ตอนที่ 3621 นาย 4 ตระกูลจ้ง

WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์

หานลี่กัง อาวุโสลำดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจไม่กล้าแย้งคำปรามาสดังกล่าว ผู้คนในโรงประมูลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ
  เพราะถึงแม้หานลี่กังจะเป็นราชาเทพขั้นสูงคนหนึ่ง ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วไป ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือมากประสบการณ์อย่างมู่หรงสุยเฟิง ที่อาจจะบรรลุถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้ว มันก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้
  แต่กระนั้น การปรากฏตัวของคนจากนิกายหมื่นปีศาจ ก็ทำให้หลายๆคนในโรงประมูลประหลาดใจ “นิกายหมื่นปีศาจมักขัดแย้งกับนิกายหมอกเร้นลับอยู่เสมอ แต่คราวนี้คนของพวกมันกล้ามาเหยียบเมืองวายุสวรรค์ของพวกเราเชียวหรือ?”
  “นั่นสิ เมืองวายุสวรรค์ของพวกเรา ก็ถือเป็นเมืองของนิกายหมอกเร้นลับกลายๆ…คนของนิกายหมื่นปีศาจกล้าเข้ามาเช่นนี้มันไม่กลัวถูกล้อมสังหารหรือไร?”
  “ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก…ถึงแม้นิกายหมอกเร้นลับจักมีความขัดแย้งกับนิกายหมื่นปีศาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลุ้มรุมสังหารคนของนิกายหมื่นปีศาจต่อหน้าผู้คนอย่างโจ่งแจ้งหรอก…”
  “จะอย่างไรก็ช่าง ลองคนของนิกายหมื่นปีศาจมาด้วยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็สนใจเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพอย่าง เคล็ดเทพ 6 เงา ไม่น้อย…”
  …
  ความขัดแย้งระหว่างอาวุโสลำดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ หานลี่กัง กับคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิง นับเป็นฉากเล็กๆในงานประมูลตระกูลโจวเท่านั้น
  หลังจากที่ของประมูลชิ้นแรกถูกนำขึ้นเวที ความสนใจของผู้คนในโรงประมูลก็ถูกดึงดูดไปทันที
  “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่เป็นรายการประมูลชิ้นแรกในงานประมูลที่ตระกูลโจวเราจัดขึ้นวันนี้…”
  เมื่อโจวอวิ๋นทื่นอู่บนเวทีประมูลกล่าวออกมา ทุกสายตาก็จับจ้องมองไปที่นางทันที
  หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาชมมองของผู้คน โจวอวิ๋น ก็สะบัดมือเรียกขวดโอสถเทพออกมาจากแหวนพื้นที่ของนาง ยิ้มกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ในขวดโอสถขวดนี้ มีเม็ดยาเทพอยู่ด้วยกัน 3 เม็ดยา ได้แก่ เม็ดยาเทพเจี๋ย เม็ดยาเทพอี๋ และเม็ดยาเทพปิ่ง!”
  “อย่างที่พวกท่านทราบกันดี ว่าเม็ดยาเทพทั้ง 3 นั้นหากแยกกันก็มิได้มีผลเลิศล้ำอันใดมากมายนัก และช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ราชาเทพได้ไม่แตกต่างอะไรจากโอสถเทพขนานอื่น…อย่างไรก็ตามหากรับประทานพวกมันด้วยกัน ก็สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ยิ่ง!”
  “ร่ำลือกันว่า ยิ่งผู้ที่ใช้มันมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงส่งเท่าใด ประสิทธิผลจากโอสถเทพชุดนี้ก็จักยิ่งให้ผลเลิศล้ำมากขึ้นเท่านั้น…อย่างเช่นอัจฉริยะของขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่ง หากบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพล่ะก็ แม้จักพึ่งบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นต่ำได้ไม่นาน แต่เมื่อใช้โอสถเทพ 3 เม็ดยาชุดหนึ่ง ก็จักทะลวงถึงเทพขั้นกลางในคราวเดียว!”
  “และหากบ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับอริยะเทพในตำนาน…เห็นว่าต่อให้เป็นเทพขั้นต่ำ ไม่แน่ก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ในคราวเดียว!”
  “แต่ถึงแม้จักมิได้บ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพ…ตัวตนในขอบเขตเทพยามใช้มัน ก็จะช่วยส่งเสริมพลังฝึกปรือได้ไม่น้อยอยู่ดี”
  “โอสถเทพ เจี๋ย อี๋ ปิ่ง นี้ท่านแขกผู้มีเกียรติจักใช้เองก็ดี จักประมูลไปให้รุ่นเยาว์ในขุมกำลังก็ดี…สิ่งนี้ มิแตกต่างจากของขวัญจากฟ้า!”
