“ทำความเข้าใจกฏแห่งชีวิตกับกฏแห่งไม้รึ?”
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน หลิงหูเหรินเจี๋ยก็อดถามต่อไม่ได้ “ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดจะศึกษาการหลอมโอสถเทพเช่นนั้นหรือ?”
“แต่การหลอมโอสถเทพ จำต้องมีรากฐานอันแน่นหนา”
“นอกจากนี้ต่อให้เจ้าจะปูพื้นฐานจนแน่นหนาแล้ว ก็ยังต้องพิจารณาอะไรๆอีกหลายแง่มุม”
“หากเจ้าต้องการโอสถเทพอันใดเพียงบอกข้ามาเถอะ ข้าจักหาให้ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การหลอมโอสถเทพด้วยตัวเองหรอก…หากมีเวลา นำไปใช้บ่มเพาะพลังย่อมดีกว่า”
หลิงหูเหรินเจี๋ยกล่าวแนะนำ
ได้ยินคำโน้มน้าวใจของหลิงหูเหรินเจี๋ย ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ระบายลมหายใจออกมา “ผู้นำหลิงการบ่มเพาะฝึกฝนของข้าถึงจุดตีบตันแล้ว ข้าจำต้องพักผ่อน หากไม่หยุดต่อให้บ่มเพาะฝึกฝนต่อ…มันก็มีแต่จะกลายเป็นความหมกมุ่นจนส่งผลร้าย ข้าจำต้องหาอย่างอื่นทำเพื่อเปลี่ยนความสนใจ”
“เมื่อคิดดีแล้ว เช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ”
หลิงหูเหรินเจี๋ยกล่าว “ข้าจะบอกให้หวางฟู่พ่อบ้านของเจ้ามารับป้ายจากข้าเพื่อเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏก่อน จากนั้นค่อยให้หวางฟู่พาเจ้าไป”
หวางฟู่ก็คือพ่อบ้านที่ทำงานในบ้านของต้วนหลิงเทียน และเป็นพ่อบ้านส่วนตัวของต้วนหลิงเทียน
“ขอบคุณผู้นำหลิง”
ต้วนหลิงเทียนเร่งกล่าวขอบคุณทันที
และไม่ว่าจะหลิงหูเหรินเจี๋ยหรือหวางฟู่ ก็ทำงานไวมาก
ราวๆหนึ่งเค่อต่อมา ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงเรียกของหวางฟู่จากด้านนอก “นายน้อย ข้าได้รับป้ายอนุญาตเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏจากนายท่านมาแล้ว ท่านคิดจะไปเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏเมื่อใด สามารถเรียกข้าได้ทุกเมื่อ”
“ไปกันตอนนี้เลย”
แทบจะพร้อมกันกับที่หวางฟู่กล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็ผลักประตูออกมาแล้ว เพราะตอนนี้เขากระตือรือร้นที่จะทำความเข้าใจกฏแห่งไม้กับกฏแห่งชีวิตนัก
และเป้าหมายของเขาก็คือการทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไม้กับกฏแห่งชีวิตจนบรรลุความสำเร็จยิ่งใหญ่ให้ครบทุกประการเท่านั้น ส่วนเรื่องการผสานรวมความลึกซึ้งเขาไม่สนใจ
อย่างน้อยๆก็ยังไม่สนใจในตอนนี้
เพราะตอนนี้กฏที่เขาเก่งที่สุดก็คือกฏมิติ และเขาก็ใช้มันต่อสู้กับศัตรูเป็นหลัก กฏอื่นๆเขาไม่รีบร้อน
“เชิญนายน้อยตามข้ามา”
ภายใต้การนำทางของหวางฟู่ ต้วนหลิงเทียนก็เดินผ่านอาคารต่างๆในจวนตระกูลหลิงหู จนในที่สุดก็มาถึงพื้นที่เปิดโล่งแห่งหนึ่งของตระกูลหลิงหู
