“รองประมุขเซวีย นี่จักเป็นกับดัก หรือไม่ ?”
กวงเทียนเจิ้งส่งข้อความไปถามอย่างระแวง
เพราะมันยากจะเชื่อได้ลงคอจริง ๆ ว่าต้วนหลิงเทียนที่มักระวังตัวแจมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับออกจากสถานที่ปลอดภัยเพียงลาพัง แถมยังเลือกเหินร่างเดินทางเด่นหราราวกับ ‘เอาคอพาดเขียง’ รอให้คนมาฆ่าอย่างไรอย่างนั้น!
แปลก!
แปลกมาก!
“หึ!”
อย่างไรก็ตาม กวงเทียนเจิ้งก็ได้รับข้อความตอบกลับจากเซวียหมิงจื่อแทบจะทันที่“ตอนนี้ข้าเองก็อยู่ไม่ไกลจากเขตที่พักฝึกฝนของอาวุโสสักการะสือคง และตอนนี้ดูเหมือนอาวุโสสักการะสือคงก็กำลังกักตัวฝึกฝนอยู่ นอกจากต้วนหลิงเทียนแล้ว ในรัศมีสำนักเทวะข้ามิอาจตรวจพบผู้ใดที่ลอบให้ความคุ้มครองต้วนหลิงเทียนสักคน”
“ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสมังกรดาที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนแนวพื้นที่ใกล้เคียังวันนี้ ในแง่ลำดับอาวุโสแล้วมันก็ถือว่าเป็นศิษย์น้องของข้า…เช่นั้นนหากเจ้าลงมือจัดการต้วนหลิงเทียนั่นนตอนนี้ แม้ว่าเจ้าจักฆ่ามันไม่ได้ในกระบวนท่าเดียว แต่ข้าก็พอซื้อเวลาให้เจ้าได้”
“เจ้ามีเวลาฆ่ามัน 3 ลมหายใจ”
เอ่ยถึงจุดนี้ เซวียหมิงจื่อก็นิ่งไปครูหนึ่งค่อยกล่าวเสริมว่า “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังกังวลอะไรเอ่ยู่…ถึงแม้ข้าเองก็จะรู้สึกแปลก ๆ แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนัมนออกมาคนเดียวจริง ๆ”
“บางทีัมนอาจจะทนความเบื่อหน่ายจากการบ่มเพาะในเขตบ้านพักของอาวุโสสักการะสือคงไม่ไหว จึงคิดผ่อนคล้ายจิตใจ โดยการเข้าไปยังระนาบศึกจักรพรรดิ”
“ถึงแม้ว่าตอนนี้มันมิอาจเข้าสู่สนามรบราชาเทพได้ แต่มันก็อาจไปเดินเล่นในเมืองมังกรสวรรค์ ไม่ก็เมืองสันติได้อยู่”
“เจ้ารีบลงมือเข้าเถอะ…อีกแค่ไม่ถึง 10 ลมหายใจมันก็จะออกนอกเขตรับผิดชอบของศิษย์น้องข้าแล้ว”
“หากเจ้าพลาดโอกาสนี้ และถ้าเจ้าฆ่ามันไม่ได้…เจ้าได้ตายแน่!”
เสียงในข้อความของเซวียหมิงจื่อยิ่งส่งก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ
“รองประมุขเซวีย…นี่ท่านอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ด้วย หรือ ?”
หลังได้รับข้อความจำกเซวียหมิงจื่อลูกตากวงเทียนก็หดเล็กลงทันที่ขณะเดียวกันใจที่ระแวงของมันก็พอได้ผ่อนลง อย่างไรก็ตามมันยังรู้สึกไม่เต็มใจรับโทษประหารหลังฆ่าต้วนหลิงเทียนอยู่ดี
แต่บัดนี้ ดูเหมือนมนจะไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว
“รองประมุขเซวีย แม้ท่านจะยืนยันเรื่องที่มันออกมาเพียงลาพังได้แล้ว…แต่ด่านพลังมันเล่า มันทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้วหรือไม่ ?”