  โจวอวิ๋นกล่าวแนะนำของที่นำขึ้นประมูลเป็นรายการแรกอย่างฉะฉาน และวาจาไม่กี่คำของนาง ก็ทำให้บรรยากาศในโถงประมูลเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ยังรั้งอู่ในขอบเขตเทพทั้งหลายล้วนตาลุกวาวกันทั้งนั้น
  “โอสถเทพ เจี๋ย อี๋ ปิ่ง ทั้ง 3 เม็ดยา มิว่าจักเป็นโอสถเทพชนิดใดโอกาสหลอมปรุงสำเร็จก็มิได้สูงนัก…มิใช่เรื่องราวอันง่ายดายเยที่จักรวบรวมพวกมันได้ครบชุด 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน เกรงว่านอกจากขุมกำลังระดับจอมราชันเทพแล้ว ให้เป็ขุมกำลังระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังยากจะรวบรวมพวกมันได้ครบทั้ง 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน”
  “บัดนี้โอกาสประเสริฐอยู่เบื้องหน้าทุกท่านแล้ว…โอสถเทพ เจี๋ย อี๋ ปิ่ง ทั้ง 3 เม็ดในขวดนี้ มีราคาเปิดประมูลเพียงแค่หินเทพ 3,000 ตำลึงเท่านั้น!”
  “ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูล…ต้องเพิ่มหินเทพมิน้อยกว่า 1,000 ตำลึง!”
  ในขณะที่ผู้คนมากมายกำลังตาลุกวาวและคิดจะเคลื่อนไหว โจวอวิ๋น พิธีกรบนเวทีประมูลก็เริ่มประกาศราคาเริ่มต้นของโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งออกมา ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนที่มาเขาร่วมงานประมูลตระกูลโจว
  “หินเทพ 3,000 ตำลึง!”
  และแทบจะพร้อมๆกันกับที่โจวอวิ๋นกล่าวจบคำ ก็มีผู้คนในโถงรวมโพล่งราคาออกมาเสียงดังฟังชัด ผลักดันบรรยากาศในโรงประมูลให้พุ่งสูงขึ้นทันใด
  “หินเทพ 4,000 ตำลึง!”
  ไม่ทันที่โจวอวิ๋นจะขานราคาซ้ำ ก็มีอีกเสียงที่โพล่งดังขึ้น
  และคาวนี้หลังเงียบไปหนึ่งลมหายใจ ก็มีเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโถงรวม “หินเทพ 5,000 ตำลึง เด็กน้อยหลบไปเสีย!!”
  หินเทพ 5,000 ตำลึง!
  ราคาดังกล่าว อันที่จริงแล้วก็แทบจะเป็นราคากลางของโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งทั้ง 3 เม็ดรวมกันในสถานการณ์ปกติ
  ท้ายที่สุดแล้วหากคนทั่วไปรับประทานโอสถเทพชุดนี้ แม้จะเป็นเพียงเทพขั้นต่ำ แต่ด่านพลังก็ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้น เพียงแค่มีความก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น…เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพให้ฝึกปรือ
  “แขกท่านนี้เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตำลึง ไม่ทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่?”
  โจวอวิ๋นที่ยืนบนเวทีประมูล เอ่ยถามเสียงดัง
  “ไม่มีแขกท่านใดเสนอราคาแล้วหรือ?”
  “เช่นนั้น หินเทพ 5,000 ตำลึงครั้งที่ 1!”
  โจวอวิ๋นเริ่มทำการนับถอยหลังทันที และหากนับถึง 3 แล้วถ้าไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เช่นนั้นโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง ก็จะถูกขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตำลึงทันที
  “ผู้คนในห้องส่วนตัว ไม่มีใครสนใจหรือ?”
  หลายคนในโถงรวมเริ่มหันไปแหงนมองหน้าต่างห้องส่วนตัวทั้งหลาย
  “หินเทพ 6,000 ตำลึง”
  ท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนที่หันไปแหงนมอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้จากห้องส่วนตัว น้ำเสียงยังแหลมเล็กน้อย
  ได้ยินเสียงดังกล่าว หลายคนในโถงประมูลรวมก็จดจำเจ้าของเสียงได้ทันที “เสียงนี้มัน…มิใช่นายท่าน 4 แห่งตระกูลจ้งหรือไร?”
  “เป็นเสียงนายท่าน 4 แห่งตระกูลจ้งจริงๆ!”
