พอหานลี่กังกล่าวจบ มันก็นิ่งไปพักหนึ่งค่อยพูดต่อว่า “หินเทพ 20,000 ตำลึง!”
  อย่างไรก็ตามเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันช่างเย็นชานัก เห็นได้ชัดวว่าจงใจข่มขู่ต้วนเฉียวอวี่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9
  ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ต้วนหลิงเทียนที่ได้ยินคำพูดของหานลี่กังก็หัวเราะคิกคัก “ตาแก่น่าตายนั่นกล้าข่มขู่ท่านย่าหรือ!?”
  “หินเทพ 100,000 ตำลึง!!”
  ต้วนเฉียวอวี่เพิ่มราคาอีกครั้ง และราคาที่นางเสนอมารอบนี้ก็คือหินเทพ 100,000 ตำลึง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากราคาเริ่มต้นของเคล็ดเทพ 6 เงาที่ทางตระกูลโจวกำหนดไว้แต่แรกเลย
  “เอาอย่างไรกันดี?”
  พอเห็นอีกฝ่ายไม่แยแสคำขู่ของมัน แถมยังกล้าเพิ่มราคาเป็นหินเทพ 100,000 ตำลึง สีหน้าหานลี่กังก็เปลี่ยนไปทันที มันเร่งติดต่อไปยังขุมกำลังระดับจอมราชันเทพอีก 4 ขุมกำลังทันที “เมื่อครู่พวกเราตกลงกันว่วา พวกเราจะไม่จ่ายหินเทพแม้แต่ก้อนเดียวให้ตระกูลโจว และบีบให้ตระกูลโจวมองเคล็ดวิชานั่นมาให้ใครคนหนึ่งในบรรดาพวกเรา…”
  “แต่ตอนนี้อยู่ๆก็มีเด็กน้อยที่ไหนไม่ทราบ โผล่มาประมูลเคล็ดเทพ 6 เงา ทำพวกเราเสียแผน…”
  “หรือพวกเราจักปล่อยให้นางประมูลได้ไป แล้วพวกเราค่อยไปแย่งชิงเคล็ดเทพ 6 เงามาจากนางดี?”
  หานลี่กังเสนอความเห็นส่วนตัวออกไป
  “เจ้าคิดว่านางจะไม่รู้หรือว่าที่ไม่มีการเสนอราคาเคล็ดเทพ 6 เงาก่อนหน้า เป็นเพราะพวกเราลอบตกลงกันลับหลัง? ในเมื่อนางกล้าเสนอราคาออกมา ไม่พ้นนางต้องมั่นใจตัวเองในระดับหนึ่ง”
  รองประมุขนิกายหมอกเร้นลับ ทั้งยยังดำรงตำแหน่งคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิงกล่าว
  “แล้วเจ้าจะให้ทำอย่างไร…ประมูลแข่งกับนาง?”
  หานลี่กังขมวดคิ้ว พลางถาม
  “ข้าคิดว่าที่คณบดีมู่หรงกล่าวก็มีเหตุผล…ในเมื่อเด็กหญิงตัวน้อยนั่นกล้าประมูล เช่นนั้นหมายความว่านางสมควรมั่นใจในระดับหนึ่ง เจ้าก็ลองประมูลแข่งกับนางดูเถอะ”
  “ลองเพิ่มราคาดู…ไม่ว่าราคาปิดประมูลจักเป็นเท่าไหร่ อย่างดีพวกเรา 5 ขุมกำลังก็แค่ช่วยกันออก จากนั้นก็แบ่งปันเคล็ดเทพ 6 เงากันตามข้อตกลงก่อนหน้า”
  …
  คนของขุมกำลังที่เหลือก็ทยอยกันแสดงท่าที
  เห็นได้ชัดว่าความคิดของพวกมันก็เป็นทำนองเดียวกับหานลี่กัง
  “หากเด็กหญิงตัวน้อยนั่นแสร้งทำเป็นลึกลับ แต่มิได้มีความเป็นมาใหญ่โตอันใดเล่า?”
