ตอนที่ 26 หินมีด ล่าปีศาจ (4)
อีกอย่างบางทีเจ้าเสือดำอาจมีพลังโจมตีที่แกร่งกล้า แบบนั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเบี้ยของเราเหมือนกัน
พอนึกถึงจุดนี้หลี่ฮ่าวก็คลี่ยิ้มใสซื่อแต่งแต้มบนใบหน้า!
เจ้าสุนัขตัวนี้ วันๆ แกเอาแต่จับจ้องจี้หยกกระบี่ของฉันไม่ใช่เหรอ
ฉันจะให้แกดูดซับจนหนำใจเลย ครั้งหน้าดูสิว่าแกจะยังอยากได้จี้หยกกระบี่อยู่ไหม!
หลังจากนั้นเขาก็ล้างหน้าล้างตาจัดการทำความสะอาดรอยเลือด
หลี่ฮ่าวลงตึกไป
หลังจากนั้นก็เอาตัวเจ้าเสือดำที่กินอิ่มแปร้ขึ้นมาอย่างเงียบๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้คุณป้าชั้นล่างเห็นจนนึกสงสัยว่าตนพาเจ้าหมากลับบ้านไปทำไม
เจ้าเสือดำเองก็ว่าง่าย ยอมโดนลากขึ้นไปชั้นบนแต่โดยดี
หลังจากเข้าห้องมา
หลี่ฮ่าวก็ฉีกยิ้มอบอุ่นเอ่ยยิ้มๆ เสียงเบา “เจ้าเสือดำ ฉันจะให้แกดูดซับพลังที่ไม่เหมือนกัน มันจะเจ็บปวดหน่อยๆ แต่หลังจากดูดซับเข้าไปแล้วแกก็จะกลายร่างเป็นเสือดำจริงๆ อย่างน้อยก็เก่งเสือธรรมดาล่ะ!”
แววตาของเจ้าเสือดำเฝ้ารออย่างมีความหวัง
“แกจะลองดูดซับไหม”
หลี่ฮ่าวขบคิดดูแล้วถึงเอ่ยเตือนว่า “เจ็บหน่อยนะ เมื่อกี้ฉันดูดซับไปบ้างแล้ว เจ็บมากทีเดียว!”
แววตาของเจ้าเสือดำกลับไม่เห็นด้วยสักนิด
นายดูดซับได้ ฉันก็ต้องดูดซับได้เหมือนกัน
เจ็บปวดเหรอ?
ความเจ็บปวดคืออะไร?
มันไม่เข้าใจหรอก!
เวลานี้เจ้าหมาตัวอวบอ้วนเผยท่าทีทะนงตนอยู่บ้าง เพราะเมื่อกี้ตอนอยู่ตึกด้านล่างเข้าตะปบหมาตัวใหญ่ในคราวเดียวจนร้องลั่นมาแล้ว!
“แกมั่นใจนะว่าจะดูดซับ?”
เจ้าเสือดำเริ่มนึกรำคาญใจขึ้นมาบ้างแล้ว มันรู้สึกว่าวันนี้หลี่ฮ่าวพูดมากเกินไป
“งั้นก็ได้!”
หลี่ฮ่าวไม่พูดอะไรต่ออีก ในเมื่อเราเตือนแล้ว เช่นนั้นแกก็ดูดซับให้หนำใจเลยแล้วกัน!
เวลาต่อมาหลี่ฮ่าวก็เตรียมตัว ครั้งนี้เขาใช้วิชาคายรับดูดซับเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าพลังไม่มากนักราวๆ พลังลี้ลับหนึ่งถึงสองลูกบาศก์ได้
เจ้าพลังนี้ใช้ขายได้เชียวนะ เขาช่างดีกับเจ้าสุนัขตัวนี้จริงๆ!
เขาอดกลั้นต่อความเจ็บปวดของตนแล้วดูดซับพลังของกระบี่เล็กน้อยเพื่อนำมาหักล้างกัน วินาทีต่อมาพลังมีดเกือบครึ่งก็แผ่ออกมานอกกาย
ส่วนเจ้าเสือดำยกขาทั้งสี่ชี้ขึ้นฟ้า เจ้าหมอนี่ก็ใช้วิชาคายรับเหมือนกัน
เพียงครู่เดียวพลังมหาศาลก็ทะลักเข้าสู่ร่างกายของเจ้าเสือดำ
“เอ๋ง!”
