“ข้าเกลี้ยกล่อมไป ก็ไม่มีประโยชน์”
เผชิญกับความแคลงใจของสือคงเยว่ ติงเหยียนไม่ได้เผยท่าทีไม่พอใจอะไร เพียงส่ายหัวไปมาเบาๆค่อยกล่าวว่า “หากเป็นไปได้ข้าเองก็หวังให้มันเข้ากลุ่มเจ้าเหมือนกัน เพราะข้าจะได้มั่นใจว่ามันปลอดภัยแน่”
“อย่างไรก็ตาม ข้ารู้นิสัยของต้วนหลิงเทียน ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของมันได้”
“เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าเองก็อย่าได้ลืมดูแลตัวเองเสียล่ะ…สถานการณ์ของสนามรบราชาเทพตอนนี้ เห็นชัดว่าอันตรายกว่าเดิม อีกทั้งเมื่อต้วนหลิงเทียนไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มของเจ้า เช่นนั้นกล่าวได้ว่ากำลังรบของกลุ่มเจ้า ไม่ได้เพิ่มขึ้นจนไร้เทียมทาน”
หลังติงเหยียนกล่าวจบคำ มันก็เดินจากไปทันที มันเองก็ได้ติดต่อไปหาสหายในกลุ่มเรียบร้อย และกลุ่มของมันตอนนี้ก็ได้ไปรวมกับกลุ่มย่อยอื่นๆ จนกลายเป็นกลุ่มใหญ่โตไปแล้ว
มีคนกว่า 20 คนเลยทีเดียว
ในสายตามัน ถึงแม้กลุ่มใหญ่ระดับนี้ อาจจะยังไม่มีพลังมากพอกวาดล้างได้ทั่วสนามรบราชาเทพ แต่ก็มีความสามารถในการป้องกันตัวเองแล้วแน่นอน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยไร้เรื่องราวเสียทีเดียว
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วหากอยากเป็นผู้แข็งแกร่งจริงๆ ก็มีแต่ต้องบุกฝ่าลมฝนผจญอันตราย มีผู้แข็งแกร่งที่สุดคนไหนบ้างที่ไม่ได้ปีนออกมาจากภูเขาซากศพ?
หากแม้แต่สนามรบระดับราชาเทพยังไม่กล้าเข้าไป ยังจะหวังเป็นผู้เข้มแข็งอะไรอีก
หลังติงเหยียนจากไป สีหน้าสือคงเยว่ก็เปลี่ยนไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ออกจากจุดส่งตัวของเมืองมังกรสวรรค์ และจุดส่งตัวของเมืองมังกรสวรรค์ก็เป็นพื้นที่โล่งๆ
ตอนนี้รอบๆก็มีผู้คนมากมายหันมามองนาง
อย่างไรก็ตาม พอหลายๆคนสังเกตเห็นสีหน้าบูดบึ้งของสือคงเยว่ แต่ละคนก็รีบถอยห่างไปทันที
“ไฉนสือคงเยว่แลดูอารมณ์บูดนักเล่า?”
“หรือว่าอาวุโสสือคงพึ่งสั่งสอนบทเรียนนางมา?”