ในพื้นที่เปิดโล่งแห่งนี้ มองผ่านก็เห็นกลุ่มคนยืนรวมกลุ่มกันกลุ่มละ 3-5 คน และต่างพากันหันมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง
“นายน้อย ที่นี่คือสถานที่ตั้งห้องลับแห่งกฏของตระกูลหลิงหูเรา…และห้องลับแห่งกฏก็อยู่ใต้ดิน”
พอต้วนหลิงเทียนถูกหวางฟู่พามาถึง คนสองสามคนที่อยู่แถวๆนี้ก็เดินเข้ามาขวางทันที และพอเห็นหวางฟู่นำป้ายออกมา พวกมันจึงปล่อยให้ผ่าน
หลังจากแสดงป้ายอยู่ 2-3 รอบ หวางฟู่ก็พาต้วนหลิงเทียนมาถึงด้านหลังแท่นศิลาหนึ่งในลาน
และที่นี่ก็มีบันไดนำลงไปสู่ชั้นใต้ดิน
ขณะติดตามหวางฟู่ลงบันไดมา ผนังทั้ง 2 ข้างของบันไดก็ปรากฏลวดลายอักขระซับซ้อนที่เปล่งแสงสว่างเรืองๆ ดูเหมือนจะเป็นลวดลายอาคมบางอย่างที่ถูกจารึกเอาไว้
กระทั่งตัวบันไดเองก็มีลวดลายซับซ้อนดังกล่าว
ต้วนหลิงเทียนไม่ต้องแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบดูก็รู้ ว่าช่องทางนี้เต็มไปด้วยค่ายกลและข่ายอาคมมากมาย
แถมดูเหมือนค่ายกลกับข่ายอาคมดังกล่าวจะเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา
หลังจากเดินลงมาสุดบันไดแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็พบเห็นช่องทางเดินยาวไปเบื้องหน้าสายหนึ่ง และทั้ง 2 ข้างทางก็ปรากฏห้องเล็กๆหลายห้อง
ถึงจะบอกว่าห้องเล็กๆ แต่มันก็มีพื้นที่หลายร้อยตารางหมี่
“อาวุโส”
หวางฟู่ที่เดินนำอยู่ พอเห็นชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหา มันก็ยื่นป้ายให้ไปทันที
ชายชรานำป้ายมาตรวจสอบดูเล็กน้อย จากนั้นก็แผ่สำนึกเทวะลงไป และทันใดนั้นเอง เงาร่างปานภูตผีหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาทันตาเห็น เป็นหลิงหูเหรินเจี๋ยเอง
“ผู้นำตระกูล”
ชายชรากล่าวทักทายหลิงหูเหรินเจี๋ยทันที
“โอ้ อาวุโส 4 วันนี้เป็นท่านมาทำงานที่นี่รึ”
ร่างมายาของหลิงหูเหรินเจี๋ยคลี่ยิ้มบางๆ
“ใช่”
ชายชรากล่าวตอบ และตัวตนของมันก็ถูกคำพูดของหลิงหูเหรินเจี๋ยเปิดเผยเรียบร้อย อาวุโส 4 ของตระกูลหลิงหู
ในตระกูลหลิงหูเอง ก็มีแบ่งออกเป็นภายนอกกับภายใน
อาวุโสภายนอกของตระกูลหลิงหูก็เทียบได้กับอาวุโสฝ่ายนอกของนิกายหมอกเร้นลับ
ส่วนอาวุโสภายในของตระกูลหลิงหู ก็ไม่ต่างอะไรจากอาวุโสฝ่ายในของนิกายหมอกเร้นลับ
อาวุโสหลัก กับอาวุโสสูงสุดก็ทำนองเดียวกัน
และในฐานะอาวุโส 4 ของตระกูลหลิงหู กล่าวได้ว่าชายชราคนนี้ก็เป็น ในอาวุโสหลักของตระกูลหลิงหูเช่นนั้น เป็นชนชั้นยอดฝีมือขอบเขตราชาเทพขั้นสูงของตระกูลหลิงหู
“ต้วนหลิงเทียนต้องการเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏ และจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ตามใจ อย่าได้เร่งผู้อื่นเขาเล่า”
หลิงหูเหรินเจี๋ยกล่าวกับชายชรา
พอกล่าวจบคำ ร่างมายาที่ถูกฉายขึ้นของหลิงหูเหรินเจี๋ยก็หายไป และแสงสว่างของตัวป้ายเองก็ค่อยๆดับลงจนหมด
“ต้วนหลิงเทียน?”
