ตอนที่ 3840 ใจสตรียากแท้หยั่งถึง

WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์

เมื่อทั้ง 2 นิกายล้วนเป็นขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพถดถอยเหมือนกัน เช่นนั้นปกติแล้วคะแนนอุทิศของนิกายมังกรสวรรค์กับคะแนนอุทิศของนิกายมหาเอกะก็จะไม่แตกต่างกัน
  ครั้งนี้ นิกายมหาเอกะเลือกจะตั้งค่าหัวต้วนหลิงเทียนถึง 200,000 แต้มรบ ซึ่งไม่ต่างอะไรจาก 200,000 คะแนนอุทิศ ทำให้ทางฝั่งนิกายมังกรสวรรค์เองก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว กล่าวได้ว่าแต้มรบ หรือคะแนนอุทิศมหาศาลขนาดนี้ กระทั่งอาวุโสมังกรดำยังใจสั่น
  ต้องทราบด้วยว่าอาวุโสมังกรดำก็คือตัวตนระดับ จอมราชันเทพขั้นสูงแล้ว
  จึงเข้าใจได้ไม่ยากเลย ว่าค่าหัว 200,000 แต้มรบที่นิกายมหาเอกะตั้งให้ต้วนหลิงเทียน มันใจป้ำถึงขนาดไหน
  กระทั่งเหล่าศิษย์นิกายมังกรสวรรค์เอง ยังอดกล่าวกันไม่ได้ว่า “นี่ถ้าพวกเราฆ่าต้วนหลิงเทียน นิกายมหาเอกะจะให้แต้มรบที่เทียบได้กับคะแนนอุทิศ 200,000 แต้มกับพวกเราไหม?”
  “ให้ตายเถอะ 200,000 แต้มรบหรือ นิกายมหาเอกะทุ่มทุนสร้างครั้งใหญ่จริงๆ! เห็นชัดว่าพวกมันต้องการให้ต้วนหลิงเทียนตาย!!”
  “ว่าไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็นับว่าหยิ่งผยองเกินไปจริงๆ มันถึงกับลั่นวาจาไว้ว่าหากไม่ฆ่าศิษย์นิกายมหาเอกะครบร้อยคนจะไม่ออกจากสนามรบราชาเทพ…สิ่งนี้แทบไม่ได้ต่างอะไรจากแหย่รังแตนเลย พวกนิกายมหาเอกะไม่ตอบโต้สิแปลก”
  “ข้าว่าตอนนี้ ต้วนหลิงเทียนคงสำนึกเสียใจแทบตายแล้วกระมังที่พูดออกไปเช่นนั้น”
  “ข้าก็ว่าอย่างนั้น”
  …
  เหล่าศิษย์นิกายมังกรสวรรค์หลายคนคุยไปก็ส่ายหน้าไป ในแววตาของพวกมันเริ่มฉายให้เห็นความสงสาร เพราะพวกมันรู้สึกว่าการเข้าสู่สนามรบราชาเทพของต้วนหลิงเทียน เกรงว่าจะโชคร้ายมากกว่าดี
  “ท่านประมุขให้พวกเราสร้างกลุ่มใหญ่ และหากกำลังรบของกลุ่มไม่อาจต่อกรกับต้วนหลิงเทียนได้ ก็อย่ารีบร้อนเข้าสู่สนามรบราชาเทพ…ไฉนท่านประมุขถึงออกคำสั่งราวกับจะให้พวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนล่ะ?”
  “เจ้าคิดไปไหนของเจ้ากัน ที่ท่านประมุขสั่งพวกเรามาแบบนี้ เพราะเป็นห่วงพวกเราต่างหาก เจ้าลองคิดดูว่าทางนิกายมหาเอกะมันจะเคลื่อนไหวอย่างไร? ไม่พ้นพวกมันต้องจัดกลุ่มที่มีกำลังรบมากพอจะฆ่าต้วนหลิงเทียนอยู่แล้ว เช่นนั้นหากพวกเราไปเจอกลุ่มที่จัดตั้งมาเพื่อไล่ล่าต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะ พวกเราจะเอาอะไรไปรอดเล่า! หรือเจ้าคิดว่ามันจะละเว้นพวกเรา?”