“จะว่าไปแล้ว พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าที่แท้อาวุโสสือคงเป็นใครกันแน่? ถึงแม้ตอนนี้อาวุโสสือคงจะได้รับการแต่งตั้งจากท่านประมุขให้เป็นผู้อาวุโสมังกรดำ แต่ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ท่านประมุขเองก็ปฏิบัติต่ออาวุโสสือคงด้วยความเคารพ เรียกว่าได้รับการดูแลปฏิบัติจากท่านประมุขผิดกับอาวุโสมังกรดำคนอื่นๆลิบลับ…เท่าที่ข้าดูในนิกายมังกรสวรรค์เรา จะมีก็แต่ท่านอดีตประมุขผู้เฒ่าเท่านั้น ที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น”
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน…ข้ารู้แค่ว่าในอดีต อยู่ๆอาวุโสสือคงก็กลับมาพร้อมกับท่านประมุข จากนั้นก็ได้รับตำแหน่งอาวุโสสักการะของนิกายเรา ข้าว่าสมควรเป็นยอดฝีมือที่ท่านประมุขเชิญมาจากด้านนอก”
“ว่าแต่เจ้าหนุ่มตัวใหญ่ที่อยู่ข้างสือคงเยว่เมื่อครู่ เหมือนจะเรียกว่าติงเหยียนใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่าในอดีตมันอยู่ในนิกายมังกรสวรรค์เราในฐานะญาติของอาวุโสสือคง จนมาเข้าร่วมนิกายสวรรค์เราอย่างเป็นทางการก็ตอนการแข่งขันมังกรซ่อนครั้งล่าสุด”
“ใช่ เจ้านั่นยังติด 30 อันดับแรกในการแข่งขันมังกรซ่อนด้วย นับเป็นรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ติด 30 อันดับแรก…อายุมันก็พอๆกับต้วนหลิงเทียน ปีนี้ยังไม่ถึง 3,000 ปี”
“อายุมันไม่ถึง 3,000 ปี แต่กลับติดอยู่ใน 30 อันดับแรกของการแข่งขันมังกรซ่อนได้ นับว่ามันมีอนาคตสดใสแน่นอน…หากไม่ใช่เพราะรุ่นมันมีต้วนหลิงเทียนอยู่ล่ะก็ ป่านนี้มันคงมีชื่อเสียงโด่งดังหลังจบการแข่งขันมังกรซ่อนไปแล้ว”
“พูดถึงเรื่องอนาคตสดใส…สือคงเยว่ที่พึ่งจากไป ก็มีอายุได้ 3,000 ปีเศษเท่านั้น แต่สามารถกลายเป็นศิษย์มังกรฟ้าของนิกายมังกรสวรรค์เราได้แล้ว!”
…
หลังติงเหยียนกับสือคงเยว่จากไป หลายคนก็เริ่มเปิดประเด็นสนทนาเรื่องของทั้งคู่ ก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่อยู่ด้วย พวกมันไม่มีใครกล้าพูดถึง เพราะทั้งคู่เกี่ยวข้องกับอาวุโสมังกรดำ
ตอนนี้พอคนจากไป พวกมันก็พูดได้สบายปาก
ในเวลาเดียวกัน
ภายในเมืองสันติ ต้วนหลิงเทียนก็กำลังเดินกลับไปยังเมืองมังกรสวรรค์อย่างไม่รีบไม่ร้อน
‘ดูเหมือนศึกจักรพรรดิครั้งนี้ ขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพชั้นแนวหน้าของคฤหาสน์ตงหลิงจะตรวจสอบกันละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะนิกายมังกรสวรรค์หรือนิกายมหาเอกะท่าทางจะควักสมบัติในนิกายออกมาจนหมด…โดยเฉพาะนิกายมหาเอกะนั่น กลับมีสมุนไพรที่ข้าต้องการอยู่หลายอย่างจริงๆ แถมที่แท้นิกายมังกรสวรรค์ก็มีสมุนไพรบางอย่างเก็บไว้ด้วย’
ถึงแม้ครั้งสุดท้ายที่เขาหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดต่อหน้าสาธารณชน นิกายมังกรสวรรค์รับปากว่าจะนำสมุนไพรในรายชื่อที่เขาต้องการมาให้ แต่สมุนไพรที่นิกายหามาให้เขาได้นั้น มันก็ถือว่าเป็นแค่สมุนไพรชั้นรองเท่านั้น
ส่วนสมุนไพรหลักที่เขาต้องการจริงๆ นิกายมังกรสวรรค์กลับไม่ได้ควักออกมามอบให้เขา
ทว่าคราวนี้เมื่อศึกจักรพรรดิเริ่มต้นขึ้น นิกายมังกรสวรรค์นับว่าเปิดคลังนำสิ่งของออกมาจนหมดจริงๆ สมุนไพรล้ำค่ามากมายที่เขาคิดว่านิกายไม่มี ที่แท้กลับสามารถนำออกมาให้แลกเปลี่ยนได้เฉยเลย!
ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรที่เขาอยากได้เหล่านั้น ก็เป็นสมุนไพรหลักที่เขาต้องใช้ในการหลอมโอสถเทพระดับจอมราชัน!