เสียงร้องทรมานดังระงมทั่วทุกทิศ!
ราวกับเสียงหอนติดสัดก็มิปาน!
คุณป้าชั้นล่างถอยหายใจทีหนึ่งแล้วเหลือบมองชั้นบน จากนั้นก็มองคุณลุงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเอ่ยพลางถอดถอนหายใจเสียงเบาว่า “เจ้าเด็กนี่เกินเยียวยาแล้วจริงๆ เล่นกับหมาอีกแล้ว! ถ้าพ่อแม่เขายังอยู่คงโกรธตายไปนานแล้ว!”
หล่อนทั้งรู้สึกหดหู่และไม่สบอารมณ์กับความไม่ได้เรื่องของหลี่ฮ่าว
เหลวไหลใหญ่แล้ว!
เมื่อก่อนยังถือว่าเป็นเด็กดี ตอนนี้พอลาออกก็เอาแบบอย่างแย่ๆ มา กองตรวจการณ์เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือ?
น่ากลัวมากจริงๆ!
วันหลังฉันอย่าปล่อยลูกหลานเข้าไปทำงานในกองตรวจการณ์เลยจะดีกว่า!
……
หลี่ฮ่าวไม่สนใจความคิดของคุณป้าสักนิด
เขาปิดปากของเจ้าสุนัขไว้แล้วก่นด่าเสียงต่ำว่า” ร้องอะไรกัน จดจ่ออยู่กับพลังนั้นไว้ ระวังมันจะกินแกเอา ฉันบอกแกหลายรอบแล้วว่าเจ็บหน่อย แต่แกก็รั้นจะดูดซับมันให้ได้!”
“เอ๋ง…”
เจ้าเสือดำน้ำตาคลอเบ้าเพราะเจ็บปวดมากเหลือเกิน
หลี่ฮ่าวไม่ใช่คนแล้ว!
เลวกว่าสุนัขเสียอีก!
ถ้าบอกว่าเจ็บขนาดนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ ตีให้ตายอย่างไรมันก็ไม่เอาด้วยหรอก
“ค่อยๆ ย่อยสลายไป รู้ไหมว่าเจ้าพลังนี้ล้ำค่ามาก พอดูดซับพลังเสร็จแกก็จะเก่งขึ้น ถ้าครั้งหน้าเจอเจ้านั่นอีกแกอาจกัดตายในครั้งเดียวได้เลยนะ!”
หลี่ฮ่าวกำชับไปอีกหนึ่งประโยค จากนั้นก็เริ่มฝึกเคล็ดวิชาของตัวเองไป
เคล็ดวิชาลิง!
เขาเองก็ดูดซับไปเหมือนกัน ดังนั้นจะเสียมันไปเปล่าๆ ไม่ได้
เจ้าเสือดำทรมานสุดขีด นึกเสียใจอยู่บ้างแต่เวลานี้มันทำอะไรไม่ได้แล้ว ครั้นเห็นหลี่ฮ่าวเริ่มกระโดดห้อยโหนตัวไปมา เจ้าเสือดำก็เริ่มปล่อยหมัดมวยทั้งสี่ขาพร้อมขยับหางส่ายไปมาเช่นกัน มันเริ่มฝึกฝนหมัดมวยสุนัขของตัวเอง
เคล็ดวิชาลิงไม่เหมาะกับมัน เจ้าเสือดำคิดอยากทำตามแต่สุดท้ายก็ค้นพบว่ามันไม่สามารถกระโดดโลดเต้นได้ว่องไวขนาดนั้น สุดท้ายเลยทำได้แค่ปล่อยหมัดมวยของมันไป หรือเรียกว่า…หมัดสุนัขพิฆาต!
