ตอนที่ 54-2 อาจารย์ลูกศิษย์ร่วมวางแผนกันอีกครั้ง (2)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 54 อาจารย์ลูกศิษย์ร่วมวางแผนกันอีกครั้ง (2)

ณ ตอนนี้เขารีบวาดรูปแผนผังออกมา

เป็นแผนผังเมืองหยินพร้อมแผนผังแปดทิศในขณะเดียวกัน ไม่นานเขาก็แต้มจุดแดงหนึ่งไว้ตรงเขตหนึ่งในแผนผัง

หยวนซั่วมองก็เลิกคิ้วน้อยๆ “เหนือสุดตรงกลางเป็นตำแหน่งหลี[1]ของแผนผังแปดทิศ หลีคือไฟ ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางเหนือของเมืองหยิน ที่นี่…น่าจะเป็นภูเขาเหมืองแร่แห่งหนึ่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นเหมืองแร่ของเฉียวกรุ๊ปด้วย”

ตำแหน่งหลี!

หลีหมายถึงไฟ วินาทีนี้พลันหลี่ฮ่าวก็ฉุกนึกถึงพลังลี้ลับที่เฉียวเฟยหลงให้ตนมาก่อนหน้านี้ก็เป็นธาตุไฟเหมือนกัน

บางทีเป็นเพียงความบังเอิญ แต่หลี่ฮ่าวก็คิดเชื่อมโยงไปถึงเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว

“ตรงนี้มีร่องรอยอารยธรรมโบราณด้วยเหรอ”

หยวนซั่วมองไปทางหลี่ฮ่าวอย่างเหนือคาดหน่อยๆ

เขาไม่รอให้หลี่ฮ่าวปริปากก็รีบตอบไปว่า “ตรงนี้ฉันเคยไปมาก่อน ไม่พบอะไรเลย และไม่เจอเบาะแสเกี่ยวกับแหล่งอารยธรรมโบราณด้วย ตอนที่ฉันไปที่นั่นเคยเกิดเหตุดินถล่มไปครั้งหนึ่ง ตระกูลเฉียวเชิญฉันไปเพราะหวังว่าฉันจะเปิดปากถ้ำเหมืองแร่ให้ใหม่ได้…”

เขาเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะตามรอยอารยธรรมโบราณ ขณะเดียวกันก็เป็นศาตราจารย์ประจำวิชาฮวงจุ้ย แถมยังเป็นมือฉกาจด้านการขุดหลุมศพ…แค่กๆ ด้านการสำรวจเส้นทาง

หากจะเปิดปากเหมืองแร่ใหม่ การมาหาเขาก็เป็นเรื่องปกติ

หลี่ฮ่าวเอ่ยเสียงต่ำ “อยู่ตรงนี้! แต่จะใช่หรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่ได้คาดเดามั่วซั่วแน่นอน อาจารย์ อาจารย์รู้หรือเปล่าว่ากิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปที่เหมืองหยินของเรามีที่มาที่ไปยังไงบ้างครับ”

“ตระกูลเฉียว…เฉียวเฟยหลง…”

หยวนซั่วย้อนความทรงจำแล้วตอบ “เฉียวเฟยหลงเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว แต่ออกจากบ้านเกิดไปหางานทำที่ต่างถิ่นตั้งแต่ยังหนุ่ม จนราวๆ อายุสี่สิบถึงกลับมาที่เมืองหยิน ตอนนั้นก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว”

“หลังจากนั้นก็เปิดกิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปที่เมืองหยิน กระทั่งเปิดมาได้เกือบสามสิบปีแล้ว”

ไม่ใช่ยี่สิบปี แต่เมื่อสามสิบปีก่อนเจ้านั่นกลับมาสร้างกิจการที่เมืองหยิน

ฉะนั้นในสถานการณ์ทั่วไปต่อให้เรื่องของแปดตระกูลใหญ่จะหลุดออกไป ทุกคนต่างก็นึกถึงเพียงแผนการที่ชาดจันทราวางเอาไว้เมื่อสิบปีก่อน แต่กลับยากจะนึกถึงว่ากิจการเหมืองแร่ของเฉียวกรุ๊ปที่มีมาแล้วสามสิบปีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแปดตระกูลใหญ่เช่นกัน

ตอนนี้หลี่ฮ่าวกำลังคาดเดาว่าภายหลังเขาอาจเพิ่งไปมาหาสู่กับยมราช หรือว่าทางยมราชเริ่มวางแผนมาแล้วตั้งแต่สามสิบปีก่อนกันนะ

พลังเหนือธรรมชาติยังไม่ถือกำเนิดขึ้นด้วยซ้ำ!