หากไร้สมุนไพรหลักเหล่านั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันที่เขาต้องการได้
สำหรับนิกายมหาเอกะ ก็มีสมุนไพรที่เขาต้องการอยู่ไม่น้อย บางชนิดเขาก็พึ่งมาสนใจเอาหลังได้เห็นมัน
นอกจากสมุนไพรแล้ว ต้วนหลิงเทียนยังแวะไปดูสิ่งของในตำหนักแลกเปลี่ยนอื่นๆ เขาเองก็สนใจลูกแก้วเงาลอยที่บันทึกการประมือระหว่างผู้ใช้กฏมิติกับกฏต่างๆเอาไว้เช่นกัน สิ่งนี้มีประโยชน์กับเขาในการทำความเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ
และเขาไม่ได้ต้องการแค่กฏมิติเท่านั้น
อีกทั้งลูกแก้วเงาลอยที่เขาสนใจนั้น ปกติแล้วมันถือเป็นสมบัติของนิกายมังกรสวรรค์กับนิกายมหาเอกะเลยก็ว่าได้ ทางนิกายจะเอาออกมาก็ต่อเมื่อมีสถานการณ์สำคัญ ไม่ก็เป็นของรางวัลหากมีคนทำภารกิจระดับสูงสำเร็จ
แต่ศึกจักรพรรดิคราวนี้ ทั้ง 2 นิกายควักออกมาให้แลกจนหมด!
‘สิ่งของทั้งหมดที่ข้าต้องการ แค่ไม่กี่อย่างก็ต้องใช้ 20,000 กว่าแต้มในการแลกเปลี่ยนเข้าไปแล้ว…หากจะเอาทั้งหมดจริงๆ จำนวนแต้มรบน่ากลัวจะบานปลาย เช่นนั้นคิดจะหามันจากสนามรบราชาเทพอย่างเดียวดูแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลย’
หลังกลับมาถึงเมืองมังกรสวรรค์ ต้วนหลิงเทียนก็คำนวณตัวเลขในใจ ‘สุดท้าย การฆ่าราชาเทพขั้นสูงหนึ่งคนมันก็ได้แค่ 25 แต้มรบเท่านั้น…’
‘ต่อให้ฆ่าราชาเทพขั้นสูงไป 100 คนก็ได้แต้มรบแค่ 25,000 แต้มเท่านั้น จะไปพอยาไส้อะไร…’
คิดถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ลอบทอดถอนอยู่ในใจ
ก่อนจะไปยังเมืองสันติ เดิมทีเขาคิดว่าหากมีอะไรที่เขาต้องการจริงๆ แค่เข้าไปไล่ฆ่าผู้คนในสนามรบราชาเทพไม่นานก็คงได้แต้มรบพอใช้
ทว่าหลังจากไปเดินดูของแลกเปลี่ยนในเมืองสันติดูแล้ว เขาพบว่ามีของที่เขาต้องการมากเกินไป
อาศัยการเข่นฆ่าตัวตนระดับราชาเทพอย่างเดียว เกรงว่าจะหาแต้มรบได้ไม่พอใช้
‘ดูเหมือนในสนามรบราชาเทพ ข้าทำได้แค่ไปลองมือเท่านั้น…สุดท้ายระดับพลังของข้าตอนนี้ก็ห่างจากการทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพไม่ไกลแล้ว’
‘บางทีอีกไม่นานข้าก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้สำเร็จ…ถึงตอนนั้นก็สามารถเปลี่ยนไปเข้าสนามรบระดับจอมราชันเทพได้ คราวนี้ก็ไปไล่ฆ่าพวกจอมราชันเทพของนิกายมหาเอกะเพื่อเก็บแต้มแทน!’
‘การฆ่าตัวตนระดับจอมราชันเทพนั้น แม้จะเป็นแค่จอมราชันเทพขั้นต่ำ แต่ก็ได้แต้มรบถึง 200 แต้ม!’
‘จอมราชันเทพขั้นกลาง ยังได้แต้มรบถึง 2,000 แต้มต่อคน’
‘โดยเฉพาะจอมราชันเทพขั้นสูงนั่น ฆ่าแค่คนเดียวก็ได้แต้มรบถึง 20,000 แต้มเข้าไปแล้ว!’