ชายชราหันไปมองต้วนหลิงเทียนทันที
ด้านต้วนหลิงเทียนเองที่ถูกร่างมายาของหลิงหูเหรินเจี๋ยดึงดูดความสนใจอยู่ พอได้ยินเสียงชายชราจึงค่อยฟื้นสติ
“ต้วนหลิงเทียน ข้าคืออาวุโส 4 ของตระกูลหลิงหู หลิงหูหัว”
ชายชรามองสำรวจต้วนหลิงเทียนครู่หนึ่ง ใบหน้าก็คลี่ยิ้มสดใสออกมา “ข้าได้ยินชื่อเสียงเจ้ามานานแล้ว อายุไม่ทันถึง 3,000 ปีกลับบรรลุถึงราชาเทพขั้นต่ำ อีกทั้งยังฆ่าศิษย์หลัก 2 คนของนิกายหมอกเร้นลับได้ง่ายดาย แม้ศิษย์หลักทั้ง 2 จะเป็นแค่ราชาเทพขั้นกลาง แต่พลังฝีมือของพวกมันก็เหนือกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วๆไป”
พอหลิงหูหัวเปิดปากกล่าวคำ ก็เล่าเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าซั่งกวนฉงเฟิงกับหลงเซียวศิษย์หลักของนิกายหมอกเร้นลับออกมา เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวดังกล่าวได้แพร่ออกมาแล้ว
“อาวุโส 4 กล่าวชมข้าเกินไป ข้าก็แค่โชคดีเท่านั้น”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มตอบ
“ต้วนหลิงเทียน ต่อหน้าข้าเจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวหรอก”
หลิงหูหัวกล่าวด้วยรอยยิ้มต่อว่า “พูดถึงเรื่องนี้ ข้าเองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้นำตระกูล อาจมีหลายอย่างที่คนอื่นไม่รู้แต่ข้าย่อมรู้กระจ่าง”
“อย่างไรก็ตาม มีเรื่องหนึ่งที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลย ว่าการเข้าร่วมตระกูลหลิงหูของพวกเรา นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าแน่นอน”
“เพราะสิ่งใดที่นิกายหมอกเร้นลับมอบให้เจ้าได้ ตระกูลหลิงหูของพวกเราก็มอบให้เจ้าได้ ส่วนอะไรที่นิกายหมอกเร้นลับมอบให้เจ้าไม่ได้ ไม่แน่ตระกูลหลิงหูของพวกเราอาจมอบให้เจ้าได้”
หลิงหูหัวกล่าวด้วยความภูมิใจ “ดูอย่างห้องลับแห่งกฏนี้เถอะ…นอกจากเจ้าแล้วไม่มีผู้ใดเลยสักคน เพราะปกติแล้วไม่ค่อยมีผู้คนมาเข้าใช้บ่อยนัก”
“ห้องลับแห่งกฏนั้น ทุกครั้งที่เข้าใช้มันก็จะกินหินเทพในสายแร่ตระกูลหลิงหูของพวกเราเป็นจำนวนมาก”
“สำหรับรุ่นเยาว์ของตระกูลหลิงหูเรา ไม่ว่าผู้ใดจำต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือผ่านการทดสอบบางอย่างก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เข้าใช้ อีกทั้งเวลาที่จะเข้าใช้ได้ยังมีจำกัดอีกด้วย”
“แต่สำหรับเจ้า ต้วนหลิงเทียน…ท่านผู้นำตระกูลได้บอกข้าไว้แล้ว ว่าเจ้าสามารถเข้าใช้มันได้ตามใจ และจักเข้าใช้นานเท่าไหร่ก็ได้”
กล่าวถึงท้ายประโยค ดวงตาของหลิงหูหัวก็ฉายแววซับซ้อนไม่น้อย
จนถึงตอนนี้ พอมันถึงคำพูดของหลิงหูเหรินเจี๋ยมันยังตกใจทั้งเหลือเชื่อไม่หาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้รับคำสั่งดังกล่าวจากผู้นำตระกูล
“ข้าทราบแล้ว ต้องขอบคุณผู้นำตระกูลหลิงหูมาก”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับอย่างจริงจัง หลิงหูเหรินเจี๋ยดูแลเขาดีแบบนี้ วันหน้าเขาต้องตอบแทนอีกฝ่ายอย่างงามแน่
“ไปเถอะ เลือกห้องลับแห่งกฏที่เจ้าต้องการได้ตามใจ แม้จะไม่มีป้ายบอกว่าเป็นห้องลับแห่งกฏของกฏใด แต่ขอเพียงเจ้าใช้สำนึกเทวะตรวจสอบก็จะทราบได้ไม่ยาก”
พอหลิงหูหัวกล่าวจบ ต้วนหลิงเทียนที่แผ่สำนึกเทวะไปตรวจสอบดู ก็พบห้องลับแห่งกฏชีวิตได้ไม่ยาก
เขาคิดจะทำความเข้าใจกฏแห่งชีวิตจนความลึกซึ้งบรรลุถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ทุกประการก่อน จากนั้นค่อยเปลี่ยนไปใช้ห้องลับกฏแห่งไม้