  “เอ่อ…จริงของเจ้า”
  …
  เหล่าศิษย์นิกายมังกรสวรรค์หลายคน เดิมทีก็กำลังจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพอยู่แล้ว แต่บัดนี้ทั้งหมดพากันหยุดไว้ก่อน
  เหล่าศิษย์ขอบเขตราชาเทพ ที่เคยอยากชวนต้วนหลิงเทียนมาร่วมกลุ่ม บัดนี้ก็ไม่เหลือความคิดดังกล่าวอีกต่อไป
  “ต้วนหลิงเทียน จริงๆเลย…”
  หลังติงเหยียนได้รับทราบเรื่องราว มันก็ได้แต่ทอดถอนใจออกมา
  “ฮึ!”
  เสียงสบถเย็นชาหนึ่งดังขึ้นไม่ไกลจากติงเหยียน เป็นสือคงเยว่ “เจ้าจะถอนหายใจทำอะไร นี่เจ้ายังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่ ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมิใช่สหายของเจ้าหรือไร? ในเวลาแบบนี้ไม่ใช่เจ้าต้องมั่นใจในตัวสหายมากกว่าใครหรือ ถอนหายใจเช่นนั้นหรือเจ้าคิดว่าผู้อื่นจะตกตายด้วยน้ำมือพวกมหาเอกะจริงๆ?”
  ถึงแม้สือคงเยว่จะไม่คิดรวมกลุ่มกับติงเหยียนเพื่อเข้าไปสู้ในสนามรบราชาเทพด้วยกัน แต่ก่อนจะเข้าสู่ระนาบศึกจักรพรรดิ ติงเหยียนดันไปหาบิดาของนางพอดี เช่นนั้นบิดาของนางก็เลยให้นางเข้าสู่ระนาบศึกจักรพรรดิพร้อมกับติงเหยียน
  แน่นอนว่า นางไม่ได้ถูกบิดาบีบบังคับให้รวมกลุ่มกับติงเหยียนอีกแล้ว
  อย่างไรก็ตาม นางพึ่งจะเข้ามายังระนาบจักรพรรดิไม่ทันไร เรียกว่าไม่ทันได้ออกจากเมืองมังกรสวรรค์ด้วยซ้ำ นางก็ได้ยินข่าวลือเรื่องต้วนหลิงเทียนเสียก่อน และนางเองก็ล้วงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างติงเหยียนกับต้วนหลิงเทียนดี พอเห็นติงเหยียนถอนหายใจ นางจึงอดแขวะออกมาไม่ได้
  “ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าไม่มั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียน?”
  ได้ยินคำพูดจิกกัดของสือคงเยว่ ติงเหยียนก็หันกลับไปมองนางด้วยสายตาเย็นชา ย้อนถามเสียงแข็ง
  “หากไม่ใช่ แล้วเจ้าถอนหายใจทำอะไร?”
  สือคงเยว่เย้ยเยาะ
  คราวนี้ติงเหยียนเงียบไปไม่พูดจา
  ครู่ต่อมา สือคงเยว่ก็หรี่ตามองกล่าวกับติงเหยียนว่า “ติงเหยียนเจ้าส่งข้อความไปหาต้วนหลิงเทียนให้ข้าหน่อย เอ่ยถามว่ามันสนใจจะเข้าร่วมกลุ่มกับข้าหรือไม่ และบอกไปว่ากลุ่มของข้ารวมตัวข้าแล้ว เรามีราชาเทพขั้นสูง 4 คน แถมแต่ละคนก็ไม่มีผู้ใดอ่อนด้อยกว่าหัวเทียนตู้”
  สือคงเยว่นั้น มีเหล่าสหายที่จะเข้าไปสู้ในสนามรบราชาเทพแล้ว 3 คน 2 คนนั้นเป็นศิษย์มังกรฟ้า ส่วนอีกคนแม้จะไม่ได้เป็นศิษย์มังกรฟ้า แต่ก็มีพลังฝีมือระดับศิษย์มังกรฟ้า
  “หืม? นี่เจ้าคิดจะชวนต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมกลุ่มรึ?”
  ต้องกล่าวเลยว่า วาจาดังกล่าวของสือคงเยว่ ทำให้ติงเหยียนแปลกใจไม่น้อย “เจ้า…นี่เจ้าพูดจริง?”