หยวนซั่วพูดต่อ “เฉียวเฟยหลงก็เคยฝึกวิชายุทธ์มาเหมือนกัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไร พอเข้าสู่ขอบเขตสิบสังหารก็ไม่ฝึกวิชายุทธ์อีก ขอบเขตสิบสังหารมีไว้แค่ป้องกันตัว ภายหลังธุรกิจของเฉียวกรุ๊ปก็ขยายใหญ่ขึ้น เขามีเงินจ้างปรมาจารย์นักรบพวกนั้นมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวจึงย่อมไม่ศึกษาเรื่องพวกนี้อีก”

“แต่ลับหลังเจ้าหมอนี่ก็เป็นคนใจเหี้ยมอำมหิตคนหนึ่ง ธุรกิจดำรงมาถึงทุกวันนี้ได้ลับหลังคงทำเรื่องอย่างอื่นไว้ไม่น้อย เดิมทีกิจการเหมืองแร่ก็เกิดความขัดแย้งได้ง่ายอยู่แล้ว ตอนนั้นเมืองหยินมีวุลแฟรไมต์อยู่ไม่น้อย แต่ปรากฏว่าถูกเขาขุดไปทั้งหมดเลย!”

หยวนซั่วชี้ไปยังจุดที่หลี่ฮ่าวาดออกมาก่อนหน้านี้ “ที่ตรงนี้อดีตเคยมีถ้ำเหมืองวุลแฟรไมต์อยู่เยอะมาก ภายหลังกิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปของเฉียวเฟยหลงครอบครองพื้นที่ได้ไม่นาน เถ้าแก่เหมืองวุลแฟรไมต์เดิมมีทั้งตายบ้าง พิการบ้าง…บางส่วนก็ถ่ายโอนสิทธิ์ถ้ำเหมืองแร่ของตัวเองในราคาต่ำกว่า ทางเมืองหยินกลับไม่สนใจ หลักๆ เพราะเถ้าแก่ถ้ำวุลแฟรไมต์พวกนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร หมากัดหมา พวกเดียวกันทั้งนั้น!”

เขาอธิบายสั้นๆ เสริมว่า “แน่นอนว่าภายนอกเฉียวเฟยหลงเป็นนักธุรกิจใจบุญ ทางเมืองหยินรวมถึงกู่ย่วนก็ได้รับเงินบริจาคจากเขามหาศาล กู่ย่วนมีตึกวิจัยเฟยหลงอยู่ด้วย นั่นแหละเป็นส่วนที่เขาบริจาคเงินมา”

หลี่ฮ่าวนึกแล้วก็พยักหน้า เขาเคยไปมาก่อน

แต่กลับลืมว่านี่เป็นตึกที่เฉียวเฟยหลงเป็นคนบริจาคมา

หยวนซั่วพูดจบก็มองไปทางหลี่ฮ่าวเพื่อรอข้อมูลที่หลี่ฮ่าวจะบอกแก่เขา จู่ๆ เขาก็เอ่ยถึงตระกูลเฉียวขึ้นมาซึ่งชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉียว หรือว่าภูเขาเหมืองแร่ของตระกูลเฉียวจะค้นพบร่องรอยอารยธรรมโบราณอย่างนั้นเหรอ

หลี่ฮ่าวเผยรอยยิ้มออกมา “อาจารย์ อาจารย์เคยรู้จักกับเฉียวเฟยหลงมาก่อน อาจารย์เดาว่าเขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหรือเปล่าครับ”

“ใช่!”

หยวนซั่วทำหน้าเรียบนิ่ง “เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ”

หลี่ฮ่าวชะงักงัน

“อาจารย์รู้เหรอ”

“ไม่รู้”

หยวนซั่วยังคงใจเย็นเหมือนเดิม ต่อมาก็หลุดขำออกมาเสียงหนึ่ง “เธอพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันยังตอบว่าไม่ใช่ แสดงว่าฉันโง่หรือเธอโง่กันแน่ล่ะ”

ลูกศิษย์ของตนคนนี้ถามมาอย่างนี้เขาก็เข้าใจทันที

หลี่ฮ่าวหมดคำจะโต้ตอบ

หยวนซั่วขมวดคิ้วน้อยๆ “เขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเหรอ บอกตามตรงฉันเพิ่งเจอเขามาไม่นานก่อนหน้านี้ ถ้าเขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ…ถ้าไม่ใช่เพราะอ่อนแอเกินไปจนฉันสัมผัสไม่ได้ก็ต้องแข็งแกร่งมากจนฉันสัมผัสไม่ได้เช่นกัน!”

มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่าง!

ครั้นพูดจบก็พูดต่อว่า “ที่จะปิดบังฉันได้ เธอวิ่งแจ้นมาหาถึงที่นี่…หรือว่าหมอนั่นเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเหรอ เขาเป็นสุริยะพรายหรือว่าไตรสุริยาล่ะ”

ส่วนจันทราทมิฬ…นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งบ้าอะไรล่ะ!