กวงเทียนเจิ้งเร่งส่งข้อความไปถามเร็วไว เห็นชัดว่ามันไม่ยากล่าช้าจนพลาดโอกาส
ขณะเดียวกับที่มันส่งข้อความออกไป้ร่างมันก็ห้อเหียดยข้ามฟ้าไปด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าไปจุดเชื่อมระหว่างบ้านพักของอาวุโสสักการะสือคงกับทางเข้าระนาบศึกจักรพรรดิ หมายสกัดกั้นต้วนหลิงเทียนกลางทาง
“จอมราชันเทพ ?”
ได้ยินข้อความถามไถ่ของกวงเทียนเจิ้ง เซวียหมิงจื่อก็แทบระเบิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “เจ้าไม่ทราบหรือไรว่ามันทะลวงถึงขอบเขตราชาเทพขั้นสูงตั้งแต่เมื่อใด มันพึ่งจะเป็นราชาเทพขั้นสูงได้นานเท่าไรกัน…แล้วเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่ามันจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้แล้ว ?”
“เว้นเสียแต่มันจะหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดได้ตามอำเภอใจ ไหนจะต้องมีสมุนไพรที่ใช้หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันจำนวนมาก เพื่อให้มันหลอมโอสถเทพส่งเสริมการบ่มเพาะอีก ?”
“สมุนไพรที่ใช้หลอมโอสถเทพเหล่านั้นล้วนแล้วแต่หาได้ยากยิ่ง กระทั่งในคลังสมุนไพรของนิกายมังกรสวรรค์เรา ก็ไม่ใช้ว่าจะมีครบชุด”
เซวียหมิงจื่อไม่ดูดีการค้าดเดาของกวงเทียนเจิ้งแม้แต่น้อย
และการอนุมานของเซวียหมิงจื่อก็มีเหตุผลเช่นกัน
ในนิกายมังกรสวรรค์ หากคิดจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้ในเวลาอันสั้นั้นนไม่ใช้เรื่องง่ายดาย ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะใช้โอสถเทพทะลวงราชันจนไร้จุดรอคอยอันใด แต่หากปราศจากโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดให้ใช้ไม่จำกัด คิดจะทะลวงขั้นพลังก็เป็นไปไม่ได้แน่นอน
และเซวียหมิงจื่อก็ไม่เชื่อว่าต้วนหลิงเทียนจะสามารถหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดได้!
แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้บางอย่าง
ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น แม้จะไม่อาจหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดได้ ทว่าในมือกับตระเตรียมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดไว้ใช้มากพอทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้ในเวลาอันสั้น หรือไม่ก็มีสมบัติฟ้าดินอย่างโอสถเทพที่มันไม่รู้จัก ผลไม้เทพ สิ่งของประหลาดอื่น ๆ…
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้มนั้นอยจนไม่เห็นวี่แวว
เพราะการจะบรรลุความเป็นไปได้ข้อนี้ ต้วนหลิงเทียนั่นนหากไม่ใช้มีโชคทะลุฟ้า ก็ต้องมีภูมหิลังความเป็นมาอันน่าทึ่ง
ดังนั้นเซวียหมิงจื่อจึงไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้ในเวลาสั้น ๆ เช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวมันเองก็ไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ ดั่งฟ้าประทานเช่นกัน
เพราะโอกาสดี ๆ เมื่อพลาดไปแล้ว อย่าได้หวังว่าจะมีมาอีก
“เจ้าไปดักฆ่ามันที่ยอดเขาเฉวียนฉีในแนวเทือกเขามังกรท่องเถอะ ข้าจะซื้อเวลาให้เจ้าลงมือเอง…เป็นการดีที่สุดที่เจ้าจะฆ่ามันได้ในท่าเดียว หาไม่แล้วเจ้าก็ต้องฆ่ามันให้ตายภายใน 3 ลมหายใจ!”
เสียงของเซวียหมิงจื่อเปลื่ยนี้เป็นเย็นเยือกทั้งดุร้าย “ภายใน 3 ลมหายใจหากเจ้าฆ่ามันไม่ตาย เจ้าก็หาทางลากมันให้ตกตายไปตามกันให้จงได้!”