  เพราะหลังจากรับทราบสถานการณ์ของต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน แม้ใจติงเหยียนจะรู้สึกเป็นกังวลกับต้วนหลิงเทียน แต่มันก็ไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากคลี่ยิ้มขื่นขม เพราะพลังฝีมือของมันอ่อนด้อยเกินกว่าจะช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนได้
  หากมันแข็งแกร่งพอ มันคงเลือกจะรวมกลุ่มกับต้วนหลิงเทียน และช่วยรับมือภัยคุกคามจากนิกายมหาเอกะไปแล้ว
  แต่ตอนนี้อยู่ๆสือคงเยว่กลับให้มันชวนต้วนหลิงเทียนให้หน่อย จึงทำให้ติงเหยียนไม่อาจไม่แปลกใจ
  เพราะในสายตาของมัน การเข้าร่วมกลุ่มหรือรับต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่มในสถานการณ์แบบนี้ ก็มีแต่อันตรายแน่นอน
  มันยังได้ยินคนพูดกันหนาหูอีกว่า เดิมทีมีหลายกลุ่มคิดชักชวนต้วนหลิงเทียนมาเข้าร่วม แต่พอรับทราบว่าต้วนหลิงเทียนมีเรื่องกับนิกายมหาเอกะ ทั้งหมดก็ล้มเลิกความคิดชักชวนต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่มทันที
  “เจ้าคิดว่าข้าล้อเจ้าเล่นหรือไร?”
  สือคงเยว่คลี่ยิ้มเย้ยหยัน “รีบติดต่อไปถามต้วนหลิงเทียนให้ข้าเสีย นี่เป็นดั่งการส่งถ่านกลางหิมะ ข้าเชื่อว่ามันไม่ปฏิเสธข้าแน่!”
  “เพราะอะไร?”
  ติงเหยียนถาม “เจ้าสือคงเยว่ไม่ใช่คนใจบุญชมชอบเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น…แล้วไฉนอยู่ๆถึงคิดจะช่วยต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดจะทำอะไรหรือต้องการกันแน่?”
  กล่าวถึงจุดนี้ ติงเหยียนก็แลดูตื่นตัวไม่น้อ
  สือคงเยว่นั้น มันลองถามตัวเองดูก็พบว่ารู้จักนิสัยของนางดี
  สือคงเยว่เป็นสตรีที่ถือดี ยังหยิ่งเสียจนดูแคลนผู้อื่นไปหมด
  แต่ตอนนี้อยู่ๆก็คิดจะให้ความช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก?
  มันไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ ว่าไฉนสือคงเยว่ถึงตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น
  ได้ยินคำถามของติงเหยียน ทั้งเห็นแววตาของอีกฝ่าย สือคงเยว่ก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะย่นคิ้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เจ้าจะถามอะไรนักหนา ข้าบอกให้เจ้าติดต่อไปถามมันก็ทำเสีย อย่าช้า!”
  “ข้ายังต้องไปกล่อมให้สหายข้ายอมรับต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่มอีก สุดท้ายตอนนี้ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้ารับต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่ม”
  สือคงเยว่กล่าว
  ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของสือคงเยว่ ติงเหยียนก็ยืนอึ้งไปอีกรอบ
  เดิมทีมันยังสงสัยอยู่เลยว่ากลุ่มของสือคงเยว่มีใครบ้าง ถึงได้หาญกล้ารับต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่มได้ แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ได้เป็นอย่างที่มันคิด
  3 คนในกลุ่มสือคงเยว่ยังไม่รู้เรื่องรับตัวต้วนหลิงเทียน! ทั้งหมดเป็นความคิดของสือคงเยว่คนเดียว!!
  ในขณะที่ติงเหยียนส่งข้อความไปหาต้วนหลิงเทียน มันก็หยีตามองลึกไปทางสือคงเยว่ “สือคงเยว่ อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเจ้าเกิดตกหลุมรักต้วนหลิงเทียนขึ้นมา?”
  สิ้นคำถามของติงเหยียน สีหน้าท่าทีสือคงเยว่ก็เปลี่ยนไปทันที “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรของเจ้ากัน!”