พอคิดถึงจำนวนแต้มรบที่จะได้จากการสังหารจอมราชันเทพขั้นกลางกับจอมราชันเทพขั้นสูง สองตาตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวขึ้นมา เพราะตอนนี้เขาห่างจากการทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพไม่ไกลแล้ว!
‘อย่างไรก็ตาม เรื่องทะลวงให้ถึงขอบเขตจอมราชันเทพ ก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควร…ตอนนี้เข้าไปลองมือในสนามรบราชาเทพ และทำตัวให้ชินกับระดับพลังก่อนดีกว่า สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการวางรากฐานให้มั่นคง ยังเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนทะลวงไปยังขอบเขตจอมราชันเทพ’
‘แถมจะว่าไปตั้งแต่ทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพขั้นสูงมา นี่ก็ยังไม่ได้สู้กับใครสักคน…เช่นนั้นให้เหล่าราชาเทพในสนามรบระดับราชาเทพเป็น ‘หินลับมีด’ ของข้า หลังทะลวงถึงราชาเทพขั้นสูงก็ดี’
‘ว่าแต่ นิกายมหาเอกะมันตั้งค่าหัวข้าถึง 200,000 แต้มรบเชียวหรือ?’
‘ก็ลองดูกันไป ว่าสุดท้ายจะเป็นข้าเบื่อก่อน หรือศิษย์นิกายมหาเอกะหวาดกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวเข้ามากันแน่…’
คิดถึงจุดนี้ สองตาต้วนหลิงเทียนก็เป็นประกายขึ้นมา ลึกลงไปในแววตายังเผยจิตต่อสู้อันเร่าร้อน ราวกับทนรอเข้าไปเข่นฆ่าราชาเทพของนิกายมหาเอกะในสนามรบราชาเทพไม่ไหวแล้ว!
‘ว่าแต่ จะเข้าสนามรบราชาเทพที่ว่า ข้าต้องไปทางไหนล่ะ?’
ทว่าทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้…เขาไม่รู้ว่าจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพอย่างไร
หลังหันรีหันขวางอยู่พักหนึ่ง สองตาต้วนหลิงเทียนก็เป็นประกายขึ้นมา หลังเห็นชายชราคนหนึ่งที่ห้อยแขวนป้ายผู้อาวุโสฝ่ายในเอาไว้ “ผู้อาวุโสท่านนี้ มิทราบท่านรู้ทางไปสนามรบราชาเทพหรือไม่?”
ชายชราเมื่อถูกคนมาขวางและถามเรื่องราว ก็หยุดลง คิ้วขดย่นด้วยความไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ชี้นิ้วไปทางซ้าย “อยู่ตรงนั้น”
“เจ้าหนุ่ม เห็นชัดว่าเจ้าไม่ยอมทำการบ้านมาให้ดี แต่ยังคิดจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพ…ข้าแนะนำให้เจ้าไปหากลุ่มเข้าร่วมเสีย หลังจากนั้นค่อยเข้าสู่สนามรบราชาเทพพร้อมผู้อื่น”
“ตอนนี้สนามรบราชาเทพ กลายเป็นสถานที่อันตรายมิใช่น้อย ทั้งหมดเพราะต้วนหลิงเทียนหนึ่งในศิษย์ฝ่ายในเหมือนเจ้า”
“หากเจ้าเข้าไปคนเดียว 9 ใน 10 ตอนนี้ไม่พ้นต้องถูกคนของนิกายมหาเอกะกลุ้มรุมสังหารเป็นแน่!”
ชายชราแม้จะกล่าวเสียงดุ แต่ก็เห็นชัดว่ามันกล่าวเตือนด้วยความหวังดี
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ตักเตือน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ก้าวอาดไปยังทิศทางที่ชายชราชี้นิ้วไปทันที
“เฮ่อ คนหนุ่มสมัยนี้ไฉนถือดีกันนักเล่า…อย่างไรเสียข้าก็ได้กล่าวเตือนมันให้รู้ชัด นับว่าข้าทำดีที่สุดแล้ว”
เห็นแผ่นหลังต้วนหลิงเทียนหายไวๆไปยังทางเข้าสนามรบราชาเทพ ชายชราก็ขมวดคิ้วทั้งกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “หวังว่ามันจักไม่โง่งมถึงขั้นเข้าไปในสนามรบราชาเทพเพียงลำพัง…แต่ทางเข้าสนามรบราชาเทพสมควรมีศิษย์รับคนเข้ากลุ่มอยู่เยอะแยะ หากมันฉลาดก็คงเลือกเข้าร่วมสักกลุ่ม”
อย่างไรก็ตาม อาวุโสชราพึ่งจะกล่าวบ่นจบคำไม่ทันไร ยังไม่ได้ก้าวเดินไปต่อด้วยซ้ำ ชายวัยกลางคนที่อยู่ไม่ไกล ก็เอ่ยทักมันด้วยรอยยิ้ม “ผู้เฒ่าหง นี่ท่านไม่รู้จักเจ้าหนุ่มนั่นหรือ?”
ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็ห้อยแขวนป้ายประจำตัวอาวุโสฝ่ายในของนิกายมังกรสวรรค์ดุจเดียวกัน
“ไม่รู้จัก”
ชายชราส่ายหน้าไปมา ก่อนจะมองถามชายวัยกลางคนด้วยความสงสัย “เฒ่าหวง หรือว่าเจ้ารู้จักมัน”
“ข้าย่อมรู้จัก!”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า “เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ตอนเจ้าหนุ่มนั่นหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอด ข้าก็ไปชมดูความบันเทิงด้วย”
“หืม? หลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอด!?”
สีหน้าชายชราเผยความตกใจอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าจะบอกว่า…เจ้าหนุ่มเมื่อครู่ก็คือต้วนหลิงเทียน?”
พอเห็นชายวัยกลางคนพยักหน้าอีกครั้ง ชายชราก็ได้แต่คลี่ยิ้มแหยๆออกมา “ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะเป็นต้วนหลิงเทียน…ข้ายังพึ่งบอกมันอยู่เลยว่าสนามรบราชาเทพกลายเป็นอันตรายมากขึ้นเพราะมัน”
“แต่…ดูเหมือนมันจะคิดเข้าสนามรบราชาเทพคนเดียว? นี่จะไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยรึ?”
…
ด้านต้วนหลิงเทียน พอเขาเดินมาใกล้ถึงทางเข้าสนามรบราชาเทพ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจของผู้คนนิกายมังกรสวรรค์ที่มารวมตัวกันแถวนี้ทันที
ในนิกายมังกรสวรรค์ แน่นอนว่ายังมีผู้อาวุโสฝ่ายในขึ้นไปจำนวนมากที่ยังไม่รู้จักหน้าค่าตาต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตาม คนที่มีตำแหน่งต่ำกว่าอาวุโสฝ่ายในนั้น มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่รู้จักต้วนหลิงเทียน
ดุจเดียวกับตอนนี้ พอต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นก็มีคนโพล่งออกมาเสียงดัง “เฮ่! นั่นไง ต้วนหลิงเทียนมาแล้ว!!”
“ช้าก่อน…นี่มัน คิดจะเข้าสู่สนามรบราชาเทพคนเดียวรึไรกัน?”
“มันจะไปคนเดียวจริงๆหรือ? ใช่มีคนที่มารอมันไปด้วยกัน หรือมันคิดจะชวนใครก่อนไปรึเปล่า?”
“คนมารอมัน? ชวนคนไป? เจ้าล้อเล่นรึไงหา…จังหวะนี้ใครยังจะกล้าไปกับมันอีกเล่า!”
…
ท่ามกลางเสียงซุบซิบคุยกันดังระงม ก็มีร่างหนึ่งก้าวออกมาจากฝูงชน
ด้านหลังร่างดังกล่าวยังมีคนตามมาด้วยอีก 3 คน เป็นผู้หญิง 1 คนและผู้ชาย 2 คน
“นั่นสือคงเยว่นี่!”
“ดูเหมือนนางกำลังจะเดินไปหาต้วนหลิงเทียนนะ! แถมดูจากสีหน้าบอกบุญไม่รับของนาง หรือต้วนหลิงเทียนจะไปทำให้นางไม่พอใจอะไรไว้?”
…
ศิษย์นิกายมังกรสวรรค์ขอบเขตราชาเทพหลายคนตาลุกวาวขึ้นมาทันที แถมออกอาการตั้งหน้าตั้งตารอชมเรื่องราวสนุกสนานกันใหญ่!