“เพราะการลงมือของเจ้าวันนี้ไม่ว่ามันจะตาย หรือไม่ แต่เจ้านั้นต้องตายแน่นอน”
“จุดนี้เจ้าเองก็คงรู้ดีกว่าข้า”
หลังหยุดลงครูหนึ่ง เซวียหมิงจื่อก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง “เป็นธรรมดาว่าหากมันทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้วจริง ๆ เช่นั้นนก็ถือว่าเจ้าโชคร้ายเถอะ แต่ขอเพียงเจ้าทาเต็มที่แล้ว ถึงตอนั้นนต่อให้เจ้าตายไป ข้าก็จะดูแลคนของเจ้า โดยเฉพาะญาติสนิทมิตรสหายของเจ้า”
“สุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไร ศิษย์คนรองของเจ้า จงซ่าน ก็เป็นลูกเขยของข้า”
“หากต้วนหลิงเทียนมันทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้วจริง ๆ หลังเจ้าตาย ข้าก็จะหานักรบเดนตายขอบเขตจอมราชันเทพมาเข้านิกายมังกรสวรรค์ในภายหลัง ให้มันแสร้งเป็นอาวุโสมังกรขาว เพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียนลาง้แค้นให้เจ้า!”
ได้ยินคำพูดของเซวียหมิงจื่อแม้กวงเทียนเจิ้งจะรู้ดีว่าการลงมือของมันจะมีความเสี่ยง แต่ก็ไม่ควรเสี่ยงมากมายอะไร
“จอมราชันเทพหรือ ?”
ถึงแม้ปากกวงเทียนเจิ้งจะพูดไปแบบนั้น แต่มันก็ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะสามารถบรรลุถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้แล้วจริง ๆ
ต้วนหลิงเทียน ชายหนุ่มที่ยังมีอายุไม่ถึง 3,000 ปีการบรรลุถึงขอบเขตราชาเทพขั้นสูงด้วยวัยเพียงเท่านี้ก็นับว่าไม่ต่างอะไรจากปีศาจแล้ว หากบรรลุถึงขอบเขตจอมราชันเทพจริง ๆ น่ากลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นจอมราชันเทพที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเขตคฤหาสน์ตงหลิง
เพราะในเขตคฤหาสน์ตงหลิง จอมราชันเทพที่มีอายุน้อยที่สุดที่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก็มีอายุมากกว่า 4,000 ปีเข้าไปแล้ว
ส่วนราชาเทพขั้นสูงที่มีอายุน้อยกว่า 3,000 ปีนั้นมีอยู่พอสมควร เพียงแต่ในบรรดาพวกมันไม่มีผู้ใดสามารถทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้ในเวลาอันสั้นเลย
“รองประมุขเซวีย แล้วท่านตรวจสอบพลังฝึกปรือของมันไม่ได้หรือ ?”
กวงเทียนเจิ้งถามอีกรอบ มันเลือกจะปลอดภัยไว้ก่อน ถึงแม้จะไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนสามารถทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้ก็ตามที่
“การตรวจสอบพลังฝึกปรือของมัน ก็รังแต่จะแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น”
เซวียหมิงจื่อส่งข้อความตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “สุดท้ายข้าก็เป็นแค่จอมราชันเทพขั้นสูง แม้ต้วนหลิงเทียนจะเป็นแค่ราชาเทพขั้นสูงแต่เมื่อโดนสำนึกเทวะของข้าตรวจสอบแรงต้านของพลังวิญญาณ จะมากจะน้อยมันก็ต้องสัมผัสได้อยู่ดี”
“เจ้าคงไม่คิดให้มันเร่งรุดหลบหนีกลับไปบ้านอาวุโสสักการะสือคงเพราะตื่นกลัวกระมัง ?”
“ข้าคิดว่าแม้ครั้งนี้อาจจะต้องเสี่ยงอยู่บ้างแต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง เพราะโอกาสที่ต้วนหลิงเทียนมันจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพแล้ว มันมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย”
ได้ยินประโยคนี้ของเซวียหมิงจื่อกวงเทียนเจิ้งก็รู้ดีว่ามันไม่มีช่องว่างให้รอมชอมแล้ว
มันได้แต่ลงมือแล้วก็ตาย!