  ตระกูลจ้ง ก็เป็นตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่งในเมืองวายุสวรรค์ และชื่อเสียงก็พอๆกับตระกูลโจว
  และที่ไฉนมีผู้คนมากมายจดจำได้ว่าเป็นเสียงของนายท่าน 4 ตระกูลจ้งนั้น เพราะอีกฝ่ายรับหน้าที่ดูแลเหลาอาหารแห่งเดีวของตระกูลจ้ง ทำให้ผู้ที่เคยแวะเวียนผ่านไปลิ้มลองอาหารเลิศรสของเหลาอาหารตระกูลจ้ง มักคุ้นเคยกับเสียงของมันดี
  “ดูเหมือนสหายหลาท่านจักจดจำเสียงของข้านายท่าน 4 ตระกูลจ้งผู้นี้ได้…ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และคงประเสริฐยิ่งหากทุกท่านไว้หน้าข้า วางมือจากโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง เพื่อให้ข้านำไปเป็นของขวัญให้ลูกชายคนเล็กของข้า!”
  เมื่อมีหลายๆคนจดจำเสียงของนาย 4 ตระกูลจ้งได้ เจ้าตัวก็ส่งเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวอีกครั้ง
  อย่างไรก็ตาม ด้วยคำพูดดักคอผู้อื่นดังกล่าวของมัน ทำให้โจวอวิ๋นที่อยู่บนเวทีประมูลขมวดคิ้วทันที “นาย 4 สกุลจ้ง เจ้าคิดท้าทายอำนาจตระกูลโจวเราหรือไร เจ้ากล่าวเช่นนั้นมิใช่คิดกดดันผู้อื่นไม่ให้เสนอราคาประมูลโต้งๆ นี่ขัดต่อกฏการประมูลของโรงประมูลตระกูลโจวเรา!”
  “หรือ…เจ้าอยากให้ทุกครั้งที่โรงประมูลตระกูลจ้งเจ้าจัดงาน ให้พวกเราไปกล่าวเช่นนี้บ้างดีหรือไม่?”
  เป็นธรรมดาที่โจวอวิ๋นไม่พอใจกับคำพูดดังกล่าวของนาย 4 ตระกูลจ้ง เพราะเมื่อมันพูดแบบนี้ออกมา คนที่กล้าเสนอราคาต่อก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน เช่นนั้นก็อาจเป็นการล่วงเกินตระกูลจ้งได้
  ต้องทราบว่าแขกที่เข้าร่วมการประมูล ก็ใช่ว่าจะมีฐานะและอำนาจมากพอจะงัดกับตระกูลจ้งได้ทุกคน
  ทว่าถึงจะเป็นคนทั่วไป ก็ไม่ขาดผู้ที่มีกำลังซื้อโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง
  แต่ผู้ที่มีกำลังซื้อเหล่านั้น เป็นธรรมดาวว่าไม่กล้าล่วงเกินตระกูลจ้ง!
  อยู่ๆมาโพล่งให้ผู้อื่นไว้หน้ากลางงานประมูล ยังจะมีใครอยากแข่งประมูลอีก น่าอึดอัดไหมเล่า?
  และไม่ต้องพูดถึงตระกูลจ้งทั้งตระกูล เอาแต่ตัวนาย 4 ตระกูลจ้งเองก็เป็นเทพขั้นสูง ที่เจียนบรรลุถึงราชาเทพเต็มที คนทั่วไปที่คิดประมูลโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่ง ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สู้มันได้
  “ฮ่าๆๆๆ…!”
  นาย 4 ตระกูลจ้งหัวเราะ “อาวุโสโจวอวิ๋นอย่าได้มีโทสะ ข้ามิได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฏการประมูลของตระกูลโจวท่าน…พอดีมีสหายไม่น้อยจดจำข้า นาย 4 ตระกูลจ้งได้ ข้าก็เลยแปลกใจจึงกล่าวคำออกไปโดยไม่รู้ตัว”
  พอกล่าวชี้แจงจบ นา 4 ตระกูลจ้งก็โพล่งออกมาเสียงดังสืบต่อ “สหายทุกท่าน ข้านาย 4 ตระกูลจ้งเพียงกล่าวไปโดยไม่ตั้งใจ…หากสหายท่านใดยังต้องการโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด ก็สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ ข้านาย 4 ตระกูลจ้งยินดีแข่งขันอย่างเป็นธรรม”
  อย่างไรก็ตามเสียงโพล่งของนาย 4 ตระกูลจ้งนั้น กลับเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีอำนาจขู่ขวัญผู้คนอยู่บ้าง
  ขอเพียงผู้ฟังไม่ได้มีปัญหากับการได้ยิน ย่อมได้ยินถึงการคุกคามชัดเจน
  พอนาย 4 ตระกูลจ้งกล่าวจบ มันก็ถามโจวอวิ๋นด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม “เช่นนี้อาวุโสโจวอวิ๋นพอใจแล้วหรือไม่?”