  เมื่อเห็นอาการร้อนตัวของสือคงเยว่ ติงเหยียนได้ก็แต่ลอบทอดถอนในใจ เพราะดูเหมือนมันจะเดาถูก
  สตรีนางนี้ปกติหยิ่งผยองถือดีไม่เห็นหัวใคร แถมชอบดูถูกดูแคลนมันตลอด มิคาดกลับตกหลุมรักสหายมัน…ถึงแม้มันจะยอมแพ้ความคิดที่มีต่อสือคงเยว่มานานแล้ว แต่พอรู้ว่าสือคงเยว่ดันหลงต้วนหลิงเทียนเข้าให้ มันก็รู้สึกใจหายแปลกๆ
  สุดท้ายแล้วสือคงเยว่ก็ไม่เคยเหลียวแลมัน แต่กลับไปชอบต้วนหลิงเทียนซะได้
  แต่มันก็รู้ดีแก่ใจว่าต้วนหลิงเทียนนั้นเก่งกาจมาก สือคงเยว่จะชอบก็ไม่แปลก สุดท้ายโลกนี้ก็นับถือผู้เข้มแข็ง
  หากตอนนี้มันมีความสำเร็จเท่าต้วนหลิงเทียน สือคงเยว่ก็ต้องมองมันใหม่แน่นอน
  สุดท้ายแล้วสตรีที่หยิ่งผยองถือดีอย่างสือคงเยว่ ก็หัวสูงและเอาแต่มองบุรุษที่เก่งกาจเหนือกว่านางทุกด้านเท่านั้น
  และเห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนแบบนั้น
  “เจ้าบอกนางแทนข้าที ว่าขอบคุณที่หวังดีชวนข้าร่วมกลุ่ม แต่ข้าต้วนหลิงเทียนไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใด”
  ขณะเดียวกัน ติงเหยียนก็ได้รับข้อความตอบกลับของต้วนหลิงเทียน
  “ต้วนหลิงเทียน”
  ติงเหยียนเร่งส่งข้อความไปอีกครั้งทันที “เจ้าอย่าดื้อ! ข้ารู้ว่าเจ้าร้ายกาจมาก แต่ตอนนี้นิกายมหาเอกะไม่มีทางลงมือเพียงลำพัง…ต่อให้เป็นตัวอ่อนแอแค่ไหน ลองมาเป็นฝูงมันก็ต้องสร้างปัญหาให้เจ้าแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เหล่ายอดฝีมือขอบเขตราชาเทพขั้นสูงอาจร่วมมือกัน 3-5 คนเลย”
  “แต่หากเจ้าเข้าร่วมกลุ่มกับพวกสือคงเยว่ ข้ามั่นใจได้เลยว่าพวกนิกายมหาเอกะมันไม่มีปัญญาทำอะไรเจ้าได้แน่!”
  ติงเหยียนกล่าวแนะนำ
  ในฐานะที่มันเป็นสหายของต้วนหลิงเทียน มันย่อมหวังให้ต้วนหลิงเทียนแคล้วคลาดปลอดภัย
  ดูอย่างเมื่อก่อน ตอนยังอยู่ในสถานศึกษาหมอกเร้นลับสาขาเมืองวายุสวรรค์ ในการทดสอบนักศึกษา 10 ดาว พอรู้ว่าตระกูลราชาเทพในเมืองวายุสวรรค์หลายตระกูลกำลังมุ่งเป้าไปที่ต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่ลังเลเลยที่จะใช้บารมีของนิกายมังกรสวรรค์สะกดข่มเหล่าพวกเดนตายของตระกูลราชาเทพ ให้ล่าถอยกลับไป
  อย่างไรก็ตาม วันนั้นต้วนหลิงเทียนได้ปฏิเสธความหวังดีของมัน
  “ติงเหยียน เจ้าอย่าได้ลืมไปสถานการณ์ตอนนี้ มันแทบไม่ต่างอะไรจากสมัยที่พวกเรายังอยู่สถานศึกษาหมอกเร้นลับสาขาเมืองวายุสวรรค์เลย ตอนนั้นเจ้ารู้ว่าข้าตกอยู่ในอันตรายก็เลยคิดจะยื่อนมือเข้าช่วยข้า…แต่สุดท้ายไม่ใช่ว่าตอนนั้นข้าก็สบายดีหรือไร?”