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนหายเข้าไปในห้องลับแห่งกฏแล้ว หวางฟู่ก็หันหลังจากไปทันที ห้องลับแห่งกฏนั้นเป็นดั่งขุมพลังหลักของตระกูลหลิงหู ตัวมันเองก็ไม่มีสิทธิ์อยู่ในนี้นานนัก
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้วนหลิงเทียนเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏ เช่นนั้นทุกอย่างก็เลยคุ้นชินไม่น้อย
ครั้งแรกที่เขาใช้ห้องลับแห่งกฏที่วิหารเฟิงฮ่าวในระนาบเทวโลกนั้น เขาก็ใช้เวลาทั้งสิ้น 3 เดือนจนเข้าใจความลึกซึ้งทุกประการของกฏแห่งไฟ และกฏแห่งดินถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่
แต่เป็นธรรมดาว่าเดิมทีเขาก็มีพื้นฐานของกฏทั้ง 2 อยู่ก่อนแล้ว
และคราวนี้กฏที่เขากำลังจะทำความเข้าใจ ก็คือกฏที่เขาไม่เคยใช้เวลาทำความเข้าใจมันเลย
เช่นนั้นจึงใช้เวลาทั้งสิ้น 4 เดือน กว่าที่ต้วนหลิงเทียนจะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งชีวิตกับกฏแห่งไม้ถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ครบทุกประการ
กล่าวได้ว่า เขาบรรลุวัตถุประสงค์การมาครั้งนี้แล้ว
“อาวุโส 4”
หลังต้วนหลิงเทียนเดินออกมาจากห้องลับแห่งกฏไม้ เขาก็พบว่าอาวุโสที่ทำหน้าที่เฝ้าควบคุมดูแลที่นี่ ยังคงเป็นอาวุโส 4 คนเดิม “ห้องลับแห่งกฏที่นี่ มันไม่มีห้องลับแห่งกฏเวลาหรือ?”
ตอนแรก ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏชีวิต เขาก็สัมผัสได้แต่แรกว่าห้องลับแห่งกฏที่นี่มีห้องลับแห่งกฏอะไรบ้าง
นอกจากฏทั่วไปทั้ง 5 แล้ว ก็มีกฏแห่งลม กฏน้ำแข็ง แล้วก็กฏสายฟ้า
นอกจากนั้นก็มีกฏทำลายล้าง กฏแห่งแสง และกฏทำลายล้างเช่นกัน
ส่วน 4 กฏสูงสุดนั้น นอกจากกฏแห่งเวลาแล้ว อีก 3 กฏอย่างากฏมิติ กฏแห่งความตาย และกฏแห่งชีวิตก็มีครบหมด
มีก็แต่กฏแห่งเวลาเท่านั้น ที่ไม่มี
เดิมทีเขาก็คิดว่าอาจไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียดพอ เพราะรีบเข้าไปใช้ห้องลับแห่งกฏชีวิตที่ต้องการ
จนกระทั่งเขาออกจากห้องลับแห่งกฏชีวิต และไปใช้ห้องลับแห่งกฏไม้ เขาก็ลองตรวจสอบดูอย่างละเอียด จึงพบว่ามันไม่มีห้องลับแห่งกฏเวลา
ตอนนี้พอออกมาจากห้องลับกฏแห่งไม้ และพบเจออาวุโส 4 ก็เลยอดถามออกไปไม่ได้
ก่อนที่จะมาเข้าใช้ห้องลับแห่งกฏของตระกูลหลิงหู ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้คิดถึงกฏเวลาเลย
หลังจากมาถึงที่นี่ เขาก็เลยคิดว่าไหนๆก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏเวลาถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ครบทุกประการจากห้องลับแห่งกฏที่ถูกสร้างทิ้งไว้โดยผู้แข็งแกร่งที่สุดที่อาจารย์เขาพบเจอแล้ว ก็ลยอยากจะเข้าใช้มันเพื่อทำความเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏเวลา 2 ประการสักหลายๆชุดดู
อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่พบเจอห้องลับแห่งกฏเวลาที่อยากเข้าใช้
“ต้วนหลิงเทียน”
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน อาวุโส 4 ของตระกูลหลิงหูก็อึ้งไปครู่หนึ่ง พอรู้สึกตัวก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เจ้าไม่รู้หรือ…ห้องลับแห่งกฏเวลานั้น มีก็แต่ผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่สร้างได้”
“ตราบใดที่ยังไม่บรรลุถึงขอบเขตผู้แข็งแกร่งที่สุด ต่อให้เจ้าเป็นปรมาจารย์จารึกเทพที่ฝีมือดีแค่ไหน กระทั่งให้ด่านพลังบรรลุถึงขอบเขตอริยะเทพ เจ้าก็ไม่อาจสร้างห้องลับแห่งกฏเวลาได้”
“สิ่งนี้เป็นดั่ง กฏเหล็ก ที่คนพื้นเมืองในระนาบเทพรู้กันดี”