หนึ่งคนหนึ่งสุนัขต่างเริ่มย่อยสลายพลังมีดของตัวเองไป
ในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง
……
ตึกตรงข้ามด้านนอกห้อง
หลิวหลงจับจ้องม่านที่ปิดสนิทฝั่งตรงข้ามอย่างเงียบๆ
เวลานี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้น แต่สมาชิกทีมล่าปีศาจคนอื่นๆ ต่างก็อยู่กันพร้อมหน้า
หลิวเยี่ยนฉีกยิ้มหน้าบ้านเอ่ยยียวนว่า “ลูกพี่ หรือว่าเราขอไปนอนกับหลี่ฮ่าวตรงๆ เลยดี…”
หลิวหลงกวาดตามองหล่อนอย่างเย็นชาทีหนึ่ง หลิวเยี่ยนก็เงียบไปชั่วขณะ
พร้อมทั้งรอยยิ้มก็ค่อยๆ จางลงเช่นกัน
หลิวหลงเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก “ครั้งนี้งานช้างไม่เบา แต่ถ้าชนะคงได้อะไรกลับมาไม่น้อย มีความเป็นไปได้มากว่าครั้งนี้ในหมู่พวกเราอาจต้องมีคนตาย แต่ถ้าไม่ตาย คนที่รอดก็อาจมีหวังได้ก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ!
ทุกคนต่างเงียบไป
หลิวหลงถอนหายใจเอ่ยเสียงเบา “ฉันรู้สึกลึกๆ ว่ารอบด้านมีคลื่นพลังลี้ลับอ่อนๆ อยู่ ไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากและอ่อนแอมาก…แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราอาจจะอยู่ที่นี่ก็ยังตามมา แสดงว่าอีกฝ่ายคงตัดสินใจจะเอาชนะให้ได้! ตอนนี้อีกฝ่ายคงกำลังรอโอกาสอยู่!
ฆาตกรผู้บงการคดีไฟคลอกน่าจะรับรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ กระทั่งรู้ว่าพวกเขากำลังจับตามองตนอยู่ด้วย
แต่อีกฝ่ายก็ยังคงเฝ้าติดตามหลี่ฮ่าวเช่นเคย และอยู่ไม่ไกลจากหลี่ฮ่าวด้วย
หลิวหลงรู้ว่าครั้งนี้คงเจอยอดฝีมือเข้าแล้ว!
อู๋เชาร่างผอมที่อยู่ด้านข้างเอ่ยยิ้มเย็นชา “ลูกพี่ ห้าครั้งแล้วที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด! ห้าครั้งที่ผ่านมาก็เหลือเพียงพวกเราที่รอด! ผมไม่อยากตาย ผมอยากเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ! แต่ถ้าต้องตายจริงๆ…งั้นก็เป็นเรื่องของชีวิต! ลูกพี่บอกมาตรงๆ เลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง!”
ส่วนคนอื่นๆ กลับไม่ได้พูดอะไร
หลิวหลงสูดหายใจเข้าลึกเอ่ยเสียงขรึม “ทันทีที่วันฝนตกมาถึง รีบให้หลี่ฮ่าวไปเขตแถบชานเมือง ที่นั่นมีโกดังใหญ่อยู่ที่หนึ่ง ศึกตัดสินแพ้ชนะจะอยู่ที่นั่น! อีกฝ่ายผยองคิดว่าตนเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเลยไม่ระวังตัว ไม่หวาดกลัวอะไร…เช่นนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ไปเลยว่าทีมล่าปีศาจของเราไม่ได้หาเรื่องด้วยง่ายๆ
พอพูดไปเช่นนั้น เขาก็มองไปที่ทุกคนแล้วกำมือยื่นออกไปในฉับพลัน จากนั้นก็เอ่ยเสียงขรึมหนักแน่นว่า “พวกเราห้าคนจะปฏิบัติการอย่างเป็นธรรม กำจัดปีศาจเพื่อพิทักษ์ความสงบสุข!”
เป็นดั่งการปฏิญาณตนระหว่างกัน!
กระทั่งแม้แต่อวิ๋นเหยาก็ยังยกกำปั้นขึ้นมาเอ่ยว่า “ปฏิบัติการอย่างเป็นธรรม กำจัดปีศาจเพื่อพิทักษ์ความสงบสุข!”
เวลานี้สีหน้าพวกเขาทั้งห้าคล้ายดั่งวีรบุรุษผู้ปกป้องโลกก็มิปาน!
ทีมล่าปีศาจจะกำจัดปีศาจเพื่อพิทักษ์ความสงบสุข
……………………………………………………………………………….