  หานลี่กังเอ่ยถาม
  “หลังจบประมูล ก็ลองทดสอบนาง”
  หนึ่งในนั้นกล่าว
  หานลี่กังนิ่งไปสักพัก ก็ไม่พูดอะไรต่อ
  หลังทดสอบแล้วหากพบว่านางมีความเป็นมายิ่งใหญ่จริงก็ไม่นับเป็นอะไร…แต่ถ้าพบว่านางเสแสร้งทำลึกลับ อย่าว่าแต่นิกายหมื่นปีศาจเบื้องหลังมันเลย กระทั่งอีก 4 ขุมกำลังที่เหลือก็ไม่มีทางปล่อยนางไปแน่
  “เฒ่าหาน เจ้าเป็นตัวแทนของพวกเราเพิ่มราคาแข่งกับนางเถอะ…ไม่ว่าจะอย่างไรก็ชนะประมูลให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน”
  คนของขุมกังระดับจอมราชันเทพคนหนึ่งกล่าว
  คนของขุมกำลังระดับจอมราชันเทพอีก 2 ขุมกำลังก็เห็นพ้องต้องกัน ถึงแม้มู่หรงสุยเฟิงจะไม่ได้กล่าวความเห็นเพิ่มเติม แต่การไม่ปฏิเสธ ก็บอกชัดว่าเห็นด้วย
  “ย่อมได้ ข้าจักเล่นกับเด็กน้อยสักครา”
  หลังหานลี่กังตอบกลับ สองตามันก็ทอประกายเยียบเย็น เอ่ยเพิ่มราคาออกมาว่า “หินเทพ 110,000 ตำลึง!”
  ทันใดนั้นโถงประมูลก็เงียบลงทันที
  เมื่อครู่ตอนที่คนในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เพิ่มราคาเป็นหินเทพ 100,000 ก้อน พวกมันยังอึ้งไม่หาย
  ขณะเดียวกัน พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะงุนงง
  ในเมื่อกล้าเพิ่มราคาเป็นหินเทพ 100,000 ก้อน เช่นนั้นไฉนไม่กล่าวประมูลออกมาแต่แรก?
  “คนในห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”
  ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 นายท่าน 4 ตระกูลจ้งอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ที่แท้พวกมันเป็นใครมาจากไหนกันแน่? กล้าดีอย่างไรถึงมาสู้กับขุมกังระดับจอมราชันเทพ? พวกมันไม่กลัวตายหรือไร?”
  “นายท่าน 4 บางทีอาจเป็นพวกเราดูเบาพวกมันเกินไป…”
  ชาชราที่ยืนด้านหลังนายท่าน 4 ตระกูลจ้ง คลี่ยิ้มแห้งๆ
  “ก็ไม่แน่นักหรอก…เผลอๆพวกมันอาจเป็น หน้าม้า ที่ตระกูลโจวส่งมาก็เป็นได้!”
  นายท่าน 4 ตระกูลจ้ง กล่าว
  “ตระกูลโจวจักมีความกล้าถึงเพียงนั้นเชียว?”
  ชายชราตกใจ “หากพวกมันเป็นหน้าม้าจริง…ตระกูลโจวไม่กลัวขุมกำลังระดับจอมราชันเทพเหล่านั้นสืบจนรู้แล้วมาคิดบัญชีเอาหรือ?”
  “ในเมื่อตระกูลโจวให้พวกมันเป็นหน้าม้า…เห็นชัดว่าต้องเป็นพวกเดนตายของตระกูลโจว หรือเป็นพวกที่ต่อให้ตายก็ไม่หักหลังตระกูลโจว”
  นายท่าน 4 ตระกูลจ้งกล่าว “ตอนนี้ผู้ที่ตระกูลโจวจักเชื่อใจให้เป็นหน้าม้าได้ก็มีแต่ผู้ที่พร้อมใจตายเท่านั้น…แน่นอนว่าพวกที่เต็มใจตายเช่นนี้…ไม่พ้นตระกูลโจวต้องมีครอบครัวหรือตระกูลพวกมันอยู่ในกำมือ! ไม่แน่ก็อาจเป็นพวกเดนตายที่เพาะสร้างมาโดยเฉพาะ!!”