…
ถิ่นที่อยู่ของนิกายมังกรสวรรค์นั้น มีแนวเทือกเขาทั้งสิ้น 9 แนว และแนวเทือกเขามังกรท่องก็เป็นหนึ่งในนน
ยอดเขาเฉวียนฉีนั้น เป็นเขาลูกหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นในแนวเทือกเขามังกรท่อง ยังธรรมดาและไม่ค่อยมีผู้ใดแวะเวียนผ่านไป
ทว่าวันนี้ กลับปรากฏร่างในชุดสีม่วงหนังกำลังเหินจากขอบฟ้าไกล ๆ และดูจากทิศทาง เหมือนกำลังจะมุ่งหน้าไปยังทางเข้าระนาบศึกจักรพรรดิของนิกายมังกรสวรรค์
อย่างไรก็ตาม พอร่างในชุดสีม่วงเหินมาถึงน่านฟ้าเหนือยอดเขาเฉวียนฉี สีหน้าก็เปลื่ยนไปทันที่
ปงงง!!
เสียงดังสนั่นปานจะสะท้านสะเทือนแดนดินอุบัติขึ้น จากนั้นก็ปรากฏร่างอันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอันเกรี้ยวกราดโจนทะยานลัดฟามาปานดาวตก เข่นฆ่าไปทางชายหนุ่มในชุดสีม่วง!
สภาวะพลังของมันดุร้ายรุนแรง ความเร็วยังประหนึ่งอัสนีบาตฟาดผ่า พริบตาเดียวก็เจียนบรรลุถึงร่างชายหนุ่มในชุดสีม่วง
ซู่มมม!!
น่านฟ้าเหนือยอดเขาเฉวียนฉี กวงเทียนเจิ้งทะปะทุพลังทั้งหมดข่นฆ่าสังหารเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน เมื่อพบว่าเจียนจะบรรลุผลสำเร็จก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ
ถึงแม้มันจะสัมผัสได้ถึงสำนึกเทวะที่แผ่กวาดมาจากทั่วสารทิศและเพ่งเล็งมาที่มัน และจากระดับพลังก็มีตั้งแต่อาวุโสมังกรทองจากไกลห่าง อาวุโสมังกรดาที่ลาดตระเวนอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ทั้งหมดก็สายเกินไป
ตอนนี้มันจะซ่อนตัวหรือไม่ซ่อนตัวก็ไม่มีอะไร แตกต่างกันแล้ว
ในปัจจุบัน สิ่งที่มันต้องกระทำมีเพียงอย่างเดียว…ฆ่าชายหนุ่มในชุดสีม่วงที่เหินข้ามฟ้ามา หรือกี่คือต้วนหลิงเทียนให้ตายตกให้จงได้!
ซัว!
อย่างไรก็ตาม กวงเทียนเจิ้งที่ปะทุพลังทั้งหมดเข่นฆ่าสังหารเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด ก็พบว่าร่างที่มันลงมือเข้าใส่ กลับกลายเป็นภาพติดตาเท่านั้น!
ในขณะเดียวกันกับที่สีหน้ากวงเทียนเจิ้งเปลื่ยนไปอย่างมาก ร่างต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นในความว่าง เปล่าไกล ๆ คนกอดอกมองจ้องไปยังกวงเทียนเจิ้งที่จั่วลมดังขวับไกล ๆ ด้วยแววตาสงบนิ่ง “อาวุโสกวงเทียนเจิ้ง…ท่านนับว่าไม่ตายไม่เลิกราจริง ๆ”
“ในตระกูลหลิงหูท่านลงมือฆ่าข้าไม่สำเร็จก็ทีนึงแล้ว…วันนี้ถึงขั้นคิดฆ่าข้าคานิกายมังกรสวรรค์เชียวหรือ ?”