  ต้วนหลิงเทียนยิ้มพลางส่งข้อความ “ขอเจ้าอย่าได้ห่วงไป ข้าต้วนหลิงเทียนไม่เคยล้อเล่นกับชีวิตตัวเองหรอก”
  ขณะที่ส่งข้อความดังกล่าวไปหาติงเหยียน ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงอยู่ในเมืองสันติ
  ฟางอวี่ อาวุโสฝ่ายในที่เคยอยู่กับเขา บัดนี้ได้ขอตัวไปหาเพื่อนแล้ว อีกฝ่ายกำลังจะเข้าสู่สนามรบจอมราชันเทพกับเพื่อน ก่อนอีกฝ่ายจากไปยังไม่ลืมกำชับเขาไว้ว่า ช่วงนี้อย่าพึ่งรีบเข้าสู่สนามรบราชาเทพจะดีกว่า
  ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฟางอวี่จะอยู่กับต้วนหลิงเทียนตลอด แต่มันก็ได้รับข้อความไม่น้อย จึงรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันดี
  ในระนาบศึกจักรพรรดิ ยกเว้นสนามรบทั้ง 3 แห่งที่ไม่อาจติดต่อสื่อสารได้ พื้นที่ส่วนกลางอันเป็นที่ตั้งเมืองมังกรสวรรค์ เมืองมหาเอกะ และเมืองสันติสามารถส่งข้อความติดต่อกันได้ เพียงแต่จะติดต่อกันได้แค่ในพื้นที่ 3 เมืองนี้เท่านั้น หากจะติดต่อกับโลกภายนอก จำต้องออกไปเสียก่อน
  สุดท้าย ติงเหยียนก็ไม่คิดเซ้าซี้ต้วนหลิงเทียนสืบต่อ
  อย่างไรก็ตาม ติงเหยียนยังอดถอนหายใจไม่ได้อยู่ดี
  หลังจากนั้น มันก็หันไปมองสือคงเยว่พลางกล่าว “ต้วนหลิงเทียนฝากข้ามาขอบคุณเจ้าสำหรับความหวังดี…อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดจะเข้าร่วมกลุ่มของเจ้า ไม่สิมันไม่คิดร่วมกลุ่มกับใครเลย”
  “นี่เจ้าเป็นสหายผู้อื่นเขาประสาอะไร ไฉนไม่เกลี้ยกล่อมสหายเจ้าล่ะ!”
  สือคงเยว่ขมวดคิ้ว
  คราวนี้ที่นางคิดจะรับต้วนหลิงเทียนเข้ากลุ่ม ม่านางจะยังไม่ได้หลงรักต้วนหลิงเทียนดังที่ติงเหยียนกล่าว แต่นางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกดีๆอะไรให้ต้วนหลิงเทียน และบังเกิดความสนใจในตัวอีกฝ่ายไม่น้อย
  ชายหนุ่มผู้มาจากระนาบเทวโลกคนนี้ อายุน้อยกว่านาง แต่กลับประสบความสำเร็จเลิศล้ำกว่านางมาก โดยเฉพาะความสามารถในการหลอมโอสถเทพนั่น เป็นอะไรที่น่าทึ่งสุดๆ
  นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของนางเลย ที่พบเจอบุรุษใดเก่งกาจเหนือล้ำกว่านางทุกด้านแบบนี้
  โดยเฉพาะเรื่องที่บุรุษผู้นี้ไม่เคยมองนางสักครั้ง
  ในอดีต ตอนที่ต้วนหลิงเทียนแสดงการหลอมโอสถกลางแจ้งให้ผู้คนเห็นกันชัดๆนั้น แม้นางจะยืนอยู่ข้างๆติงเหยียนแท้ๆ ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนที่มองมาทางติงเหยียน 2-3 ครั้ง อีกฝ่ายก็สนใจแต่ติงเหยียน และเหลือบแลนางแค่หางตาเท่านั้น
  จุดนี้ทำให้นางไม่พอใจอย่างแรง ทั้งรู้สึกขัดใจเป็นที่สุด
  แต่พอเวลาผ่านไป นางก็เริ่มบังเกิดความสงสัยในตัวของอีกฝ่าย ยังอยากเข้าใกล้และเข้าไปอยู่ในสายตาของอีกฝ่าย ให้อีกฝ่ายเห็นว่า…นาง สือคงเยว่ ที่เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของนิกายมังกรสวรรค์คนนี้มีตัวตน! ยังอยากให้อีกฝ่ายรู้ว่านางคือสตรีที่ศิษย์ฝ่ายในนับไม่ถ้วนไล่ตาม ไม่เว้นกระทั่งศิษย์มังกรฟ้ายังตามจีบนางเลย!!
  นางจึงคิดว่า ในเมื่อศิษย์นิกายมหาเอกะคิดจะไล่ล่าต้วนหลิงเทียนในสนามรบระดับราชาเทพ เช่นนั้นก็เป็นโอกาสที่นางจะเข้าหาต้วนหลิงเทียนได้อย่างมีเหตุผล ก็เลยเร่งส่งข้อความไปเกลี้ยกล่อมสหายทั้ง 3 เป็นการด่วน
  ทว่าสิ่งที่นางคิดไม่ถึงก็คือ ต้วนหลิงเทียนกลับปฏิเสธนางเสียอย่างนั้น!