  แน่นอนว่าทั้งหมดนายท่าน 4 ตระกูลจ้งก็แค่คาดเดาไปเองเท่านั้น
  ส่วนความจริงจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ มันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
  “หินเทพ 1,000,000 ตำลึง”
  พอเสียงเด็กหญิงที่ฟังแล้วยังไม่น่าจะบรรลุนิติภาวะดังขึ้นอีกครั้ง โถงประมูลที่เดิมทีก็แทบไม่มีใครคุยกันอยู่แล้ว ก็กลายเป็นเงียบงันราวคนตาย!
  ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ต้วนหลิงเทียนที่นั่งข้างๆก็อดตกใจกับราคาที่ต้วนเฉียวอวี่กล่าวออกไปไม่ได้
  หินเทพ 1,000,000 ตำลึง!?
  ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาก็เหลือหินเทพอยู่แค่ 180,000 ตำลึงเท่านั้น กล่าวได้ว่าไม่ถึง 2 ใน 10 ส่วนของหินเทพล้านตำลึงด้วยซ้ำ!
  เด็กน้อยนี่มีหินเทพมากมายขนาดนี้เชียว?!
  อย่างไรก็ตาม พอคิดดูอีกทีเขาก็พอเข้าใจได้ อย่างไรเสียเด็กหญิงคนนี้กับสตรีนางนั้น ก็น่าจะเป็นตัวตนที่อยู่เหนือราชาเทพ จึงไม่น่าแปลกใจอะไร
  อีกทั้งดูท่าแล้วความเป็นมาของพวกนางก็ไม่น่าจะธรรมดา เป็นปกติที่จะมีหินเทพในมือหลักล้าน
  อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนเข้าใจได้ ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะเข้าใจได้เหมือนเขา…
  ภายในโถงประมูลตระกูลโจว อาวุโสตระกูลโจว โจวอวิ๋น ที่ยืนอยู่บนเวทีประมูลและทำหน้าที่เป็นพิธีกรการประมูลวันนี้ คนก็แลดูอื้ออึงเฉื่อยชาไปแล้ว…ตั้งแต่ที่ได้ยินคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เพิ่มราคาเป็นหินเทพ 100,000 ตำลึง นางยังหลงคิดไปว่าใช่ตระกูลโจวของนางไปจ้างหน้าม้าที่ไหนโดยไม่บอกนางรึเปล่า…
  แต่พอได้ยินการเสนอราคาครั้งที่ 3 ของอีกฝ่าย นางก็ปัดความคิดดังกล่าวไปจากหัวทันที
  หน้าม้าที่ไหน จะหาญกล้าเพิ่มราคาสูงขนาดนี้ได้!?
  ราคาดังกล่าว มันแทบจะแตะถึงราคาเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพตามปกติแล้ว!
  ในเมืองวายุสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ราคาประมูลขนาดนี้…
  ถึงแม้ตระกูลโจวจะนำเคล็ดวิชาออกไปขายด้านนอกได้อยู่ แต่นั่นก็สุ่มเสี่ยงยิ่งนัก เพราะด้านนอกยังมีขุมกำลังที่เหนือกว่าตระกูลโจวมากมาย ไม่ต้องกล่าวถึงขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพด้วยซ้ำ เอาแค่ขุมกำลังระดับจอมราชันเทพด้านนอก ก็แข็งแกร่งกว่าขุมกำลังระดับจอมราชันเทพแถวนี้มากโข…!
  ขุมกำลังระดับจอมราชันเทพในละแวกเมืองวายุสวรรค์ นับเป็นขุมกำลังระดับจอมราชันเทพดาษๆเท่านั้น
  “หินเทพ 1,000,000 ตำลึง?!”