“ดูเหมือนกฏห้ามเข่นฆ่าสังหารคนในนิกายเดียวกัน สำหรับท่านจักไม่มีความหมายเลยสินะ…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวพลางคลี่ยิ้มแดกดัน
ด้านกวงเทียนเจิ้งไม่คิดฟังคำพูดเหลวไหลของต้วนหลิงเทียน ในขณะที่หนามินเป็ลื่ยนสีไปมหันต์ มันก็เริ่มลงมือเข่นฆ่าเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง เพราะมันจาคำพูดของเซวียหมิงจื่อได้ขึ้นใจ
มันมีเวลาแค่ 3 ลมหายใจเท่านั้น
และบัดนี้ ตั้งแต่ที่มันปะทุพลังลงมือเวลาก็ได้ผ่านไป 1 ลมหายใจแล้ว
“ต้วนหลิงเทียน! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจักทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้แล้ว!”
กวงเทียนเจิ้งที่ออกกระบวนท่าสังหารเข่นฆ่าไปทางต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง โพล่งคาออกมาเสียงเย็นปานจะแช่แข็งผู้คน “แต่อย่างไรเสีย วันนี้เจ้าต้องตาย!!”
จังหวะนี้กวงเทียนเจิ้งคิดไปในแง่ดีว่า ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันเทพได้จริง ๆ แต่ไม่น่าจะมีเวลามากพอให้ควบรวมปรับด่านพลังให้เสถียร กระทั่งปรับตัวให้เข้าระดับพลังใหม่ได้แน่นอน
“นั่นมันก็ไม่แน่นักหรอก”
ขณะที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวคาออกมาอีกครั้ง ทั่วร่างเขาก็เริ่มบังเกิดพายุมิติห้อมล้อม จากนั้นก็ปรากฏแสงกระบี่พุ่งวาบตัดฟ้าออกไปฉับไว หลังจากปะทะเข้ากับกระบวนท่าของกวงเทียนเจิ้งอย่างจังจนสภาวะพลังของกวงเทียนเจิ้งถดถอย เขาก็เคลื่อนย้านข้ามมิติฉีกระยะไปอีกครั้ง
2 ลมหายใจผ่านไป
‘เหลืออีกแค่ลมหายใจเดียว’
วินาทีนี้กวงเทียนเจิ้งสัมผัสได้ชัดเจนว่ามีกลิ่นอายอันทรงพลังกำลังพุ่งเข้ามาทางนี้จากทั่วสารทิศ เห็นได้ชัดว่าอาวุโสมังกรขาวรวมถึงอาวุโสมังกรดาที่อยู่ไม่ไกลมากนัก สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวใหญ่โตทางนี้แล้ว
ถึงแม้เซวียหมิงจื่อจะเป็นรองประมุขนิกายมังกรสวรรค์ แต่อย่างดีก็ทำให้อาวุโสมังกรดาผ่อนปรนได้เล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ให้อาวุโสมังกรดาแสร้งผ่อนปรนได้ แต่ไม่อาจทำให้อาวุโสมังกรขาว 3 คนเสแสร้งผ่อนปรนได้แน่นอน สุดท้ายเรื่องนี้ก็ใหญ่หลวงนัก มากคนก็มากความและมโอกาสที่เรื่องจะแดงสูงมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น ค่ายกลของนิกายก็มีการบันทึกฉากเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ชัดเจน ย่อมไม่มีใครกล้าเสี่ยงมากเกินไป
อาวุโสมังกรดามาช้าไป 1-2 ลมหายใจนั้น อาจอ้างได้ว่ากำลังง่วนอยู่กับอะไรบางอย่างได้ แต่ถ้ากระทั่งอาวุโสมังกรขาวยังมาไม่ทันเหมือนกันหมด ก็มีพิรุธหนักหนาแล้ว
“ต้วนหลิงเทียน! วันนี้เจ้าต้องตาย!!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงหายนะที่จดจ่อแทบรดคอหอย กวงเทียนเจิ้งก็โพล่งคาตะโกนออกมาเสียงดัง จากนั้นสองตามนก็เบิกโพลง ทวารทั้ง 7 ยังปรากฏเลือดไหลออกมาอย่างน่าสยดสยอง!
ทันใดนั้นเอง ทั่วร่างกวงเทียนเจิ้งก็ปรากฏกลิ่นอายพลังโลหิตอันกระหายเลือดระเบิดออกมา!