พันธมิตรอุดรลี้ลับพวกเราจริง แต่สุดท้ายวันหนึ่งคนก็ต้องจากไป ถึงตอนนั้นพวกเรายังจะมีปัญญารักษาพื้นที่ไว้หรือไร? ยามผู้คุมกฏอาวุโสอยู่ อาจไม่มีกองกำลังใดกล้าบุกมา แต่หลังผู้คุมกฏอาวุโสจากไป พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรายังต่างอะไรกับลูกแกะยืนงงกลางดงเสือ?”
  “ว่าแต่…วาจาทิ้งท้ายของผู้คุมกฏอาวุโสที่ว่าพันธมิตรฟ่านเทียนไม่มีโอกาสทำอะไรพวกเรา…ไม่ใช่ว่าท่านผู้คุมกฏอาวุโสคิดบุกไปถล่มพันธมิตรฟ่านเทียนหรอกนะ?”
  “อาจเป็นได้!”
  “ตั้งแต่ที่ หวู่หลง ผู้นำคนที่ 2 ของพันธมิตรฟ่านเทียนถูกผู้คุมกฏอาวุโสฆ่าตาย กล่าวได้ว่าพันธมิตรฟ่านเทียนได้ทุ่มกำลังออกตามหาผู้คุมกฏอาวุโสไปทั่วสมรภูมิ 9 ยมโลกเพื่อฆ่าล้างแค้น…แต่ตอนนี้ด้วยพลังฝีมือของผู้คุมกฏอาวุโส ต่อให้จะเผยตัวออกมา ก็เกรงว่าพันธมิตรฟ่านเทียนจะไม่มีปัญญาทำอะไรได้แล้ว…”