  ภายในโถงรวม บังเกิดเสียงสูดลมหายใจเข้าดังฟืดดังขึ้นระงม
  นายท่าน 4 ตระกูลจ้งในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ก็ถึงกับลุกขึ้นยืนพรวด สีหน้าฉายชัดถึงความเคร่งเครียด ลูกตาเผยความหวาดกลัว
  ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าเพิ่มราคาเป็นหินเทพ 1,000,000 ตำลึงออกกมา เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางเป็นหน้าม้าของตระกูลโจวแน่ๆ!
  “ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสแก้แค้นไอ้หนุ่มบัดซบนั่นเสียแล้ว…”
  พอนึกถึงชายหนุ่มที่ประมูลแย่งโอสถเทพเจี๋ยอี๋ปิ่งไปจากมือของมัน นายท่าน 4 ตระกูลจ้งก็ได้แต่ลอบทอดถอนในใจ
  หากคนของมันมองไม่ผิด ดูเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยที่กล่าวประมูลอยู่ตอนนี้จะเป็นน้องสาวของชายหนุ่มผู้นั้น เพราะอีกฝ่ายแลดูใกล้ชิดสนิทสนมกันนัก
  คนแบบนี้ ไม่ใช่ใครที่มันจะตอแยด้วยได้…
  ห้องส่วนตัวอื่นๆ ก็พากันเงียบกริบ
  พอพวกมันกับมารู้สึกตัว พวกมันย่อมตะลึงเป็นธรรมดา ขณะเดียวกันพวกมันก็อยากรู้นัก ว่าที่แท้คนในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นใครมาจากไหนกันแน่!
  เป็นไปได้หรือไม่…ที่อีกฝ่ายจะมาจากขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพ!?
  “มารดามันสะใจข้านัก!”
  ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 12 ที่มีคนของพันธมิตรดาบโลหิตอยู่ ชายวัยกางคนหน้าบาก หัวหน้าพันธมิตรดาบโลหิตถึงกับตบหน้าขาดังฉาด โพล่งคำออกมาเบาๆด้วยความสะใจ “ไอ้พวกขุมกำลังจอมราชันเทพบัดซบนั่น ข้าหลงคิดว่าพวกมันจักปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ตลอดเสียอีก!”
  “ยิ่งใหญ่นัก ข่มขู่ผู้อื่นเก่งนัก เจอของจริงเข้าหน่อยเป็นไรเล่า!!”
  ตอนนี้ไม่เพียงแต่คนของพันธมิตรดาบโลหิตเท่านั้นที่สะใจ กระทั่งคนของกองกำลังระดับราชาเทพในโถงประมูล ก็ลอบกล่าวกันเสียงเบาด้วยความสะใจ เพราะพวกมันเองก็ถูกข่มขู่เหมือนคนพันธมิตรดาบโลหิตเช่นกัน
  “ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นยอดคนจากที่ใดกันแน่? รายการประมูลชิ้นแรกก็เป็นคของห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ชนะประมูลได้ไป…ก่อนหน้าพวกเรายังคุยกันอยู่เลยว่าไม่กลัวนายท่าน 4 ตระกูลจ้งลางแค้นหรือไร”
  “ข้าคิดว่าเป็นพวกเราดูเบาผู้อื่นเกินไปแล้วจริงๆ…สามารถนำหินเทพออกมาได้ล้านก้อน แถมไม่มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวขุมกำลังระดับจอมราชันเทพละแวกเมืองวายุสวรรค์เราเลยเช่นนี้ ยังต้องกลัวอะไรกับอีแค่นายท่าน 4 ตระกูลจ้งนั่นเล่า?”
  “ข้าว่าตอนนี้นายท่าน 4 ตระกูลจ้งหวาดกลัวจนขี้หดตดหายแล้วกระมัง?”
  “มาดูเถอะ ว่าการแข่งขันระหว่างคนในห้อส่วนตัวหมายเลข 9 กับคนของขุมกำลังจอมราชันเทพจักเป็นผู้ใดมีชัยกันแน่!”