หยวนซั่วพูดเองเออเอง “ในเมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งอารยธรรมโบราณ หรือว่าจะได้ซากอารยธรรมโบราณของแปดตระกูลใหญ่ไปแล้ว ด้านใต้ของภูเขาเหมืองแร่นั่นมีแหล่งอารยธรรมโบราณด้วยเหรอ ฉะนั้นถึงได้ผลประโยชน์ไปแล้วกลายเป็นผู้แข็งแกร่งเงียบๆ คอยปกปิดตัวตนมาตลอดและวางแผนลับๆ อะไรบางอย่างอยู่”

“เมืองหยินมีแหล่งอารยธรรมโบราณจริงๆ ด้วย…แต่ฉันกลับไม่ค้นพบมัน น่าเสียดายจริงๆ ถ้าค้นพบบางทีฉันอาจจะเข้าสู่ขอบเขตพันยุทธ์ไปตั้งนานแล้ว”

หยวนซั่วเอ่ยอย่างนึกเสียดายประโยคหนึ่ง พลางมองข้ามหลี่ฮ่าวที่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง

“ไตรสุริยาหรือเปล่า”

เขาพูดเสียงพึมพำ “ถ้าเฉียวเฟยหลงเป็นไตรสุริยาจริง คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นคนริเริ่มให้บุกเบิกแหล่งอารยธรรมโบราณเอง ต้องมีคนคอยช่วยเหลือหรือว่ามีลูกน้องที่เป็นสุริยะพรายด้วยงั้นเหรอ”

เขาลูบคางที่ไร้หนวดเคราไปมา “หากคนเดียว เกรงว่าจะกลัวอีกฝ่ายได้เงินแล้วหนีหายไป อย่างน้อยก็ต้องสองคน”

สองคนถึงจะถ่วงอำนาจกันได้!

สำหรับคนประเภทอย่างเฉียวเฟยหลงมีความไว้ใจขีดจำกัด เป็นไปไม่ได้ที่คนคนหนึ่งจะได้รับความเชื่อใจจากเขาอย่างไร้ขีดจำกัด แถมอีกฝ่ายยังเป็นนักธุรกิจที่มีกิจการใหญ่โต มีทรัพยากรและเงินทองมากพอที่จะหล่อเลี้ยงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกลุ่มหนึ่งได้เลย

“เมืองหยิน ที่เล็กๆ แห่งนี้ไม่สงบสุขเอาซะจริง!”

หยวนซั่วคร่ำครวญอีกที “เสี่ยวฮ่าวเอ้ย ถ้าเธอไม่สนใจสุสานของแปดตระกูลใหญ่จริงๆ ฉันว่าอย่าไปยุ่งเรื่องนี้เลย ปัญหาใหญ่นะ!”

หลี่ฮ่าวหมดคำตอบโต้อีกครั้ง ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย

เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ประเมินสถานการณ์ได้ในครู่เดียวว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีผู้แข็งแกร่งเพียงคนเดียว

คนมีอายุมักมีประสบการณ์มากกว่า!

“อาจารย์ ไตรสุริยาคนหนึ่งอาจจะเป็นเฉียวเฟยหลง ส่วนอีกสามคนจะต้องเป็นสุริยะพรายแน่ๆ กับจันทราทมิฬเดือนหงายคนหนึ่ง…”

“ซี๊ด!”

หยวนซั่วสูดปาก “ไม่น่ามีเรื่องด้วยจริงๆ เสี่ยวฮ่าว อาจารย์ของเธอก็แก่ขนาดนี้แล้วคงไม่มีกำลังมากพอจะแบกรับเรื่องพวกนี้ไหวหรอกนะ!”

ว่าแล้วเขาก็มองไปทางหลี่ฮ่าว “เธออยากได้ซากอารยธรรมโบราณกลับคืนมาเหรอ”

หลี่ฮ่าวตอบเสียงกระท่อนกระแท่น “เปล่า แค่คิดแล้ว…”

“ก็ไม่แปลก ในเมื่อเธอเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของแปดตระกูลใหญ่ หากว่ากันตามเหตุตามผลซากอารยธรรมโบราณของแปดตระกูลใหญ่ก็ควรเป็นของเธอ ของเธอก็เท่ากับเป็นของฉัน ฉะนั้นเฉียวเฟยหลงครอบครองของดีของเราไป ถูกไหม”

หลี่ฮ่าวพยักหน้ารัวๆ!

………………………………………………………

[1] ตำแหน่งหลีในแผงผังแปดทิศ คือทิศใต้ เป็นตำแหน่งแห่งไฟ