  “เจ้า…”
  ในขณะที่สีหน้าโจวอวิ๋นเปลี่ยนไป และดวงตาของนายเริ่มฉายแววเยียบเย็น พลันมีเสียงอ่อเยาว์หากแต่เต็มไปด้วยพลังหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวห้องอื่น “หินเทพ 7,000 ตำลึง”
  พอเสียงดังกล่าวดังขึ้นมา ชายวัยกลางคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็ชะงักค้างไปทันใด…ยังทุบโต๊ะเบื้องหน้าดัง ‘ปั้ง’ กล่าวสบถอย่างหัวเสียว่า “มารดามันเถอะ…ตัวบัดซบที่ไหน จึงไม่ไว้หน้าข้า!?”
  เป็นธรรมดาว่าเสียงสบถของนาย 4 ตระกูลจ้งไม่ได้ดังอะไรมากมาย เพียงได้ยินกันแต่ในห้องส่วนตัวของมันเท่านั้น
  แต่อย่างไรก็ตาม เสียงทุบโต๊ะดัง ‘ปั้ง’ ของมันนั้น กลับดังสนั่นเข้าหูทุกคนในโถงประมูลชัดเจน
  “นายท่าน 4 เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9”
  ด้านหลังนาย 4 ตระกูลจ้ง ชายชราคนหนึ่งพลันก้าวออกมา 2 ก้าว กล่าวคำขณะมองไปยังห้องส่วนตัวด้านนอก
  “ห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”
  สองตานาย 4 ตระกูลจ้งฉายแววเย็นชาเรืองวูบ “ห้องหมายเลข 9 นั่น…มิใช่คนของขุมกำลังระดับจอมราชันเทพกระมัง?”
  “มิใช่ ขุมกำลังระดับจอมราชันเทพอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5”
  ชายชรากล่าวออกอีกครั้ง
  “ประเสริฐ! ประเสริฐนัก…กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดแข่งกับข้า!”
  ยิ่งมาประกายในดวงตาของนาย 4 ตระกูลจ้งก็ยิ่งเยียบเย็น สุดท้ายหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง มันก็โพล่งออกมาอีกครั้ง “หินเทพ 8,000 ตำลึง”
  คราวนี้ถึงแม้นาย 4 ตระกูลจ้งจะไม่ได้กล่าวอะไรมากความ แต่น้ำเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันก็เย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน พาลให้ผู้คนในโถงรวมที่ได้ยยินรู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง
  “ดูเหมือนนายท่าน 4 จะมีโมโหแล้วจริงๆ”
  “ไม่ทราบผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นผู้ใดกันแน่…แม้วันนี้นายท่าน 4 แซ่จ้งจะได้โอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งไป แต่ทว่าต้องจ่ายหินเทพ 8,000 ตำลึงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงไม่คิดปล่อยมันไปง่ายๆแน่!”
  “ไม่รู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่านั่นเป็นนาย 4 ตระกูลจ้ง แต่มันยังกล้าเพิ่มราคาอีก”
  …
  ผู้คนในโถงรวมเริ่มซุบซิบคุยกันอย่างออกรส
  ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 สมควรรู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควรและเลิกเพิ่มราคา อ่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการเพิ่มราคาเมื่อครู่ก็ทำให้นาย 4 ตระกูลจ้งหัวเสียไม่น้อย และมีแนวโน้มว่าหากยังกล้าเพิ่มราคาอีกครั้ง นาย 4 ตระกูลจ้งก็ไม่บ้าจี้เพิ่มราคาตามแล้ว
  หินเทพ 8,000 ตำลึง!
  สำหรับโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด นับว่าแพงหูฉี่!
  ไม่แพงธรรมดา แต่แพงโคตร!
  และในขณะที่ทุกคนหันไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ก็บังเกิดเสียงดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อีกครั้ง “หินเทพ 10,000 ตำลึง”
  ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มองผ่านหน้าต่างไปยังขวดโอสถในมือโจวอวิ๋นบนเวทีประมูลด้วยความสนใจ กล่าวเสนอราคาออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ไม่ได้แยแสภัยคุกคามในน้ำเสียงของนาย 4 ตระกูลจ้งเลย