  …
  ผู้คนภายในโถงประมูลตระกูลโจววันนี้ เดิมทีพอเห็นว่าตระกูลโจวจำต้องลดราคาเปิดประมูลเคล็ดเทพ 6 เงาจากหินเทพ 100,000 ตำลึงเหลือหินเทพ 10,000 ตำลึง พวกมันก็พากันคิดว่าบรรยากาศคงต้องซบเซาและจบลงด้วยการไม่มีใครกล้าเสนอราคาแล้วเสียอีก..
  ไม่คิดเลยว่าจะมีคนกล้าออกมาประมูล!
  พวกมันจึงได้ชมเรื่องบันเทิงแล้ว!
  ขณะเดียวกัน ทางด้านห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5 ก็ยังคงเงียบ
  หลังจากผ่านไปสักพัก หานลี่กัง อาวุโสลำดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ ก็ได้ติดต่อไปถามคนของขุมกำลังระดับจอมราชันเทพอีก 4 ขุมว่า “ข้าควรทำอย่างไรต่อดี จักยอมแพ้หรือไปต่อ?”
  “ไปต่อ!”
  คราวนี้ไม่ทันที่คนของ 3 ขุมกำลังระดับจอมราชันเทพจะทันได้พูดอะไร ก็เป็นมู่หรงสุยเฟิง จากนิกายหมอกเร้นลับพูดขึ้นมาก่อนใคร “ประมูลเคล็ดวิชามาให้ได้ก่อน…หลังจากจบประมูลแล้ว ข้าอยากรู้นักว่าพวกมันเป็นใครกันแน่!”
  พอมู่หรงสุยเฟิงกล่าวจบคำ คนอีก 3 ขุมกำลังก็เห็นด้วยทันที “ต่อเถอะ แล้วพวกเรามารอดูกัน!”
  น้ำเสียงของพวกมันเริ่มกลายเป็นดุร้ายเอาเรื่องนัก
  “เพิ่มราคาเป็นหินเทพ 1,100,000 ตำลึงเสีย…”
  หานลี่กังที่เดิมทีคิดจะเพิ่มราคาใหม่เป็นหินเทพ 1,010,000 ตำลึง ไม่ทันพูดอะไร เสียงผ่านพลังของมู่หรงสุยเฟิงก็ดังขึ้นในหูเสียก่อน “เจ้าเป็นดั่งตัวแทนขุมกำลังทั้ง 5 ของพวกเราแล้ว อย่าได้ตระหนี่เกินไป”
  หานลี่กังก็เลยเปลี่ยนคำที่จะพูดทันที
  “หินเทพ 1,100,000 ตำลึง!”
  ทันใดนั้น บรรยากาศในโถงประมูลก็เดือดพล่านทันที
  บางคนตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ “ได้เป็นสักขีพยานในงานประมูลที่แข่งกันเสนอราคาระดับนี้ ข้านับว่าโชคดียิ่งนัก เกิดมาไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”
  ในขณะที่ผู้คนทั้งหลายกำลังคิดว่า ห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ต้องเพิ่มราคาสู้แน่
  ทันใดนั้นเสียงหัวเราะหนึ่งพลันดังขึ้น
  ยังเป็นเสียงหัวเราะอันขี้เล่นที่เจื้อยแจ้วปานระฆังแก้ว “ฮิฮิ ตาแก่ หากเจ้าเสนอราคาอย่างตรงไปตรงมาแต่แรกก็จบเรื่องแล้ว อย่างน้อยๆเจ้าก็สามารถประหยัดหินเทพได้นับล้านตำลึง”
  “อ้อ…ข้าลืมบอกเจ้าไป ว่าข้าเสนอราคาเล่นๆเท่านั้น”
  “กับอีแค่เคล็ดวิชาระดับจอมราชันเทพ ไม่อยู่ในสายตาข้าหรอก”
  “เอาล่ะ ข้าไม่ประมูลแข่งกับเจ้าแล้ว เจ้าเอาไปเถอะ…”